(One Useless Rebirth) เกิดใหม่อีกครั้งอย่างไร้ [Yaoi] - ตอนที่ 21
“ขอโทษครับ” เต๋อชูเหอก้าวไปข้างหน้า มองไปที่เขาพร้อมกับเอียงศีรษะลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าดวงตาที่อ่อนโยนและรอยยิ้มของเขาจะถูกปกคลุมด้วยเสียงแห่งความเปล่งประกาย เกิดเป็นบรรยากาศอันน่าดึงดูด “กิจกรรมรำลึกของสถานีโทรทัศน์ของคุณเริ่มไปรึยังครับ?”
เสียงที่นุ่มนวลและทุ้มต่ำ ดวงตาที่แสดงออกถึงความเอาใจใส่ ริมฝีปากที่หงายขึ้นเล็กน้อย เย้ายั่วจนมีคนพยายามจูบเขาโดยไม่สมัครใคร พนักงานที่ทำงานอยู่ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็เคลื่อนสายตาออกจากเต๋อชูเหอ อย่างอึดอัด เขาบีบติ่งหูสีแดงของตนเองในขณะที่ปรับแว่นตา ท่าทีของเขาก็อ่อนลงโดยไม่รู้ตัว “เพิ่มจะเริ่มโปรโมตค่ะ เป็นการสร้างกระแสเพียงเท่านั้นคะ สำหรับงานที่เป็นทางการยังอยู่ในขั้นเตรียมการ ทันทีที่เริ่มงาน เราจะส่งจดหมายเชิญถึงคุณ ทางเราหวังว่าคุณจะให้เกียรติมาร่วมงานกับเรานะคะ”
เต๋อชูเหอพยักหน้าเพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจแล้ว ดูเหมือนมีบางอย่างเข้ามาในใจ เขาจึงขมวดคิ้วแตอบกลับด้วยความเสียใจบนใบหน้าของเขา “ผมยินดีอย่างมากสำหรับความมีน้ำใจของทางสถานีโทรทัศน์ของคุณที่คิดจะเชิญผมมาร่วมงานครับ แต่…ตอนนี้ผมไม่ได้สังกัดฮวางตู๋แล้ว ทีมงานที่คอยดูแลก็ถูกเรียกตัวกลับไปหมดแล้ว รายการทีวีของวันนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ยื่นอยู่บนเวทีในนักแสดงของฮวางตู๋ ยังไม่ทราบว่าหลังจากนี้ผมจะทำงานในวงการบันเทิงต่อไปได้หรือไม่ ผมเกรงว่าจะไม่สามารถมาร่วมงานตามที่คุณคาดหวังได้ครับ”
พนักงานจ้องมองเขาโดยลืมเรื่องมารยาทของตนเอง “คุณไม่ใช่นักแสดงในสังกัดของฮวางตู๋แล้วเหรอคะ? ทำไมฉันถึงไม่…” เมื่อนึกถึงฉากที่เงียบไปของเต๋อชูเหอที่มายังบันทึกรายการทีวีของสถานีด้วยตัวเองในวันนี้ เขากลืนคำพูดของเขาลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับพายุที่โหมกระหน่ำในใจของตนเอง
เต๋อชูเหอเพิ่งได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Thousand Flowers Award ในการแสดงเรื่องน้ำตาสีชาด เขากำลังดังและมีข่าวลืมว่าชายผู้นี้มีภูมิหลังที่ทรงพลัง ซึ่งมีผลต่ออาชีพนักแสดงของเขาให้ก้าวหน้าในอนาคตเป็นพิเศษอย่างแน่นอน แต่เพียงไม่กี่เดือนที่เขาได้รับรางวัล เขาจะออกจากฮวางตู่ได้อ่างไร? เขายังบอกอีกว่าไม่แน่นอนว่าเขาจะทำงานในวงกรบันเทิงต่อไปได้อีกไหม เขาถูกแบล็คลิสต์หรือถูกบังคับจากฮวางตู๋หรือเปล่านะ? เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่? ไม่แปลกใจเลยที่มีข่าวลือว่าผลิตภัณฑ์ที่เขารับพรีเซ็นเตอร์จะถูกถอนออกไปเมื่อเร็ว ๆ นี่จะกลายเป็น…ข่าวที่ดังระเบิดแน่+
เต๋อชูเหอคิดอะไรอยู่ ถึงได้มาบอกเรื่องนี้กับเขา? จุดประสงค์ของเต๋อชูเหอคืออะไร? เขาเป็นเพียงพนักงานปฏิบัติการของสถานีโทรทัศน์ เพียงเท่านั้น เต๋อชูเหอจะได้อะไรจากการมาบอกข้อมูลนี้กับเขา เต๋อชูเหอเขาต้องการอะไร
ความคิดทุกอย่างกำลังหมุนวนอยู่ในโสตประสาทของเขา การแสดงออกของเขาค่อนข้างแข็งกระด้างโดยไม่รู้ตัว
เต๋อชูเหอดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเขา เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าและค้นบล็อกข่าวของงสถานีโทรทัศน์เมือง B เขาถามว่า “วิดีโอนี้โพสต์เพื่อใช้สร้างกระแสจากสถานีของคุณ เป็นรูปถ่ายจาก Saint Elephant Studio ใช่ไหมครับ? ช่างภาพที่ถ่ายภาพชื่ออะไรครับ”
“ใช่คะจาก Saint Elephant Studio ช่างภาพเห็นว่าชื่อ เหอไป๋”
เจ้าหน้าที่ตอบโดยสัญชาตญาณจากนั้นก็ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และถามอย่างประหม่า
“คุณ คุณกำลังถามเรื่องนี้…”
“เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ผมไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมรำลึกของสถานีคุณได้ ดังนั้น…ผมขอให้คุณจัดกิจกรรมให้ดีที่สุดนะครับ”
เต๋อชูเหอยิ้มเขาแชร์วีดีโอในบัญชี weibo ของตนเองแล้วโพสต์แสดงความยินดีสองสามคำและกล่าวชื่นชมช่างภาพและเจ้าหน้าที่ที่ทำตัดต่อ เขายกโทรศัพท์มือถือให้พนักงานดูและถามด้วยรอยยิ้มว่า “หวังว่าคุณจะไม่รังเกียจที่ผมแชร์กิจกรรมรำลึกของสถานีโทรทัศน์ของคุณบนช่องบัญชีผมนะครับ”
เมื่อมองดูเต๋อชูเหอทำทั้งหมดนั้น และยิ้มอย่างอ่อนโยนตลอดเวลา พนักงานถึงกับรู้สึกอาย แม้ว่าอนาคตของชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะดูยากลำบาก แต่เขาก็ยังคงคิดที่จะช่วยแชร์วิดีโอเพื่อสร้างกระแสให้ทางสถานีโทรทัน์ แล้วยังนอบน้อมอีกด้วย …เขาเป็นคนดีจัง! เก่งด้วย! ผู้ชายที่ดีเช่นนี้จะใช้ประโยชน์อะไรกับพนักงานปฏิบัติการอย่างเธอได้อย่างไร เขาเป็นคนกล่าวถึงการเชิญเต๋อชูเหอเอง ชายคนนั้นเพียงตอบรับคำเชิญของเขาจากนั้นก็อธิบายว่าทำไมถึงปฏิเสธคำเชิญเพียงเท่านั้น เขานี่กำลังคิดอะไรไร้สาระอยู่กันแน่เนี้ย!
“ขอบคุณคะคุณเต๋อ” ทัศนคติของพนักงานมีความกระตือรือร้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขากล่าวด้วยความจริงใจว่า “ในฐานะที่เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ คุณจะเปล่งประกายในแวดวงบันเทิงในอนาคตอย่างแน่นอน คุณต้องทำได้แน่นอนค่ะ”
เต๋อชูเหอส่งเสียงเบา ๆ และจริงใจมองไปที่พนักงานคนนี้อย่างอ่อนโยนและพยักหน้า “หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คุณพูด ขอบคุณครับ”
“ยินดีค่ะ” เขาอารมณ์ดีอะไรอย่างนี้ เป็นอีกครั้งที่พนักงานหูแดงและออกอาการเขินอาย
…………
เหอไป๋ออกมาที่ศูนย์การค้า Computer Town พร้อมกับเงินที่เขาเพิ่งหามาได้
เขาพร้อมที่จะเลือกคอมพิวเตอร์สำหรับตนเอง
ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงและต้องตะงึงเมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนของแอป wechat จำนวนมาก มันเตือนเขาว่าเขาไม่ได้ตรวจสอบข้อความ wechat เป็นเวลานาน จึงรีบเปิดเข้าไปตรวจสอบข้อความที่ไม่ได้อ่าน
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : สวัสดีตอนเช้า ^-^
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ราตรีสวัสดิ์ ^_^
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ยุ่งอยู่เหรอ?
….
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : คนโกหก! ไหนบอกว่าจะส่งรูปให้กับฉันไม่ใช่เหรอ?
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ฉันล้อเล่นน่ะ ใกล้สอบปลายภาคแล้ว ต้องยุ่งมากแน่ ๆ เลยเน๊าะ ^-^
………….
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : อรุณสวัสดิ์ ^-^
……..
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ทำอะไรอยู่?
มีข้อความส่งมาถึงเขาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จนถึงตอนนี้
เหอไป๋อ่านข้อความทั้งหมด แล้วยกมือทุบลงบนหน้าผากของเขา จากนั้นเขาก็รีบพิมพ์ตอบกลับ
ขาวและขาว : ขอโทษนะ ช่วงที่ผ่านมาผมยุ่งจริง ๆ ไม่ได้เปิดดูข้อความเลย ผมจะส่งรูปให้คุณทีหลังนะ
ผู้ซื้อพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ไม่เป็นไร หนักเลยสิในช่วงท้ายเทอมแบบนี้ แล้วกำลังทำอะไรอยู่?
ขาวและขาว : ผมมาซื้อคอมพิวเตอร์
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ที่ Computer Town เหรอ?
ขาวและขาว : ใช่ ผมจะส่งรูปให้คุณทางเมลทันที ที่ซื้อคอมพิวเตอร์เสร็จนะ ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณรอเป็นเวลานาน
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ตามสบาย ไม่ต้องรีบ
ขาวและขาว : ???
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง คุณควรใช้เวลาของคุณในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
เหอไป๋ตกอยู่ในความเงียบเพียงไม่กี่วินาที และไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้
แม้ว่าผู้ซื้อรายนี้จะเป็นคนขี้เบื่อ แต่ในบางครั้งเขาก็อบอุ่นใจ.. น่ารักดี
เหอไป๋ลังเลอยู่นานระหว่างคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เมื่อคิดว่าเขาจะต้องออกไปฝึกงานในอีกปีหนึ่ง และมีงบประมาณเพียงพอ ในที่สุดเขาก็ซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คราคาแพงที่มีประสิทธิภาพทนต่อการใช้งานไปได้อย่างน้อย 3 ปี
เหอไป๋ออกจาก Computer Town พร้อมกับกล่องคอมพิวเตอร์ของเขา เขามองนาฬิกาและเดินไปที่ป้ายรถเมล์
“ลูกหมาน้อย”
เสียงที่คุ้นเคย น้ำเสียงที่คุ้นเคย สถานการณ์ที่คุ้นเคย
เหอไป่หยุดก้าวไปข้างหน้าและเลี้ยวไปอย่างไม่ใส่ใจ
“คุณอยากรู้ไหม ว่าทำไมฉันถึงอยากขอบคุณที่คุณส่งรูปเหล่านั้นให้กับอาจารย์ซวี่อิ๋นหลง”
เหอไป๋หยุดและหันหน้าไปมองเต๋อชูเหอ เขาดูหล่อเหลาและเปล่งประกาย แม้จะอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสบาย ๆ และกางเกงยีนส์ เหอไป๋คิดว่าเขาควรจะเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ จะได้ติดตั้งแอป almanac เพื่อเช็คดวงประจำวันดีหรือไม่
เต๋อชูเหอยกมือขึ้นเพื่อยกขอบหมวกดึงแมสและเลิกคิ้ว “อย่าพยายามเปิดเผยตัวตนของฉันแล้วหนีไปล่ะ ถ้าทำแบบนั้น ฉันจะพาคุณพบกับประสบการณ์ที่ต้องวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยอีกครั้ง”
เหอไป๋สำลัก “ฉันไม่คิดอะไรแล้ว เรื่องรูปถ่ายฉันจะถามกับอาจารย์ซวี่เอง”
“นี่ก็ผ่านมานานแล้ว ทำไมไม่ถามเขาล่ะ” เต๋อชูเหอมองไปที่เขาพร้อมกับยกแขนพาดหน้าอกและยกคางขึ้น ความอ่อนโยนและมารยาทที่สุภาพของเขาหายไป มีแต่ภาษากายที่ยั่วยุเท่านั้น
เหอไป๋สำลักอีกครั้ง เขาได้ถามเกี่ยวกับรูปภาพเหล่านั้น แต่อาจารย์ซวี่ ไม่ได้พูดอะไรเลย ทำให้เขาหัวเราอย่างไม่เข้าใจและทำการบ้านเพิ่มเติม
เต๋อชูเหองอนิ้วของเขาเพื่อกวัวมือเรียกเขาและยิ้มเบา ๆ “เข้ามาในรถของฉัน”
เหอไป๋ยืนคิดอยู่ตรงนั่นเป็นเวลาช่วงครู่ ในที่สุดความอยากรู้ก็มีชัย เขาเดินมาหาเขาด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกและยกคางขึ้น “นำไปสิ”
เต๋อชูเหอมองไปที่ใบหน้าเฉยเมยของเหอไป๋ เขาฮัมเพลงและหันกลับเพื่อเดินนำอย่างภาคภูมิใจว่า แม้เขาจะแบล็คลิสต์บัญชีใน wechat ของเขา แต่ตอนนี้เหอไป๋อยู่ในกำมือของเขาแล้ว
รถสปอร์ตสีแดงฉูดฉาดพุ่งไปยังใจกลางเมืองและจอดอยู่นอกซอยที่ทั้งสองใช้หลบหนีจากฝูงชน
เหอไป๋ปิดปากและอยากจะอาเจียน
“แม้ว่าพ่อของฉันจะไล่ฉันออกจากฮวานตู๋ แต่เขาก็ให้รถหรู บ้านและเงินอีกมากมายให้ใช้ได้ทั้งชีวิต” เต๋อชูเหอปลดเข็มขัดนิรภัยและหันหน้าไปมองเหอไป๋ “คุณชอบรถคันนี้ไหม? มันเจ๋งไหมล่ะ?”
เหอไป๋เปิดขวดน้ำและดื่มมันอย่างช้า ๆ เขาระงับความรู้สึกคลื่นไส้และพูดอย่างมึน ๆ ว่า “คุณ..”
“อะไร?” เต๋อชูเหอสอดนิ้วของเขาผ่านเส้นผมของตนเอง โดยที่ร่างกายของเขาเอียงไปครึ่งหนึ่ง กระดุมเสื้อเชิ้ตสองเม็ดของเขาถูกปลดออกเผยให้เห็นเส้นไหปลาร้าที่เซ็กซี่ เนื่องจากเสื้อรัดรูปเล็กน้อย เส้นรอบเอวที่เซ็กซี่ของเขาก็เผยให้เห็นอย่างชัดเจน
“ทักษะการขับรถของคุณแย่มาก” เหอไป๋กระชับฝาขวดน้ำเปิดประตูด้วยมือที่อ่อนหล้าและลงจากรถ จากนั้นเขาก็พยุงตัวโดยวางแขนพิงหลังคารถ และฝังใบหน้าไว้ที่แขนเพื่อบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ
เต๋อชูเหอจ้องไปที่พวงมาลัยด้วยสีนห้าแข็งกระด้าง และใบหน้าไร้ความสุข จากนั้นเขาก็ออกจากรถ เดินไปหาเหอไป่แล้วสะกิดที่ไหล่ “คุณโอเคไหม?”
เหอไป๋หันศีรษะและมองเขาอย่างไร้ชีวิต
จากนั้นเต๋อชูเหอก็พบว่าใบหน้าของเหอไป๋น่ากลัวขึ้น ริมฝีปากของเขาซีดมาก เขารู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่อยากจะช่วยให้ริมฝีปากแดงขึ้น
นี่มันมาอีกแล้ว อาการใจเต้นระรัวอย่างอธิบายไม่ได้ เขาอกหน้าอกด้วยความสงสัย และเลิกคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาก็วางมือข้างหนึ่งไว้ที่ไหล่ของเหอไป๋ อีกข้างจับที่เอวของเขา เต๋อชูเหอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวโน้มตัวไปและค่อย ๆ เลื่อนมือลงไปที่เอวของเหอไป๋…
“คุณกำลังทำอะไร?” เหอไป๋ขมวดคิ้ว
“คุณดูอาการแย่นะ ฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาล” เต๋อชูเหอตอบด้วยใบหน้าที่จริงใจ
เหอไป๋กัดฟัน “นั่นคือเหตุว่าทำไมคุณถึงจับก้นผมงั้นเหรอ”
เต๋อชูเหอตกตะลึงเขามองไปที่มือและเลิกคิ้ว “นี่กันเหรอ? นี่คือด้านหลังของเอวชัด ๆ” ในขณะที่เขาพูดเขาเลื่อนมือลงไปกดที่ก้นของเหอไป๋และตบมันแรง ๆ “นี่สิถึงจะเป็นก้น!”
‘เรื่องทั่วไปแค่นี้ รู้บ้างรึเปล่าฮะ ลูกหมาน้อย’
เหอไป๋ลืมตากว้างและมองไปที่เต๋อชูเหออย่างเหลือเชื่อ จากนั้นเขาก็หันกลับมาเกี่ยวคอของเต๋อชูเหอ กดเขาลงและทุบลงบนตัวเขา “เต๋อชูเหอ คุณนี่มันขยะชัด ๆ” คุณมาจับตัวฉัน… คุณเอาชานมของฉันไป คุณเอากล้องถ่ายรูปของฉันไป และคุณทำให้ฉันถูกรายงานทางหนังสือพิมพ์ คุณส่งข้อความคุกคามฉันกลางดึก คุณทำลายรูปถ่ายของฉัน คุณทำให้ฉันฝันร้าย! และคุณ…
“คุณเคยฝันถึงฉันไหม” ตอนแรกเต๋อชูเหอหยุดนิ่งเพื่อให้เขาทุบตี เมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะจับมือของเหอไป๋ และยกมุมปากขึ้นมองอย่างพึงพอใจ
“ฉันรู้ว่าคุณเป็นแฟนคลับคนหนึ่งของฉัน ไม่สำคัญหรอกว่าพยายามไม่สนใจฉัน ไอดอลกับแฟน ๆ ก็สามารถเป็นเพื่อนกันได”
มือที่จับไหล่และข้อมือของเหอไป๋นั้นใหญ่และอบอุ่น ความแข็งแกร่งที่ใช้ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไป แต่มันทำให้เขาขยับไม่ได้ เขาจึงทำได้เพียงแค่เกาะอยู่บนร่างกายของเต๋อชูเหอ อย่างอดทนเท่านั้น เมื่อเต๋อชูเหอเคยเรียนรู้กังฟู เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เหอไป๋รู้ดีว่า ‘คนฉลาดยอมรับชะตากรรม’ เขาลดเสียงลง “ปล่อยฉันก่อน”
เต๋อชูเหอพอใจกับท่าทางในปัจจุบันของทั้งคู่มาก เขาคว้าตัวและเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“งั้นก็ขอโทษฉันมาก่อน”
“…คุณไม่กลัวถูกปาปารัสซี่ถ่ายภาพแล้วตกเป็นข่าวรึไง “ข่าวเด็ด! ดาราหนุ่มหล่อชื่อดังมีสัมพันธ์ลับกับเพศเดียวกันในซอยลับ?”
“ไม่” เขาพบว่ามันน่าสะอิดสะเอียนมากเมื่อเต๋อชูเหอหัวเราะเยาะเขาเบา ๆ
“อุปกรณ์ตรวจจับก็ไม่ทำงาน ถ้ามีคนผล่มาทางด้านหน้าและด้านหลังจะเห็นได้ชัดเจ คนในซอยก็เจอได้ทันที ที่สำคัญฉันถูกบังคับให้ออกจากวงกรและไม่สามารถเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับตัวเองได้ เฉินหลี่เป็นผู้หญิงฉลาด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เธอรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าต้องทำอย่างไร”
เนื่องจากเต๋อชูเหอไม่รู้สึกอับอาย เหอไป๋จึงไม่สามารถหาวิธีอะไรได้
เหอไป๋หลบเปลือกตาของเขาอย่างเงียบ ๆ แล้วพูดอย่างเงียบ ๆ ว่า “ฉันปวดฉี่”
เต๋อชูเหอหยุด
“และฉันก็เมารถ อยากจะอ้วก”
เต๋อชูเหอคลายตัวเขาหันไปหาถังขยะในตรอกตบหลังเขาเบา ๆ แล้วพูดว่า
“ฉี่และอาเจียนตรงนั้นล่ะกัน ฉันจะคอยระวังให้ ไม่ให้ใครเห็นไป๋น้อยของคุณได้”
เหอไป๋ : “…” จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงกัน
“คุณจะให้ฉันปลดเข็มขัดให้ไหม”
เหอไป๋หันหลังกลับอย่างเด็ดขาดและวิ่งหนีไป เขาพบว่าสาเหตุที่ราชาจอเงินเส็งเคร็งคนนี้แกล้งเขา ก็คงเพื่อแก้แค้นที่ถูกแกล้งหน้าร้านเป็ดย่าง เขาต้องวิ่ง ไม่งั้นวันนี้จะเป็นวันโลกาวินาศของเขา
“กล้องและคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่ในรถของฉัน”
เหอไป๋หยุดอย่างรวดเร็วและดุตัวเองที่โง่เขลาในใจ จากนั้นเขาก็หันกลับและวิ่งกลับไปที่เต๋อชูเหอ เขาจับมือและพูดด้วยความจริงใจว่า “ฉันเป็นแฟนคลับของคุณ ฉันนี่ทึ่มจริง ๆ คุณอยากทานสเต็กไหม? ฉันเลี้ยงเอง อาจจะไม่ใช่สเต็กที่แพงที่สุด แต่ก็แพงกว่าทั่ว ๆ ก็ได้ โอเคไหม”
“เด็กดี” เต๋อชูเหอแตะศีรษะของเขาด้วยความอ่อนโยน
“ฉันได้ยินมาว่าคุณถูกโฮสต์ตัวน้อยรังแก เมื่อไม่นานมานี่เหรอ? อย่าได้กลัวไปเลย ในฐานะพี่ใหญ่ ฉันจะช่วยคุณเอง”
เหอไป๋ : “…” ทำไมเหมือนว่าฉันเคยได้ยินน้ำเสียงของ “พี่ใหญ่” มาก่อน?