Trash of the Count’s family - ตอนที่ 131-1
บทที่ 131 ไม่กลัว 2 (1)
สิ่งต่างๆดำเนินไปด้วยความราบรื่นดังนั้นคาร์ลจึงไม่นึกกลัวอะไร นั่นเป็นสาเหตุที่คาร์ลตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าไปในป่าแห่งความมืดทันที
“น..นายน้อยขอรับ…กระผมจะนำทางเอง!”
ฮิลส์แมนอาสาเป็นทัพหน้าในการเดินทางครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเขามองเห็นสีหน้าว่างเปล่าจากบุคคลสองคนหลังจากที่เขาพูดจบ หนึ่งคือคาร์ลและอีกคนคืออูฮาเบ็น แม้จะเห็นทั้งสองมีปฏิกิริยาเช่นนั้นแต่เขากลับผ่อนคลายลงกว่าเดิม
“ได้!..รีบไปกันเถอะฮิลส์แมน!”
เป็นเสียงของราอนที่ตะโกนขึ้นมา ราอนคลายเวทย์ล่องหนออกและกระตุ้นให้ฮิลส์แมนนำทางด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า ฮิลส์แมนเริ่มยิ้มเช่นกันแต่กลับมีเสียงของคาร์ลแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ฮิลส์แมน..เจ้าเคยเข้าไปในป่าแห่งความมืดแล้วหรือ?”
ฮิลส์แมนเคยตามเชวฮันเข้าไปฝึกซ้อมอาวุธจนถึงสุดเขตชายแดนของป่าแห่งความมืด
“กระผมติดตามเชวฮันเข้าไปที่นั่นเพียงครั้งเดียวขอรับ!..แต่นายน้อยเชื่อใจกระผมได้!”
“อ่า…ตกลง”
คาร์ลโบกมือเป็นสัญญาณให้ฮิลส์แมนรีบและออกเดินทางได้แล้ว ฮิลส์แมนพยักหน้ารับและเร่งฝีเท้าออกเดินทันที
คาร์ลเดินตามหลังด้วยความผ่อนคลายก่อนจะมองไปยังอูฮาเบ็นที่เดินอยู่ข้างๆเขา คาร์ลรู้สึกว่าอูฮาเบ็นเงียบจนดูผิดปกติ
“มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า..ท่านอูฮาเบ็น?”
อูฮาเบ็นหันมามองคาร์ลก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เด็กสิบคนจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินก็อยู่ในการปกครองของเจ้าด้วยรึ?”
“ใช่”
ฮันส์พร้อมเด็กๆจากเผ่าหมาป่ากลับมาถึงหมู่บ้านแฮร์ริสก่อนหน้าคาร์ลไม่นาน พวกเขาไม่คาดคิดว่าคาร์ลจะเดินทางกลับมาแต่ก็ยินดีต้อนรับคาร์ลอย่างจริงใจ
มังกรทองพึมพำออกมาเบาๆ
“…พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณถึงหกพลัง..สัตว์อสูรหลากหลายเผ่าพันธุ์และมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งจำนวนหลายคน”
สิ่งที่มังกรทองพึมพำออกมาทำให้คาร์ลสูญเสียคำพูดไปครู่หนึ่ง ตอนนี้เขาเริ่มคิดถึงมันจริงจังมากกว่าเดิมและความเหนื่อยล้าก็เริ่มโถมเข้ามาตัวเขาเรื่อยๆ
“เตราะ!”
อูฮาเบ็นส่ายหน้าน้อยๆพลางเดาะลิ้นของตนเอง เขาลอบสังเกตท่าทางของคาร์ล
‘เจ้าเด็กนี่ช่างน่าสงสารจริงๆ’
อูฮาเบ็นได้ยินวีรกรรมขององค์กรลับมาพอสมควร เขานึกสงสัยว่านอกจากมนุษย์ผู้นี้จะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณถึงหกพลังแล้ว เขายังเอาชีวิตตัวเองไปเกี่ยวพันกับเรื่องยุ่งยากต่างๆในทุกๆที่ที่เขาเดินทางไปด้วยหรือ?
อูฮาเบ็นรู้สึกสงสารคาร์ลเล็กน้อย
แน่นอนว่าเขาไม่แน่ใจว่าคาร์ลวางแผนที่จะรวบรวมสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดด้วยตัวเองหรือไม่?เพราะมีทั้งสัตว์อสูร พลังศักดิ์สิทธ์โบราณและมนุษย์ที่แข็งแกร่งกว่ามาตรฐานทั่วไป
ไม่มีทางที่มังกรทองเช่นเขาจะรู้ในสิ่งนี้ได้
อุฮาเบ็นกำลังพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตคาร์ลอย่างตั้งใจก่อนจะได้ยินเสียงของราอนดังขึ้น
“แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์อ่อนแอผู้นี้คือมีข้าอยู่ข้างกาย..เขามีราอน มิรุ..ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอยู่กับเขาด้วย!”
ราอนเชิดหน้าอกขึ้นอย่างพอใจ มังกรทองไม่สนใจท่าทีของมันและเริ่มพูดคุยกับคาร์ลอีกครั้ง
“เจ้าทำงานหนักมากจริงๆ”
คาร์ลพยักหน้ารับคำ
“…เหมือนจะจริงอย่างที่ท่านพูด..ข้าต้องทำทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็วที่สุด”
เขาต้องจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นเพื่อที่เขาจะได้พักผ่อนได้อย่างที่ใจคิด เขาจะนอนกลิ้งไปมาบนเตียงนุ่มและนอนให้มากที่สุดเท่าที่เขาต้องการ ความปรารถนาของคาร์ลกับการใช้ชีวิตอย่างเกียจคร้านเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
มังกรวัยชราที่มีอายุเกือบพันปีเอ่ยกับคาร์ลด้วยความผ่อนคลายกว่าเดิม
“ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรก็บอกให้ข้าทราบแล้วกัน”
“…จริงหรือ?”
แววตาของคาร์ลครึ้มลงครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
อูฮาเบ็นเดาะลิ้นของตนอีกครั้งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“เตราะ!..ใช่”
คาร์ลนึกในใจว่าอูฮาเบ็นต้องได้ช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน คาร์ลเริ่มยิ้มกว้างในขณะที่อูฮาเบ็นก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของคาร์ลจากสิ่งที่เขาเอ่ยออกไป
อย่างไรก็ตามมีอีกคนที่รู้สึกแบบอื่นแทน
“..นายน้อยขอรับ”
“มีอะไรรึ?”
“…พวกสัตว์ประหลาดมีท่าทางแปลกๆขอรับ”
สัตว์ประหลาดหลากหลายชนิดที่อยู่ตามชายป่าเริ่มมีท่าทางผิดปกติ
กรรจ์!!!อึ่กกกกกก!!!
ก็อบลินไม่สามารถหายใจได้ตามปกติและเริ่มออกวิ่งไปตามพงหญ้าสูงแทน
ตึง!!ตึง!!ปั้ง!
ฝูงสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายกับหนูมุดหัวลงแนบพื้นจนเกิดเสียงดังร่างของพวกมันสั่นเทาจนเห็นได้ชัด
ฮิลส์แมนมองอาการของพวกมันด้วยความมึนงงก่อนจะเข้าใจเรื่องที่เกิดเมื่อเห็นคาร์ลชี้ไปยังร่างของหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม
“เรามีมังกรวัยผู้ใหญ่อยู่กับเราไงล่ะ”
“อ่า….”
มันจริงอย่างที่คาร์ลพูด
อูฮาเบ็นละสายตาไปมองราอนก่อนพูดเสียงเยาะ
“เด็กน้อย..เจ้าเห็นความยิ่งใหญ่ของข้าหรือยัง?”
“…ไม่!”
ราอนสะบัดหน้าหนีแล้วบินไปหาคาร์ลทันที
มังกรวัยผู้ใหญ่มีออร่าที่ทรงพลังแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้คำรามหรือพ่นไฟออกมาก็ตาม สัตว์ประหลาดที่มีประสาทสัมผัสไวกว่าสัตว์ประเภทอื่นจะสามารถแสดงปฏิกิริยาตอบรับกับออร่านั้นทันทีที่เข้าใกล้
~ มนุษย์!อีกไม่นานข้าจะเข้าสู่การเติบโตระยะแรกแล้ว!คอยดูนะว่ามันข้าจะต้องดีกว่าอูฮาเบ็นแน่นอน!~
‘เฮ้อ…เอาที่นายสบายใจเถอะ’
คาร์ลไม่สนใจเสียงคร่ำครวญของราอนในหัวของเขาและออกคำสั่งกับฮิลส์แมนที่ยังคงยืนนิ่งราวกับสติหลุดไปแล้ว
“ไปต่อกันเถอะ”
หลังจากนั้นไม่นานอูฮาเบ็นก็เอ่ยสิ่งที่ตนสงสัยกับคาร์ลขึ้นมา
“คาร์ล เฮนิตัส..เจ้าจะพบที่ตั้งของพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเมื่อเราเข้าไปถึงใจกลางป่าแห่งความมืดงั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว..ข้าคิดว่าอาจต้องใช้หนึ่งในพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่อยู่ในตัวข้าเพื่อค้นหาพลังศิลา”
คาร์ลคิดว่าตัวเองอาจต้องใช้พลังอัคนีทำลายล้างเพื่อตามหาบ้านของผู้พิทักษ์ในตำนานซึ่งเป็นที่ตั้งของพลังศิลา
“มนุษย์!..เจ้าจะใช้สายฟ้าอีกครั้งรึ?..เจ้าอาจบาดเจ็บได้นะ!”
“ข้าจะใช้พลังพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“อย่ากระอักเป็นเลือดเด็ดขาด!…ข้าจะทำลายหินบนโลกทั้งหมดถ้าเจ้าเป็นแบบนั้น!..ข้าจะทำลายพวกมันให้หมด!”
“อ่า..ได้..ได้!”
คาร์ลรีบรับปากราอนเพื่อให้มันคลายอารมณ์ฉุนเฉียวลง อูฮาเบ็นมองพวกเขาทั้งสองด้วยความเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตามอูฮาเบ็นไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้และเอ่ยถามอย่างอื่นแทน
“เจ้าเคยบอกว่าที่นี่มีหนองน้ำสีดำซึ่งพบซากมังกรอยู่ในนั้นใช่หรือเปล่า?”
“ใช่..มันเป็นเช่นนั้น..ท่านเองก็ไม่เคยเข้ามาในป่าแห่งความมืดใช่หรือไม่?”
“อืม..ข้าไม่ต้องการเห็นสัตว์ประหลาดน่าตาน่าเกลียดพวกนั้นให้ระคายสายตา..เลยไม่คิดจะมาเยือนที่นี่น่ะ”
‘ตรรกะอะไรของเขาเนี่ย?’
“แล้วท่านอยากไปที่หนองน้ำสีดำหลังจากนี้หรือเปล่าล่ะ?”
“ไม่จำเป็น!..มันน่ารำคาญเกินไปที่จะทำเช่นนั้น..มันไม่ใช่ธุระอะไรของข้าที่จะไปดูมังกรตัวอื่นตาย”
อูฮาเบ็นแสดงอาการหงุดหงิดออกมาทันที ราอนรีบบินไปหยุดตรงหน้าของอูฮาเบ็นพลางช้อนสายตามองเขาด้วยความสับสน
“จริงเหรอเจ้าทองคำ!?..แต่ข้าอยากรู้เรื่องของเจ้านะ!..ข้าอยากรู้จักเจ้าให้มากกว่านี้!”
เจ้าทองคำ?
มุมปากของอูฮาเบ็นยกสูงขึ้นก่อนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
“อะแฮ่ม!..เด็กน้อย…แล้วข้าจะเล่าให้เจ้าฟังทีหลังหากเจ้าอยากรู้มันจริงๆ”
“ตกลง!..ข้าจะรอนะ!”
“อื้ม!..อะแฮ่ม!”
อูฮาเบ็นแสร้งกระแอมไอออกมาอีกครั้งก่อนจะเนียนเปลี่ยนเป็นหัวข้ออื่น
“ป่าแห่งความมืดนับเป็นสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร..ดังนั้นควรใช้โอกาสในชีวิตมาเยี่ยมชมที่นี่สักครั้งหนึ่งในชีวิต..นี่คือเหตุผลที่ข้าตัดสินใจมาที่นี่ในวันนี้”
“เอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอย่างนั้นหรือ?”
อูฮาเบ็นพยักหน้าตอบรับ
“ดินแดนต้องห้ามทั้งห้าแห่งที่มนุษย์พูดถึงนั้นถูกกำหนดขึ้นมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน..ไม่ว่าจะเป็น ‘ป่าแห่งความมืด’…‘เส้นทางที่ไร้ทางออก’…‘ทะเลสาบไร้ความหวัง’ก็มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว”
“ตั้งแต่สมัยโบราณเลยรึ?”
คาร์ลเองก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
“ใช่..ทั้งสามแห่งนี้มีมาตั้งแต่หนึ่งหมื่นปีที่แล้ว..หนึ่งหมื่นปีก็ถือว่านานมากแล้วสำหรับมังกร”
หากอะไรที่มีอายุมากกว่าหนึ่งหมื่นปีจะถือว่าเป็นสมัยโบราณทั้งหมด
คาร์ลนึกอยากสอบถามอูฮาเบ็นเพิ่มเติมในหลายๆเรื่องที่เขาอยากรู้ แต่มีบางอย่างที่ขัดขวางไม่ให้เขาทำเช่นนั้นได้
กรรจ์!!
“น..นายน้อยขอรับ!”
เคร้ง!
ฮิลส์แมนชักดาบออกจากฝักก่อนจะตะโกนเรียกคาร์ลเสียงดัง คาร์ลหันหน้าไปมองด้านหน้าทันที
ตอนนี้พวกเขาอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่ด้านในและด้านนอกของป่าแห่งความมืดซึ่งฮิลส์แมนนั้นข้ามเส้นเขตแดนไปยังพื้นที่ด้านในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คาร์ลเคยมาที่รอยต่อแห่งนี้มาก่อนแล้วแต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ก้าวเข้าสู่พื้นที่ด้านในของป่าแห่งความมืดอย่างเป็นทางการ
‘ฉันเคยเหาะผ่านมันไปครั้งหนึ่ง’
แต่นี่คือครั้งแรกที่เขาจะได้เดินเท้าเข้าสู่พื้นที่ด้านใน
เด็กๆของหมอผีแมรี่ซึ่งเป็นโครงกระดูกหลากหลายรูปแบบก็อยู่ในพื้นที่ด้านนอกเช่นกันเป็นเพราะเธอไม่ต้องการให้เด็กๆของเธอต้องเจอกับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งโดยไม่มีเหตุผลอันควร
คาร์ลก้าวเท้าข้ามเขตแดนเข้าไปทันที
กรรจ์!!!!กรรจ์!!!!กรรจ์!!!!กรรจ์!!!!
คาร์ลมองเห็นสัตว์ประหลาดร่างใหญ่ทันทีที่ก้าวขาทั้งสองเข้ามาพื้นที่ด้านใน สัตว์ประหลาดที่มีรูปลักษณ์คล้ายปีศาจยักษ์น่ากลัวโผล่ตัวออกมาจากต้นไม้ใหญ่ เขี้ยวของมันมีขนาดใหญ่เท่ากับแขนของคาร์ลและผิวของมันก็เป็นสีดำสนิท มันดูน่าเกลียดกว่ายักษ์ทั่วไปเสียอีก กระบองในมือของมันเหมือนจะทำขึ้นมาจากหิน
อย่างไรก็ตามสายตาของสัตว์ประหลาดยักษ์ตนนี้กำลังจ้องไปทางอื่น มันไม่กวาดสายตามามองกลุ่มพวกเขาแม้แต่น้อย ดูเหมือนมันจะฉลาดกว่าที่เขาคาดเอาไว้