ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 164
ตอนที่ 164 ทําลาย!
ทําลาย! ทําลาย!
ลําลาย! ทําลาย!
ถูกครั้งที่กระสุนยิงออกไป กู้จวินได้เอ่ยคาถากํากับด้วยทุกครั้ง และด้วยเหตุนี้จึงทําให้ใบหน้าของกู้จวินตอนนี้นั้นขาวและซีดเผือดราวกับผีตายซาก แต่ดวงตาของเขากลับกสายเป็นสีแดงสดอย่างน่ากลัว…อารมณ์ของเขากลายเป็นใจร้อนและบ้าคลั่งอย่างหยุดไม่อยู่ คล้ายกับเลือดสุนัขได้เข้าตาของเขาเปลี่ยนให้เขาเป็นคน ที่โหดเหี้ยมกว่าเดิม
เมื่อกระสุนไรเฟิลของเสวี่ยป้าที่แย่งชิงมาใกล้จะหมด…และกระสุนเพียงไม่กี่นัดที่อยู่ในกระบอกปืนไม่สามารถดับแรงแค้นของกู้จวินได้ เขากัดฟันด้วยความแค้นก่อนที่จะรื้อค้นกระเป๋าของทุกคนแล้วเอากระสุนปืนไรเฟิลโดยเฉพาะของกระบอกนี้มายัดใส่อย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็เล็งเป้าอีกรอบ… เขาเล็งไปที่สมาชิกคนอื่นของบริษัทไล่เฉิงที่กําลังรวมตัวกันอยู่รอบๆศาลเจ้าที่กําลังพังทลาย จํานวนเหยื่อของเขานั้นมันมีมากมายมหาศาลจนเรียกได้ว่าถ้ากราดยิงไปตรงไหนมันจะต้องเจอดังนั้นก่จวินจึงไม่ได้พูดอะไรอีกเขายิงปืนต่อเนื่องเรื่อยๆโดยที่ไม่ลืมจะกําชับคาถาไว้กับกระสุน
การยิงปืนต่อเนื่องกันทําให้เกิดแรงถีบที่รุนแรงและไม่คุ้นเคย นั่นทําให้ไหล่ของจวินถูกอย่างรุนแรงและทําให้ไหล่ของเขาแตก… แม้จะกระดูกแตกและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่มือของกู้จวินก็ยังคงจับกระบอกปืนไว้อย่างมั่นคง
เสียงปืนรัวได้ดังขึ้นอีกหนึ่งรอบ ตามด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด กลิ่นเลือดที่เหม็นคาวได้กระจายไปทั่วศาลเจ้าแห่งนี้ มันทําให้หน่วยนักล่าอสูรที่กําลังหมดแรงและคุกเข่าอยู่บนพื้นถึงกับตื่นตระหนกกับภาพทะเลเลือดทันที
แต่หลังจากยิงไปพักใหญ่กระสุนก็หมดอีกครั้งและคราวนี้ไม่มีกระสุนเดิมอีก ดังนั้นกู้จวินจึงโยนปืนไร้กระสุนนี่ลงพื้นและเดินไปหาเฮ่อหนานและโจวอี้เพื่อแย่งปืน
บรรดาผู้คนสาวกของบริษัทไล่เฉิงพยายามวิ่งหนีด้วยความกลัวตาย เสียงคร่ําครวญและโหยหวนดังไปทั่วศาลเจ้า พวกเขาทั้งร้องไห้และหลั่งน้ําตาให้กับบรรดาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่ตายจากเสียงความเจ็บปวดและ เสียงร้องไห้ดังไปทั่วบริเวณแต่หาได้ทําให้เพชฌฆาตอย่างกู้จวินสับสนหรือรู้สึกสงสารไม่!
ก่จวินยังคงเดิมกระสุนใส่ในปืนอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ยิงออกไปอย่างรุนแรง… เมื่อเห็นพวกคนชุดดําหรือว่าสาวกชุดแดงถูกกระสุนแทงทะลุร่างเลือดของพวกเขากระจัดกระจายร่างของพวกเขาร่วงหล่นลงพื้น เสียงกรีด ร้องและความทรมาน… เมื่อเห็นชีวิตของพวกเขากําลังจะถูกปลิดปลงกําจวินก็รีบยิงเร็วขึ้นอีกนี่เป็นครั้งแรกที่กู้จ วินได้ถือปืน และก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ฆ่ามนุษย์อีกด้วย!
มนุษย์อย่างนั้นเหรอ… นั่นสินะ พวกเขาเป็นมนุษย์จริงๆเหรอ หรือเป็นแค่อสูรกายวิญญาณต่างโลกที่พยายามสวมหนังมนุษย์เพื่ออาศัยอยู่เป็นปรสิตของโลกนี้กันแน่… ฆ่าปรสิตสักตัวสองตัวผิดด้วยหรือ?
โศกนาฏกรรมในอดีต ความเศร้าในวัยเยาว์ หมอกดําที่ฝังลึกในใจ ฝันร้ายที่มาเยือนเขาเป็นครั้งคราวในความฝัน ความกลัวของลูกแกะที่ถูกกําหนดให้ถูกบูชายัญภาพหลอนของชาวบ้านหมู่บ้านคู่หรงความเจ็บปวด ของสหายของเขาผู้เสียสละและหลั่งเลือด-ทั้งหมดจะนําไปสู่ความพินาศ!
“ข้าไม่ได้เดือนพวกเจ้าเหรอ? วันหนึ่งเด็กชายผู้นี้จะเติบโตเป็นผู้ชายที่แท้จริงและยืนต่อหน้าพวกเจ้าอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้น…หนี้ทั้งหมดก็จะหมดไปวันนั้นจะเป็นวันที่ทุกอย่างที่ชําระ….และวันนั้นที่ว่าก็ได้มาถึง!”
ในขณะที่สาวกชุดแดงคนหนึ่งกําลังหนี เขาก็คิดถึงถ้อยคําที่บุตรแห่งความโชคร้ายเคยได้บอกเขาไว้เมื่อกาลก่อน… มันเป็นถ้อยคําที่น่าขํา เขาไม่คิดที่จะเชื่อถืออะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ทําตามเงื่อนไข เพราะว่าอยากรู้เท่านั้น เทพที่ถูกทอดทิ้งมันจะไปมีอํานาจได้อย่างไร… แต่ทุกสิ่งในวันนั้นก็คือผลในวันนี้ เด็กชายคนนั้นได้เติบโตเป็นผู้ชายที่แท้จริงแล้วและหนี้กําลังจะถูกสะสาง
ก่จวินคว้าปืนไรเฟิลขึ้นมาถือจนคล่องมือ…รู้จักคําว่าพรสวรรค์ไหม? เขาไม่เคยยิงปืนมาก่อนแล้วยังไง ตอนก่อนหน้านี้ตอนที่ทุกคนพักกันอยู่ที่บันไดเวียน เขาเองก็ไม่มีอะไรทํา และคนอื่นก็ยังนั่งพักผ่อนอยู่ดังนั้นเขา จึงเข้าไปหานักแม่นปืนคนหนึ่งของหน่วยนักล่าอสูร จากนั้นก็ขอให้เขาสอนวิธีการใช้ปืนแบบเร่งด่วนให้…
คําถามก็คือต่อให้สอนแล้วจะใช้เป็นเหรอ? การยิงปืนนั้นจําเป็นจะต้องมีประสบการณ์ อย่างน้อยก็ต้องผ่านการฝึกฝน การบอกปากเปล่าไม่สามารถช่วยอะไรได้…ก็ใช่! แต่นั้นมันสําหรับกรณีคนปกติสําหรับเขาไม่ใช่!
เขาหยิบปืนไรเฟิลขึ้นมา จากนั้นก็ใช้กล้องอินฟาเรดล็อคเข้ากับร่างของสาวกชุดดําคนหนึ่งที่กําลังหลบหนี… สาวกชุดดําผู้โชคร้ายคนนั้นไม่รู้ตัวเลย เขาคงกําลังดีใจว่าตัวเองกําลังหนีได้ไกลที่สุดและน่าจะรอดพ้นจากความตายไปได้… กู้จวินยิ้มในขณะที่เขากําลังวิ่งหนีเขาปล่อยให้สาวกคนนั้นมีความสุขกับช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะลั่นไหและปล่อยกระสุนออกไป
สาวกชุดดําเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเป็นคนที่วิ่งหนีมาได้ไกลที่สุด ดังนั้นแล้วไม่มีทางที่เขาจะถูกกําจัด… ในขณะที่กําลังวิ่งนั้นเอง ภาพเบื้องหน้าก็พลันเลือนหายพร้อมกับร่างกายที่มีอาจจะควบคุมได้อีก…เขาไม่รู้เลยว่า กระสุนนั้นได้เจาะเข้ามาในสมองของเขาแล้ว ก่อนที่มันจะระเบิดออกจากนั้นทั้งกะโหลกและสมองของเขาก็ระเบิดไปพร้อมกัน
ตัวที่หนึ่ง….
กู้จวินรีโหลดกระสุนใหม่เข้าที่อีกครั้ง จากนั้นก็ยิงต่อด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ เป้าหมายต่อไปของเขาก็คือสาวกชุดดําที่อยู่ใกล้ๆกับสาวกชุดดําที่ตายไปคนเมื่อครู่นี้…จากนั้นเขาก็ยิง! คราวนี้ไม่ใช่หัวสมองแต่เป็นลําคอทันทีที่กระสุนโดนลําคอเขาก็ท่องคาถา จากนั้นลําคอทั้งหมดก็ระเบิด…สาวกชุดดําคนนั้นตายโดยที่ไม่รู้ตัวเลย ว่าตายได้อย่างไร
ตัวที่สอง!
ปัง! ปัง!
ด้านหลังสาวกหนึ่งถูกเจาะเป็นรู
ตัวที่สาม!
“อาจุน อาจุน!” เสี่ยป้าตะโกนอย่างรวดเร็ว เขาปล่อยให้กู้จวินยิงคนทั้งหมดต่อไปไม่ได้ “เล็งไปที่ขาของพวกเขา เราต้องการคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อเอาข้อมูลออกมา…”
“ก็ช่างสิ กูจวินยิงที่หัวอีก!
ตัวที่สี่!
กระสุนไรเฟิลหมดแล้ว! เขาไม่ลังเลที่จะเขวี้ยงทิ้งทันทีจากนั้นก็หยิบบาเร็ตขึ้นมา….เฮดช็อต!
ตัวที่ห้า!
คําพูดของเสวี่ยป้าที่บอกกู้จวินไม่ต่างอะไรกับลมพัดผ่านวูบหนึ่ง นั่นทําให้เสี่ยป้าต้องเงียบลง.. ในขณะที่ลูกทีมคนอื่นๆที่รอดพ้นจากแรงกดดันของเพลงก็เริ่มลุกขึ้นมา พวกเขาต้องการที่จะเข้าไปหยุดกู้จวินที่กําลังจะทํางานของพวกเขาพังพินาศ แต่เสวี่ยป้าก็ห้ามพวกเขาเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนทุกคน… อย่าเพิ่ง! ตอนนี้กูจวินไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ปกติ”
เพราะเขาไม่รู้ ว่าถ้าเกิดพวกเขาไปขัดจังหวะจวินขึ้นมามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก…. โดยเฉพาะกู้จวินที่ตอนนี้ มีคาถาอยู่ในมือเขาสามารถใช้เวทมนตร์ของเขาได้ และนอกจากนี้ค่า S ในปัจจุบันของจวินก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไงด้วย อีกทั้งพวกเขาร่างกายก็ยังไม่ฟื้นตัวดี เนื่องจากผ่านศึกมานับครั้งไม่ถ้วนอีกทั้งยังเหนื่อยล้าสะสมพวกเขา ไม่สามารถสู้กู้จวินที่มีทั้งคาถาและมีทั้งปืนได้
มันจะเป็นการฉลาดยิ่งกว่า ถ้าพวกเขาอยู่เฉยๆ ในตอนนี้
ในขณะที่พวกเขากําลังนิ่งและดูสถานการณ์ เสียงปืนก็ดังก้องไม่ขาดสาย… นอกจากภูเขาซากหมาป่าก ลายพันธ์ทั้งหลายแล้วยังมีร่างของมนุษย์ มีสาวกของไล่เฉิงที่กําลังจะตายหรือเกือบจะตายเต็มไปหมด ใบหน้า ของพวกเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด บางคนก็โกรธแค้นในขณะที่บางคนกําลังสับสน… ตอนนี้ไม่ต่างอะไรจาก นรกบนดิน กู้จวินกลายเป็นผู้ตัดสินทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง
“กู้จวิน…” ผู้นําสาวกในชุดสีแดงทรุดตัวลงในแอ่งเลือดของตัวเอง แม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกเจาะเป็นรูพรุน แต่เขาก็ไม่คร่ําครวญด้วยความเจ็บปวดแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งเสียงของเขายังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
“ดูเหมือนว่าวิญญาณต่างโลกในตัวคุณ…จะมีความลับบางอย่างที่เราไม่รู้…ถึงแม้คุณจะทําลายเรา แต่คุณก็จะไม่สามารถทําลายพวกเราได้…”
ปัง!
ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดจบประโยค หัวของเขาก็ปะทุราวกับแตงโมถูกฟาดร่างของเขาล้มลงกับพื้น และไม่ได้ยินคําพูดใดจากร่างกายของเขาอีก
“ฉันไม่สามารถทําลายบริษัทไล่เฉิงของคุณได้ใช่ไหม?” กู้จวินกล่าวด้วยความไม่พอใจ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียม “งั้นก็ไปรอดูอยู่ในนรกแล้วกันว่าฉันคนนี้จะสามารถทําลายมันได้ไหม”
บริษัทไล่เฉิง…หรอลัทธิหลังความตาย เขามีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับองค์กรนี้อยู่บ้าง ที่มาของบริษัทไล่เฉิงจะต้องเกี่ยวข้องกับลัทธินอกรีตจากอารยธรรมต่างโลกแน่นอน พวกเขาหันหลังให้กับเทพธิดาแห่งชีวิตซึ่ง พวกเขาคิดว่าเทพธิดาแห่งชีวิตได้ละทิ้งพวกเขา และหันไปหาพลังอื่นพวกเขาย้ายวิญญาณไปยังอีกจักรวาล หนึ่ง ค้นหาเรือใหม่ และมีชีวิตใหม่
คงเพราะความซับซ้อนของจักรวาล… ดังนั้นการย้ายวิญญาณจึงกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก พวกเขาจําเป็นต้องย้ายวิญญาณเพื่อหลบหนีอันตราย และเนื่องจากต้องผ่านจักรวาลที่แสนอันตรายจึงทําให้พวกเขาเหลือเพียงเศษเสี้ยวของความทรงจําและจิตสํานึกก่อนหน้านี้เท่านั้น….
กว่าพวกเขาจะเจอภาชนะหรือเจอบ้านที่เหมาะสมก็ใช้เวลานานเนิ่นนาน… และเมื่อพวกเขาสามารถลงหลักปักฐานได้ พวกเขาก็ขยายลัทธิขึ้น สะสมกําลังและอํานาจอย่างยากลําบากจากนั้นเมื่อมีอํานาจพวกเขาก็เริ่มดําเนินการอื่นต่อไป
พวกเขาเริ่มค้นหาอํานาจที่สามารถเพิ่มพลังให้พวกเขาได้ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทําให้ต้องหาเด็กจํานวนมากมายเพื่อมาเป็นภาชนะ
ไปได้ว่าการหาภาชนะของเทพเจ้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก…ที่พวกเขามั่นใจและทําพิธีได้มันก็เป็นหลักฐานได้อย่างดีว่าจะต้องมีภาชนะแห่งเทพคนอื่นอยู่อีกแน่นอน กู้จวินจะไม่ใช่คนแรกอย่างเด็ดขาด…ดังนั้นแล้วเพื่อตามหาเรือลําต่อไป…ไม่สิ! เพื่อตามหาภาชนะของเทพเจ้าคนต่อไป พวกเขาจําเป็นจะต้องตามหาภาชนะใหม่อีกครั้ง
ปัญหาก็คือพ่อแม่ของเขา…มันเกิดอะไรขึ้นทําไมพ่อแม่ของเขาถึงได้เกี่ยวข้องกับพิธีอัญเชิญเทพเจ้าได้ พวกเขายอมให้กู้จวินเป็นภาชนะจริงหรือทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่แผนกันแน่
อย่างไรก็ดี คนพวกนี้ช่างโง่พวกเขาคิดว่าเขาจะเป็นภาชนะได้หรือ… เขาไม่ใช่คนที่มีความว่างเปล่าหรือว่าละทิ้งความเชื่อจนทําให้ร่างนั้นสามารถถูกยึดครองได้อย่างง่ายดายสักหน่อย
แต่ที่น่าตลกกว่านั้นก็คือพวกเขากําลังเชิญเทพปีศาจที่จําศีลอยู่ใต้ดินอันมืดมิดหรือก็คือบุตรแห่งความโชคร้าย นี่ไม่ใช่พลังที่พวกเขาจะสามารถควบคุมได้เลย…แม้แต่จวินเขาเองก็คิดว่าไม่น่าจะไหว
ยังไงก็ช่าง! ตอนนี้เขาต้องถล่มมันและละเลงที่นี่ให้กลายเป็นทะเลเลือด กู้จวินเหนี่ยวไกอีกครั้ง แล้วก็มีอีกชีวิตที่สูญเสียไป