จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 129
บทที่ 129: ธาตุคำสาป
“พวกเขาออกไปจนหมดแล้ว พวกเรารีบเร่งหาสมบัติกันเถอะ ฮ่าฮ่า จิตวิญญาณแห่งไฟ… หึ ถ้าหากฉันได้รับมัน แน่นอนว่าพี่สาวหยุนจะต้องยอมคุกเข่าและปรนเปรอน้องชายให้ฉันอย่างสาสม! ฉันล่ะอยากจะเห็นใบหน้าของเธอจริงๆว่าจะทำอย่างไร ในทุกวันนี้ทำเป็นเมินใส่ฉันทุกวี่ทุกวัน ช่างยโสนัก!” ชายร่างสูงกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าชั่วร้าย
“มอบมันให้กับฉัน แล้วฉันจะมอบสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับพวกนาย” ตงฟางจุนกล่าวออกมาอย่างเขร่งขรึมพร้อมกับจัดเสื้อผ้าราคาแพงของตนเอง
คนอื่นๆตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นพวกเขาเผยรอยยิ้มแห้งกรังออกมาอย่างช่วยไม่ได้
แม้ว่าทั้งหมดจะรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะต่อกรกับตงฟางจุนอยู่ดี แม้ว่าทุกคนจะเป็นนักเวทระดับมัชฌิม แต่ทว่าตงฟางจุนนั้นเป็นศิษย์คนโปรดของตระกูล เขาเป็นบุคคลที่ทรงเกียรติ ด้วยพลังของพวกเขานั้นไม่อาจจะต่อสู้กับตงฟางจุนได้ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม
“ฉันต้องขอโทษด้วย สิ่งนั้นมันต้องเป็นของฉัน… อืม สำหรับรางวัลสำหรับพวกแก ถ้าฉันอารมณ์ดีสักหน่อย ฉันจะให้พวกแกตายอย่างทรมานน้อยที่สุด” ในขณะที่ทั้งสี่กำลังวางแผนกันเพื่อแบ่งสมบัติ เสียงที่เย็นชาได้ลอยตามลมมากระทบหูของพวกเขาอย่างโจ่งแจ้ง
ชายหนุ่มสวมหมวกเบสบอลผิวขาวซีดได้เดินเข้ามา ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานั้นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ บรรยากาศการต่อสู้ที่วุ่นวายเพิ่งจะจบลงไปเมื่อครู่ แต่ทว่าบรรยากาศที่หนาวเหน็บได้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ความเย็นเยือกได้ซึมผ่านไขกระดูกของพวกเขาลงไปอย่างอุกอาจ!
ชายผู้นี้เต็มไปด้วยจิตสังหารแรงกล้า เขาไม่สนใจสรรพสิ่งใดอย่างแน่นอน ผู้คนที่พบเจอกับปีศาจร้ายเช่นนี้ล้วนแต่จำเป็นจะต้องหลบหนีไปให้ไกล ความโหดเหี้ยมของเขานั้นดิบเถื่อนเสียยิ่งกว่าเหล่าอสูรเวท สายตาที่เย็นชาได้กวาดไปที่นักเวทระดับมัชฌิมของตระกูลตงฟางทั้งสี่อย่างไม่หยี่ระ
“ใครอีกล่ะทีนี้… เฮอะ! แกต้องการที่จะเข้ามาแย่งชิงสมบัติของพวกเราหลังจากที่พวกฉันผ่านการทำงานอย่างหนักงั้นเหรอ…” ตงฟางจุนกล่าวออกมาด้วยความโกรธ
“อ่า แกอาจจะเคยได้ยินชื่อของฉันมาบ้าง เฉาเหอน่ะ!” ชายคนนั้นถอดหมวกออกช้าๆ เพื่อเผยให้เห็นใบหน้าอีกครั้งของเขา จิตสังหารระดับอสูรที่โหดเหี้ยมได้ถูกเปิดเผยออกมาทันที! สิ่งที่ทุกคนตื่นตระหนกนั้นคือเหล็กที่อยู่บนหน้าผากของเขาอย่างแจ่มชัด บุคคลที่ถูกประทับตราเช่นนี้ไว้นั้นล้วนแต่เป็นคนที่ได้เข้าสู่การทดลองเวทมนตร์ที่โหดเหี้ยม!
“เฉาเหอ… มะ-มันคือนักเวทสังหาร!” ผู้ชายคนหนึ่งอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ตระกูลตงฟางงั้นเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิดดูเหมือนว่าจะมีผู้หญิงที่ชื่อตงฟางซินเก๋อ หึหึ ฉันว่าเธอนั้นอร่อยจริงๆ…” เฉาเหอกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะอย่างมีเล่ห์นัย
“ไอ้สารเลว แกกล้าที่จะเอาศิษย์หลักของตระกูลตงฟางไปเป็นของเล่นงั้นเหรอ?!”
“โอ้ ฉันไม่ได้เล่นอะไรกับเธอมากนักหรอก ฉันหมายถึงว่าเธอนั้นอร่อยจริงๆเมื่อฉันกินเธอเข้าไปน่ะ!” เฉาเหอนั้นเลียริมฝีปากราวกับปีศาจกระหายเลือด
ทั้งสี่ที่ได้ยินเช่นนั้นขนลุกชูชันขึ้นมาทันที
พวกเขานั้นรู้มาว่าหญิงสาวที่นามว่าตงฟางซินเก๋อถูกปีศาจร้ายตนนี้พรากไป… แต่ใครเหล่าจะคาดคิดว่าเฉาเหอผู้นี้จะกินเธอเข้าไปจริงๆ!
อีกด้านหนึ่งโม่ฝานนั้นมองไปที่ถังหยู่พร้อมกับหัวใจที่สั่นไหวด้วยความตระหนก
คนบ้าผู้นี้เป็นใครกัน เขาสามารถกินมนุษย์ได้ด้วยงั้นเหรอ? แล้วสิ่งที่แตกต่างระหว่างมนุษย์กับอสูรเวทนั้นคืออะไรล่ะ?
“นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราจึงไม่สามารถปล่อยเขาไปได้!” ถังหยู่กระซิบที่ใบหูของโม่ฝานด้วยแววตาที่เย็นชา
“สี่คนจากตระกูลตงฟางนั้นไม่ได้อ่อนแอ เช่นนี้พวกเขาควรจะ…” ก่อนที่โม่ฝานจะกล่าวได้จบ ปีศาจร้ายที่นามว่าเฉาเหอระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เสียงหัวเราะของเขาน่าเกลียดราวกับเสียงของค้างคาวผี
ในขณะที่ปีศาจร้ายกำลังระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง โม่ฝานตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ สิ่งแปลกปลอมสีดำกำลังร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า มันดูคล้ายกับแมงมุมและในเวลาเดียวกันกรงเล็บของมันกางออกอย่างดุร้ายและพร้อมที่จะเก็บกวาดทุกคนด้านล่างอย่างโหดเหี้ยม!
“ความจริงแล้วฉันมาถึงที่นี่ก่อนพวกแกทั้งหมด ซึ่งหลุมปีศาจนี้เป็นของขวัญที่ฉันเตรียมไว้สำหรับพวกแกโดยเฉพาะ!”
แมงมุมยักษ์พร้อมกับใยแมงมุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ชายทั้งสี่เงยหน้ามองมันโดยพลัน พวกเขาเห็นกับดักนั้นอย่างชัดเจน หมอกสีดำห่อหุ้มร่างกายของมันไว้ ทำให้ร่างของแมงมุมดูลึกลับและน่าหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิมมาก ดวงตาที่ดุร้ายและน่ารังเกียจของมันทำให้ทุกคนรู้สึกหวั่นใจอย่างรุนแรง พลังชีวิตของพวกเขาราวกับกำลังจะหายไปในพริบตา
“มันคือธาตุคำสาป หนีเร็ว!” ตงฟางจุนตะโกนออกมา สีหน้าของเขาซีดเผือดทันทีเมื่อได้เห็นสิ่งนั้น
ทุกคนตื่นตกใจทันที พวกเขาไม่เคยเห็นเวทมนตร์เช่นนี้มาก่อน หมอกดำเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเป็นเส้นไหมสีดำสนิทพร้อมกับผูกมัดร่างกายของทุกคนเอาไว้ เพียงแค่พวกเขาหลับตาและพยายามจะเข้าสู่โลกวิญญาณเพื่อใช้เวทมนตร์ ในคราวนั้นแมงมุมเหล่านี้จะพุ่งเข้าไปในโลกวิญญาณของพวกเขาทันที ด้วยพลังที่น่ารังเกียจของมันนั้นไม่อาจทำให้พวกเขาควบคุมดวงดาวได้เลย!
“โอ้ ไม่นะ! พวกเขาช้าไปแล้ว!” ถังหยู่อุทานออกมาพร้อมกับใบหน้าไร้โลหิตล่อเลี้ยง
ในตอนแรกถังหยู่นั้นคิดที่จะใช้ประโยชน์จากทั้งสี่คนในการจัดการกับเฉาเหอ ซึ่งเช่นนี้จะสามารถจัดการกับเขาได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสได้รับชัยชนะ แต่ทว่าใครเล่าจะคาดคิดว่าเฉาเหอตระเตรียมกับดักอันชั่วร้ายเอาไว้เพื่อจัดการกับทั้งสี่จากตระกูลตงฟางอย่างรอบคอบ
คาถาของธาตุคำสาปนั้นน่ากลัวอย่างมากและมันแกมโกง ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากมันไปได้หากไร้ความระมัดระวัง ทั้งสี่คนจากตงฟางนั้นเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับกลุ่มสมาคมนักฆ่า เช่นนี้เฉาเหอใช้เพียงคาถาธาตุคำสาประดับมัชฌิมเท่านั้น เขาสามารถจัดการกับทั้งสี่คนได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนั้นแมงมุมปีศาจนี้อยู่ในระดับที่สาม เมื่อวิญญาณของมันมาถึงระดับนี้แล้วแมงมุมปีศาจนี้จะแข็งแกร่งอย่างมาก ผู้ใดที่หลงเข้าไปในกับดักของมันจะถูกตรึงจิตใจอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มันจะแทรกซึมเข้าไปในจิตใจของเหยื่ออย่างโหดร้าย
บุรุษแห่งตระกูลตงฟางเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอเลย อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถปกป้องตนเองได้จากคำสาปนี้ ทั้งหมดติดอยู่ในกับดักทันทีและสิ่งนี้ทำให้พวกเขาไม่ต่างอะไรไปจากคนพิการ… ทั้งหมดกลายเป็นแกะน้อยที่อยู่ในคอกเท่านั้น!
“เราควรจะยินดีที่กับดักนั้นถูกเปิดเผยออกมาก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นเราสองคนที่ติดกับดักนั้นก็ได้” โม่ฝานกล่าวออกมาด้วยสีหน้าหดหู่
ตอนนี้ถังหยู่นั้นรู้แล้วว่าเธอกำลังเผชิญสิ่งที่โหดร้ายเสียยิ่งกว่าอสูรเวท บุคคลผู้นี้คล้ายกับแมงมุมปีศาจ เขาวางใยที่โปร่งใสเอาไว้และจัดการกับเหยื่อในขณะที่เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ กว่าที่พวกเขาจะรู้ตัวและเริ่มทำลายมัน เมื่อนั้นคือประตูแห่งนรกได้เปิดรอทั้งหมดแล้ว!
“ถ้าหากฉันเป็นนักเวทธาตุแสงหรือวิญญาณ ก็จะพอช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้นได้ แต่ก็… อืม ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็จะต้องตาย” ถังหยู่นั้นต้องการที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะเข้าไปในตอนนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรอีกแล้ว เธอเป็นนักเวทธาตุไฟและธาตุเงา ซึ่งคาถาของทั้งสองธาตุนี้ไม่อาจทำลายธาตุคำสาปได้เลย
“แล้วถ้าธาตุสายฟ้าล่ะ?” โม่ฝานหยิบยกคัมภีร์เส้นทางดวงดาวขึ้นมา
ถังหยู่ส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจพร้อมกล่าวว่า “คาถาของธาตุคำสาปนั้นจะถูกร่ายไว้ก่อนหน้า แม้ว่าธาตุสายฟ้าจะสามารถสังหารผู้ใช้คำสาปได้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร คำสาปนั้นก็จะดำเนินการทำลายชีวิตของทั้งสี่คนต่อไปเรื่อยๆ กล่าวอีกอย่างก็คือสี่คนนั้นต้องคำสาปไปแล้ว ชีวิตของพวกเขานั้นมีเพียงความตายที่รออยู่เบื้องหน้า”
“ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป!” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างอดกลั้น
ถังหยู่กัดริมฝีปากแน่นด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด
ในฐานะที่เธอมีตำแหน่งในสมาพันธ์นิติบัญญัติ หน้าที่ของเธอคือช่วยเหลือผู้คน แต่ในตอนนี้เธอทำได้เพียงยืนมองคำสาปนั้นกลืนกินชีวิตของผู้ชายทั้งสี่ตรงหน้า
เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถึงแม้ว่าเธอจะเคลื่อนไหวอะไรก็ตาม… ก็ยังคงไร้ประโยชน์ที่จะช่วยเหลือตระกูลตงฟางทั้งสี่คนนี้
ในตอนนี้เธอทำได้เพียงเฝ้ารอเท่านั้น… รอจนกระทั่งเฉาเหอสามารถเก็บเกี่ยวจิตวิญญาณแห่งไฟไปได้ จากนั้นการป้องกันตัวของเขาจะลดลง เมื่อเวลานั้นมาถึงเธอจึงจะสามารถจัดการกับเขาได้ หากเธอปล่อยให้เขาหนีรอดจากการจับคุมครั้งนี้ไปได้อีก ไม่รู้ว่าจะต้องมีอีกกี่ชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับปีศาจร้ายตนนี้!