พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส - ตอนที่ 23 อย่าทรมานตนเองเพื่อข้าเลย
- Home
- All Mangas
- พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส
- ตอนที่ 23 อย่าทรมานตนเองเพื่อข้าเลย
ยี่สิบสาม
อย่าทรมานตนเองเพื่อข้าเลย
หลังจากที่กินกันจนอิ่มแล้ว ซ่งฉือก็กำลังคิดที่จะจัดการเรื่องที่พักให้แก่อาจิ่ง แม้ว่าอาจิ่งจะยังเล็กอยู่ทว่านางก็เป็นสตรี จี้ชิงไม่รู้จักผู้ฝึกวิชาหญิงที่จัวลู่ จี้หลินจึงไปตามจี้เสวียนอวี๋มาเผื่อว่ามีคำแนะนำอะไรบ้าง
จี้เสวียนอวี๋เป็นคนเรียบร้อย เรียกว่าเป็นที่หนึ่งของบรรดาผู้มาฝึกวิชาเซียน
แม้จะบอกว่าจี้หลินเป็นลูกหลานของท่านหลิงกุยจี้ฝานก็ตาม แต่เพราะความซื้อบื้อจึงทำไห้ไม่ค่อยมีใครอยากฝึกร่วมกับเขานัก
การฝึกวิชาด้วยกันก็ต้องมีพลังที่ใกล้เคียงกัน ถึงจะฝึกวิทยายุทธ์ด้วยกันได้
จี้เสวียนอวี๋ไม่รังเกียจอีกฝ่ายและใช้หลิงชี่ของตัวเองไปฝึกเป็นเพื่อนด้วย แต่จี้หลินไม่มีใจอยู่กับเรื่องนี้แม้แต่น้อย เสวียนอวี๋เองก็หมดหนทาง แต่แม้ว่าจะไม่ได้ฝึกร่วมกัน เสวียนอวี๋กลับชอบฝีมือทำอาหารของจี้หลิน เขาทั้งสองมักจะติดตามจี้หลิงอู้ทำให้สนิทสนมกันมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ
“ศิษย์พี่ คุณชายสามกับคุณชายซ่งอยู่ด้านใน” จี้หลินรอต้อนรับเขาอยู่หน้าประตู
จี้เสวียนอวี๋มองเขาแล้วพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
จี้ชิงกับซ่งฉือกำลังนั่งเล่นหมากล้อมอยู่ใต้ต้นไม้ คนหนึ่งถือตัวหมากสีดำไว้ในมือ อีกคนถือตัวหมากสีขาว ทั้งสองวางหมากกันอย่างรวดเร็ว
อาจิ่งนั่งอยู่ข้างๆ ถือไม้ไผ่ไว้ในมือเพื่อทำว่าว
ทันใดนั้นจี้เสวียนอวี๋ก็หยุดอยู่กับที่ แล้วหันกลับไปมองจี้หลิน
จี้หลินถูกจ้องจนต้องเอ่ยถาม “มะ…มีอะไรรึ”
“เจ้าทำอาหารทั้งโต๊ะนี้รึ”
“ขอรับ ก็คุณชายสามกลับมาวันนี้นี่นา”
“จี้จื่อยวน” จี้เสวียนอวี๋หยิกไปที่แก้มของเขา “ข้าดีกับเจ้ามาตลอดเลยไม่ใช่รึ”
“ดีมาก ดีมาก ศิษย์พี่ดีกับข้ามาก” จี้หลินยักไหล่พลางเอาหน้ากลมๆ ออกจากมือของเขา
“เช่นนั้นเจ้าทำอาหารดีๆ แบบนี้เต็มโต๊ะ แต่ไม่เรียกข้า?” จี้เสวียนอวี๋กลืนน้ำลายราวกับว่าได้กลิ่นอาหารอันเลิศรส
“ศิษย์พี่…อาหารที่ข้าทำหมดเกลี้ยงแล้ว แต่ยังเหลือน้ำแกงเต่าของคุณชายสามนะ คุณชายซ่งซดไปแล้วตั้งหนึ่งชาม ประเดี๋ยวข้าจะไปยกมาให้แล้วกัน”
“คุณชายทำรึ”
“ขอรับ” จี้หลินกำลังจะวิ่งเอาไปให้เขา
“ช่างมันเถอะ จี้จื่อยวน” จี้เสวียนอวี๋คว้าคอเขาแล้วเอ่ยขึ้น “นี่เจ้าคิดจะฆ่าข้าหรือไง ใครไม่รู้บ้างว่าอาหารฝีมือคุณชายสามเป็นอย่างไร หากไม่ปวดท้องก็ร้ายแรงถึงตายนะ!”
“ชู่…เบาๆ หน่อยศิษย์พี่ เมื่อครู่คุณชายซ่งเพิ่มซดไปหนึ่งชามเต็มๆ แต่ก็ยังอยู่ดีนะ” จี้หลินใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากทำท่าทางให้พูดเสียงเบา
“คุณชายซ่งนี่ดวงแข็งนะ แล้วเจ้าปล่อยให้คุณชายสามฆ่าเต่านั่นได้อย่างไร”
“คุณชายสามอยากจะทำเองนี่”
“เจ้าสองคนคุยกันเสร็จหรือยัง” จี้ชิงที่เริ่มทนฟังไม่ไหวหันไปมองทั้งสองคนด้วยสายตาอันน่าสะพรึงกลัว
“จบแล้วขอรับ” จี้หลินตบบ่าจี้เสวียนอวี๋ “ข้าบอกให้พูดเบาๆ ไง!”
“ใช่ๆ แค่เสียง ชู่…ของเจ้าก็ได้ยินไปแปดร้อยลี้แล้วกระมัง” จี้เสวียนอวี๋จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วก้าวไปข้างหน้า
จี้หลินส่ายหน้าก่อนจะเดินตามหลังเขาไป
“คุณชายสาม คุณชายซ่ง” จี้เสวียนอวี๋ทำความเคารพอย่างมีมารยาท
“เสวียนอวี๋ พาอาจิ่งไปหาพวกศิษย์พี่หญิงสิ” จี้ชิงมองเขา “พรุ่งนี้เช้าค่อยพาไปหาจางฉงเยียนที่ห้องหนังสือ”
“ขอรับ แล้วคุณชายซ่ง?” จี้เสวียนอวี๋จ้องไปที่ซ่งฉือ “คุณชายซ่งไม่อาจพักที่เรือนเดิมได้แล้วนะขอรับ”
ซ่งฉือสะบัดมือพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ข้าพักกับจี้หลินได้”
จะได้แอบขโมยกินข้าวได้
“ไม่ได้” จี้ชิงวางหมากตัวขาวลงไปพร้อมกับชัยชนะ
“ทำไมรึ” ซ่งฉือโยนหมากสีดำเข้าไปในถ้วยพลางกระโดดขึ้นมาโอบไหล่จี้หลิน “ข้าว่าจื่อยวนเป็นคนดีมาก ทำอาหารก็เก่ง ทั้งยังซื่อสัตย์ ข้าชอบเด็กแบบนี้มาก”
จี้ชิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชาพลางเอ่ยเสียงนิ่ง “พักที่หอหลิงชิง เจ้าต้องฝึกวิชาเซียน”
“หอหลิงชิง? ที่ไหนรึ” ซ่งฉือหันหน้ามาถามจี้หลิน
จี้หลินส่งประกายตาแวววาว “เรือนของคุณชายสามขอรับ คุณชายซ่งเจ้านี่โชคดีจริงๆ ที่ได้มีโอกาสร่วมฝึกวิชาเซียนกับคุณชายสาม”
“ร่วมฝึกอะไรกัน ข้าไม่มีแม้แต่หยวนตัน ไม่ไปหรอก”
หากไปอยู่ด้วยอย่างมากก็คงต้องช่วยนวดแข้งนวดขาให้อีกฝ่าย ต้องคอยเอาอกเอาใจทุกคืนทุกวัน ไม่ใช่ไปนอนสบายๆ แต่ไปกล่อมให้จี้ชิงหลับน่ะสิ
“เจ้าพูดเองนะ” จี้ชิงหยิบกระบี่หลิงหานขึ้นมาทำท่าจะเดินออกไป “ข้าว่าจะพาเจ้าไปหาท่านอาจารย์ที่เขาอู่หลิงเพื่อหาหยวนตัน แต่ดูท่าว่าเจ้าคงไม่อยากไปและไม่คิดอยากล้างแค้นเสียแล้ว”
“จี้ชิง” ซ่งฉือกัดฟันพลางหันกลับไปลูบบ่าอาจิ่งเบาๆ ก่อนจะกำชับสองสามคำแล้ววิ่งตามจี้ชิงออกไป
“คุณชายสามใช้วิธีหลอกล่อได้ไม่เลว” จี้เสวียนอวี๋มองตามหลังจี้ชิงด้วยสายตาเลื่อมใส และยังมองไปที่จี้หลินที่ยืนกัดนิ้วอยู่ตรงนั้น “ถ้าเจ้ามีสติปัญญาสักหนึ่งในร้อยของคุณชายสามก็คงดี จะได้ไม่ถูกศิษย์คนอื่นหัวเราะเยาะ”
จี้หลินยักไหล่บอกเป็นนัยว่าไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ
ส่วนจี้เสวียนอวี๋ก็ได้แต่ส่ายหน้าพลางมองไปที่โครงว่าวในมือของอาจิ่ง ก่อนจะหัวเราะและเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แม่นางอาจิ่ง มา ข้าสอนเจ้าทำว่าวเอง”
ลมฤดูใบไม้ผลิเดือนสามโชยผ่านดอกไม้นานาพรรณที่จัวลู่จนร่วงหล่นเต็มพื้น
จี้หลินรอจนคนหายพลุกพล่านแล้วจึงขุดดินที่ใต้ต้นไม้เพื่อฝังไหสุรา
“เจ้าซ่อนอยู่ตรงนี้แหละ ข้าฝังเจ้าไว้สักปีรับรองได้ว่าจะต้องส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วเป็นแน่ เมื่อถึงคราที่คุณชายสามได้เลื่อนขั้นเป็นเซียน ก็คงพอดีกับที่ข้าจะส่งให้เขา”
ไม่รู้ว่าฟางปู๋จิ้งนั่งมองเขาฝังไหสุราอยู่บนขื่อในตั้งแต่เมื่อไร กัดหญ้าหางหมาแล้วเอ่ยขึ้น “จี้หลิน เจ้าคอยดูนะ พรุ่งนี้ข้าจะขโมยดื่มสุราไหนี้”
จี้หลินนั่งก้นจ้ำเบ้าลงไปที่พื้น “เช่นนั้นข้าก็จะเฝ้ามันไว้ไม่ให้คลาดสายตา รับรองเจ้าไม่ได้ดื่มมันหรอก”
“ก็คอยดูละกัน” ฟางปู๋จิ้งจากไปอย่างรวดเร็ว
จี้หลินส่ายหน้าด้วยความว้าวุ่นใจ บางครั้งการมีฝีมือทำอาหารที่ดีเกินไปก็เป็นข้อเสีย…
ซึ่งเป็นข้อเสียที่จี้ชิงไม่มีวันเข้าใจ
เขาเดินนำหน้าด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ขณะที่ซ่งฉือมองอยู่ห่างๆ พลางเด็ดดอกไม้ถอนหญ้าเล่นอย่างสนุกสนานอยู่คนเดียว
“จี้ชิง เจ้าเดินช้าๆ หน่อยไม่ได้รึ”
“ไม่ได้”
“โธ่! เจ้าอย่าโกรธไปเลย ข้าก็มาอยู่กับเจ้าที่หอหลิงชิงแล้วไม่ใช่รึ”
จี้ชิงชะงักฝีเท้าก่อนจะหันกลับไปมองอีกฝ่าย “หอหลิงชิงไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าออกได้โดยง่าย แต่เจ้ากลับทำราวกับว่ามันเป็นสถานที่อันตรายอย่างนั้นแหละ”
“ไม่ใช่เสียหน่อย ข้าแค่รู้สึกว่าจี้หลินทำอาหารได้อร่อยมากก็เท่านั้น”
ซ่งฉือยักไหล่ เขาก็อยากไปเหมือนกัน ทว่าดันรับปากจี้หลิงอู้ไว้แล้วว่าจะไม่สนิทสนมกับน้องชายผู้นี้ของอีกฝ่ายเป็นพิเศษ
หอคอยใกล้น้ำ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือมองเพียงเงาจันทร์
“ข้าก็ทำได้นะ”
“ทำอะไร”
จี้ชิงตอบเสียง “รู้แล้วยังจะมาถามอีก”
“ทำอาหารรึ” ซ่งฉือลากเสียงสูงถามด้วยความสงสัย “เจ้าน้องอวิ๋นฉงของข้า ไม่รู้ว่าเจ้าเอ้อเฉินแมวแสนรักของเจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่เพราะข้าดวงดี เมื่อครู่ก็คงถูกฝังไว้ตรงนั้นแล้ว” ซ่งฉือคิดไปคิดมาก็รู้สึกหวาดสะพรึงเช่นกัน น้ำแกงเต่าที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานขมเผ็ด ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!
“ถ้ารสชาติมันแย่นัก เจ้าจะซดน้ำแกงไปทำไม” จี้ชิงลูบคลำลวดลายบนกระบี่
“ยังจะมาถามอีก ข้าต้องไว้หน้าเจ้าบ้างสิ อีกอย่าง…ข้าก็ไม่เป็นอะไร แสดงว่าน้ำแกงของเจ้าก็ยังไม่ถึงขั้นทำคนตาย”
“คราวหน้าไม่ต้องแล้วนะ” จี้ชิงเงยหน้า “หากไม่อร่อยก็ไม่ต้องกิน อย่าทรมานตนเองเพื่อไว้หน้าข้า”
“เจ้าไม่โกรธรึ พอๆ ข้าไม่ได้ทรมานอะไรนักหนา” ซ่งฉือโอบไหล่อีกฝ่ายไว้พลางหัวเราะ “ไปเถอะ ไปดูห้องนอนของเจ้ากันดีกว่า”
จี้ชิงปัดมือเขาทิ้งก่อนจะมองค้อนเมื่อได้ยินคำว่าห้องนอน จากนั้นก็พาซ่งฉือเดินไปยังหอหลิงชิง