จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 150
บทที่ 150: สุดยอดเวทมนตร์
ประเด็นการพูดคุยที่ร้อนแรงที่สุดในวันนี้ก็คือการต่อสู้กับอสูรเวทในยามบ่ายของวัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในมหาวิทยาลัยเมิงจู่ในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา
ป้ายต่างๆถูกนำขึ้นฉายไปทั่วมหาวิทยาลัยอย่างคึกโครม นอกจากนี้ยังมีโปสเตอร์ขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่ที่ทางเข้าของมหาวิทยาลัยอีกด้วย เช่นนี้ทำให้เกิดข่าวแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ทั้งหมดล้วนแต่ได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างล้นหลาม!
โม่ฝานกำลังเลือกสรรเสื้อผ้าของตนเองในเช้าวันนี้ เขาจำเป็นจะต้องหล่อที่สุดเพื่อที่จะดึงดูดสาวสวยภายในงาน….
ในอีกมุมหนึ่ง แน่นอนว่านักเรียนสาขาอัญเชิญเป็นตัวเด่นของงานนี้!
หมาป่าน้อยของเขายังคงหลบใหล แต่ในวันนี้โม่ฝานไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้น ซึ่งเดิมทีเขาคิดที่จะแสดงความสามารถให้ทุกคนในที่นี้ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากออกไปยืนโชว์ความหล่อของตนเองเท่านั้น
“พี่ฝาน ในฐานะที่เราอยู่หอพักห้องเดียวกัน พี่ควรจะบอกอะไรพวกเราเกี่ยวกับอสูรอัญเชิญบ้างนะ ให้พวกเราได้ตื่นเต้นบ้างสิได้ไหม?” รูมเมทที่ชื่อจางปิงกู่กล่าวออกมาพร้อมกับดวงตาที่ฉายแววความสงสัย
“จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ความลับหรอก มันคือหมาป่าเวทน่ะ” โม่ฝานตอบกลับตรงๆ
ชายที่อยู่ด้านข้างของเขาชื่อจ้าวหม่าหยันถีบตัวเองลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “หมาป่าเวทนั้นเป็นอสูรร้ายตัวโปรดของเหล่านักเวทธาตุอัญเชิญ อีกทั้งความแข็งแกร่งของมันยังสูงกว่าอสูรเวทระดับต่ำทั่วไปอีกด้วย!!!”
“อืม นั่นคือหมาป่าเวทสินะ… แม้ว่าพวกเราทั้งห้องจะรวมพลังกันก็คงไม่อาจจะเอาชนะพี่ได้หรอก” จางปิงกู่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม
“เฮ้เฮ้ อย่าใช้ความอ่อนแอของตัวเองเป็นมาตราฐานสำหรับคนอื่นสิเฮ้ย!” ซู่หลงหนึ่งในรูมเมทกล่าวขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน
ในหอพักของโม่ฝานนั้นนอกจากเขาแล้วยังมีเพื่อนร่วมห้องอีกห้าคน ซึ่งบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดดูเหมือนจะเป็นจ้าวหม่าหยันซึ่งอยู่เตียงตรงข้ามกับเขา
จางปิงกู่นั้นเป็นคนขี้อายและไม่เคยโต้เถียงกับใคร เขาอ่อนน้อมอยู่เสมอและมีมารยาทกับเพื่อนร่วมห้อง
ซู่หลงนั้นมาถึงห้องนี้เป็นคนสุดท้าย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง ในขณะที่จางปิงกู่กล่าวต้อนรับเขาเข้าร่วมห้องแห่งนี้ การโต้ตอบของเขาก็คือดวงตาที่เหี้ยมโหดและไม่แยแส!
ส่วนอีกสองคนนั้น โม่ฝานยังจำชื่อพวกเขาไม่ได้… อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนั้นนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนี้ พวกเขามักจะอยู่กับตนเองเสมอและไม่สุงสิงกับใคร อีกทั้งพวกเขายังไม่พยายามจะมีสัมพันธ์กับคนอื่นในห้องอีกด้วย มีเพียงจางปิงกู่และจ้าวหม่าหยันเท่านั้นที่ดูจะเป็นมิตรกัน นอกนั้นพวกเขาไม่ค่อยสุงสิงกันสักเท่าไหร่นัก
“โชคดี” หลังจากที่จ้าวหม่าหยันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาตบไหล่ของโม่ฝานพร้อมกล่าวให้กำลังใจและเดินออกไปจากห้องทันที
โม่ฝานนั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากเฝ้ารอการมาถึงของพิธีต้อนรับอันน่าหดหู่อย่างเงียบงัน…
——
หลังจากที่เดินมาถึงสนามประลองแล้ว โม่ฝานกับเพื่อนร่วมห้องของเขาทั้งหมดได้แยกทางกันตรงนี้
นักเรียนสาขาอัญเชิญเป็นพระเอกของวันนี้! แน่นอนว่าทั้งหมดจำเป็นจะต้องไปที่ด้านหลังของเวทีเพื่อเตรียมตัวแข่งขัน
สนามประลองแห่งนี้นั้นเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ แต่ด้านในของมันนั้นมีพื้นที่บนเวทีเพียงใหญ่กว่าสนามฟุตซอลเล็กน้อยเท่านั้น
โดยปกติแล้วสถานที่แห่งนี้คือสนามแข่งกีฬาอันยิ่งใหญ่ แต่ในเวลานี้มันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น “กรงแห่งการต่อสู้”
โดยรอบของกรงนั้นเป็นโครงสร้างแบบขั้นบันได มีที่นั่งมากมายเรียงกันอย่างใกล้ชิดและแน่นขนัด การรองรับคนนับหมื่นไม่ใช่ปัญหาของสถานที่แห่งนี้เลยแม้แต่น้อย บางทีถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะนี่คือสถาบันเมิงจู่ ก็คงไม่สามารถสร้างมันออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่และอลังการเช่นนี้แน่นอน
นักเรียนต่างพากันหลั่งไหลเข้ามาภายในอาคารแห่งนี้อย่างต่อเนื่องหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จสิ้น กระแสของคนมากล้นกำลังเดินเข้ามาอย่างคับคั่ง
ขณะนี้เวลาล่วงเลยเป็นเวลาบ่ายสามแล้ว ผู้คนแน่นขนัดเต็มไปทั่วอาคาร ใบหน้าสะสวยพร้อมด้วยต้นขาขาวเรียวยาวเต็มไปทั่วพื้นที่อย่างช่วยไม่ได้ ปรากฏการณ์นี้ยอดเยี่ยมเกินไป เพราะมีเพียงคอนเสิร์ตใหญ่ๆเท่านั้น จึงจะได้เห็นภาพขาอ่อนของหญิงสาวมากมายเช่นนี้!
—
“บัดซบ คนเยอะเกินไปรึเปล่า ฉันรู้สึกไม่มั่นใจซะแล้ว…” หยางยวี่กล่าวขึ้นมาที่ด้านหลังของเวที เขารู้สึกกังวลกับภาพตรงหน้าอย่างมาก
ในตอนนี้เพียงแค่เขามองออกไป ยังรู้สึกประหม่าอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าหากว่าเขาต้องขึ้นไปยืนเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของผู้คนทั้งหมดล่ะก็… เขาจะต้องสติแตกและลืมความรู้ทั้งหมดที่ได้สะสมมาแน่นอน!
“ฮ่า นั่นไม่ใช่ปัญฆาเลย ฉันชอบสถานการณ์แบบนี้ที่สุด วันนี้ไม่ว่าฉันจะเดินไปที่ไหนก็ได้ยินแต่คนพูดถึงอสูรเวทที่จะถูกอัญเชิญมา อีกทั้งฉันยังได้ยินด้วยว่ามีคนพยายามจะพูดโอ้อวดว่าสามารถจัดการกับอสูรอัญเชิญของฉันได้ ฮ่าฮ่า พวกมันน่ะเหรอจะมาสู้กับเกราะไหมขาวของฉัน? บ้าบอจริงๆ ฉันน่ะจะทำให้พวกมันทั้งหมดรู้ว่าการทำลายล้างคืออะไร!” ไฮ่ต้าหู่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ
ส่วนชางปิงเฉียวที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขาก็ยังคงอยู่ในท่าทีสงบเช่นเคย
อีกสามคนที่เหลือนั้นไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมามากนัก แต่ทว่าดวงตาของทั้งหมดส่องแสงประกายแวววาวออกมาอย่างมีเล่ห์นัย โม่ฝานที่เห็นเช่นนั้นสามารถบอกได้ทันทีว่าทั้งหมดล้วนแต่กำลังตื่นเต้นกับการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น!
มหาวิทยาลัยเมิงจู่นั้นเต็มไปด้วยเหล่านักเวทที่แข็งแกร่งเกินกว่ามนุษย์ทั่วไป เกินกว่านักเวททั่วไปด้วยซ้ำ! แต่นั่นมันยังไม่มากพอที่เมิงจู่แห่งนี้จะพิสูจน์ตัวเองอีกงั้นเหรอ? ทำไมพวกเขาจึงต้องจัดงานเหล่านี้เพื่อตอกย้ำความเป็นสัตว์ประหลาด!?
แล้วใครกันล่ะจะไม่อยากรู้ถึงความแข็งแกร่งของสถานที่แห่งนี้? ใครกันล่ะจะไม่อยากได้รับเกียรติยศชื่อเสียงจากสถานการณ์ในครั้งนี้?
—
ในขณะนี้พิธีเปิดงานได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บุคคลทีก้าวขึ้นไปบนเวทีเป็นคนแรกก็คืออธิการบดีเซียว เขาจับไมค์และเริ่มกล่าวในทันที “ก่อนอื่น… ผมต้องขอกล่าวอะไรสักหน่อย มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผมจะต้องบอกให้ทุกคนได้รับทราบโดยทั่วกัน”
“ถ้าหากพวกคุณทั้งหมดนี้ต้องการจะเป็นนักเวทที่มีเกียรติในสังคม มีฐานะที่ร่ำรวย มีคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม… ผมในฐานะของผู้รับผิดชอบมหาวิทยาลัยแห่งนี้ขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่าพวกคุณมาผิดที่แล้ว…”
“นักเรียนที่จบไปจากมหาวิทยาลัยเมิงจู่นั้นมีความแข็งแกร่งและมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ พวกเขาล้วนแต่รู้วิธีปกป้องมนุษยชาติ พวกเขาคือวีรบุรุษ แล้วถ้าหากว่าในพวกคุณนี้ต้องการที่จะมีชีวิตเช่นนั้น ขอจงแสดงตัวออกมา ทางเรายินดีที่จะมอบใบจบการศึกษาให้และเชิญคุณออกไปใช้ชีวิตที่สุขสมได้ทันที! เอาล่ะ ได้โปรดอย่ามองว่ามหาวิทยาลัยเมิงจู่จะสร้างความมั่งคั่งและชื่อเสียงให้กับพวกคุณ อีกทั้งสิ่งเหล่านั้นพวกเรามีอยู่ล้นมือแล้วและไม่ต้องการมากไปกว่านี้ ในตอนนี้พวกเราทั้งหมดขาดเพียงนักเวทที่มีหัวใจแห่งนิรันดร์ มีความมุ่งมั่นเพื่อจะแสวงหาสุดยอดเวทมนตร์!!!”
โม่ฝานนั้นยืนอยู่ด้านหลังของเวที เขาอยู่ไม่ไกลจากอธิการบดีเซียวเท่าไหร่นัก
เขาเฝ้าสังเกตุในแววตาของทุกคนอย่างระมัดระวังในระหว่างที่อธิการบดีกล่าวออกมา ทุกคนล้วนแต่เปล่งประกายแห่งความหวังเรืองรองผ่านสายตาของตนเอง
คำพูดเหล่านั้นค่อนข้างที่จะครอบงำทุกคนอย่างง่ายดาย ใครกันเล่าที่ไม่ต้องการชื่อเสียงเงินทอง? ใบรับรองจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมิงจู่จะสร้างสิ่งเหล่านั้นให้กับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตามเพียงชื่อเสียงเงินทองเหล่านั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงหรือไม่? สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทั้งหมดต้องคิดให้ออก!
สำหรับสุดยอดเวทมนตร์นั้น… เปรียบเหมือนกับเมฆกลางอากาศที่ไกลแสนไกล บางเบาและไม่รู้ว่าจะสามารถไขว่ขว้าไว้ได้หรือไม่!!!
••••••••••••••••••••