Omni Genius – อัจฉริยะสุดขั้ว - ตอนที่ 389
ตอนที่ 389 ศาตราจารย์
ฉินฟางนั้นหันไปตามเสียงสวัสดีของบรรณารักษ์ทันที ซึ่งตอนแรกที่เขาหันไปนั้น เขานึกว่าจะพบกับชายแก่ผมหงอกสีขาวๆ ที่มีผิวหนังเหี่ยวย่น แต่มันกับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง คนที่เขาหันไปเจอนั้นยังหนุ่มแน่นมากๆ หากฉินฟางคาดคะเนด้วยสายตาเขาคงต้องคิดว่าคนๆนี้นั้นพึ่งจะอายุใกล้ๆสามสิบด้วยซ้ำ
คนๆนี้เข้ามาพร้อมกับบุคลิกที่ดูสงบนิ่ง ใบหน้าแทบไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ หากแต่ท่าทาง และแววตาที่ฉินฟางมองเห็นนั้นก็แฝงไปด้วยความรู้ ความมั่นใจ และเชื่อมั่นในตัวเองอย่างสูง
หลังจากสังเกตท่าทางของคนที่บรรณารักษ์ผู้นี้เรียกว่าศาสตราจารย์อยู่พักหนึ่ง ฉินฟางก็ลุกจากเก้าอี้ที่เขานั่งอ่านนั่งสืออยู่ และรีบเดินเข้าไปร่วมวงสนทนาทันที
“คนๆนี้หรือปล่าวที่คุณจะให้มาถามคำถามเพื่อทดสอบผม ?…” ฉินฟางเอ่ยถามกับบรรณารักษ์ด้วยรอยยิ้ม
บรรณารักษ์นั้นค่อนข้างแปลกใจ ที่ฉินฟางรู้เรื่องนี้ หากแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขาทำเพียงพยักหน้าเป็นเชิงตอบคำถามฉินฟาง ก่อนจะผายมือเริ่มแนะนำ ผู้ที่เขาเรียกว่าศาสตราจารย์ให้รู้จัก “ขอแนะนำเลยแล้วกัน นี่ศาสตราจารย์เหลียงจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง พอดีเขาอยู่ระหว่างช่วงลาพักร้อนที่นี่ แต่เหล่าคณบดีของมหาลัยได้ไปขอร้องให้เขาช่วยมาเป็นอาจารย์พิเศษให้มหาลัยเราน่ะ …”
“ผมฉินฟาง เป็นนักศึกษาของที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักครับศาสตราจารย์” ฉินฟางพยักหน้าและกล่าวอย่างสุภาพตามมารยาท
“ตามสบายๆ เธอนี่เองสินะ ที่หมอนี่มันขอให้ฉันช่วยทดสอบน่ะ …” ศาสตราจารย์เหลียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เศรษฐกิจระดับมหภาคงั้นหรอ มันไม่มีอะไรที่ง่ายเลยนะในหัวข้อนี้ เธอจะไหวจริงหรอ ?”
“ไม่ไหวก็คงต้องไหวแล้วแหละครับศาสตราจารย์ ผมอยากจะผ่านการทดสอบนี่ แล้วเอาหนังสือทั้งหมดนี่กลับไปอ่านสักที ….” ฉินฟางกล่าว “แล้วก็ในเมื่อรับคำท้ามาแล้ว ผมต้องชนะ เผอิญผมเกลียดความพ่ายแพ้น่ะครับ …!!!!”
ตอนแรกที่ศาสตราจารย์เหลียงได้ยินเรื่องที่บรรณารักษ์กล่าวมา และจะขอให้เขาช่วยทดสอบนั้น เขายังกล่าวกับบรรณารักษ์เลยว่า หากให้เขาทำการทดสอบจริงๆ คนที่ต้องมานั่งตอบคำถามของเขาคงจะไม่มีวันผ่านการทดสอบเป็นแน่นอน
แต่ตอนนี้ศาสตราจารย์เหลียงชักไม่แน่ใจคำพูดที่ตัวเองได้กล่าวไปในตอนต้นแล้ว เขาจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มตรงหน้าของเขานี้อย่างไม่วางตา แม้ว่าดูผิวเผินเพียงภายนอก เด็กหนุ่มคนนี้จะดูเป็นเด็กนักศึกษาธรรมดาๆที่ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ศาสตราจารย์เหลียงกับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสได้เลยจากนักศึกษาคนไหน …
“หึหึ นี่มันน่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ ….” ศาสตราจารย์เหลียงที่ตอนแรกไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก พึมพำกับตัวเองเบาๆ และรู้สึกว่าเขาชักจะสนุกกับเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว
“เธอพร้อมจะเริ่มเมื่อไหร่ละ ?” ศาสตราจารย์เหลียงเอ่ยปากถามฉินฟาง ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นไปหมด จนไม่อาจจะรอที่จะประลองปัญญากับเด็กหนุ่มคนนี้ได้อีกแล้ว
“ผมขอเวลาอีกสักครึ่งชั่วโมงก็แล้วกันครับศาสตราจารย์ ขอเวลาให้ผมได้เตรียมใจกับเตรียมตัวสักหน่อย …” ฉินฟางกล่าว ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง และเริ่มทำความเข้าใจต่อ
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงอย่างรวดเร็ว ….
บรรณารักษ์ได้นำศาสตราจารย์เหลียง และฉินฟางไปยังบริเวณมุมสงบที่สุดของห้องสมุดทันที เพื่อให้พวกเขาทั้งสองไม่มีใครกวน และได้มีเวลาสำหรับการประลองปัญญากัน
“เธอนี่เป็นเด็กที่แปลกจริงๆ สารภาพเลยว่าไม่เคยมีเด็กนักศึกษาคนไหนทำให้ฉันสนใจได้เพียงแค่มองผ่านแววตาแบบนี้ ….” ศาสตราจารย์เหลียงกล่าวชื่นชมซือเฟิง “แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฉันจะมองถูกหรือผิด ก็คงขึ้นอยู่กับคำตอบของเธอ ที่จะตอบคำถามฉันต่อไปนี้ …”
“คำถามแรกวิเคราะห์วิกฤตการเงินในเอเชีย ค.ศ. 1997 ให้ฉันฟังหน่อย และบอกทีว่า เธอมีความเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนั้น ….” ศาสตราจารย์เหลียงถามอย่างรวดเร็ว