จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 252
บทที่ 252: สัมผัสวิญญาณ
เมื่อพลบค่ํา โม่ผ่านย้ายกันของตัวเองขึ้นไปบนดาดฟ้าอย่างเงียบเชียบ
บรรยากาศในนครจักรพรรดินั้นเลวร้ายเสียยิ่งกว่านครปีศาจไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของเมืองแห่งนี้ไม่มีทางเลยที่จะได้พบกับท้องฟ้าแจ่มใสหรืออากาศที่ปลอดโปร่ง เมฆดําสนิทลอยปิดท้องฟ้าทั้งหมดอย่างชัดเจนมีเพียงชั้นบรรยากาศบางๆสีเหลืองอ่อนเท่านั้นที่ทอประกายไปรอบๆเมืองเท่านั้น
โม่ฝานมีแผนว่าจะเข้าสู่สมาธิในคืนนี้เพื่อฝึกฝนธาตุอัญเชิญอย่างเต็มที่เพราะว่าเมื่อเร็วๆนี้มันได้เลื่อนขั้นเข้าสู่ระดับเนบิวลาแล้ว
แต่ไม่รู้เลยว่าเหตุผลใดในคืนนี้จทมิฬของเขานั้นส่องแสงแปลกประหลาดออกมาซึ่งโม่ผ่านก็ยังไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่มันทําเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้โม่ฝานได้เดินทางเยี่ยมชมสถานที่โบราณเกี่ยวกับเวทมนตร์ลึกลับมากมายซึ่งโม่ฝานได้สอบถามเฉียวอวฮัวถึงอุปกรณ์อันเดตด้วยเช่นกัน
เขานึกย้อนไปถึงสิ่งที่จ้าวหม่าหยันเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับแก่นแท้จิตวิญญาณและเศษวิญญาณซึ่งหลังจากอสูรเวทได้ตายตกไปแล้วจะไม่มีผู้ใดได้มองเห็นมันเลยนอกเสียจากนักเวทอันเดตเท่านั้นที่สามารถจะควบคุมพวกมันได้
ถ้าหากนักเวทธาตุอื่นๆต้องการที่จะจัดเก็บสิ่งเหล่านี้พวกเขาจําเป็นจะต้องพึ่งพาอุปกรณ์เวทมนตร์อันเดตที่ถูกดัดแปลงจากนักเวทอันเดตเท่านั้น…
แล้วจทมิฬน้อยนี้มีต้นกําเนิดมากจากไหนกันล่ะ?มันสามารถช่วยเรื่องการฝึกฝนได้ อีกทั้งยังดูคล้ายกับอุปกรณ์อันเดตอีกด้วย
ในค่ําคืนนี้แสงที่เปล่งประกายออกมาจากตัวของมันมากเกินกว่าปกติมากซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่ผ่านสังเกตได้เขาพยายามที่จะใช้สัมผัสวิญญาณเพื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนว่าเหตุผลอะไรที่กําลังถูกซุกซ่อนอยู่ภายในจทมิฬน้อยอันนี้
น้ําพุศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกเก็บไว้ในจ์ทมิฬน้อยนี้อย่างชัดเจนและมันได้ดูดซึมพลังไปจนเกือบหมดสิ้นแล้วด้วยเช่นกันเหตุผลที่ในวันนั้นหยู่กั้นสามารถสัมผัสถึงพลังของน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นเป็นเพราะมันย่อมปล่อยออร่าของน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาซึ่งนั่นเป็นแค่บางส่วนเท่านั้นยังทําให้หยู่อันแทบจะสติแตกเมื่อตรวจพบ
การที่จะแยกเอาน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาอีกครั้งนั้นเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนี้จทมิฬน้อยดูเหมือนว่าจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งเดียวกันกับน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ไปเสียแล้วถ้าหากว่ามีใครต้องการที่จะนํามันออกจากจทมิฬชิ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผลนี้จึงหมายความว่าวาติกันจะไม่มีวันได้รับพลังของน้ําพุศักดิ์สิทธิ์!
“ทําไมแกต้องส่งเสียงดังอย่างนี้ด้วยล่ะ? นี่มันเวลานอนไม่ใช่เหรอทําไมถึงไม่ยอมหลับอีกทั้งแกยังปล่อยแสงสีเขียวประหลาดนี้ออกมาอีก..”โม่ผ่านพึมพําอยู่บนดาดฟ้าเพียงลําพังอย่างไม่เข้าใจเขาจ้องมองไปที่คอ ของตนเองด้วยความสับสน
เมื่อเวลาค่ําได้มาถึง จี้ทมิฬน้อยเริ่มเปล่งแสงและส่งเสียงแปลกประหลาดออกมาเมื่อผ่านไปสักพักมันเริ่มสั่นสะเทือนราวกับต้องการบอกอะไรบางอย่างกับเขาถ้าหากโม่ฝานไม่ได้มองว่ามันเป็นเพียงจี้ห้อยคอชิ้นหนึ่งในขณะนี้เขากําลังคิดว่ามันกําลังมีชีวิตหรือเปล่านะ?
เมื่อสัมผัสวิญญาณของโม่ฝานพยายามเข้าไปสํารวจภายในจทมิฬชิ้นนี้โม่ฝานตื่นตระหนกทันทีว่าเขาได้เห็นที่ว่างภายในตัวของมัน
เมื่อก่อนนี้อาจจะเป็นเพราะการฝึกฝนของเขายังไม่แข็งแกร่งมากพอ เขาจึงไม่เคยเข้าสู่โลกมิติคู่ขนานนี้ได้เลยแต่ในเวลานี้นี่คือครั้งแรกที่โม่ผ่านเข้ามาภายในโลกของจทมิฬชิ้นนี้ได้อย่างแท้จริงเขารู้สึกคล้ายกับในครั้งที่เขาใช้เวทมิติอัญเชิญครั้งแรก
อย่างไรก็ตามโม่ผ่านไม่ได้ตื่นตระหนกมากนัก แม้แต่หอคอยสามชั้นก็ยังมีพื้นที่กว้างใหญ่อันมหึมาซ่อนอยู่เช่นกันแล้วถ้าจทมิฬนี้จะมีบ้างมันก็ไม่แปลกอะไร ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะสามารถกักเก็บน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้อย่างไร อีกทั้งมันยังสามารถจัดเก็บแก่นแท้จิตวิญญาณและเศษวิญญาณได้อีกด้วย ถ้าหากไม่มีพื้นที่ในตนเองมันจะเก็บสิ่งเหล่านี้อย่างไรล่ะ?
สัมผัสวิญญาณของเขายังคงเดินเร่ร่อนไปทั่วเพื่อสํารวจพื้นที่อย่างระมัดระวัง เขาตระหนักได้ว่าพื้นที่ภายในตัวของมันไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก โม่ฝานเดินต่อเข้าไปด้านในส่วนลึกของมันและเขาได้พบกับแม่น้ําใสบริสุทธิ์อย่างน่าตื่นตาอยู่ที่ใจกลางของมัน
แม่น้ําที่ไหลอยู่ใจกลางจทมิฬนี้จะต้องเป็นน้ําพุศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน ออร่าพลังของมันบ่งบอกว่าต้องเป็นสิ่งนี้อย่างชัดเจน!
โม่ฝานพยายามตรวจสอบอย่างรอบคอบและเขาได้เห็นลูกบอลสีเขียวขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือแม่น้ําแห่งนี้มันดูคล้ายกับหิงห้อยขนาดใหญ่เปล่งประกายสีเขียวดูกลางแม่น้ํา
แสงสีเขียวเปล่งประกายอย่างชัดเจน มันเริ่มรวบรวมแสงจากออร่าของแม่น้ําไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามโม่ผ่านรู้สึกได้ว่าสิ่งที่กําลังเปล่งประกายอยู่นั้นไม่ได้สวยงามอีกต่อไปเมื่อเขารู้สึกได้ว่ามันคือพวกเศษวิญญาณที่หลงเหลือจากการฆ่า
สิ่งที่ทําให้เขารู้สึกแย่คือพวกมันเหล่านี้คือวิญญาณทั้งหมด!
ในตอนแรกโม่ฝานสังหารหมาป่าวิทญญาณของอาจารย์ไปหยาง ซึ่งแน่นอนว่าวิญญาณของมันถูกดูดซับไว้ได้โดยจทมิฬน้อยชิ้นนี้
นับตั้งแต่นั้นมาเมื่อโม่ฝานสังหารอสูรเวทหรือผู้คนจากวาติกัน ทุกสิ่งกลายเป็นวิญญาณและถูกจัดเก็บไว้โดยจทมิฬน้อยทั้งสิ้น
โม่ผ่านคิดมาเสมอว่าพวกมันเหล่านั้นเป็นเศษวิญญาณที่ไร้ค่า เขาเลยมอบมันให้กับจทมิฬเพื่อเป็นอาหารแต่ใครเล่าจะคิดว่ามันกําลังเปล่งประกายลอยล่องอยู่เหนือน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ภายในนี้…
โม่ผ่านรู้สึกไม่เข้าใจอย่างมากว่าทําไมจี้ทมิฬน้อยจึงต้องรวบรวมเศษซากวิญญาณจากศึกสงครามตลอดเวลาแต่ทว่านี่คือสิ่งที่มันชื่นชอบอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานแสงสีเขียวเริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดโม่ฝานนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุการณ์นี้คืออะไรแต่ในเมื่อเขายังไม่เข้าใจมันเขาก็ยอมละทิ้งและหยุดเสียเวลากับสิ่งตรงนี้
พวกมันเหล่านี้คือเศษวิญญาณที่หลงเหลือจากหลังสงคราม เมื่อเปรียบเทียบกับแก่นแท้จิตวิญญาณที่สามารถใช้สร้างอุปกรณ์เวทละอองดาราหรือเนบิวลาได้ ความแตกต่างของคุณค่าวิญญาณเหล่านี้นั้นคล้ายกับทรายและทองคํา เนื่องจากจทมิฬชื่นชอบที่จะเก็บสะสมพวกมันไว้ เขาก็จะไม่ห้ามอะไรอย่างน้อยที่สุดเป้าหมายสุดท้ายของมันก็คงจะไม่เลวร้ายนัก!
เช่นนี้โม่ฝานจึงเลิกสนใจจทมิฬที่คอของเขาและพุ่งสมาธิไปที่การฝึกฝนทั้งหมด
หลังจากที่โม่ฝานกลับออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง จี้ทมิฬน้อยเริ่มสั่นสะเทือนอย่างขัดใจมันเริ่มกระสับกระส่ายอย่างไม่มีเหตุผล
โม่ฝานเปิดเปลือกตาขึ้น ในขณะที่เขากําลังจะอ้าปากและดุมัน เขาตระหนักได้ถึงแสงสีเขียวที่สว่างขึ้นอย่างเข้มข้นกว่าเดิมมาก มันกระจายไปทั่วบริเวณและส่องสว่าง
ดวงตาของโม่ฝานเบิกกว้างทันที ขากรรไกรของเขาอ่าออกเป็นรูปตัวโอ ซึ่งมากพอที่จะยัดกําปั้นของมนุษย์ปกติเข้าไปได้!
ออร่าสีเขียวยังคงเปล่งประกายออกมาอย่างหนักหน่วง ซึ่งแสงสว่างของมันกลายเป็นสองชั้นอย่างน่าอัศจรรย์ ก่อนหน้านี้เศษวิญญาณนั้นเป็นสิ่งของที่ไร้ค่าอย่างยิ่งราวกับทรายและทองแต่ทว่าในตอนนี้มันกลับกลายเป็นมีค่าเทียบเท่ากับทองคําไปเสียแล้ว!
แต่ประเด็นก็คือเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโม่ผ่านไม่ได้ต่อสู้หรือสังหารอสูรเวทแต่อย่างใดแล้วจทมิฬน้อยนี้ไปรวบรวมเศษวิญญาณพวกนี้มาจากไหนกัน?
เหนือสิ่งอื่นใดจทมิฬน้อยชิ้นนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งของที่มาจากอัจฉริยะอย่างแท้จริง!!!
โม่ผ่านเข้าสู่ร่างกายของจทมิฬอีกครั้งและได้พบว่าเศษวิญญาณที่ลอยอยู่กลางแม่น้ําทั้งหมดได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว มันเหลือไว้เพียงแม่น้ําที่ว่างเปล่าและมีเพียงแก่นแท้จิตวิญญาณที่สุกสว่างราวกับจันทราลอยอยู่ด้านบนอย่างสดใส!
แน่นอนว่าโม่ฝานยังไม่ประมาทกับสถานการณ์ตรงหน้า ก่อนที่เขาจะหยิบฉวยอะไรแน่นอนว่าเขาจะต้องมั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นปลอดภัยอย่างแท้จริง ทุกอย่างจะต้องชัดเจนก่อนที่จะลงมือทํา
แต่ทว่าแก่นแท้จิตวิญญาณที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันเช่นนี้ง่ายดายราวกับว่ามันถูกหยิบขึ้นมาจากถนนข้างทางอย่างไรอย่างนั้น…
สิ่งนี้ทําให้หัวใจของเขารู้สึกมีความสุขอย่างมาก แต่ทว่าความไม่สบายใจก็ยังคงเคลือบแคลงในจิตใจของเขาอยู่เล็กน้อย
ท้ายที่สุดเขาก็ได้เก็บความลังเลเหล่านั้นเอาไว้มาจนถึงรุ่งสาง
โม่ฝานเดินไปเคาะประตูของอาวุโสเฉียวอ ฮัวอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามันเป็นเวลาเช้าตรู่และอาจารย์ของเขายังไม่ตื่นนอน เขาเปิดประตูออกมาพร้อมกับหาวฟอดใหญ่ “เธอมาเช้าเกินไปหรือเปล่ามีอะไรงั้นเหรอ?”
“อาจารย์ครับ ผมไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับอุปกรณ์เวทมนตร์อันเดตมา มันบอกไว้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้สามารถเก็บเศษวิญญาณและแก่นแท้จิตวิญญาณได้ อาจารย์รู้ไหมว่ามันมีความสามารถอย่างอื่นอีกหรือเปล่า?” โม่ผ่านถามเขาอย่างเร่งรีบ
ดวงตาของอาจารย์เฉียวอว์ฮัวเริ่มเปล่งประกายออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะได้ค้นพบกับนักเรียนบางคนที่สนใจอยากจะศึกษาประวัติศาสตร์อันน่าเบื่อพวกนี้ซะแล้ว จากนั้นเขาเริ่มกล่าวออกไปอย่างเหนื่อยหน่ายนิดหน่อย“เธอไปอ่านหนังสือจากที่ไหนมา สิ่งที่จะบอกได้นั้นมีอยู่ในตําราโบราณเท่านั้น! อ่าจริงๆแล้วฉันน่ะนะได้ค้นพบกับบันทึกบางอย่าง…”
โม่ฝานเห็นถึงความตื่นเต้นในดวงตาของอาจารย์เขาได้อย่างเช่นกัน แต่ทว่าอาจารย์ผู้นี้กําลังแสร้งทําตัวลึกลับอยู่ตอนนี้โม่ฝานรู้แล้วว่าชายตรงหน้านี้มีคําตอบให้กับเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะชี้แนะโม่ฝานที่ละขั้นตอนเพื่อให้ทําความเข้าใจกับมันอย่างแท้จริง
เฉียวอวฮัวหันมองซ้ายขวาและเริ่มทําตัวลับๆล่อๆทันที เขากระซิบกับโม่ฝานราวกับว่ามันคือความลับที่เขากักเก็บมาไว้ตลอดชั่วชีวิต “มีข่าวลือว่าอุปกรณ์เวทมนตร์อันเดตนั้นไม่เพียงแต่สามารถเก็บรวบรวมแก่นแท้จิตวิญญาณได้ แต่มันยังสามารถจัดการกับเศษวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ได้อย่างยอดเยี่ยมทุกสิ่งนั้นอาศัยความผูก
พันธ์ของมันและวิญญาณ… ซึ่งอุปกรณ์เวทมนตร์อันเดตจะสามารถกลันแก่นแท้จิตวิญญาณออกมาจากเศษวิญญาณได้น่ะ!!”
หลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น ร่างกายของโม่ฝานสั่นสะท้านราวกับได้ตรัสรู้ถึงบางอย่าง
เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้ จทมิฬของเขานั้นเปลี่ยนแปลงเศษวิญญาณให้กลายเป็นแก่นแท้จิตวิญญาณได้!
มันสามารถเปลี่ยนทรายให้กลายเป็นทอง!