The Trembling World - ตอนที่ 340
TW:บทที่ 340 น้ําตก
หลิวกํา ตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืดอีกครั้ง สมาชิกในทีมทําความสะอาดที่พักชั่วคราวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว และปล่อยให้ หลิวกํา อยู่ข้างในพวกเขาเริ่มทําหน้าที่อื่น พวกเขากําลังรีบเร่งในการเตรียมพื้นและพุ่มไม้หนาม
ฟื้นเป็นกองซ้อนกันก่อกองไฟขึ้นมา ส่วนพุ่มไม้น้ําจัดวางไว้ตรงทางเข้าถ้ําเพื่อเป็นอุปสรรค หนามเหล่านี้แม้ แต่สัตว์ป่าก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
สัตว์กลายพันธุ์เองก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงหนามพวกนี้ หลิวกํา ทิ้งคําแนะนําว่าให้กับ ฮันกวงมิน ดังนั้นพวกเขา จึงพยายามทําตามคําสั่งให้ดีที่สุด ด้วยสิ่งกีดขวางและกองไฟตราบใดที่หมีกลายพันธุ์ไม่ได้กลับมาที่นี่สัตว์ก ลายพันธุ์ตัวอื่นๆจะไม่เป็นภัยคุกคามกับสมาชิก
หลังจากที่พวกเขาตั้งพุ่มป้องกันเสร็จฝนก็เริ่มตกอีกครั้ง ทุกคนอยู่ในที่ปลอดภัยของที่พวกเขาหลีกเลี่ยง การแช่น้ําที่หยดลงมา ฮันกวงมิน จัดกะเพื่อทําหน้าที่เฝ้ายามในตอนกลางคืน
มีสัตว์กลายพันป่วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกถ้ําแต่พวกมันทําได้เพียงแต่คํารามเท่านั้น บางครั้งอาจจะได้ยินเสียง คํารามของหมีอยู่ในที่ห่างไกลประมาณ 20 เมตร เมื่อมีเห็นกองไฟตรงทางเข้าถ้ํามันก็รู้ได้ว่าถ้ํายังคงถูกครอบ ครองโดยมนุษย์ดังนั้นมันจึงคํารามอย่างไม่พอใจ
ในขณะที่ หลิวกํา นอนไม่ได้สติภายในถ้ํา ฮันกวงมิน ไม่อนุญาตให้ใครออกจากถ้ํา แม้แต่ในช่วงกลางวัน สมาชิกได้รับอนุญาตให้ล่าสัตว์ใกล้ๆเท่านั้น พวกเขาต้องกลับมาในถ้ําก่อนที่จะถึงเวลากลางคืน พวกเขาต้องระ มัดระวังไม่ให้โดนล้อมโดยสัตว์กลายพันธุ์และพยายามป้องกันไม่ให้หมีกลายพันธุ์กลับมา
แม้ว่า หลิวกํา จะหมดสติแต่แผลของเขาค่อยๆดีขึ้น ความสามารถในการฟื้นฟูของผู้เล่นระดับ 9 เป็นเรื่องน่า ตกใจ แม้กระทั่งหลังจากการสูญเสียเลือดเป็นจํานวนมากอีกทั้งแผลยังติดเชื้อ กระดูกหักอีกหลายซี่ และมีบาด แผลมากมายแต่เขายังคงมีชีวิตอยู่ หากเป็นคนธรรมดาพวกเขาคงตายภายใน 2 วัน
เป็นเช่นนี้ถึง 3 วัน 3 คืนในที่สุด หลิวกํา ก็ตื่นขึ้นมา ในตอนที่เขาตื่นขึ้น ฮันกวงมิน และคนอื่นๆอยู่ในสภาพ ไม่เป็นระเบียบผมและใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก พวกเขาดูไม่ต่างไปจากคนป่า
แม้ว่า หลิวกํา จะเพิ่งตื่นขึ้นและบาดแผลของเขาก็เกือบจะหายแต่ร่างกายของเขายังคงอ่อนแอ คราวนี้เขา ได้เรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเอง เขาเลือกที่จะอยู่ภายในถ้ําจนกระทั่งบาดแผลทั้งหมดของเขาฟื้นตัว หลัง จากจบเรื่องนี้แล้วเขาจะต้องพิจารณาเรื่องอื่น
อีก 2 วันต่อมาบาดแผลของ หลิวกํา ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ สภาพร่างกาย สามารถทํางานได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีโอกาสที่จะต่อสู้กับหมีกลายพันธุ์ได้มากขึ้น ในเช้าวันที่ 6 เขาตัดสินใจที่จะออกเดินทาง เขาต้องหาทางออกจากป่านี้และรวมกลุ่มกับ ยินฮี ที่ศูนย์วิจัยทางชีวเคมีอีกครั้ง
สําหรับการเดินทางของพวกเขา พวกเขาเริ่มที่จะเดินทางตามลําธารที่พวกเขาพบก่อนหน้านี้
“พี่ใหญ่หลิวถ้าเรายังคงเดินตามลําธารนี้ไป คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันเป็นทิศทางที่ถูกต้อง?ถ้ามันเป็นทิศ ทางที่หวนกลับไปที่ทะเลล่ะนั่นหมายความว่าพวกเราต้องกลับไปจุดเริ่มต้นหรือเปล่า” ฮันกวงมิน ถามอย่างลัง
เขาไม่ตั้งใจที่จะตั้งคําถามกับแผนการของ หลิวกํา แต่เขาอยากเรียนรู้ที่จะอยู่รอดในถิ่นทุรกันดารด้วยความ สามารถของตัวเอง สองสามวันมานี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้พี่ใหญ่หลิวจะไม่ได้ให้คําแนะนําแก่เขาเขายังคงสามารถ ปฏิบัติตัวเองได้อย่างถูกต้อง
“ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าลําธารแห่งนี้จะพาเราออกไป แต่กระแสน้ําของลําธารเหมือนจะไม่ได้มุ่งหน้าก ลับไปที่ทะเล มันเป็นที่ราบลุ่ม นี่คือสมมติฐานทั้งหมดของผม มันจะเป็นอย่างไรนั้นผมไม่แน่ใจเราจะรู้จนกว่าจะ ไปถึงที่นั่น” หลิวกํา ตอบด้วยความจริง
“ถ้าเราพลัดหลงในถิ่นทุรกันดารพวกเราควรที่จะเดินตามทางน้ําตลอดเลยหรือเปล่า” ฮันกวงมิน ยังคงถามต่อ
“การเดินตามล่าธารนั้นอาจเป็นไปได้สูงที่จะพาเราออกจากป่า แต่มันอาจจะไม่ใช่เส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด หรือเร็วที่สุด มันไม่ใช่เส้นทางที่ง่าย มันอาจจะดีกว่าถ้าคุณค้นหาด้วยตัวเอง”หลิวกําตอบ
“โอเคผมเข้าใจแล้วขอบคุณพี่ใหญ่หลิว!” ฮันกวงมิน ตอบ
“มันเป็นเรื่องลําบากสําหรับคุณไม่กี่วันมานี้ หากไม่ได้คุณผมคงไม่รอดจนถึงตอนนี้” หลิวกํา ตอบ ฮันกวงมิน พร้อมตบไหล่ของเขา
“พี่ใหญ่หลิว คุณไม่จําเป็นต้องพูดแบบนี้ การที่เราสามารถอยู่รอดได้จนถึงบัดนี้ก็เพราะเราติดตามคุณ คุณ ยกระดับให้พวกเราดังนั้นสองสามวันมานี้ผมจึงพยายามชดใช้ในแบบของผม!” หน้าของ ฮันกวงมิน กลายเป็นสี แดงด้วยความอับอาย
“หัวหน้ากลุ่มฮันเป็นคนดีจริงๆ ๆผมคิดว่าเขาเป็นเพียงเด็กมหาวิทยาลัย แต่เขามีความสามารถในการเป็น หัวหน้าทีม ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพวกเราคงไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร ทักษะในการเป็นผู้นําของเขาช่วยให้เราสามารถมี ชีวิตอยู่รอดได้ถึงบัดนี้” เช่าเหมิง เริ่มต้นชื่นชม ฮันกวงมิน
“แต่ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามของพี่ใหญ่หลิว ทําให้เราสามารถอยู่รอดได้หลายวัน” ฮันกวงมิน ยังคงถ่อมตน
ในขณะที่ทั้งกลุ่มกําลังเดินตามกระแสน้ําไปเป็นเวลา 1 ชั่วโมงพวกเขาก็ได้ยินเสียงดังสนั่น หลิวกํา รู้สึก กระวนกระวายใจและรีบๆไปด้านหน้า เป็นตามที่คิดไว้ลําธารนี้นําไปสู่น้ําตก น้ําตกที่สูงชันลงไปเป็นหน้าผา
ความสูงของหน้าผานี้อย่างน้อย 100 เมตร ไม่มีทางที่พวกเขาจะลงไปอย่างง่ายดาย หากพวกเขาต้องการ ที่จะค้นหาเส้นทางอื่นพวกเขาคงต้องใช้เวลา 1 หรือ 2 วัน ไม่มีใครรับประกันได้ว่าพวกเขาจะสามารถหาทางลง ไปจากที่แห่งนี้ได้
หลิวกํา กําลังตัดสินใจว่าควรจะไต่ลงไปหรือไม่ การปีนเขาลงไปมีระดับความยากมากพื้นผิวของหินเป็นพื้น เรียบดังนั้นจึงหาที่เกาะยาก สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปืนลงไป
ในขณะที่ หลิวกํา มองไปรอบๆเขาก็ตัดสินใจรวบรวมวัสดุที่จําเป็น หลิวกํา นําเถาวัลย์จากต้นไม้ออกมาเขา รู้ว่ามันเป็นวัสดุที่ดีที่สุดที่ใช้แทนเชือกได้ หลิวกํา ปืนขึ้นไปบนต้นไม่ใหญ่และใช้มีดของเขาฟันเถาวัลย์ออกมา จากนั้นมากองไว้บนพื้น เขาแนะนําให้คนอื่น นําเถาวัลย์มาบิดรวมกันเพื่อให้หนาแน่นยิ่งขึ้น ตราบเท่าที่ความ ยาวของเทือกเถาวัลย์เกือบถึง 100 เมตรพวกเขาจะสามารถลงไปยังหน้าผานี้อย่างปลอดภัย
หลิวกํา ผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้ที่ต้นไม้ที่ใกล้ที่สุดส่วนที่เหลือของเทือกเขาขว้างไปยังด้านข้างของหน้า ผา เขายืนมองเพื่อยืนยันว่าเชือกได้ลงไปถึงด้านล่างแล้ว จากนั้นเขาเตรียมที่จะไต่ลงไป….