พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส - ตอนที่ 22 เต่าตัวเดียวกลายเป็นเหตุสยองขวัญ
- Home
- All Mangas
- พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส
- ตอนที่ 22 เต่าตัวเดียวกลายเป็นเหตุสยองขวัญ
ยี่สิบสอง
เต่าตัวเดียวกลายเป็นเหตุสยองขวัญ
“คุณชายสาม เจ้าเอ้อเฉินขโมยกินปลา ข้าจึงจับมันไว้ ไม่ได้ตั้งใจจะลูบมันนะขอรับ” จี้หลินถอยหลังไปสองก้าว สองมือสะบัดไปมาอย่างพยายามปฏิเสธ
“เอ้อเฉิน เจ้าแอบขโมยกินอีกแล้วนะ” จี้ชิงเอียงคอ ยื่นมือเรียวยาวออกไปลูบจมูกนิ่มๆ ของเอ้อเฉิน
เมื่อเห็นว่าจี้ชิงไม่ได้ตำหนิ จี้หลินจึงรีบเข้าครัวไปทำอาหารต่อ ซ่งฉือเองก็ไม่มีอะไรทำจึงลากอาจิ่งเข้าไปในครัวเพื่อช่วยจี้หลิน
“คุณชายซ่ง ท่านนี้คือ…” จี้หลินหยิบช้อนพลางมองที่เด็กหญิง
“นี่น้องสาวข้า ชื่ออาจิ่ง” ซ่งฉือลูบหัวอาจิ่ง “นางค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยพูดน่ะ”
จี้หลินส่งสายตาที่เข้าใจดีเยี่ยม “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ คุณชายสามก็ด้วย”
“จี้ชิงรึ เขาก็ด้วย?” ซ่งฉือแสดงอาการตกใจ
“ใช่ขอรับ ตอนที่คุณชายสามกลับมาก็ไม่ยอมพูดอะไรกับข้าเลย” จี้หลินชะโงกไปที่ด้านหลังตัวเขา เมื่อเห็นจี้ชิงยังมองไปที่เอ้อเฉิน เขาก็กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของซ่งฉือว่า “อาการหนักกว่าตอนนี้ร้อยเท่า”
“โอ้…” ซ่งฉือพยักหน้าพลางกัดริมฝีปากราวกับกำลังครุ่นคิด
จี้หลินก็รีบไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ ขณะที่ซ่งฉือก็หันกลับมาพิงที่ขอบประตูและมองจี้ชิง
จี้ชิงหลุบตา มือข้างหนึ่งอุ้มเจ้าเอ้อเฉินไว้ส่วนมืออีกข้างบีบหูของมันพลางยิ้มที่มุมปาก เขามีใบหน้าที่งดงามหล่อเหลา
สมัยที่ซ่งฉือเที่ยวเล่นอยู่ที่หอบุปผาภิรมย์ก็เคยได้ยินฟ่างอวี้กล่าวถึงกิตติศัพท์อยู่บ้าง คนงามมิใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกแต่งามลึกไปถึงกระดูก นับเป็นความงามอันดับหนึ่ง จมูกและคิ้วของจี้ชิงงามเป็นพิเศษ หากมองจากด้านข้างก็จะรู้สึกว่าเขาไม่ต่างอะไรจากเทพบนสวรรค์ งดงามเป็นหนึ่งจนไม่อาจหาผู้ใดเทียบ
ซ่งฉือหลุบตาพิงผนัง พยายามรวบรวมสติ เขาไม่กล้ามองคนงามมากนักเพราะมันส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ
“คุณชายซ่งกินรสเผ็ดหรือรสจืดขอรับ” จี้หลินถือพริกแดงกำหนึ่งพลางหันมาถาม
ซ่งฉือไม่ตอบก่อนจะถามกลับ “แล้วจี้ชิงล่ะ”
“คุณชายสาม? คุณชายสามชอบรสจืด” จี้หลินตอบ “แต่ถ้าคุณชายซ่งชอบรสเผ็ด ข้าจะได้ทำไว้สองรส”
“ไม่ต้องหรอก ทำตามรสชาติที่จี้ชิงกินเถอะ” ซ่งฉือพับแขนเสื้อขึ้น “ข้าจะเป็นลูกมือเจ้าเอง”
“ไม่เป็นไรขอรับ ข้าทำเองได้ มันง่ายมาก”
ซ่งฉือมองไปบนชั้น มีทั้งปลา ไก่ และเต่ายักษ์ แบบนี้จะเรียกว่าทำได้ง่ายๆ ได้อย่างไรกัน
“ข้าช่วยเจ้าล้างเต่าละกัน” ซ่งฉือจับเต่าไว้ในมือก่อนจะเขย่า “โห หนักนะเนี่ย”
“คุณชายซ่ง ท่านพี่ซ่ง อย่าขยับ…” จี้หลินหันกลับไป มือที่จับช้อนสั่นระริก
ซ่งฉือร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด เต่าที่อยู่ในมือก็หลุดออกไป
“เจ้าเต่านี่มันกัดคน!” เขาร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา
เจ้าเต่าลอยละล่องอยู่กลางอากาศ ก่อนจะตกลงไปในอ้อมอกของจี้ชิงจนทำให้เอ้อเฉินตกใจกระโดดหนีออกไป
สีหน้าของจี้ชิงเคร่งเครียดพลางมองไปยังซ่งฉือ
“อา…จี้ชิงนั่นเอง ช่วงนี้ข้ารู้สึกว่าเจ้าดูจะอ่อนเพลียมากนะ หน้าซีดเผือด เจ้าต้องล้างเจ้าเต่านั่นให้สะอาด จะได้ช่วยบำรุงร่างกายไง” ซ่งฉือพยามทำใจให้สงบและกลั้นหัวเราะ เมื่อหันกลับไปก็ห็นอาจิ่งกำลังเม้มริมฝีปาก ส่วนจี้หลินก็นั่งยองๆ เอามือปิดปากหัวเราะจนตาหยี
ซ่งฉือเม้มริมฝีปากพยามยามรักษาท่าทางสงบนิ่ง ทว่าไหล่ของเขากลับสั่นไหวอย่างไม่เชื่อฟัง
จี้ชิงถือเต่าไว้ในมือ ก่อนจะมองค้อนไปยังซ่งฉือและเดินไปล้างมันอย่างเชื่อฟัง
หลังจากล้างเต่าเสร็จสิ้นจี้ชิงก็พบว่าซ่งฉือกำลังหยอกล้อกับจี้หลินอย่างสนุกสนาน พอเห็นเขามาทั้งสองก็หุบปากเงียบทันที
จี้หลินรับเต่ามาแล้วเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม ท่านรีบออกไปเถอะ ในครัวมันร้อนนะขอรับ”
จี้ชิงมองกวาดไปที่เขาและซ่งฉือ “ข้าไม่ไป”
“ก็ดี มาลงมือทำกันเถอะ” ซ่งฉือยิ้มก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเนื้อที่จี้หลินเพิ่งหั่น “ข้าจะรับหน้าที่ชิมเอง”
จี้หลินหัวเราะคิกคัก “ถ้าอย่างนั้นคุณชายซ่งรับหน้าที่ชิม ส่วนข้าจะปรุง คุณชายสามก็นั่งจิบน้ำชาตรงนั้นก็พอขอรับ”
จี้ชิงส่ายหน้าไปมาก่อนจะนั่งข้างเตา
“เอาเถอะน่า ไม่ต้องไปสนเขาหรอก เจ้าทำของเจ้า ข้าก็กินของข้า ปล่อยเขานั่งรมควันไปเถอะ” ซ่งฉือวางตะเกียบลงก่อนจะดันไหล่อาจิ่งให้ไปนั่งดื่มชา
นางสงบลงมาก ทว่ายังคงเซื่องซึมพลางพินิจแบบร่างว่าวในมือ
จี้ชิงหยิบฟืนขึ้นมาก่อนจะมองจี้หลินที่กำลังหั่นผักและปรุงอาหารด้วยท่าทางจริงจัง
“ข้าทำเอง”
พอทำถึงอาหารจานสุดท้าย ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบเต่าขึ้นมา
“เจ้าทำเป็นรึ” ซ่งฉือหันไปสบตากับจี้หลินที่มีสีหน้ามึนงง
“ไม่ยากหรอก” เขาเอ่ยเสียงเรียบ
จี้ชิงจัดการปรุงอาอาหารอย่างทะมัดทะแมง ไม่ว่าจะเป็นการผสมเครื่องปรุงต่างๆ หรือเทน้ำมันลงไปในกระทะ สองมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่วจนซ่งฉืออ้าปากค้าง
จี้หลินยืนอยู่ข้างๆ แปลกใจเป็นอย่างมาก
อีกเดี๋ยวอาหารก็จะถูกปรุงจนเสร็จสิ้น ซ่งฉือกินจนอิ่มไปถึงแปดส่วน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการชิมเต่าที่จี้ชิงเป็นคนลงมือปรุงเอง
“คุณชายสาม เต่าตัวนั้นท่านเป็นคนทำเอง อาหารจานใหญ่เลยนะขอรับ” จี้หลินแทะตะเกียบ เขายังไม่ได้ชิมแม้แต่คำเดียว แต่กลับชมไม่หยุดปาก
“อาหารจานใหญ่จริงๆ” จี้ชิงมองไปที่เขาหนึ่ง
จี้หลินหน้าแดง “โอ้โฮ”
ซ่งฉือตักน้ำแกงขึ้นมาหนึ่งช้อนก่อนจะเป่าเบาๆ แล้วส่งเข้าปาก
จี้ชิงและจี้หลินมองไปที่ซ่งฉือ อาจิ่งก็เช่นกัน
ซ่งฉือวิ่งไปที่ต้นไม้ก่อนจะบ้วนน้ำแกงทิ้ง
“ท่านพี่ซ่ง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” จี้หลินถือผ้าเช็ดหน้าเดินตามไป
ซ่งฉือมือสั่นเทา หลังพิงต้นไม้พลางชี้ไปที่จี้ชิงแล้วเอ่ยเสียงสั่นเครือ “จี้ชิง เจ้าตัวดี เรา…เราพี่น้องกัน เจ้า…บังอาจวางยาพิษเพื่อสังหารข้ารึ สังหารข้ายังพอว่า แม้แต่ศิษย์ผู้น้องของเจ้าและเด็กหญิงตัวน้อยแบบนี้เจ้าก็ไม่เว้น โหด…โหดร้ายจริงๆ”
พอเอ่ยจบซ่งฉือก็แกล้งสลบไป
จี้ชิงถอนหายใจ ดูเขาแสดงจนจบพลางตักน้ำแกงให้เอ้อเฉินช้อนหนึ่ง เอ้อเฉินร้องเหมียวๆ เลียแล้วกระโดดขึ้นไปบนขื่อจากนั้นหายไปในพริบตา จี้ชิงตื่นตระหนกพลางยืนมองซ่งฉือว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่
ส่วนอาจิ่งนั้นมองออกแต่แรก นางจึงกินต่อไปอย่างไม่สนใจ
จี้ชิงพยุงอีกฝ่ายและพบว่ายังหายใจอยู่ เขาจึงตบเบาๆ ที่หน้าของซ่งฉือ “เป็นอะไรไหมซ่งฉือ”
จี้หลินแอบส่งเสียงหัวเราะแล้วค่อยๆ ถอยออกมา
จี้ชิงตบเบาๆ ที่ใบหน้าของซ่งฉือตลอดเวลา ตัวของซ่งฉือเองก็อ่อนปวกเปียกพิงร่างของจี้ชิงนิ่งๆ พร้อมกับหายใจแผ่วเบา
“ในเมื่อเป็นลมตายแบบนี้ ก็เอาน้ำแกงเต่ามาบำรุงเสีย… จี้หลิน เจ้าไปเอาชามน้ำแกงมาให้ข้า ประเดี๋ยวข้าจะป้อนเขาเอง” จี้ชิงจับตัวเขาพิงไว้ที่ต้นไม้พลางหันไปสั่งจี้หลิน
“ขอรับ!”
“จี้ชิง เจ้าตัวดี” ครู่เดียวซ่งฉือฟื้นขึ้นมา Wจะให้ข้าตายให้ได้เลยรึ”
“เฮอะ!” จี้ชิงหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินผ่านซ่งฉือไป
“อย่าโกรธไปเลยน่าจี้ชิง มาๆ ข้าดื่มให้หมดเลยได้ไหมเนี่ย”
อีกฝ่ายที่กำลังเดินออกไปก็หยุดชะงัก ก่อนจะหันมาถามอย่างจริงจัง “จริงเหรอ”
ซ่งฉืออยากจะร้องไห้ทว่าไม่มีน้ำตา “จริงสิ!”
พริบตาเดียวจี้ชิงก็หายตัวไป ก่อนจะยกชามน้ำแกงมาให้ซ่งฉือพร้อมรอยยิ้ม
“เอ้า ดื่มซะ”
จี้หลินแอบยิ้มแล้วหันไปพูดกับอาจิ่ง “ท่านพี่ซ่งนี่เก่งจริงๆ ทำเอาคุณชายสามโกรธจนควันออกหูได้เนี่ย”
อาจิ่งมองซ่งฉือที่เดินตามหลังจี้ชิงไปต้อยๆ ราวกับลูกสุนัขเดินตามเจ้าของ พลางแสยะยิ้ม
ไม่ใช่โกรธจนควันออกหูหรอก…