(One Useless Rebirth) เกิดใหม่อีกครั้งอย่างไร้ [Yaoi] - ตอนที่ 22
ซอยนั้นยาวและฝั่งตรข้ามของทางออกอีกดานหนึ่งเป็นห้างสรรสินค้า
เหอไป๋เดินตามหลังเต๋อชูเหอโดยไร้สีหนาและถามว่า “คุณจะพาฉันไปไหน”
เต๋อชูเหอกดปีกหมวดของเขา ยกนิ้วเรียวขึ้นและชี้ไปที่ห้างสรรสินค้าฝั่งตรงข้ามถนน
“ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อสต็กกลับไปทำที่บ้าน”
เหอไป๋ประหลาดใจ “คุณทำอาหารเป็นเหรอ”
“คุณชวนฉันกินสเต็กนี่” เต๋อชูเหอหันไปมองเขา มุมปากของเขาโค้งงอ เสียงของเขาทุ้มต่ำและอ่อนโยน แต่เหอไป๋พบว่ามันน่าสะอิดสะเอียนมากเท่านั้น “ดังนั้นคุณควรเป็นคนที่ควรทำอาหารสิ และฉันจะเลือกเนื้อ ส่วนคุณจ่ายเงิน”
“…ฉันทำอาหารไม่เป็น”
“ค่อย ๆ เรียนรู้ไป” เต๋อชูเหอตบหัวเขาเหมือนตบหัวลูกหมาที่เอาแต่ใจ เขาปลอบโยนเหอไป๋ “อย่ากลัวไปเลย ฉันจะสอนคุณทำอาหาร ถ้าคุณระเบิดห้องครัวของฉัน ฉันก็ยินดีลดค่าชดเชยให้คุณเหลือ 50%”
“ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจ…เฮอะ” เหอไป่ส่ายหน้าและสะบัดมือเขาออก
เต๋อชูเหอเลิกคิ้ว เอามือกลับมาแล้วดึงผมของเขาเบา ๆ เขายิ้มอย่างพอใจ “ไม่ต้องแสดงความชื่นชมฉันอยู่ตลอดเวลาหรอก ฉันเขินนะ”
“…” เป็นไปไม่ได้ที่จะสื่อสารกับคนที่ไม่มีความละอายใจ
หลังจากซื้อของอย่างรวดเร็ว เต๋อชูเหอจ่ายเงิน แล้วเดินกลับมาที่รถของเขาพร้อมกับเหอไป๋
ทันทีที่เหอไป๋ขึ้นรถ เขาก็เอากระเป๋ากล้องเข้าไปไว้ในอ้อมแขนทันทีและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เขามองไปที่เต๋อชูเหอแล้วพูดว่า “บอกหมายเลขบัญชีของคุณมา แล้วฉันจะโอนเงินคืนให้” เมื่อเขาบอกว่าจะเลี้ยง เขาก็จะจ่าย มันเป็นเรื่องทีช่วยไม่ได้ที่เต๋อชูเหอจ่ายเงินซื้อของให้ เพราะกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋ากล้องของเขาถูกทิ้งไว้ในรถ ทำให้เขาไม่สามารถจ่ายเงินได้
“ฉันรับเฉพาะเงินสดด้วยสิ” เต๋อชูเหอเอนตัวไปช่วยเขาคาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่งคาดเข็มขัดนิรภัยของตัวเอง แล้วสตาร์ทรถ “และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คใหม่เท่านั้น”
ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายคนนี้ใกล้เข้ามาและผละออก เขาได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจาง ๆ เหอไป๋นิ่งอยู่กับกระเป๋าสตางค์ในมือครูหนึ่งจากนั้นก็กัดฟัน “เต๋อชูเหอ คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหม”
“ในที่สุดก็รู้แล้วนี่” เต๋อชูเหอขับรถไปยังที่พักของเขา เขามองไปยังด้านข้างด้วยรอยยิ้ม
“แล้วตอนนี้คุณอยากทุบฉันต่อไหมล่ะ? ลูกหมาน้อย ไหล่ขอฉันเจ็บไปหมดแล้ว นี่มันส่งผลต่อการถ่ายละครนะ คุณต้องจ่างเงินให้ฉัน ที่ต้องสูญเสียเวลาทำงานด้วยหรือเปล่า?”
เหอไป๋วางโทรศัพท์มือถือทิ้งด้วยใบหน้าบึ้งตึง
รถขับเข้าไปในโรงจอดรถใต้ดินของย่านที่อยู่อาศัยราคาแพง
เหอไป่ถือกระเป๋ากล้องและกล่องคอมพิวเตอร์ของเขา
เต๋อชูเหอถือของสดที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต พวกเขายืนเคียงข้างกันที่หน้าทางเข้าลิฟต์
แกร็ก
เหอปั๋นหน้าอย่างไว และมองไปที่มุมมืดของโรงรถ
“เกิดอะไรขึ้น” เต๋อชูเหอหันไปมองเขา เขาถอดหมวกและดึงนิ้วของเขาผ่านเส้นผมของตนเอง ท่าทางขอเขาค่อนข้างผ่อนคลาย
“คอมพิวเตอร์หนักเกินไปหรือเปล่า? ให้ฉันช่วยยกแทนไหม?”
มีเสียงลั่นชัตเตอร์อีกครั้ง เหอไป๋ขมวดคิ้ว เขาวางคอมพิวเตอร์ไว้ในแขนของเต๋อชูเหออย่างรวดเร็ว หยิบกล้องออกปรับค่าแสง เปิดแฟลชแล้วกดชัตเตอร์รัวไปที่ที่มืด
ติ๋ง! ลิฟมาถึงแล้ว
เต๋อชูเหอตระหนักว่ามีบางอย่างผิปกติ เขาหันหน้าไปที่จุดสลัวนั้นเหล่มองแล้วถามว่า “มีใครถ่ายรูปอยู่เหรอ”
“ใช่ ถ้าไม่ใช่ว่าฉันก็ถ่ายภาพเป็นเหมือนกัน คงหาไม่พบ” เหอไป๋พยักหน้าวางกล้องและหันมาองเขา
“เราควรแจ้ง รปภ.ไหม”
“แน่นอน” เต๋อชูเหอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรศัพท์ไปที่สำนักงานส่วนกลางของทั่พก จากนั้นดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในใจของเขา เขายิ้มจับไปที่ไหล่ของเหอไป๋ ด้วยท่าทางสนิทสนม พวเขาไปที่ลิฟต์ แล้วพูดว่า
“ลูกหมาน้อย ต้องการสร้างฉากหน่อยไหม”
ด้วยน้ำหนักที่กดลงบนไหล่ของเขา เหอไป๋รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเต๋อชูเหอ ที่ส่งผ่านเนื้อผ้าสองชั้นของเขา เขารู้สึกอึดอัดเมื่อคนสองคนที่ไม่สนิทกันทำท่าทางสนิทสนมแบบนี้ แต่เขากลัวว่าเต๋อชูเหอจงใจให้ช่างภาพเห็น ดังนั้นเขาจึงอดทนรอให้ประตูลิฟต์ปิดลงก่อนท่จะก้าวออกไปข้าง ๆ ดึงมือของเต๋อชูเหอออกและถามพร้อมกับขมวดคิ้ว “คุณจะทำอะไร?”
เต๋อชูเหอเอามือของเขากลับมากดปุ่มลิฟต์ เงยหน้าขึ้น มองไปยังทิศทางของกล้องในลิฟต์และเม้มริมฝีปาก “จดีกว่าถ้าเราเป็นฝ่ายเริ่มก่อน”
เหอไป๋ยังมองไปที่ทิศทางของกล้องในลิฟต์ มีบางอย่างพร่ามัวปรากฎขึ้นในหัวของเขา และหายไปอย่างรวดเร็ว
เขาลูบหน้าผากอย่างสงสัยและจับเข็มขัดของกระเป๋ากล้องโดยไม่รู้ตัว รูปถ่าย ลิฟต์ เต๋อชูเหอ… ดูเหมือนว่าเขาจะเคยได้ยินประโยคหรือวลีที่ทั้งสามเชื่อมต่กันที่ไหนสักแห่ง?
เต๋อชูเหออาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้นแรกเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ มีห้องเล็ก ๆ อยู่หัวมุมติดกับห้องนั่งเล่น นั่นคือห้องนอนของเต๋อชูเหอ ชั้นสองว่างเปล่าและตกแต่งเป็นสไตล์ร้าง มันไม่ได้ดูเหมือนบ้าน แต่เหมือนโรงแรมชั่วคราว
เหอไป๋ยืนอยู่หน้า หน้าต่าง มองออกไปเห็นวิวเมืองกว้าง ๆ
เขารู้สึกถึงความเกลียดชังขงอคนรวยในหัวใจของตนเอง กำลังคำรามอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาก็หันไปมองเต๋อชูเหอที่กำลังเดินมาทางฝั่งนี้พร้อมกับผลไม้ในมือ และเหอไป๋ก็รู้สึกอิจฉาอย่างเงียบ ๆ
ไหล่กว้าง เอวคอด ขายาว ผิวสวย ใบหน้าหล่อเหลา มันทำให้เขาอารมณ์เสียมาก เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับเต๋อชูเหอ
“กินผลไม้รองท้องไปก่อน ฉันจะหาสูตรทำอาหารให้” เต๋อชูเหอวางผลไม้และเดินเข้าไปหาเขา ทันใดนั้นเขาก็วางแขนบนไหล่ของเหอไป๋และถ่ายรูปพวกเขาด้วยโทรศัพท์มือถือ
“คุณกำลังทำอะไร?” เหอไป๋ขยับไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงแขนของเขา
“อย่างที่ฉันบอกไปว่าควรเริ่มก่อนจะดีกว่า” เต๋อชูเหอดึงแขนของเขากลับมาก่อนที่เหอไป๋จะออกไปอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเขากไปที่โซฟา หยิบแล็ปท็อปออกมากดแป้นพิมพ์สองสามครั้ง หันหน้าจอไปที่เหอไป๋ แล้วคลิกเพื่อเล่นวิดีโอ
“โอเค หาเจอแล้ว สูตรทำสเต็ก ดูนี่แล้วทำตาม”
เหอไป๋ที่รอดูเขาสร้างฉาก อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขา “การเคลื่อนไหวแรกที่คุณหมายถึงคือ?” การกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคน ๆ หนึ่ง แต่ไม่สามารถตอบสนองความพึงพอใจได้นั่น
“สักครู่” เต๋อชูเหอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและถ่ายรูป เหอไป๋ที่จ้องมองมาที่เขา จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่กระเป๋ากล้องของเหอไป๋ที่วางอยู่บนโซฟาและพูดว่า “ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันจะยืมที่รูปคุณเพิ่งถ่ายได้ไหม”
คนที่ใจร้อนอาจจะโกรธกับสไตล์สบาย ๆ และไม่แคร์อะไรของเขา
เหอไป๋ยกมุมปาก ก้าวไปข้างหน้าเพื่อดึงเมมโมรี่การ์ดออกจากกล้อง เสียบไปที่เครื่องอ่านการ์ดที่วางอยู่ตรงหน้าเขา “เอาไปใช้ได้ตามที่ต้องการ ตราบใดคุณไม่ลบมัน”
“เด็กดี” เต๋อชูเหอเอื้อมมือไปแตะศีรษะเขา
เหอไป๋หยิบหมอนขึ้นมาและกระแทกไปที่ใบหน้าของเขา
เต๋อชูเหอดึงหมอนลงและยิ้มเบา ๆ แล้วก้มศีรษะลง
เสียงหัวเราะนั้นชัดเจนและไพเราะ ดังก้องในห้องนั่งเล่น และเข้ากับใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาของเขา เมื่อเขาก้มศีรษะลง มันสมบูรณ์แบบมากจนดูเหมือนภาพวาด
เหอไป๋พยายามมาก เขาอดไม่ได้ท่จะหยิบกล้องขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์ไปที่เต๋อชูเหอ จากนั้นก็พบว่ากล้องไม่ทำงานหากไม่มีเมมโมรี่การ์ด เขากลอกตาและนั่งตรงข้ามเต๋อชูเหอ ดึงคอมพิวเตอร์มาหาเขาเพื่อดูคลิปการทำอาหารอย่างตั้งใจ
“คุณสามารถถ่ายภาพได้ทันที ที่งานของฉันเสร็จ อย่าโกรธกันล่ะ” เต๋อชูเหอผลักถาดผลไม้ไปที่เหอไป๋ จากนั้นดึงคอมพวิเตอร์ออกจากโต๊ะน้ำชา เปิดคอมพิวเตอร์เสียบเข้ากับเครื่องอ่านการ์ดและดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้น้ำเสียงของประโยคนั้นดูอ่อนโยนและเป็นมิตร…ไม่ นี่มันเป็นเพียงภาพลวงตาท้งหมด คนที่แย่เช่นนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำว่าอ่อนโยนหรอก เหอไป๋ลูบหน้าผากของเขาและพยายามจับจ้องไปที่วิดีโอ
แปดนามทีต่อมาวิดีโอทำอาหารก็จบลง และเสียงพิมพ์ของเต๋อชูเหอก็หยุดลง
“เอาล่ะ” เต๋อชูเหองับนิ้วมือของตัวเอง
เหอไป๋เงยหน้าขึ้นมองเขา
“ดูนี่สิ” เต๋อชูเหอหันคอมพิวเตอร์ให้เขา ลุกขึ้นไปที่ห้องครัว
เหอไป๋ดึงคอมพิวเตอร์เข้ามาใกล้ด้วยความอยากรู้และอยากเห็น ใช้นิ้วแตะที่หน้าจอ
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์คือเว็บไซต์ของ weibo บัญชีของเต๋อชูเหอได้เข้าส฿ระบบและมีการโพสต์ใหม่
เต๋อชูเหอ : หลังจากการถ่ายทำเสร็จแล้ว ผมกลับมาที่บ้านบังเอิญได้เจอศิษย์เก่ารุ่นน้องคนหนึ่งเข้า เลยเชิญเขามาเที่ยวที่บ้าน แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือเราเจอนักข่าวที่ตามถ่ายรูปเรา ศิษย์เก่ารุ่นน้องของผมเขาเรียนด้านวารสารศาสตร์และได้ถ่ายรูปนักข่าวไว้ด้วยสิ คุณคิดว่าเขาจะได้รับกี่คะแนนจากภาพถ่ายเหล่านี้ครับ? พร้อมกับโพสรูปลงไป 9 รูป
เหอไป๋คลิกเปิดภาพทีละภาพและพบว่าแปดภาพแรกเป็นภาพของปาปารัสซี่ที่ถูกเบลอหน้า ที่เขาถ่ายได้ทั้งหมด ส่วนรูปที่เหลือคือภาพเซลฟี่ของเขากับเต๋อชูเหอ เขาได้เบลอเหอไป๋ไว้
ไม่กี่นาทีต่อมา มีความคิดเห็นหลายร้อยรายการถูกทิ้งไว้ใต้โพสต์นั้น เขาเหลือบไปเห็นความคิดเห็นด้านล่างและพบว่าสามารถแบ่งได้เป็นสี่กลุ่มด้วยกัน
กลุ่มแรกให้คะแนนภาพถ่ายโดยตรง กลุ่มที่สองวิพากษ์วิจารณ์ปาปารัสซี่ว่าไร้ยางอายและชมเชยรุ่นน้องของเต๋อชูเหอว่าทำผลงานได้ดี กลุ่มที่สามวิเคราะห์สถานที่ที่ถ่ายภาพในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าเป็นโรงจอดรถ และพวกเขาก็สรุปว่าปาปารัสซี่ตามเต๋อชูเหอไปที่บ้านของเขา อันดับที่สี่เป็นการสาบแช่งเต๋อชูเหอว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ใช้อิทธิพลของบุคคลสาธารณะในการเปิดโปรงการปรากฎตัวของปาปารัสซี่ ยุงยงให้แฟน ๆ ด่าว่าปาปารัสซี่และใช้ความรุนแรงในโลกไซเบอร์
นี่เป็นฉากจริง ๆแต่นั่นคือทั้งหมดเหรอ? โพสต์ข้อความ weibo เพื่อให้คนอื่นเขาด่าเหรอ?
เหอไป๋ไม่เข้าใจว่าเต๋อชูเหอกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเขาพร้อมที่จะถามบางอย่างเต๋อชูเหอ เขาก็พบหน้าเว็บหลายหน้า ข้างหน้า weibo เขาคลิกที่หน้าเว็บเหล่านั้นเปิดขึ้นด้วยความสับสน
เป็นหน้าเว็บ weibo อีกหน้า ซึ่งอยู่ในหน้าแรกของบัญชีการตลาด ที่ด้านบนของหน้าเว็บมีพาดหัวข่าวใหม่
ซุบซิบแวดวงบันเทิง : ประเด็นร้อน! ดาราหนุ่มรูปหล่อ นามสกุล D ถูกนายจ้างคนก่อนบังคับให้ออกและเขาบอกเลิกสัญญาด้วยความโกรธ จุ๊ ๆ: ดาราหนุ่มสุดหล่อนามสกุล D คนนี้มีข่าวลือว่ามีความสัมพันธ์กับพิธีกรรายการโทรทัน์ใหม่และมีข่าวลือว่าเขาเป็นลูกชายของบริษัทสังกัดเดิม ยังไงซะคุณจะได้พ่อเลี้ยง ถ้าคุณมีแม่เลี้ยง รู้ใช่ไหม!
เหอไป๋อ้าปากเล็กน้อยและคลิกที่หน้าเว็บที่เหลือด้วยความรีบร้อน
มีหน้าเว็บทั้งหมดเจ็ดหรือแปดหน้า ยกเว้นอันดับแรกซึ่งเป็นหน้าแรกของบัญชี weibo ของเต๋อชูเหอ ส่วนที่เหลือเป็นหน้าแรกของบัญชีการตลาดต่าง ๆ มีการโพสต์ข่าวลือต่าง ๆ ในช่วงเวลาเดียวกับที่เป็นข่าวด้านลบของเต๋อชูเหอ เขาคาดเดาได้ว่าใน weibo จะมีประเด็นร้อนแรงแค่ไหนในช่วงนี้
“ดูจบหมดหรือยัง?” เต๋อชูเหอออกมาพร้อมกับน้ำผลไม้สองแก้ว เขาวางแก้วไว้ตรงหน้า เขานั่งตรงข้าม เอามือค้ำคางแล้วหัวเราะ “นี่เป็นสุดแรก ชุดที่สองจะตามมาทันที และสุดท้าย ฉันจะถูกด่าว่าอนาถมาก จากนั้นจะยกเลิกบัญชี weibo ของฉันอย่างสิ้นหวัง แล้วหายไปจากสายตาของสาธารณะ นับจากนี้เป็นต้นไป จนกว่างานใหม่ของฉันจะออกสู่ตลาด”
สิ่งที่คลุมเครือในใจของเขาก็กระจ่างขึ้นทันที เขานึกถึงบทสัมภาษณ์ส่วนตัวของเต๋อชูเหอ ก่อนที่เขาจะกลับมาเกินใหม่ มีการกล่าวว่าเต๋อชูเหอถูกนายจ้างบังคับให้ออกจากงานเนื่องจากมีข่าวเชิงลบและเขาก็ยกเลิกบัญชี weibo ของเขาด้วยความรู้สึกหดหู่ จนกระทั่งเขาออกมาปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชนอีกครั้ง และจากนั้นเขาก็ชี้แจ้งข่าวเชิงลบที่โพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมหลักฐานมากมาย
ข่าวเชิงลบที่โพสต์ในเวลานั้นดูเหมือนจะเป็น “ดาราหนุ่มรูปหล่อถูกสงสัยว่าสูญเสียการควบคุม เนื่องจากใช้ยาเสพติด เขาดึงปาปารัสซี่ แอบเข้าไปในลิฟต์และทำให้ปาปารัสซี่คนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส” เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เขากำลังทบทวนวิธีทำอาหาร และเพียงแค่ดูข่าวนั้นอย่างไม่ใส่ใจ แม้ว่าเจะติดตามข่าวแบบสบาย ๆ แบบนี้ แต่เขาก็คงรู้ดีว่าดาราหนุ่มรูปหล่อถูกสื่อมวลชนรังแกในปีนั้นเป็นเรื่องที่น่าอนาถเพียงใด
ด้วยวิธีนี้ ถ้าเขาไม่กลับมาพร้อมกับเต๋อชูเหอ ในวันนี้ เต๋อชูเหออาจถูกปาปารัสซี่คนนั้นปิดกั้นในลิฟต์ ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว “นักข่าวบาดเจ็บสาหัส” ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในชีวิตก่อนหน้านี้เหรอ? การเคลื่อนไหวครั้วแรกของเต๋อชูเหอ กลายเป็นการทายชื่อเสียของตัวเงก่อนที่ผู้สื่อข่าวเหล่านั้นจะทำ?
“มีถั่วไหม?” เหอไป๋อดไม่ได้ที่จะถาม