Omni Genius – อัจฉริยะสุดขั้ว - ตอนที่ 390
ตอนที่ 390 หนึ่งบทเรียนของเศรษฐกิจ
เมื่อได้ยินคำถามแรกนี้ ฉินฟางก็เป่าปากและคลี่ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจทันทีที่มันไม่ยากเกินไป “ถ้าถามผม ผมจะตอบว่ามันเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศไทย เมื่อค่าเงินบาทลดลงอย่างมากอันเกิดจากการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ตัดการอิงเงินสกุลจากดอลล่าห์สหรัฐ เพราะพวกเขานั้นไม่เหลือเงินสำรองของประเทศที่จะใช้พยุงค่าเงินบาทอีกแล้ว จากการบริหารนโยบายที่ผิดพลาดที่พยายามจะใช้การแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของพวกเขาแบบคงที่ ในมุมมองของผมประเทศไทยคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด พวกเขาหวังจะกลายเป็นเสือเศรษฐกิจตัวที่ห้าของเอเชีย แต่พวกเขานั้นเร่งรัดมันจนเกินไป ประกอบกับการคอรัปชั่นภายในประเทศ ที่ทำการปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์หลายๆอย่างง่ายๆโดยแทบไม่ประเมินอะไรเลย หรือไม่ก็ประเมินอสังหาเกินราคา และปล่อยกู้เกินวงเงินไปมาก ทำให้ประเทศตกเข้าไปอยู่ในสภาวะที่มีหนี้สาธารณะสูงมากๆ ประเทศไทยนั้นหากให้พูดตามตรง ผมขอบอกว่ามันอยู่ในสภาพล้มละลาย ก่อนการล่มสลายของค่าเงินปีหรือสองปีด้วยซ้ำ และเมื่อเป็นแบบนี้วิกฤตดังกล่าวเลยเริ่มขยายออกนอกประเทศไทย ส่งผลกระทบไปทั่วประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเริ่มลามไปเรื่อยๆ” ฉินฟางอธิบายอย่างยาวเหยียด
“เห อธิบายได้ดีนะ … แต่ฉันว่าเธอลืมไปอย่างหรือปล่าว ?” ศาสตราจารย์เหลียงถามฉินฟางด้วยรอยยิ้ม
ซึ่งเมื่อเจอคำถามนี้นั้น ฉินฟางก็ทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะถามว่า “คุณกำลังพูดถึงเรื่องปีศาจในคราบนักบุญงั้นหรอ ?”
“เธอนี่เข้าใจตั้งฉายาให้เขาจริงๆ …..” ศาสตราจารย์เหลียงปรบมืออย่างชอบใจ ก่อนจะพยักหน้า
“ผมไม่เห็นว่าเขาจะมีความสำคัญอะไร เขาก็แค่คนที่มองภาพรวมของเศรษฐกิจออก และเข้ามากระทืบประเทศที่มันล้มอยู่แล้ว ให้สาหัสยิ่งขึ้นไปอีก … ถามผมวิกฤตครั้งนี้มันเกิดจากตัวของแต่ละประเทศเองทั้งนั้น คนพวกนี้มันก็แค่ฝูงไฮยีนาที่เข้ามารุมแย่งเนื้อที่พร้อมเสิร์ฟบนจานแล้วต่างหาก ….” ฉินฟางกล่าวอย่างไม่ไยดี
“พูดได้ดี…” ศาสตราจารย์เหลียงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“คำถามที่สอง และคำถามสุดท้าย ช่วยประเมินเศรษฐกิจโลกในตอนนี้ให้ฉันฟังหน่อย …” ศาสตราจารย์เหลียงกล่าว เขาชักสนใจเด็กคนนี้ขึ้นมาจริงๆแล้ว
มันเป็นอีกครั้งที่ฉินฟางเป่าปาก และครั้งนี้เป็นการเป่าปากอย่างโล่งอก เพราะคำถามไม่ได้ยากเกินไปและเป็นคำถามสุดท้ายแล้ว
ฉินฟางสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเริ่มร่ายยาวอธิบายทุกอย่าง แบบละเอียดยิบ ภาพรวมทุกๆอย่าง และแม้กระทั่งความเห็นของเขาอย่างคร่าวๆในด้านความเสี่ยงทั้งหมดของเศรษกิจโลกในปัจจุบัน และอนาคต …..
แต่อย่างไรก็ตามฉินฟางนั้นสามารถอธิบายแค่ส่วนของในบทเรียนเท่านั้น คำพูดของเขาหลายๆคำนั้นล้วนอิงมาจากบทเรียน ไม่ต้องให้ศาสตราจารย์เหลียงเอ่ยบอก เพราะฉินฟางเองก็รู้ตัวเองดี
เขาได้แต่รอการประเมินจากศาสตราจารย์เหลียงอย่างทำใจเท่านั้น เพราะเขาไม่สามารถจะทำอะไรได้ดีมากไปกว่านี้อีกแล้ว สิ่งที่เขาตอบไปนั้นเป็นความรู้ทั้งหมดที่เขาพยายามทำความเข้าใจมาจากหนังสือที่เขาอ่าน เขาทำได้ดีที่สุดเท่านี้จริงๆ ในตอนนี้ ….
ระหว่างที่ฉินฟางนั่งภาวนาไปได้ชั่วครู่นั้น ศาสตราจารย์เหลียงก็ค่อยๆเปิดปากของตัวเองขึ้น “ถึงความคิดที่เธอพูดออกมามันออกจะดูทื่อๆ ตรงๆไปสักหน่อย แต่ก็นับว่าความรู้ของเธอนั้นแน่นกว่าเด็กทั่วๆไปมากๆเลยแหละ หากให้ฉันประมาณก็คงความรู้ในระดับพวกที่เรียกได้ว่าชำนาญงานสายนี้แล้ว แต่ยังไม่ใช่พวกที่ประสบการณ์สูง ….” ศาสตราจารย์เหลียงชื่นชมฉินฟางอย่างมาก สิ้นคำพูดของเขาเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหูของฉินฟางทันที
สิ้นเสียงแจ้งเตือนก็มีความรู้จำนวนมหาศาลค่อยทยอยๆถูกส่งเข้ามาในหัวของฉินฟาง ความรู้พวกนี้ถูกส่งเข้ามาราวกับการซินข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ลงไปบนไอโฟน