ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 173
บทที่ 173 กลัวคนแก่คิดมาก
คําพูดของเจียงฮ่าวทําให้เฒ่าหยูต้องสับสนในทันที
“ห้ะ นี่ฉันทําหน้าตาหน้ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
เป็นตอนนี้ที่เขาเข้าใจได้ว่าเจียงฮ่าวนั้นหมายถึงอะไรในความหมายเบื้องหลังคําพูดของเจียงฮ่าว
และเป็นตอนนี้ใบหน้าของเขามีดคล้ําลงประหนึ่งดํากันหม้อ เขามองไปที่เจียงฮ่าวที่กําลังมองเขาด้วยสายตาหวาดๆ
“ไอ้เด็กโง่ เจ้าคิดไปถึงไหนเนี่ย”
“อ้าว ก็ปู่ทําหน้าตาแบบนั้นทําไมล่ะ”
เมื่อพูดจบ ชายแก่ก็จ้องมองไปที่เจียงฮ่าวด้วยท่าที่อิจฉา
“ถ้าไม่ใช่ชายแก่คนนี้เห็นแก่ความที่มและใสซื่อของเจ้าก็แล้วล่ะก็จนอยากจะได้เจ้าเป็นศิษย์
“ข้าก็ไม่มาเสียเวลาพูดคุยกับเจ้าแบบนี้หรอก”
เจียงฮ่าวประหลาดใจขึ้นมาเมื่อได้ยิน เขาไม่คิดว่าชายแก่คนนี้ถึงขนาดขั้นคิดจะรับเขามาเป็นศิษย์
แต่ประเด็กนคือไอ้สายตาอิจฉาถึงขึ้นนรกแตกนั่นคืออะไรกัน
เจียงฮ่าวเองอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีกับชายแก่คนนี้ขึ้นมาในหัวใจ
แต่ไม่ใช่ว่าแค่ชายแก่คนนี้อยากจะรับแล้วเขาจะต้องตอบสนองเสมอไป
และนี่เองทําให้เขานั้นมีความคิดหนึ่งขึ้นมาในทันที
เจียงฮ่าวมองไปที่ชายแก่ด้วยท่าทางตื่นเต้นจนเก็บไว้ไม่อยู่
“ว้าวววว จริงหรือครับ”
เฒ่าหยู่ที่คิดว่าเจียงฮ่าวเป็นคนที่มๆ เขาจึงเริ่มไขว้มือไปที่ข้างหลังของตนประหนึ่งดั่งผู้ชํานาญยุทธ
“อื้ม ข้านั้นเห็นว่าเจ้ามีความเหมาะสม เจ้ามีค่าพอจะเรียกข้าว่าอาจารย์ได้”
เจียงฮ่าวที่เห็นท่าทางทําเป็นเท่ของชายแก่แล้วนั้น เขาก็ได้กลอกตามองบนก่อนที่จะเหลือบไปเห็นรอยฝ่ามือทั้งสองรอยบนม้านั่ง เอาจริงฝ่ามือของเขาล็กกว่าด้วยซ้ํา เหมือนเห็นดังนั้นเขาก็ได้พูดออกมา
“แต่….ปู่ รอยฝ่ามือที่ผมทิ้งไว้นั้นมันลึกกว่าของปู่อีกนะ หรืออีกความหมายหนึ่งคือผมเองควรจะมือวิชายุทธเหนือกว่าปู่สิ”
“นี่ไม่ใช่ว่าปู่ควรจะรับผมเป็นอาจารย์หรอกเหรอ”
เจียงฮ่าวกลับมาแกล้งหยอกชายชราผู้ทําเป็นเท่อีกครั้งด้วยการแกล้งถามอย่างจริงจัง
เมื่อเฒ่าหยุได้ยิน เขาก็ถึงกับชะงักงัน ท่าทางประหนึ่งดังผู้ยอดยุทธได้หายไป เขาหันหลังกลับและรีบเดินจากไป
“อ้าว ปู่ จะไปไหนน่ะ มาเรียกผมว่าอาจารย์ก่อนสิ”
เจียงฮ่าวได้ตะโกนไล่หลงออกมา เฒ่าหยู่เองเมื่อได้ยินก็สะดุ้งอีกครั้งก่อนจะรีบสาวเท้าก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
อีกฝากฝั่งหนึ่ง ชายที่ถูกเรียกว่าพี่แปดที่ในตอนนี้ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ใบหน้าของเขาในตอนนี้ทําท่าราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน
เขาเห็นการพูดคุยกันระหว่างชายแก่และเด็กหนุ่ม แล้วไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมเรื่องถึงกลับกลายเป็นว่าตาแก่นั้นเกือบจะต้องกราบไหว้เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นอาจารย์ซะได้
มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างสองคนนี้รึเปล่านะ
ทั้งสองคนต่างมองหน้ากันพร้อมดวงตาที่แฝงไว้ด้วยความสับสนอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ชายแก่เองก็ได้จากไปแล้ว พวกเขาในตอนนี้ที่พึ่งรู้สก็ตัวก็ได้รีบตามเขาไป
เจียงฮ่าวได้มองชายแก่ที่ตอนนี้กําลังวิ่งจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับหัวเราะออกมาราวกับปีศาจร้าย
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ เจียงฮ่าวในตอนนี้อยู่ในห้องนอนและกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้อง
ที่เท้าของเขามีเรดบูลที่หมดแล้วอยู่สองกระป๋อง
เป็นตอนนี้ที่เขาจ้องมองไปยังเม็ดยาสีดําจํานวนหนึ่งในมือพร้อมขมวดคิ้วอย่างเซ็งๆ
“ไม่คิดเลยจริงว่าอัตราการสังเคราะห์ของระบบจะต่ําขนาดนี้ เรดบูลสี่สิบแปดกระป๋องกลับได้กลับได้เม็ดยาเพิ่มความทนทานมาเพียงเก้าเม็ด”
“เอาเถอะ ด้วยเม็ดยาทั้งเก้านี้ ค่าความทนทานของฉันก็จะมากกว่าคนปกติสองเท่า นี่ก็ควรจะเพียงพอแล้วในตอนนี้”
เจียงฮ่าวเมื่อคิดได้ดังนี้เขาก็เซ็งในทันที
และในตอนนี้เขาได้กลืนกินเม็ดยาทั้งหมดในคราวเดียว คลื่นแห่งความสบายได้ไหลบ่ามาทั่งร่างของเขา มันทําให้เขารู้สึกสบายอย่างมากจนเขาเกือบที่จะครางออกมา
ถึงแม้เม็ดยาทั้งเก้าจะหายไปจากข้างในปากของเขาแล้ว เจียงฮ่าวก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความสบายนี้อยู่
และเมื่อเขาได้มองไปยังค่าสถานะของคนแล้ว ค่าความอดทนของเขาในตอนนี้เพิ่มขึ้นจาก 0.8 เป็น 1.9 ในทันที
เจียงฮ่าวรู้สึกปลื้มปลิ่มขึ้นมาในใจ
หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่า ร่างกายของเขานั้นมีคลื่นพลังไหลเวียนมากกว่าแต่ก่อน
เขาลองใช้กระบวนท่าไม้ตีสุนัขด เป็นดังที่คาดไว้ เมื่อเขาใช้วิชายุทธไปแล้ว ในตอนนี้เขาไม่รู้สึกความรู้สึกเหนื่อยอ่อนที่เกิดขึ้นในหน้าอกของเขาอีกต่อไป
เจียงฮ่าวรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ในที่สุดเขาก็มีความอึดพอที่จะใช้ท่านได้สักที เขานั้นไม่ใช่พวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ําอีกต่อไป
เป็นที่รู้กันว่าเรื่องแบบนี้เปรียบได้ดั่งหน้าตาของบุรุษ และเป็นธรรมดาที่บุรุษเช่นเขาก็ต้องให้ความใส่ใจในเรื่องนี้