The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - ตอนที่ 154
บทที่ 154 ซื้อรถ
หลังจากได้รับการสั่งสอนโดยจี้เฟิง จี้ช่าวหยินก็ดูเหมือนจะสงบเสงี่ยมขึ้นมากแม้ว่าสีหน้าของเขาจะดูบูดบึงอยู่บ้างก็ตามที แต่เขาก็ไม่กล้าพูดจาอวดดีอะไรอีก จี้เพิ่งกวาดสายตาไปรอบๆจนเมื่อสายตาของเขามาถึงจี้ช่าวหยินจี้ช่าวหยินก็รีบหลบตาจี้เฟิงอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกกลัวจี้เฟิงอยู่ในใจ
ไม่ได้มีแค่จี้ช่าวหยินที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลยตลอดทาง แต่คนอื่นๆก็ไม่ได้พูดอะไรเลยเช่นกันจี้ชาวตงและจี้ชาวเหลยกําลังรู้สึกโกรธและไม่พอใจพฤติกรรมที่เหลวแหลกของน้องชายของพวกเขาเป็นอย่างมากซึ่งนั่นก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่พวกเขายังไม่คิดที่จะพูดคุยกับช่าวหยินในเวลานี้ส่วนจี้เฟิงยังคงรู้สึกสงบและผ่อนคลายเขาแค่เพียงนั่งอย่างสบายๆบนเบาะหนังของ BMW X6 และหลับตาลง
เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้านของจี้เจิ้นถั่วอาคนที่สองของจี้เฟิง จี้เฟิงก็ทิ้งจี้ช่าวหยินไว้กับจี้ชาวตงและจี้เจ๊นกั่ว ส่วนเขากับจี้ชาวเหลยออกมาทันทีโดยโดยไม่ได้อยู่ที่บ้านต่อ จี้เพิ่งเชื่อว่าด้วยสติปัญญาของอาคนที่สองของเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้ดีอย่างแน่นอนและเป็นไปไม่ได้ที่อาของเขาจะอยู่เฉยๆและคอยดูลูกชายของเขาเติบโตมาเป็นคนไม่ดี
“เสี่ยวเฟิง นายวางแผนจะซื้อรถประเภทไหน รถเก๋ง หรือ *SUV” จี้ชาวเหลยถามด้วยรอยยิ้ม “อันที่จริงแล้วนายไม่จําเป็นต้องซื้อรถก็ได้นะ บังเอิญที่บริษัทมีรถอยู่ โดยปกติก็ไม่มีใครใช้อยู่แล้วด้วยถ้านายต้องการก็เอาไปได้เลยค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็คิดลงบัญชีของบริษัทไป ส่วนเรื่องใบขับขี่ฉันโทรไปจัดการให้แล้วคิดว่าคืนนี้น่าจะมีคนนํามาส่งให้เลย”
จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้ม “พี่รอง พี่คิดจะใช้อํานาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่นะ ผมว่าแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“คุณผู้ชายครับ นี่ผมกําลังหารถให้คุณอยู่นะครับเนี่ย คุณยังพูดกับผมแบบนี้ได้ โอเค! คิดซะว่าทําคุณบูชาโทษก็แล้วกัน!” จี้ชาวเหลยพูดอย่างประชดประชันด้วยน้ําเสียงเศร้าสลด จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและยิ้มอย่างช่วย ไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นนายก็ซื้อรถเองเลยก็แล้วกัน!นายต้องการจะซื้อรถแบบไหนล่ะ?”
จี้เฟิงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “พี่รองพอจะแนะนํารถรุ่นไหนได้บ้างเอาที่ประสิทธิภาพดีหน่อยแต่ราคาไม่ต้องสูงมากและถ้าเป็นไปได้รูปลักษณ์ภายนอกไม่ต้องโดดเด่นสะดุดตาขอแบบธรรมดาๆก็พอข้อกําหนดที่ผมต้องการมีเพียงแค่นี้ไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่านี้แล้วล่ะ”
เขาซื้อรถเพียงเพื่อใช้งาน ตราบใดที่ประสิทธิภาพของรถดีพอและเหมาะสมกับราคา ส่วนอื่นๆก็ไม่สําคัญ
ทั้งๆที่เป็นข้อกําหนดง่ายๆ แต่ก็ทําให้จี้ชาวเหลยขมวดคิ้ว เพราะโดยปกติแล้วเวลาเขาซื้อรถเขาจะเลือกรถที่ดีที่สุดและแพงที่สุด หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็ยังคงคิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีรถรุ่นไหนที่เหมาะสมกับความต้องการของจี้เฟิง
“นึกไม่ออกแฮะ เอาไว้เราไปถึงที่ร้านแล้วค่อยปรึกษากันอีกรอบ!” จี้ชาวเหลยส่ายหัว “แต่ถ้าเอาแบบไม่คิดอะไรมากฉันว่า Audi ก็โอเคนะประสิทธิภาพก็ดีแถมรูปลักษณ์ก็ไม่เด่นสะดุดตาจนเกินไปนายคิดว่าไง?”
“จี้เฟิงพยักหน้าอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจเท่าไหร่แล้วพูดว่า”แล้วแต่พี่รองเลย”
“ไอ้เจ้าบ้าเอ้ย!” จี้ชาวเหลยอดไม่ได้ที่จะบ่นอยู่ในใจ “ใครเป็นคนซื้อรถกันแน่วะเนี่ย”
จี้ชาวเหลยคุ้นเคยกับเจียงโจวเป็นอย่างดี ในเวลาไม่นานเขาก็ขับรถพาจี้เพิ่งไปยังร้าน Audi 4s
ขณะที่ทั้งสองคนเดินเข้าไปภายในร้าน จี้ช่าวเหลยก็พูดแนะนําให้จี้เฟิงฟังว่า “ร้านนี้เป็นร้านของเพื่อนฉันเองที่พามานี่เราจะได้รถอย่างที่นายต้องการด้วยราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอนถึงแม้ว่าราคามันจะไม่ต่างจากที่อื่นมากมายนักแต่อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ว่าเราจะซื้อรถได้ในราคาที่ถูกต้องและเหมาะสม และปัญหาที่ สําคัญอีกอย่างก็คือเราสามารถไว้ใจให้เขาจัดการเรื่องเอกสารและป้ายทะเบียนรถได้อย่างสบายใจ”
จี้เพิ่งเข้าใจในสิ่งที่จี้ชาวเหลยพูดเป็นอย่างดี ดูเหมือนว่าเจ้าของร้านนี้ไม่น่าจะใช่เจ้าของโชว์รูมรถธรรมดาๆเขาจะต้องเป็นคนที่มีพาวเวอร์พอสมควร ไม่เช่นนั้นจี้ชาวเหลยคงไม่ถึงขนาดออกปากพูดขนาดนี้
และจี้เฟิงก็รู้อีกด้วยว่าราคาที่จชาวเหลยพูดถึงว่ามันจะไม่แตกต่างกันมากเกินไปนั้นก็เป็นเรื่องจริง กําไรจากการขายรถมีไม่มาก เพราะรถยนต์มีต้นทุนที่สูงมากอยู่แล้ว ราคาที่บวกเพิ่มจากต้นทุนจึงได้แค่ระดับที่เหมาะสมแต่กําไรที่แท้จริงของการขายรถคือการบํารุงรักษาและซ่อมแซมรถหลังจากที่ขายไปแล้วนั่นแหละคือแหล่งทํากําไรที่แท้จริง
ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในโชว์รูมรถ พวกเขาก็เห็นกลุ่มพนักงานขายสาวสวยกําลังยืนคุยกันอยู่ตรงแผนกต้อนรับด้านหน้าเมื่อพวกเธอเห็นจี้ชาวเหลยและจี้เฟิงเดินเข้ามาพวกเธอทําเพียงแค่เหลือบมองพวกเขาด้วยหางตาและพูดคุยกันต่อโดยไม่คิดที่จะมาต้อนรับ
จี้ชาวเหลยขมวดคิ้วและกําลังจะอ้าปากพูด แต่เขาเห็นจี้เฟิงส่ายหัวและยิ้ม “ช่างมันเถอะมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์”
“ซึ่ม!” สีหน้าของจี้ชาวเหลยดูบึงตึงมากเขาส่งเสียงฮัมฮัมอยู่ในลําคออย่างไม่ค่อยพอใจ “เสี่ยวเฟิงฉันว่านายต้องใส่เสื้อผ้าดีๆหน่อยแล้วล่ะ จะได้ไม่โดนคนอื่นดูถูก อย่างคนพวกนี้เป็นพนักงานบริการแท้ๆแต่กลับดูถูกลูกค้า!”
ไม่น่าแปลกใจที่พนักงานขายสาวสวยเหล่านั้นจะทําตัวหยิ่งผยองเพราะเสื้อผ้าที่จี้เฟิงสวมใส่นั้นดูธรรมดามากจริงๆเขาใส่แค่เสื้อยึดเรียบๆกางเกงยีนส์ลําลองและรองเท้าหนังถูกๆด้วยเครื่องแต่งกายเช่นนี้แม้จะเป็นร้านค้าทั่วไปก็แทบจะไม่มีใครมอง ดังนั้นในสายตาของพวกเธอคนที่แต่งกายเช่นนี้จะมีปัญญาซื้อรถได้อย่างไร?
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “อย่าไปคิดอะไรมากเลยพี่รอง พวกเธอก็เป็นคนทํามาหากิน พอเห็นคนที่คิดว่าไม่มีกําลังทรัพย์พอที่จะซื้อรถได้ พวกเธอก็คงไม่อยากจะเสียเวลา ถ้าเป็นผมผมก็อาจจะทําแบบเดียวกันฮ่าฮ่า..”
“นายนี่ใจกว้างจริงๆ!” จี้ชาวเหลยส่ายหัวและพูดว่า “งั้นเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะ ฉันอยากจะรู้นักว่าผู้หญิงพวกนี้จะทําตัวหยิ่งผยองได้ซักแค่ไหน!”
จี้เฟิงได้แต่ส่ายหัวและยิ้มแห้งๆ ก่อนที่จะเดินตามจี้ชาวเหลยเข้าไปด้านใน
“มีคางคกขึ้นวอมาอีกสอง!” ที่แผนกต้อนรับพนักงานขายผู้หญิงคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนข้างๆ เนื่องจากเฟิงสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาพนักงานขายเหล่านี้จึงไม่คิดที่จะมองอย่างละเอียดรอบคอบจึงทําให้ไม่ทันสังเกตว่าจชาวเหลยที่อยู่ข้างๆจี้เฟิงนั้นสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม
แต่ก็ไม่แปลกถ้าพนักงานสาวเหล่านี้มองอย่างละเอียดแล้วก็ยังไม่รู้จักเสื้อผ้าแบรนด์เนมของจี้ช่าวเหลยเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอจะได้เห็นบ่อยๆ
“นั่นน่ะสิ แล้วดูผู้ชายที่ดูนิ่งๆยิ้มๆคนนั้น ทําไมคนแบบนี้ถึงไม่รู้จักเจียมตัวกันบ้างเลย จะมาซื้อรถAudiจริงๆน่ะเหรอ? ตลก!” พนักงานขายพูดจาดูถูกและหัวเราะเยาะ
ในบรรดาพนักงานขายเหล่านี้มีเด็กสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปีที่ไม่ได้มีท่าทีหรือพูดจาดูถูกจี้เฟิงแต่เธอพูดขึ้นว่า “บางทีพวกเขาอาจจะมาที่นี่เพื่อมาดูเอาไว้ก่อนและพวกเขาอาจจะกลับมาซื้อในภายหลังก็ได้”
“เหอะ!”
พนักงานขายที่อยู่ข้างๆเธอพูดอย่างเหยียดหยาม “เสี่ยวหลิวเธอเพิ่งจะเรียนจบ ยังรู้จักคนไม่มากพอมันจะมีคนประเภทไม่เจียมตัวและคิดว่าพอตัวเองมีเงินนิดๆหน่อยๆก็คิดว่าพอที่จะซื้อรถได้!”
“ใช่ คนแบบนี้มีเยอะจริงๆ!” พนักงานขายอีกคนกล่าวอย่างเห็นด้วย “นี่ ฉันจะเล่าเรื่องตลกอะไรให้ฟังมีลุงแก่ๆคนหนึ่งเข้าไปในเมืองและเจอโชว์รูมรถที่เขียนป้ายไว้ว่า “ใหม่รถซานตาน่า2000″ พอลุงเห็นแบบนั้นก็ดีใจ รีบเข้าไปในร้านแล้วควักเงินออกมาสองพันเพื่อที่จะซื้อรถพนักงานขายคนนั้นถึงกับพูดไม่ออกเลยได้แต่บอกไปว่า”คุณลุงควรไปซื้อรถอีกด้านหนึ่งนะคะเป็นรถเบนซ์600.คิกคิกะ!”
หลังจากที่เธอเล่าจบพนักงานขายหลายคนก็หัวเราะเสียงดังและมองไปที่เฟิงกับจี้ช่าวเหลยในเวลาเดียวกัน
พนักงานขายเหล่านี้ไม่ได้คิดที่จะลดเสียงการพูดคุยของพวกเธอเลย ดังนั้นด้วยเสียงที่ดังของพวกเธอจึงทําให้จี้เฟิงและจี้ชาวเหลยได้ยินอย่างชัดเจน ใบหน้าของจี้ชาวเหลยในเวลานี้บูดเบี้ยวอย่างน่ากลัวและดวงตาของเขาก็ดูเหมือนกับจะมีไฟพุ่งออกมาได้ทุกเมื่อเขาไม่เคยเจอการดูถูกแบบนี้มาก่อน
“พวกผู้หญิงชั้นต่ําไม่เจียมตัว!” จี้ช่าวเหลยตะคอกอย่างเย็นชาและกําลังจะก้าวไปข้างหน้าแต่ถูกจี้เฟิงรั้งไว้ “พี่รองจะทําอะไรก็นึกถึงตัวเองด้วย พี่เป็นถึงประธานแห่งเจียนอันกรุ๊ป ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจบ้างนะหายใจเข้าลึกๆใจเย็นไว้!”
“เสี่ยวหลิว ไปต้อนรับพวกเขา!” พนักงานขายที่อายุมากที่สุดในกลุ่มรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ผู้ชายสองคนนี้จะซื้อรถ แน่นอนว่าเรื่องเสียเวลาเช่นนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของน้องใหม่ได้เรียนรู้กับความบันเทิง!
พนักงานขายคนอื่นๆที่เหลือต่างหัวเราะเยาะพูดจาถากถางเธอทีละคน เสี่ยวหลิวรู้สึกทนไม่ได้แต่ก็ไม่กล้าทําอะไรและเมื่อเป็นคําสั่งของพนักงานรุ่นพี่ที่อายุมากกว่าเธอจึงต้องทําตาม
เสี่ยวหลิวเดินเข้าไปหาจี้เฟิงและจี้ชาวเหลยด้วยรอยยิ้มเขินๆและถามว่า “คุณลูกค้าทั้งสอง มีอะไรให้ฉัน ช่วยหรือเปล่าคะ?”
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงที่ออกมาต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มเขินอาย อารมณ์ของจชาวเหลยก็ดีขึ้นเล็กน้อยและเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “คุณไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาพูดฉันมั่นใจ คุณดีกว่าผู้หญิงพวกนั้นที่ดีแต่ดูถูกคนอื่น!”
ใบหน้าของเสี่ยวหลิวดูลําบากใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “คุณลูกค้าทั้งสองได้โปรดอย่าโกรธไปเลยช่วงนี้อากาศร้อนเกินไปอารมณ์ของพวกเธอเลยไม่ค่อยดีนัก”
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลย อย่างน้อยเธอก็มีมารยาทพื้นฐานซึ่งเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้แทบไม่ใส่ใจกันแล้ว
“คุณพนักงานขาย ฉันอยากได้รุ่นที่หรูหราที่สุด เอา A6 มาให้น้องชายฉัน!” จชาวเหลยยิ้มและหันหน้าไปพูดกับจี้เฟิง “ภายนอกของ A6 นั้นดูเรียบหรูไม่โดดเด่นจนเกินไป ระบบภายในก็เข้าใจง่ายแถมประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก็ดีน่าจะตรงกับความต้องการของนายเกือบทุกข้อนายคิดว่าไง?”
จี้เฟิงยิ้มและพยักหน้า “ก็ตามนั้น!”
เสียวหลิวอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างพวกเขาสองคนแทบจะไม่ได้มองไปที่รถเลยแต่พวกเขากลับตัดสินใจหลังจากเพิ่งพูดคุยกันเพียงไม่กี่ประโยค มันเป็นเรื่องที่เธอคิดไม่ถึงจริงๆ
พนักงานขายคนอื่นๆที่กําลังรอดูเรื่องตลก ต่างก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินบทสนนาระหว่างทั้งสองคน
“เป็นไปได้ยังไง!” ประโยคนี้ต่างผุดขึ้นมาอยู่ในใจของพวกเธอทุกคน
ผู้ชายสองคนเดินเข้าโชว์รูมรถด้วยสารรูปแบบนี้ แล้วจะมาซื้อรถง่ายๆอย่างนี้เลยเนี่ยนะ?!
หลังจากที่นิ่งอึ้งกันไปครู่หนึ่งหัวสมองของพนักงานขายเหล่านั้นก็เริ่มกลับมาทํางานอย่างรวดเร็วพวกเธอเริ่มคํานวณตัวเลขว่าจะได้ค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่จากการขายรถยนต์ Audi A6 สุดหรูคันนี้
พนักงานขายทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เสี่ยวหลิวด้วยความอิจฉาโดยเฉพาะพนักงานขายที่เป็นคนสั่งให้เสียวหลิวออกไปต้อนรับจี้เพิ่งและจช่าวเหลยยิ่งรู้สึกอิจฉามากกว่าใครถ้าเพียงแค่เป็นเธอที่ได้ยอดขายนี้…
หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานขายทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะแอบคิด คางคกขึ้นวอสองคนนี้คงจะพูดพล่อยๆเพราะกลัวเสียหน้าสินะ? ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!คนที่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะซื้อเสื้อผ้าดีๆใส่จะมาซื้อรถAudiสุดหรูราคาตั้งหลายแสนได้อย่างไร?!
เสี่ยวหลิวในเวลานี้ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เธอแค่ยิ้มและทําตามหน้านี้ของพนักงานบริการ “ลูกค้าทั้งสองตอนนี้ทางเรามีรถ A6 สุดหรูอย่างที่ลูกค้าต้องการอยู่พอดีเลยค่ะลูกค้าทั้งสองจะรับรถไปในวันนี้เลยหรือ…”
จี้ชาวเหลยมองไปที่จี้เฟิงและกระซิบว่า “เสี่ยวเฟิง นายมีเงินพอหรือเปล่า แต่ถ้ายังไง พี่ชายคนนี้มอบรถคันนี้ให้เป็นของขวัญกับนายได้นะ พี่น้องพบหน้ากันทั้งที ฉันยังไม่ได้ให้อะไรนายเลย!”
จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ผมมีเงินเพียงพอ!”
จี้ชาวเหลยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เท่าที่เขารู้มา จี้เฟิงและแม่ของเขาเคยอาศัยอยู่ในเขตเล็กๆมาก่อนพวกเขามีอาชีพหลักคือการขายผักเพียงอย่างเดียวและเขาจะใช้เงินหลายแสนโดยไม่คิดได้อย่างไร? หรือเขาได้เงินมาจากคุณลุง?
เหมือนจี้เฟิงจะอ่านความคิดของจี้ชาวเหลยได้ เขาจึงยิ้มและกล่าวว่า “การพนันแร่หินหยกเมื่อเช้านี้ทํากําไรให้ผมได้นิดหน่อย ดังนั้นเรื่องการซื้อรถจึงไม่ใช่ปัญหา”
จี้ชาวเหลยเข้าใจได้ทันที แม้เขาจะไม่เคยเล่นมาก่อนแต่เขาก็เคยได้ยินเรื่องการพนันแร่หินหยกมาบ้างอย่างไรก็ตามเนื่องจากจี้เฟิงยืนยันหนักแน่นว่าเขามีเงินเพียงพอที่จะซื้อรถจชาวเหลยจึงไม่ได้พูดอะไรอีกแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจะดีแต่บางครั้งเรื่องเล็กน้อยก็เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย
“คุณพนักงานขายผมจะรับรถตอนนี้เลย และชําระโดยการโอนเข้าธนาคารโดยตรง!” จี้เฟิงยิ้ม
ในเวลานี้ทุกคนต่างประหลาดใจ ในความเป็นจริงถ้าเป็นคนรวยมาซื้อรถแม้ว่าเขาจะซื้อรถซักสิบคันในครั้งเดียวก็ไม่น่าแปลกใจ อย่างไรก็ตามสองคนนี้เป็นแค่คางคกขึ้นวอในสายตาของเหล่าพนักงานขายทําไมพวกเขาถึงซื้อรถโดยไม่ลังเล?มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป!
…จบบทที่ 1540