พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส - ตอนที่ 21 สัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณชายสาม
- Home
- All Mangas
- พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส
- ตอนที่ 21 สัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณชายสาม
ยี่สิบเอ็ด
สัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณชายสาม
“ดูสารรูปเจ้าสิจี้ชิง ภาพลักษณ์ของเจ้าถูกทำลายหมดแล้วนะ เมื่อก่อนดูเรียบร้อยบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ตอนนี้จมูกเชิดจนเกือบชี้ฟ้าแล้ว” ซ่งฉือหัวเราะเยาะ “ยังมีอีกนะ เจ้าบอกไม่ใช่หรือว่าที่จัวลู่ของเจ้า ตามกำแพงเป็นหยกอยู่ถึงครึ่งกำแพงไม่ใช่รึ ข้าไม่เห็นเลย หรือว่าเจ้าพูดไร้สาระ เอาแต่โอ้อวดเอาหน้าอย่างเดียว”
จี้ชิงกลอกตาใส่อีกฝ่ายพลางใช้นิ้วเรียวกรีดพัดขณะที่นั่งอยู่ข้างเตียง
“เจ้าพูดจริงหรือที่ว่าชอบมัน” ซ่งฉือไม่ค่อยเชื่อ จี้ชิงเห็นพัดเล่มนี้มาหลายครั้ง ทว่าเหตุใดครั้งนี้ถึงได้มีปฏิกริยารุนแรงขนาดนี้
“ก็แค่พัดเล่มเดียวเท่านั้นแหละ” จี้ชิงวางมันไว้บนราวเสื้อผ้าติดกับกระบี่หลิงหาน ก่อนจะสวมเสื้อแล้วก้าวขึ้นตะแคงอยู่ด้านในของเตียง
ซ่งฉือยิ้มอย่างมีเลศนัยมองเขา วันนี้ต่างจากวันที่ผ่านมาตรงที่อีกฝ่ายยอมนอนร่วมเตียงเดียวกับคนอื่น
“แหม ไม่เห็นเหมือนเมื่อก่อนสักนิด ได้ยินจี้หลินบอกว่าเจ้ายังมีนิสัยรักสะอาด แต่ตอนนี้รู้สึกว่าคุณชายสามจะปรับตัวได้ดีจริงๆ นะ” ซ่งฉือแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
จี้ชิงกอดหมอนไว้ นอนตะแคงหันหน้าเข้าด้านในพลางหลับตาลง
“ทำไมนอนเร็วขนาดนี้ล่ะ”
จี้ชิงไม่ยอมหันหน้ามา ตอบเสียงทุ้มๆ ว่า “ฝึกวิทยายุทธ์ในฝัน”
“โอ๊ะ เจ้าก็ทำแบบนี้ได้ด้วย” ซ่งฉือมองจี้ชิงครู่หนึ่ง “สอนข้าหน่อย ข้าก็อยากเรียนเหมือนกัน”
จี้ชิงเงียบไปสักพัก ก่อนจะหันกลับมามองซ่งฉือ “อยากเรียนรึ”
ซ่งฉือพยักหน้ารัวๆ “อื้อ!”
“อ้อนวอนข้าสิ”
“มากเกินไปแล้วนะเจ้าศิษย์น้องอวิ๋นฉง”
“เช่นนั้นก็ช่างเถอะ ข้าไม่สอนก็ได้”
“ก็ได้ๆ บอกมาสิ จะให้ข้าทำอะไรล่ะ”
พอเช้าวันรุ่งขึ้นซ่งฉือเดินหาวไปตลอดทางพร้อมกับขอบตาดำคล้ำ ส่วนเจียงซ่างก็เตรียมที่จะออกเดินทาง พอเห็นซ่งฉือแบบนี้ก็นึกว่าเมื่อคืนคงถูกปล้นแน่ๆ
“ดูท่าคุณชายสามารถกลับไปกลับมาเก่งจริงๆ” เจียงซ่างดึงที่ชายเสื้อซ่งฉือ พาเขาไปข้างๆ “สหายซซ่ง คุณชายสามดีต่อเจ้าจริงๆ นะ ข้าอิจฉาเจ้าชะมัด”
“ดีต่อข้ารึ” ซ่งฉือชี้ไปที่ปลายจมูกของตัวเอง สายตาเต็มไปด้วยความฉงน จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความเอือมระอาปนความแค้นเล็กน้อย
“ใช่ ดีมากด้วย”
เมื่อคืนนวดให้อีกฝ่ายทั้งจนปวดมือไปหมด ในที่สุดเจ้าเด็กนั่นก็บอกเขาว่าฝึกวิทยายุทธ์ในฝันโดยการท่องคาถาตอนใกล้จะหลับ
ศิษย์พี่ศิษย์น้องบ้านเจ้าสิ เรื่องโกหกทั้งเพ!
เจียงซ่างเพิ่งเดินจากไปไม่นาน จี้ชิงก็เดินออกมาด้วยอารมณ์เบิกบานราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ดูท่าว่าคุณชายสามจะนอนหลับเต็มอิ่มเชียวนะ” ซ่งฉือแกว่งแขนขาที่ปวดเมื่อพลางกัดฟันมองอีกฝ่าย
“แน่นอน” เขายักคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติ
อวดดี!
ซ่งฉือหันหน้ากลับไป คุณชายสามจี้ชิงอะไรกัน ด้านนอกคนเขาลือกันทั่วว่าไม่ต่างอะไรกับเซียน ทว่าตอนที่แกล้งผู้คนก็ใช้วิธีไม่ต่างจากพวกอันธพาลแม้แต่น้อย!
อาจิ่งกลับเคร่งขรึมมากกว่าเดิม นางนั่งเงียบมาตลอดทาง ไม่ว่าซ่งฉือจะพยายามหยอกล้ออย่างไรนางก็ไม่แม้แต่จะปรายตามอง เอาแต่กอดภาพวาดรูปว่าวไว้แน่น
เขาพิงที่ข้างรถก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักเหนื่อย
จี้ชิงนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ รอจนทั้งสองหลับสนิทก่อนจะควักพัดออกมาจากหน้าอก เมื่อคลี่พัดออกเขาก็ใช้หลิงชี่สามส่วนออกแรงพัดเบาๆ ไปยังซ่งฉือ…หลิงชี่รวมตัวกันก่อนจะสลายกลายเป็นหมอกสีขาวกระจายไปทั่วร่างของซ่งฉือ
หลิงชี่มีธาตุเย็น ร่างของซ่งฉือก็เป็นธาตุเย็นด้วย นอกจากจะใช้เซียนเย่าในการช่วยปรับธาตุในตัวแล้ว ยังต้องรอให้เขาปรับตัวกับธาตุเย็นของหลิงชี่ก่อนที่จะได้รับเซียนเย่า
เขาเพียงทำให้หลิงชี่อุ่นขึ้น กระจายไปทั่วร่างของอีกฝ่าย
ระกว่างทางเต็มไปด้วยความเงียบสงบ และเขาก็เอาแต่ทำเช่นนี้ โบกสะพัดพัดหยกพิสุทธิ์ให้ซ่งฉือไปตลอดทาง
ดินแดนดอกท้อ
สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของมนุษย์ธรรมดา ไม่มีปีศาจ มาร สัตว์ประหลาด เซียน รวมไปถึงผู้ฝึกวิชาเซียน
จี้หลิงอู้ชอบที่นี่มากที่สุด เขาเป็นคนใจกว้าง เรียบง่าย ไม่คิดเล็กคิดน้อย แม้จะมีตำแหน่งและอำนาจที่จัวลู่ แต่ก็อยากจะท่องไปในยุทธจักรโดยลำพังอยู่ตลอดเวลา ณ ดินแดนดอกท้อแห่งนี้แม้เขาต้องปกปิดฐานะที่แท้จริงทว่าก็นับว่าเป็นตัวของตัวเอง
เพียงแต่ในช่วงนี้ มีอยู่สองเรื่องที่ทำให้เขาต้องลำบากใจ
น้องชายได้รู้จักพี่ชายหนึ่งคน และน้องชายก็ดูเหมือนจะชอบพี่ชายผู้นี้
ที่สำคัญคือน้องชายไม่ใช่เป็นประเภทตกหลุมรักเมื่อแรกพบ ทว่าเป็นประเภทค่อยๆ จมในความรักและไม่มีวันแปรเปลี่ยนไปจนสิ้นลม!
เขาก็เป็นอย่างที่ท่านตันชิวว่าไว้ มิเข้าใจสัมพันธ์ของมนุษย์ มีเซียนน่าสงสัยว่ากำลังปิดกั้นตนเอง แล้วดันชอบคนที่ฝึกวิชาเซียนไม่เอาไหน อยู่อย่างไร้ประโยชน์เป็นขยะไปวันๆ เช่นนี้ได้อย่างไร
“ทำไมนั่งร่ำสุราอยู่คนเดียวเล่า”
เมื่อมีเสียงดังขึ้น จี้หลิงอู้ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมแสยะยิ้ม
คิดถึงผู้ใด ผู้นั้นก็มา
“ท่านตันชิว เชิญนั่งร่ำสุรากับข้าเถอะ” จี้หลิงอู้รินเหล้าจนเต็มจอกให้อีกฝ่าย
“แน่นอน ข้ามาเพื่อการนี้อยู่แล้ว” ท่านตันชิวสะบัดชายเสื้อแล้วนั่งลง ก่อนจะหยิบจอกเหล้าขึ้นมาจิบเบา “ชีวาดุจฝัน ไม่เลว!”
“ชื่อนี้ เป็นชื่อที่ท่านตั้งให้สินะ” จี้หลิงอู้แอบยิ้ม “คิดถึงตอนนั้น สมัยที่ยังหนุ่มๆ ท่านตันชิวเป็นที่ต้อนรับของบรรดาหญิงงามที่นี่ยิ่งนัก”
“ปากเจ้าก็ยังคงเหมือนเดิม พอออกจากจัวลู่เท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับประทัดที่คอยแต่จะถล่มผู้คน”
จี้หลิงอู้หลุบตาลงด้วยท่าทางเศร้าสร้อย ก่อนจะคีบอาหารวางไว้ในจานแต่ก็ไม่ยอมกิน
ท่านตันชิวมองออกถึงอาการผิดปกติของเขา จึงเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม “เพราะจี้ชิงรึ”
“ไม่คิดแล้ว” จี้หลิงอู้ยกจอกสุราขึ้นดื่มอย่างอึดอัด “ท่านกับท่านเซียนตกลงกันไปแล้วนี่ ข้าจะว่าอย่างไรได้”
“รู้สึกว่าพวกข้าตัดสินใจผิดงั้นรึ”
จี้หลิงอู้เบิกตากว้าง “พูดในฐานะคนนอกละก็ ท่านเซียนกับท่านมีสัมพันธ์อันดีกับท่านหลิงกุยนะ อีกอย่าง…จี้ชิงก็เป็นลูกศิษย์ของท่านเซียน ท่านเซียนเอ็นดูเขามาตั้งแต่เด็ก สร้อยหยกวิญญาณที่คอเขาก็ได้มาเพียงผู้เดียวจากบรรดาลูกศิษย์ทั้งสี่คน นั่นเป็นของล้ำค่าที่หายากมากในหมื่นปีทีเดียว…”
“พอได้แล้วน่า ไม่ต้องสาธยายอะไรมากมายอย่างนั้นหรอก ไปๆ ฟังเพลงพักผ่อนกัน เรื่องทางโลกล้วนมีกฎเกณฑ์ของมัน เจ้าหลีกหนีโลกวิถีเซียน ข้าเองก็อยู่ในฐานะคนธรรมดาๆ อย่าเอาเรื่องพวกนี้มาพัวพันกันเลย”
ท่านตันชิวตบบ่าเขาเบาๆ ก่อนจะสะบัดชายเสื้อจนพลิ้วราวกับคลื่น ท่าทีน่าเกรงขามเป็นที่ดึงดูดสายตาหญิงงามให้หันมาแอบมอง
“พอแล้ว ถ้าไม่ไปตอนนี้ ประเดี๋ยวเหล่าหญิงงามก็คงจะแห่กันมาหาเจ้า เมื่อถึงตอนนั้นข้าเกรงว่าเจ้าคงจะเอาตัวไม่รอดเป็นแน่”
“ไม่ใช่ว่ายังมีท่านอยู่รึ เพียงคำพูดปลิ้นปล้อนของท่าน ข้าเกรงว่าจะทำให้สาวงามทั้งหอตะวันออกและตะวันตกยอมออกเรือนกันหมดแล้วกระมัง”
“แน่นอน ข้าจะบอกไว้นะว่าสามบ้านหกเรือนของท่านตันชิว แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าต่อไปจะต้องเต็มไปด้วยความสุขแน่ๆ”
“ไปให้พ้นเลยนะ!”
พอจี้หลิงอู้ออกจากจัวลู่ พวกเด็กๆ ก็สนุกสนานกันเต็มที่
จี้หลินเก็บตัวอยู่ในห้องครัวทั้งวัน พอได้ข่าวว่าจี้ชิงกับซ่งฉือกำลังจะกลับมาก็รีบไปจับปลาและหาของสดมาเตรียมไว้ ทว่ากลับถูกลูกศิษย์สำนักเดียวกันหัวเราะเยาะ…วันเวลาในการฝึกตนแต่กลับเต็มไปด้วยคราบเขม่าและน้ำมัน ช่างละเลยการเรียนโดยแท้ แม้ว่าฟางปู๋จิ้งจะดื้อรั้นทว่าอย่างน้อยก็ฝึกจนพลังเหนือกว่าจี้หลิน เมื่อเป็นเช่นนี้นอกจากจี้เสวียนอวี๋แล้วก็มีอยู่ไม่กี่คนที่ชื่นชอบพ่อครัวโง่เขลาผู้นี้
จี้หลินขูดเกล็ดปลาออกจนเกลี้ยงก่อนจะแล่เป็นชิ้นบางๆ เมื่อหมักเรียบร้อยแล้วจึงเห็นเงาตะคุ่มอยู่นอกหน้าต่าง เขารีบวิ่งไปดูทันที พอนึกถึงเอ้อเฉินก็รีบหันกลับไปมองปลาตัวนั้น และพบว่ามันกำลังขโมยกินปลาอย่างเอร็ดอร่อย
“เอ้อเฉิน!” จี้หลินอุ้มมันไปไว้ด้านนอก “เจ้ามาขโมยกินอีกแล้ว เจ้าเพิ่งกลับมาจากเขาอู่หลิงไม่ใช่รึ นี่มันอาหารที่ข้าทำให้คุณชายสามกับคุณชายซ่งนะ”
เอ้อเฉินร้องเหมียวๆ ทว่าไม่ได้สนใจเขา
จี้หลินไม่ค่อยเห็นมันยอมให้คนอุ้มได้ง่ายๆ เช่นนี้จึงเอื้อมมือไปลูบด้วยความชื่นชม พลางดื่มด่ำอยู่ในความสุขแห่งการเอาใจแมวจนไม่รู้สึกถึงคนสามคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
“จี้จื่อยวน!”
เอ้อเฉินกระโจนออกจากอ้อมอกของเขา มองเขาด้วยท่าทางหยิ่งผยองก่อนจะไปนอนอยู่บ่าของใครบางคน
จี้หลินเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขจนกระทั่งเห็นแววตาเคร่งขรึมของจี้ชิง โดยมีซ่งฉือยืนอยู่ราวกับรอชมเรื่องสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้น
“คะ…คุณชายสาม”
แย่แล้ว! คุณชายสามกลับมาเมื่อไร เขาเพิ่งอุ้มเจ้าเอ้อเฉิน นี่เขาคงไม่ถูกจับขังอีกรอบใช่ไหม!