Zui Qiang Wu Shen – เทพยุทธ์สะท้านภพ - ตอนที่ 571
ตอนที่ 571 การตายของชนชั้นมหาราชัน
มหาราชันทั้งห้าตนหลังจากที่ได้รวมตัวกันที่ใต้กระดิ่งเซียน รวมไปจนถึงมหาราชันปีศาจทุนเทียนและมหาราชันเผ่าปีกก็ด้วย ผู้คนทั้งหมดต่างก็ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ
“เขาถึงกับรอดจากทัณฑ์พิโรธได้สำเร็จ พ้นพลังสวรรค์นี้อย่างน้อยก็มีผลลัพธ์ที่ไม่อาจที่จะกล่าวออกมาได้เท่านั้น แม้ว่าที่ข้าจะมีแต่เพียงแค่ของเลียนแบบ แต่ว่าด้วยการรวมมือการควบคุม แน่นอนว่าย่อมเพียงพอที่จะต่อต้านพ้นพลังสวรรค์นี้ได้ จนในที่สุดก็สังหารเดรัจฉานน้อยผู้นี้ได้!” มหาราชันเผ่าปีกกล่าวขึ้นมา ด้วยแรงกดดันเช่นนี้ แต่ว่าความจริงนั้นเขาก็ยังไม่อาจที่จะทราบได้ ก็ยังไม่อาจที่จะแน่ใจได้ว่ากระดิ่งเซียนของตนเองจะสามารถที่จะต้านทานพลังทำลายของพ้นพลังสวรรค์ได้หรือไม่
มหาราชันปีศาจทุนเทียน มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อเป็นต้นต่างก็ได้หลบอยู่ภายในประกายแสงแห่งเซียนที่ปกคลุมเข้ามาของกระดิ่งเซียน ขณะนี้ต่างก็ถอนหายใจกันออกมา แต่ว่าสีหน้าก็ยังคงปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เพราะว่าการเป็นถึงชนชั้นมหาราชัน นึกไม่ถึงจะต้องมาถูกชนชั้นรุ่นหลังเพียงคนเดียวกดดันมาจนถึงขั้นนี้ได้ ช่างเป็นเรื่องที่เสียหน้าเสียยิ่งกว่าอะไร
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่า พวกเราทั้งห้าคนร่วมมือกันใช้ออกมาด้วยกระดิ่งเซียน ยังไม่อาจที่จะต่อกรกับชนชั้นรุ่นหลังขอบเขตราชันเพียงคนเดียวที่ชักนำพ้นพลังสวรรค์เข้ามา!” มหาราชันปีศาจทุนเทียนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทอสีหน้าอาฆาตขึ้นมา
“ในช่วงที่เขาคิดที่จะใช้พ้นพลังสวรรค์เข้ามาอยู่นั้น ก็สังหารไปในทันที ให้เขาตายอย่างไร้ที่กลบฝัง!” มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อเองก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ ในครั้งนี้เขาเองก็เกือบที่จะถูกหลอกลวงไปแล้ว หากเพิ่มเติมด้วยเรื่องของมหาราชันปีศาจทุนเทียนอีก นี้ย่อมต้องส่งผลถึงชื่อเสียงของหุบเขาหมื่นปีศาจแน่นอน ถือได้ว่าเป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
“ต้องมีโอกาสแน่นอน ขอเพียงเขาสลายพ้นพลังสวรรค์ลงไป พวกเราก็จะมีโอกาสจัดการให้สิ้นซากได้!” บรรพบุรุษวิหคทองคำหัวเราะหึหึอย่างเย็นชา
แต่ทว่า ในตอนที่พวกเขาแต่ละคนกำลังหัวเราะเสียงเย็นชาติดต่อกันออกมาก็ได้พวยพุ่งจิตสังหารออกมา เยี่ยจงในที่สุดก็ได้เข้ามาจนถึงแล้ว เห็นได้ชัดว่า เขานั้นมิได้เห็นชนชั้นมหาราชันทั้งห้าตนอยู่ในสายตาเลย
ในระหว่างที่เยี่ยจงได้เข้าไปใกล้ วังวนอสนีบาตนั้นที่เดิมทีทำลายออกไปทั้งสี่ด้าน พริบตานั้นก็ได้ทวีความแข็งแกร่งขึ้นมาอีกหลายเท่า ราวกับเป็นเพราะว่าเมื่อได้เข้ามาใกล้มหาราชันทั้งห้าตน ก็ได้ชักนำทำให้พ้นพลังสวรรค์เข้าหาพวกเขาก็มิปาน
“เจ้าเดรัจฉานน้อยผู้นี้……”
มหาราชันเผ่าปีกหัวใจเต้นแรงขึ้นมา จ้องไปที่ฉากนี้พร้อมทั้งกำลังขมวดคิ้วอยู่ จนกลายเป็นสายลมหอบหนึ่งของชนชั้นมหาราชัน หลังจากนั้นเขาก็ได้หันกายตั้งใจที่จะหลบหนี ปีกคู่ก็ได้สาดทอประกายแสงสีทองขึ้นมาจากทางด้านหลัง เพิ่มพูนระดับความเร็วมากขึ้นจนถึงขีดสุด
ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด นึกไม่ถึงว่าเขากลับไม่มีความเชื่อมั่นขึ้นมา ว่าพึ่งพาแต่เพียงแค่ความสามารถของกระดิ่งเซียนในการต้านทานพ้นพลังสวรรค์อันน่าหวาดกลัว เพราะว่าภายในจิตใจของเขาย่อมต้องเข้าใจเป็นอย่างดี พ้นพลังสวรรค์หากว่าถูกชักนำได้ขึ้นมา ด้วยระดับพลังของมหาราชันทั้งห้าตนที่คิดจะเผชิญหน้ากับพ้นพลังสวรรค์ เกรงว่าคงจะกลายเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ชนชั้นมหาราชันอื่นๆ สี่ตนต่างก็งงงันขึ้นมาเล็กน้อย เริ่มที่จะไม่อาจที่ปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาได้ทัน มหาราชันเผ่าปีกผู้นี้มิใช่กล่าวเอาไว้อย่างดีแล้วหรือ นึกไม่ถึงในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด กลับหลบหนีเอาตัวรอดไป!
ในขณะนั้นเอง ชนชั้นมหาราชันสี่ตนที่หลงเหลือต่างก็แทบจะด่าทอมารดาขึ้นมา ชิงชังมหาราชันเผ่าปีกจนแทบจะฟาดให้ตายไปภายในฝ่ามือเดียว เมื่อครู่พวกเขาได้หลบหนีไปไกลแล้ว แต่ว่ามหาราชันเผ่าปีกกลับอดไม่ได้ที่จะชักจูงให้พวกเขาหันกลับมา จากนั้นตนเองค่อยหลบหนีไป ไม่ว่าจะมองดูอย่างไร ก็มีอยู่หลายส่วนที่เหมือนคิดจะให้พวกเขากลายเป็นตัวตายแทน
มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อ มหาราชันปีศาจทุนเทียน บรรพบุรุษวิหคทองคำ เฒ่าประหลาดอัสนีลี้ลับ ชนชั้นมหาราชันสี่ตนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จนแทบจะบ้าคลั่งขึ้นมา มุ่งหน้าบริเวณถอยออกไปทางด้านหลัง แต่ว่าก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อพบเห็นความเคลื่อนไหวเช่นนี้ไปแล้ว เยี่ยจงเองก็ได้ไล่ตามขึ้นมา
เขาที่ถือครองวิชาดำดินรุกคืบเดิมทีก็ถือได้ว่าเป็นระดับความเร็วที่สูงที่สุดอยู่แล้ว ชนชั้นมหาราชันเหล่านี้กลับไม่มีวิชาในระดับนี้อยู่ในครอบครอง จึงแทบจะไม่อาจที่จะสลัดเขาหลุดไปได้ในช่วงเวลาสั่นๆ อย่างแน่นอน
“ตูม——”
ความน่ากลัวของทะเลอัสนีก็ได้ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นพลังแห่งการทำลายล้างอันหน้าหวาดกลัวขึ้นมา
ชนชั้นมหาราชันสี่ตนต่างก็ทอสีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่ แม้แต่ความกล้าในการลงมือเพื่อป้องกันก็ยังไม่มี เพราะว่าสิ่งที่เรียกว่าพ้นพลังสวรรค์นี้ เดิมทีก็คือยิ่งเข้าไปหามัน ก็ยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
เยี่ยจงหมายหัวให้มหาราชันปีศาจทุนเทียนและมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อตายเอาไว้ ไล่ล่าพวกเขาทั้งสองไม่ปล่อย เพราะว่านับต้องแต่ตอนที่ตนเองหลังจากที่ออกมาจากดินแดนขนาดเล็กศิลาตะวันบริสุทธิ์ ตนเองก็ได้ถูกเด็กน้อยทั้งสองคนนี้ไล่ล่าไปทั่วดินแดน ขณะนี้ยากนักที่จะมีโอกาสพลิกผันได้ เยี่ยจงมีหรือที่จะยอมปล่อยให้ผิดพลาดไปได้
และในเวลาเดียวกันนี้เอง เฒ่าประหลาดอัสนีลี้ลับแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับก็ได้เข้าสู่กลางวังวนทัณฑ์อัสนีไปในทันที เขาถึงแม้ว่าจะฝึกวิชาอัสนีมาทั้งชีวิต แต่ว่าแทบจะไม่เคยมีประสบการณ์จากทัณฑ์อัสนีเลย ขณะนี้กลับต้องมาติดอยู่ในวังวนท่ามกลางทัณฑ์อัสนี พริบตานั้นพ้นพลังสวรรค์ที่ได้ปกคลุมเข้าไปยังภายในกลางวงของชนชั้นมหาราชันก็ยิ่งทวีพลังมากขึ้นไปอีกนับสิบกว่าเท่า จนในที่สุดก็ต้องเกิดการสูญเสียขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
ทว่าทันใดนั้น เฒ่าประหลาดอัสนีลี้ลับเองก็ได้กรีดร้องจนเสียงเลือนหายไป ถูกพลังทำลายของทัณฑ์อัสนีแหลกเละจนกลายเป็นฝุ่นผงไป
ฉากนี้ ได้ทำให้ชนชั้นมหาราชันแต่ละคนที่อยู่ในบริเวณที่ห่างไกลต่างก็มีอาการแตกตื่นตกใจ ทั่วทั้งสี่ดินแดนไม่ทราบว่านานแค่ไหนแล้วที่มิได้มีการสูญเสียชนชั้นมหาราชันเลย แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้ในที่แห่งนี้นึกไม่ถึงว่าจะมีการตายตกของชนชั้นมหาราชันมากกว่าตนหนึ่งเพียงเพราะแค่ชนชั้นราชันเพียงคนเดียวอย่างงั้นหรือ? ในขณะนั้นเอง ต่อให้เป็นชนชั้นมหาราชันที่มีความสูงส่งก็ตาม ก็ยังต้องเกิดอาการขนลุกชูชันขึ้นมา เพราะว่าพวกเขาก็ได้ถามกับตัวเองว่า หากว่าตนเองหากหลงติดเข้าไปยังภายในทัณฑ์อัสนีเช่นนี้ อย่างน้อยจะสามารถต้านรับเอาไว้ได้แค่ไหนกัน
“เจ้านกน้อยทุนเทียน เจ้าจะหนีไปทำซากอะไรกัน!”
เยี่ยจงมิได้มองไปยังฉากที่อยู่ทางด้านเลย กลับมิได้เกิดความเป็นห่วงแต่อย่างไร เพียงแต่ติดตามมหาราชันปีศาจทุนเทียนอย่างเอาเป็นเอาตาย เด็กน้อยผู้นี้ถึงกับลงมือต่อเขาอยู่หลายครั้งหลายครา เมื่อครู่ที่ด้านบนเนินสุสาน ในช่วงเวลาที่สำคัญยังทำให้เด็กน้อยผู้นี้หลบหนีไปได้ ในครั้งนี้จะไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีก เขาไม่มีวันที่จะปล่อยไปได้อย่างแน่นอน
“เจ้านกน้อย เจ้าเมื่อครู่มิใช่กล่าวว่าจะฟาดข้าให้ตายคามือเจ้ามิใช่หรือ? เหตุใดตอนนี้ถึงได้หลบหนีไปได้เร็วเช่นนั้นกัน? นี้เป็นความเป็นชนชั้นมหาราชันอย่างงั้นหรือ?”
มหาราชันปีศาจทุนเทียนในช่วงที่กำลังเร่งรีบหลบหนีอยู่นั้น ขณะนี้เมื่อก็ได้เงียบงัน กลับถูกคำพูดกระตุ้นจนเกิดโทสะจะเกือบที่จะกระอักโลหิตเก่าก่อนออกมา เขาที่เป็นถึงชนชั้นมหาราชัน แต่ว่าหลังจากที่ขณะนี้เมื่อได้มาถึงยังสถานที่แห่งนี้ อีกทั้งยังต้องพลาดท่าเสียทีภายใต้น้ำมือของเยี่ยจงมาติดต่อกัน ความรู้สึกเช่นนี้ได้ทำให้เขาอยากจะกระอักโลหิตออกมา หรือไม่ก็เอาหัวโขกกำแพงตายไป
“เจ้านกน้อย เจ้ามิใช่ว่าขอแค่ต่อแขนกลับมาได้ก็จะฟาดข้าให้ตายเองไม่ใช่หรือ? หรือว่าจะเก่งแต่พูด นี้ก็คือพลังการต่อสู้ที่แท้จริงของเจ้าแล้วงั้นหรือ แม้แต่ชนชั้นราชันเพียงแค่คนเดียวก็ยังทำอะไรไม่ได้? เอ๊ะ แน่จริงเจ้าก็อย่าหนี! เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะตบจะหงอยปากของเจ้าจนขนหลุดออกไปอีก!” เยี่ยจงตะโกนเรียกขานออกมาเสียงดัง ดังจนได้ยินไปทั่วทุกแห่ง แทบจะไม่เห็นแก่หน้าของมหาราชันปีศาจทุนเทียนเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับกำลังจับเขาเอาไว้แล้วใช้ฝ่ามือตบไปที่หน้าไม่หยุด ทำให้มหาราชันปีศาจทุนเทียนโกรธจัดจนร่างกายซวนเซไปมา มีอยู่หลายครั้งที่อดไม่ได้ที่จะหันกายลงมือสวนกลับไป
“เจ้าตัวไร้ยางอาย!” มหาราชันปีศาจทุนเทียนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เพลิงแค้นปะทุขึ้นมาเจ็ดขุม หากมิใช่เป็นเพียงไร้หนทางที่จะจัดการกับพ้นพลังสวรรค์แล้วละก็ แน่นอนว่าเขาย่อมต้องฆ่าสังหารออกไป จัดการตัดลิ้นเยี่ยจงแล้วให้ตายลงไปทั้งเป็น
“สุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์ ที่เป็นความยิ่งใหญ่ในอนาคตในวันข้างหน้า ฉายานามเช่นนี้ช่างถูกตั้งขึ้นมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนเลยอย่างแท้จริงแล้ว เพียงพอที่จะเป็นมารร้ายได้!”
“เยี่ยจง นามนี้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เกรงว่าคงจะเลื่องลือไปทั่วทั้งสี่ดินแดนอย่างแน่นอน แดนลับแลแต่ละฝ่ายหลังจากนี้หากว่าคิดที่จะลงมือต่อเขาแล้วละก็ เกรงว่าคงจะเป็นเรื่องที่น่าปวดเศียรเวียนเกล้ากันเลยทีเดียว!”
“ใช้พลังฝีมือของพ้นพลังสวรรค์กำจัดศัตรู แม้แต่ชนชั้นมหาราชันเองก็ยังไม่อาจที่จะทำได้ นอกเสียจากบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ที่เคยมีประสบการณ์ในการพ้นพลังสวรรค์มาก่อน ไม่เช่นนั้นชนชั้นมหาราชันปกติธรรมดาจะต้านทานเขาได้อย่างไรกัน?”
“ใช่แล้ว พวกเจ้าได้ยินมนุษย์มารกงยี่จวินมาก่อนหรือไม่? กล่าวกันว่าเขาก็เป็นผู้ที่ผ่านขั้นตอนมารร้ายอย่างพ้นพลังสวรรค์มาเหมือนกัน ไม่นานก่อนหน้าที่เยี่ยจงจะชักนำพ้นพลังสวรรค์เข้ามา ผลสุดท้ายก็ได้ถูกสังหารกลับไปเอง หากมิใช่ผู้คุ้มกันลงมือออกมา ก็ไม่ทราบว่าได้ตายไปมากน้อยกี่ครั้งกันแล้ว!”
บริเวณที่ห่างไกล ยอดฝีมือเหล่านั้นที่มิได้ถูกคุกคามต่างก็กำลังถกเถียงกันอยู่ อีกทั้งยังได้ออกไปจากเขตแดนโบราณกาลของสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว ยอดฝีมือที่ได้เข้ามายังสุสานชั้นที่สอง ราวกับว่าต่างก็ได้รวมตัวกันอยู่ ขณะนี้เมื่อได้มองไปที่เยี่ยจงที่เป็นเพียงแค่ชนชั้นราชันที่มีพลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังเทวะ กลับไล่ล่าปีศาจมหาราชันตนหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรียงนามมาอย่างยาวนานเอาไว้อยู่ ฉากนี้ถือได้ว่าให้ความรู้สึกที่ประหลาดอยู่ชนิดหนึ่ง
“จบสิ้นแล้ว! จบสิ้นแล้ว! เป็นถึงมหาราชันปีศาจทุนเทียน วันนี้ดูเหมือนว่าจะต้องจบสิ้นกันแล้ว!”
คนมากมายต่างก็กำลังถกเถียงกันอยู่ ทันใดนั้นแต่ละคนต่างก็มีความคิดขึ้นมา จ้องไปที่บริเวณทางด้านหน้าอย่างวุ่นวาย
ในขณะนั้น เยี่ยจงเองก็ได้ไล่ล่าติดตามจี้ตูดมหาราชันปีศาจทุนเทียนขึ้นมา จากประกายอสนีบาตนับพันหมื่นสายในขณะนี้ก็ได้ปกคลุมลงบนร่างกายของมหาราชันปีศาจทุนเทียนไปในทันที ขนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในเขตแดนก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นสีขาวผืนหนึ่ง
ประกายอัสนีอันคมกล้าที่อยู่บนฟากฟ้าก็ได้ปกคลุมลงมาแทบจะไม่หลงเหลือ จนทำให้ยอดเขาทั้งลูกแตกกระจายไป พื้นดินที่กว้างใหญ่ก็ได้แหลกแตกออกมาจากกัน จนกลายเป็นเพียงแค่เถ้าถ่าน ไม่หลงเหลือสิ่งที่มีชีวิตต่อไปได้อีก
“กร๊อบ——”
ประกายอัสนีแต่ละสายที่เป็นเหมือนกับมังกรก็ได้ประทับผ่าลงมาปกคลุมไปทั่วผืนดิน มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปยังบริเวณทางด้านของมหาราชันปีศาจทุนเทียน มาจนถึงขั้นนี้ เยี่ยจงกลับมิได้ไล่ล่าเขาต่อไปอีก เพียงแต่ยืนกอดอกจับจ้องอยู่ในสถานที่ห่าง
ผู้คนทั้งหมดต่างก็ขนลุกชูชันขึ้นมา เพราะว่า ในขณะนั้นเอง ด้วยพลังนับสิบสายที่ได้รวมกันของพ้นพลังสวรรค์ ทัณฑ์อัสนีหยินหยาง ทัณฑ์อัสนีพิโรธ ทัณฑ์อัสนีห้าสายเป็นต้น คล้ายกับว่าต่างก็เกิดความโกรธเกรี้ยวขึ้นมาก็มิปาน ผ่าลงมาโดยที่ไม่สนใจสิ่งใดๆ จนทำให้มหาราชันปีศาจทุนเทียนหายไปจนไม่หลงเหลือแม้แต่ซาก
“พ้นพลังสวรรค์ชนิดนี้ มิใช่เกินเลยไปหน่อยหรอกหรือไง?”
มีคนที่จ้องไปที่ฉากนี้ จนขนลุกไปทั่วทั้งตัว ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมา
“ดูเหมือนว่ามหาราชันปีศาจทุนเทียนเดิมทีก็คิดที่จะข้ามพ้นพลังสวรรค์เช่นกัน แต่ว่าด้วยพลังฝีมืออย่างเขา กลับเอาแต่หลบเลี่ยงพ้นพลังสวรรค์มาโดยตลอด แต่ว่าพ้นพลังสวรรค์เหล่านี้ในวันนี้กลับปะทุออกมามากมายได้ถึงเพียงนี้ ในครั้งนี้ เกรงว่าต่อให้มหาราชันปีศาจทุนเทียนที่เดิมทีมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ก็ยังไม่อาจที่จะต้านทานเอาไว้ได้อยู่อีกแล้ว!”
ราวกับว่ายอดฝีมือทั้งหมดที่มองดูอยู่โดยรอบต่างก็เข้าใจ ในครั้งนี้มหาราชันปีศาจทุนเทียนจบสิ้นแล้ว ไม่หลงเหลือแม้แต่โอกาสอันน้อยนิดแม้แต่น้อย ทัณฑ์อัสนีเช่นนี้ เพียงแค่ชนิดเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนยากที่จะทนทานรับไว้ได้แล้ว ขณะนี้กลับถูกผนึกทัณฑ์อัสนีรวมกันถึงสิบกว่าสาย เดิมทีแล้วแทบจะมิใช่สิ่งที่ผู้คนจะรับเอาไว้ได้อยู่แล้ว เพราะว่าไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่อาจที่จะพบเห็นหนทางรอดได้เลย
“ตูม——”
ทะเลอัสนีที่ปกคลุมอยู่ ประกายแสงอสนีบาตก็ได้ร่ำร้องออกมานับครั้งไม่ถ้วน บริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้แหลกลาญไปเป็นสาย ไม่ว่าจะเป็นอันใดก็ไม่อาจที่จะมองเห็นได้
มหาราชันปีศาจทุนเทียนเองเดิมทีก็ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ขณะนี้เขาก็แทบจะบ้าคลั่งขึ้นมา ก็ได้ใช้สมบัติเซียนออกมาทั่วร่าง คิดที่จะใช้ต้านทานพ้นพลังสวรรค์ แต่ว่าเพียงแค่ประกายอัสนีเพียงชนิดเดียว ก็ได้ทำให้สมบัติเซียนทั่วทั้งร่างกายของเขาแตกกระจายเป็นชิ้นๆ เมื่อประกายอัสนีชนิดที่สองได้ผ่าลงมา พริบตานั้นร่างกายของเขาก็ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไป เผยออกมาให้เห็นแต่เพียงแค่กระดูก พ้นพลังสวรรค์ชนิดที่สามเมื่อได้ผ่าลงมา กระดูกทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ได้แตกระเบิดออก จนกลายเป็นเพียงฝุ่นผงภายใต้ทัณฑ์อัสนีชนิดนี้ เป็นถึงมหาราชันปีศาจทุนเทียน นึกไม่ถึงจะต้องมาพบเจอกับจุดจบที่น่าอนาถเช่นนี้ได้
ระหว่างที่มหาราชันปีศาจทุนเทียนได้ตายตกลง เดิมทีพ้นพลังสวรรค์ขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างไกลออกไปของเขาก็ได้ค่อยๆ ที่จะถอยกลับมา ก็หลงเหลือแต่เพียงประกายอัสนีขนาดเล็กที่ยังคงปกคลุมอยู่บริเวณอยู่เหนือศีรษะของเยี่ยจง ร้าวกับไร้ซึ่งพลัง
“ใกล้ที่จะได้เวลาแล้วละ!”
เยี่ยจงทอสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทราบว่าพ้นพลังสวรรค์ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เดิมทีเขายังคิดที่จะจัดการมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อไปอีก แต่ว่าในช่วงเวลาขณะนี้กลับไม่เพียงพอแล้ว เขาจึงได้ขยับร่างถอยออกไป ไม่สนใจทุกสิ่งมุ่งหน้าทะยานเข้าไปยังทางด้านของปากทางเข้าออก หมายมั่นที่จะหลบหนีออกไปเป็นคนแรก
“นี้คือ พ้นพลังสวรรค์ของเขาใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วงั้นหรือ!” ผู้คนทั้งหมดต่างก็ก็ได้มีปฏิกิริยากลับคืนมา หากมิใช่เป็นเช่นนี้แล้วละก็ ด้วยความเคลื่อนไหวของเยี่ยจง ย่อมไม่ถอยออกไปแน่
“พ้นพลังสวรรค์หากว่าสิ้นสุดลงแล้ว ภายในช่วงเวลาสั่นๆ เขาย่อมไม่อาจที่จะทะลวงพลังออกมาได้อีกแน่นอน ก็เป็นเหมือนกับว่าไม่มีความสามารถที่จะลงมือฆ่าฟันได้อีกต่อไปแล้ว!”
“เมื่อครู่เจ้ามิใช่จงใจที่จะสังหารชนชั้นมหาราชันหลายตนหรอกหรือ ในครั้งนี้เกรงว่าจะจบสิ้นแล้ว!”
“เยี่ยจง……” มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อเองก็มีปฏิกิริยากลับคืนมา ไม่ทะยานหลบหนีไปอีก เขาทอสีหน้าเมินเฉยจนเป็นที่น่าตกใจ มุ่งหน้าเข้าไปใกล้ยังทางด้านของเยี่ยจงไปทีละก้าว
อีกทางด้านหนึ่ง บรรพบุรุษวิหคทองคำเองก็ได้ทอประกายดวงตาเย็นชาขึ้นมา ใบหน้าประดุจคนตายก็มิปาน เข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว กดดันเข้าไปใกล้ทีละก้าว
“ตูม——”
อีกทางด้านหนึ่ง มหาราชันเผ่าปีกก็ถูกฆ่าไปแล้ว กระดิ่งเซียนที่เหนือศีรษะก็ได้ปกคลุมไปด้วยประกายแสงแห่งเซียน พ้นพลังสวรรค์ของเยี่ยจงในที่สุดก็ได้จบลงแล้ว พวกเขาในที่สุดก็มีความกล้าที่จะลงมือออกมาแล้ว
.
.
.
.