The Rise of Otaku - ตอนที่ 157
บทที่ 157 การแก้ปริศนา
การเป็นนักสือบเป็นครั้งแรก ทําให้เขายังรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เมื่อเผชิญกับผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 15 คน เขาก็รู้สึกปวดหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความน่าจะเป็นต่ําเกินไป! ในซีรี่นักสืบที่เขาชอบดูอย่างเด็กน้อยยอดนักสืบยังมีโอกาสอย่างน้อย 25% ในการค้นหาอาชญากรที่ถูกต้อง; ในภาพยนตร์คู่กูยอดนักสืบมีโอกาสอย่างน้อย 12% แต่ทําไมเมื่อมาถึงรอบของเขาถึงมีผู้ต้องสงสัยจํานวนมากแบบนี้กัน?
อนิจจา! แม่มดที่ชั่วร้ายเองก็ทํางานของเธอไม่ดีนักเช่นกัน อย่างน้อยเธอก็ควรช่วยเขากําจัดผู้ต้องออกไปบ้าง แต่นี้อะไร! กับมีผู้ต้องสงสัยรอให้เขาตรวจสอบมากมาย
ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถตรวจสอบทีละคนได้เท่านั้นในตอนนี้
อย่างไรก็ตามโจวหยูไม่มีทักษะนักสืบ แม้หลังจากที่เขาตรวจสอบทุกคนรวมถึงข้อกล่าวหาของพวกเขาในเวลาที่ราชาถูกวางยาพิษ และสอบถามเกี่ยวกับความคิดว่าพวกเขาสงสัยใครบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
เอลิซาได้เห็นแม่มดเนสสาแสดงพิธีกรรมที่แปลกประหลาดในวันหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเนสส่าได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นทันทีและเธอยังได้อ้างว่าได้เห็นเอลิซาได้ทําการติดต่ออย่างลับๆกับบุคคลลึกลับในวัง โจวหยูที่ได้ฟังแบบนั้นก็ไปสอบถามกับหัวหน้าองครักษ์หน้าวงต่อ ก่อนที่เขาจะรู้ว่าบุคคลึกลับคนนั้นที่แท้ก็เป็นแฟนของเจ้าหญิงนั้นเอง เขาเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญที่ยากจนเห็นได้ชัดว่า เจ้าหญิงได้ตกอยู่ในห้วงรัก
ไม่ช้แฟนหนุ่มของเธอก็ถูกจับจากกลุ่มเศรษฐกิจ แต่เขาไม่ใช่คนที่มีความสามารถสูงและไม่ได้เป็นอัศวินด้วยซ้ํา เขาเป็นแค่ชาวนาที่ซื่อสัตย์และธรรมดา ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นก่อนการรุกรานของแม่มดที่ชั่วร้ายเสียอีก ดังนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองจะถูกตัดออกไป
ในแง่ของผู้ต้องสงสัยคนอื่นพวกเขาต่างก็มีข้อสงสัยที่พอๆกันและเนื่องจากไม่มีหลักฐานแน่ชัดจึงทําให้โจวหยูยิ่งรู้สึกสับสนยิ่งขึ้น เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นเขาได้เขียนข้อมูลทั้งหมดที่เขารวบรวมและจัดหมวดหมู่มัน อย่างไรก็ตามถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่พบอะไรในตอนท้ายอยู่ดี
โจวหยูที่ไม่รู้ว่าจะทํายังไงก็ได้เลิกพึ่งตัวเอง และหันไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นแทน “เซียววาน! เธอช่วยดูเรื่องนี้ได้ไหม? ผมอยากรู้ว่าเธอสามารถหาคนที่วางยาพิษกษัตริย์จากคําให้การเหล่านี้ได้ไหม?”
เมื่อประโยคนี้ของโจวหยูจบลง ความอยากรู้อยากเห็นของหลินวานก็พุ่งขึ้นมาทันที มันดูเหมือนเกมไขปริศนา ในอีกด้านหนึ่งมันก็มีประจักษ์พยานของทุกคนพร้อม และอีกด้านหนึ่งมีคําอธิบายของทุกคนที่เกี่ยวข้องเช่นกัน
เมื่อเปรียบเทียบความฉลาดทางปัญญาแน่นอนว่าหลินวานต้องสูงกว่าโจวหยูอย่างแน่นอน เพราะเธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่ง เธอต้องฉลาดกว่าคนขี้เกียจอย่างเขาที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งระดับสามเท่านั้น แต่ยังไงก็ตามเมื่อเธอได้เผชิญกับข้อความที่สับสนวุ่นวายพวกนี้ แม้ว่าเธอจะฉ ลาดมากขนาดไหนเธอก็ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับความคิดของตัวเองอยู่ดี มีหลายคนที่สงสัยมากกว่าคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่มีข้อพิสูจน์เชิงตรรกะที่เธอสามารถใช้พิสูจน์ได้อยู่ดี
โจวหยูที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา ถ้าหลินวานผู้แสนฉลาดมากไม่สามารถไขปริศนานี้ได้แล้ว มันก็คงไม่มีทางที่เขาจะทําได้เช่นกัน ถ้าตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านเขายังสามารถสร้างเกมจากบันทึกให้การเหล่านี้และลองเล่นที่ละตัวในเกมเพื่อค้นหาแม่มดที่ชั่วร้ายได้
หลินวานพูดไม่ออกเมื่อเธอเห็นการแสดงออกของเจ้านาย เธอไม่รู้ว่าทําไมอยู่ๆเขาถึงได้ออกแบบปริศนานี้ขึ้นมา และทําไมต้องแสดงมันให้เธอดู? เพื่อทดสอบความสามารถของพนักงานเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นก็แปลก เพราะเธอเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาไม่ใช่นักสืบ ใครบอกกันว่าการเป็นเลขาเธอต้องเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาแบ บนี้ด้วย? แต่ถ้าเธอแก้ปัญหาไม่ได้จริงๆเธอก็แค่หาคนมาช่วยก็สิ้นเรื่อง เธอไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครบนเครื่องบินลํานี้สามารถไขปริศนานี้ได้
เมื่อเด็กสาวสวยมีปัญหาอัศวินสีม้าขาวกมักจะปรากฏขึ้นเสมอ โจวหยูไม่รู้ว่าวิธีการที่หลินวานใช้แต่เขาก็ยังมอบบันทึกย่อชิ้นนี้ให้เธอ ก่อนที่เธอจะเริ่มไปถามทุกคนที่อยู่บนเครื่องไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงานธรรมดารวมไปถึงครอบครัวธรรมดา
เมื่อเห็นทักษะทางการเข้าสังคมของหลินวาน โจวหยูก็มีความคิดขึ้นมาเช่นกัน เขาจําได้ว่าเขามีความสามารถพิเศษซึ่งจะช่วยให้เขาเห็นคุณลักษณะของคนอื่นได้ ตราบใดที่เขาสามารถหาคนที่ค่อนข้างดีในการให้เหตุผลและการสืบสวนคดีอาชญากรรมปัญหานี้อาจแก้ไขได้
เมื่อคิดเรื่องนี้ได้โจวหยูได้มองไปรอบๆอย่างรวดเร็วโดยดูที่คุณลักษณะของผู้คนในชั้นธุรกิจก่อน
“ชื่อ: ??? โอตาคพลัง: 3; คนที่รู้จักทําอาหารนิดหน่อย”
“ชื่อ: ??? โอตาคุพลัง: 5, คนที่เก่งด้านการเงินมาก”
“ชื่อ: ??? โอตาคพลัง: 1, คนที่ค่อนข้างดีในวรรณคดี”
บ้ามาก! ไม่มีคนไหนในพวกเขาที่มีทักษะที่เขาต้องการเลย ทําไมไม่มีใครสนใจการ์ตูนนักสืบหรือละครนักสืบกัน? ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้มัน เขาจึงได้ไปที่ชั้นต่อไปเพื่อตรวจสอบผู้คนที่นั่น ผู้คนที่นั่นล้วนเป็นชนชั้นสูง แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังโอตาคุที่ค่อนข้างคล้ายกับผู้ที่อยู่ในชั้นธุรกิจ แต่ทักษะทางธุรกิจ ของพวกเขากับสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด น่าเสียดายที่ชั้นนี้เองก็ยังไม่มีแฟนตัวยงของนักสืบอยู่ดี
โจวหยูกําลังเดินไปรอบๆบนเครื่องบินเหมือนบ้านของตัวเอง ในไม่ช้ามันก็ได้ดึงดูดความสนใจของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ก่อนหน้านี้ชายคนนี้เองก็ได้เข้าไปอยู่ในห้องน้ํานานมาก และมาตอนนี้เขาก็กําลังคึกคักราวกับว่าเขากําลังมองหาใครบางคน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายทําตัวแปลกๆ หรือว่าเขาต้องการสร้างปัญหาอะไรขึ้นมา?
ดังนั้นเมื่อโจวหยูต้องการที่จะลองเสี่ยงโชคของเขาในชั้นถัดไป ก็มีผู้ชายที่มีดวงตาแหลมคมปรากฏตัวต่อหน้าโจวหยูและขอให้เขาไปกับเขาด้วยความสุภาพ
โจวหยูกําลังสงสัยว่าทําไมเจ้าหน้าที่ตํารวจอากาศถึงอยากคุยกับเขาขึ้นมา แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายข้างหน้าเขาเขาก็รู้สึกตกใจพร้อมกับดีใจขึ้นมา
“ชื่อ: ??? พลังโอตาคุ: 8 มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้และการสืบสวนคดีอาชญากรรม”
“อศักดิ์สิทธิ์! นั่นมันคือคนที่ฉันต้องการ!”
โจวหยูรู้สึกตื่นเต้นมาก เขารีบติดต่อให้หลินวานมาที่นี้เพื่ออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอให้อีกฝ่ายช่วย เขาในการแก้ไขปริศนาโดยไม่สนใจว่าเขายังถูกสงสัยว่าเป็นใคร เลขาน้อยผู้น่าสงสารจึงทําได้เพียงพยายามอธิบายเรื่องทั้งหมดกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและตํารวจอากาศเท่านั้น “นี่คือเจ้านายของฉันเอง! เขาไม่ใช่ คนเลวอย่างที่พวกคุณคิดหรอก เขาก็แค่คิดเกมปริศนาขึ้นมาได้ และต้องการหาใครซักคนช่วยเขาแก้ปัญหาเท่านั้นเอง …”
หลังจากเจ้าหน้าที่ตํารวจอากาศได้ถามพวกเขาอยู่พักหนึ่งในที่สุดเขาก็โล่งใจและตัดสินใจว่าพวกโจวหยูไม่ใช่คนอันตรายอะไร ดังนั้นหลังจากความเข้าใจผิดถูกล้างออกไป เขาก็ยินดีช่วยโจวหยูไขปริศนาพวกนี้
ปรากฎว่าแม่มดที่ชั่วร้ายได้ปลอดตัวเป็นกษัตริย์องค์ที่ได้รับพิษ เธอยังเป็นคนที่คอยกระตุ้นให้ทุกคนสงสัยกันไปมาด้วยวิธีการต่างๆ และยังได้ตั้งใจที่จะทําให้ความเป็นผู้นําของเมืองท้องฟ้านี้ล่มสลายลง หลังจากดูประจักษ์พยานแต่ละครั้งอย่างใกล้ชิด ผู้คนก็สามารถเห็นร่องรอยของการทําชั่วของกษัตริย์ได้ชัดเจนมากขึ้น
และหลักฐานที่สําคัญที่สุดคือรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในประจักษ์พยานของชาวนาที่ซื่อสัตย์ แม้ว่ามันจะดูไม่มีนัยสําคัญอะไร แต่มันก็พิสูจน์ได้ว่าคําพูดของกษัตริย์นั้นขัดแย้งกับตัวเอง
ไม่เลวสําหรับมืออาชีพ เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขาคมชัดและมองได้ตรงจุดกว่าคนทั่วไปมาก
หลังจากโจวหยขอบคุณตํารวจอากาศเขาก็กลับไปที่ที่นั่งของเขาด้วยความพึงพอใจอย่างรวดเร็วและเริ่มทําขั้นตอนซ้ําทุกสิ่งที่เขาเคยได้ยินจากเจ้าหน้าที่ตํารวจอากาศโดยแกล้งทําเป็นว่าเขาเป็นนักสืบที่ยอดเยี่ยม
ในขณะที่เขาทําสิ่งนั้นหลินวานไม่รู้ว่าเธอควรรู้สึกอย่างไรอีกต่อไป แต่เดิมเธอคิดว่ามันอาจเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม แต่มาตอนนี้เธอเพียงขอแค่เจ้านายของเธอไม่เป็นผู้ก่อการร้ายก็พอ อย่างไรก็ตามการเดินทางนี้ฟังจะเริ่มขึ้นเท่านั้น ใครจะรู้ว่าเจ้านายจะทําอะไรต่อไป
คําตัดสินของเจ้าหน้าที่อากาศถูกต้อง หลังจากฟัง “เหตุผล” ของโจวหยู ราชผู้ซึ่งกําลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ก็ได้ยืนตัวตรงขึ้น ก่อนที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมา ได้เกิดรอยแตกจากผิวหนังของตัวกษัตริย์ก่อนที่จะเริ่มกระจายไปทั่วร่างกายอย่างช้าๆ เผยให้เห็นภาพลักษณ์ที่ชั่วร้ายของแม่มดที่ชั่วร้าย
จากนั้นการต่อสู้ระหว่างแม่มดชั่วร้ายกับแม่มดขาวก็เริ่มขึ้นด้วนประกายฉะนี้
แต่ในที่สุดมันก็จบลงอย่างมีความสุขอยู่ดี แม่มดแห่งความชั่วร้ายได้พ่ายแพ้ ราชาที่แท้จริงได้รับการช่วยเหลือจากคุกใต้ดินและเอลิซาสาวนักดาบสีบลอนด์เองก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไปกับชาวนาผู้ซื่อสัตย์ ทุกคนในเมืองท้องฟ้าต่างก็ให้กําลังใจเสียงดังและจากนั้นก็มีการเฉลิมฉลองเล็กๆน้อยๆที่ตลาดรูปดิสก์
บนเครื่องบินครั้งนี้ไม่เพียงแต่พวกเขามีส่วนร่วมในเกมไขปริศนา แต่เขาก็ยังได้เห็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมในระยะใกล้ซึ่งมันคุ้มค่าจริงๆ