God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 983
ตอนที่ 983
เหยาฮุยเฉินและคณะปรากฏตัวบนลานเหนือค่ายอาคมเคลื่อนย้าย
พวกเขาค่อยได้เห็นสภาพแวดล้อมรอบด้าน
ค่ายอาคมศูนย์กลางมีม่านพลังวิญญาณปกคลุม เพราะดังนั้นพื้นที่ตรงนี้จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ
“ฝนตกหนักไม่น้อย” นักปรุงยาคนหนึ่งถอนหายใจ
“ได้ยินว่าเป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว”
“แถบนี้ก็อากาศเป็นเช่นนี้ ไม่แปลกใจหากจะตกไม่หยุดหลายสิบวัน…”
นักปรุงยาเหล่านี้ที่มารวมตัวกัน กล่าวได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของหุบเขาโอสถก็ไม่ผิด
พวกเขามีทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่แล้วก็ยังไม่ใช่ชราภาพ
ผู้ฝึกตนระดับสูงจึงสามารถคงสภาพรูปลักษณ์เอาไว้ได้
“หือ? จ้าวสำนักไปไหนแล้ว?” นักปรุงยาคนหนึ่งพบเห็นความผิดปกติ
“เมื่อครู่ท่านเปิดมิติไปยังร้านต้นตำรับพร้อมพวกผู้อาวุโสแล้ว”
“เอ่อ… เหมือนว่าจ้าวสำนักจะปรารถนาไวน์หยกนั่นมาก…”
ที่บนลานกว้างเหนือค่ายอาคมเคลื่อนย้ายศูนย์กลาง การรับรู้ของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบด้วย
หลังมีคนกล่าวบอก พวกเขาจึงได้เห็นว่าเหยาฮุยเฉินกับผู้อื่นไปกันเรียบร้อยแล้ว
หากคิดอยากเชี่ยวชาญเปิดเส้นทางมิติโดยอิสระ อย่างน้อยก็ต้องแข็งแกร่งราวขอบเขตราชัน
แม้ว่าขอบเขตทดสอบเต๋าก็สามารถทำได้ แต่มันมีอันตราย
ดังนั้นนักปรุงยาที่เหลือบนลานกว้างจึงเริ่มเดินทางมุ่งหน้าเข้านครจิ่วเหยากันตามปกติ
“เมื่อครู่นั่นใช่นักปรุงยาของหุบเขาโอสถหรือไม่?” พบเห็นแผ่นหลังกลุ่มคนหายเข้าเมืองไป ทหารยามคนหนึ่งจึงกล่าวถาม
“ใช่ และเป็นระดับสูงด้วย” หัวหน้าหน่วยรักษาการณ์พยักหน้ารับเผยความรอบรู้ของตนเอง
นักปรุงยาแต่ละระดับของหุบเขาโอสถจะมีเครื่องแบบแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงจดจำง่าย
“ไวน์หยกที่ร้านต้นตำรับส่งผลให้ผู้อาวุโสเหล่านี้ของกองกำลังใหญ่ไม่อาจนั่งเฉยได้” หัวหน้าหน่วยรักษาการณ์ถอนหายใจกล่าวออก…
เหยาฮุยเฉินและเก้าผู้อาวุโสซึ่งเปิดมิติเดินทางถึงประตูหน้าร้านต้นตำรับ พวกเขาต่างได้กลิ่นหอมอันพิเศษของไวน์หยก
“ไวน์หยก!” เหยาฮุยเฉินเผยดวงตาเป็นประกาย
แม้ไม่เคยได้ดื่ม แต่เขาจดจำกลิ่นของมันได้
คนทั้งสิบเร่งรีบก้าวเดินเข้าไปในร้านก่อนจะได้เห็นชั้นที่วางเรียงรายด้วยขวดซึ่งแทบไม่เคยได้เห็น
โดยไม่ลังเล พวกเขามุ่งตรงไปยังชั้นและคว้ากันมาคนละขวด
ผลึกวิญญาณในบัญชีโทรศัพท์วิเศษเลือนหายโดยทันที
กลุ่มนักปรุงยาจากหุบเขาโอสถ จะกล่าวว่าเป็นกลุ่มผู้มั่งมีของบรรดาลูกค้าร้านต้นตำรับก็ไม่ผิด
เพราะระบบรีไซเคิลของโทรศัพท์วิเศษสามารถรับเม็ดยาด้วย และราคาที่ให้ก็ไม่ใช่น้อย
“ในที่สุด ในที่สุดข้าก็ได้ไวน์หยกมาครอง!” ผู้อาวุโสใหญ่เผยท่าทีตื่นเต้น
เขาคาดหวังจะได้รับไวน์หยกก็เพราะความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิตของมัน
ตอนนี้ความปรารถนาได้รับความเติมเต็ม เขาจะปลื้มปริ่มก็ไม่ผิด
เพราะไวน์หยกเปิดขายอิสระ ลูกค้าชั้นแนวหน้าของร้านจึงมาเยือนกันไม่ขาด
จุดประสงค์ของพวกเขาไม่ใช่อะไรที่ยากคาดเดา
หยวนก่วยที่ปิดประตูร้านตนเองเรียบร้อย ตอนนี้เขาเริ่มได้กลิ่นหอมเย้ายวนของไวน์ปรากฏในตรอก
มันไม่เกินเลยหากจะกล่าว ว่าแทบทั้งนครจิ่วเหยาต่างก็ได้สูดดมกลิ่นนี้
เมื่อเดินเข้าไปยังร้านต้นตำรับ กลิ่นหอมรุนแรงจึงปะทะเข้าที่ใบหน้า
ไวน์หยกก็คือไวน์ ไวน์คือการหมักบ่มของผลไม้ ดังนั้นกลิ่นของมันจึงเป็นผลไม้หอมหวาน
และมันไม่ได้มีความฉุนของไวน์แต่อย่างใด แต่เป็นความหอมอันสงบเหมือนดังซากุระ
ลูกค้าทั่วไปหลายคนเข้ามาในร้านพร้อมปลายจมูกกระตุกสูดดม
เพราะพวกไม่อาจจ่ายได้ไหว ดังนั้นรับรู้กลิ่นก็พอแล้ว
“เถ้าแก่หยวน” หยวนก่วยมาถึง โพธิสัตว์ร่างท้วนของภูเขาจักรวาลจึงเข้ามาทักทาย
และยังมีโพธิสัตว์อีกสองคนร่วมทางมาด้วย
พวกเขาเหล่านี้เป็นขาประจำทานอาหารที่ร้านน้อยหยวนก่วย ทั้งสองฝ่ายจะเรียกว่าคุ้นเคยกันดีก็ใช่
หยวนก่วยพยักหน้ารับโดยไม่กล่าวอะไรตอบ
โพธิสัตว์ทั้งสามก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะนิสัยของหยวนก่วยก็เป็นเช่นนี้
“เถ้าแก่หยวนพอจะทำไวน์ที่คล้ายคลึงกับไวน์หยกได้หรือไม่ พวกเรายินดีไปร่วมดื่มพร้อมทานอาหารทุกวันเป็นแน่” โพธิสัตว์ร่างท้วนเผยเสียงหัวเราะพลางถือขวดที่เหลือไวน์หยกอยู่ครึ่งหนึ่งในมือ
เพราะเป็นโพธิสัตว์ของภูเขาจักรวาล หนึ่งแสนผลึกวิญญาณจึงใช้จ่ายได้โดยง่ายดาย
ไม่แปลกหากเขาจะซื้อและดื่มมันเสียที่นี่
“ยังไม่อาจทราบ” หยวนก่วยส่ายศีรษะ “ข้ายังไม่ได้ลิ้มลองรสชาติ ตอนนี้ต้องพิจารณาก่อน”
นิสัยของหยวนก่วยยังคงเข้มงวดเหมือนดังเคย
ตรงส่วนนี้จึงคล้ายคลึงกับลั่วฉวน
เพียงแต่หยวนก่วยนั้นพุ่งเน้นความสนใจทั้งหมดไปกับฝีมือการทำอาหารของตน
“เช่นนั้นพวกเราไม่รบกวน”
สามโพธิสัตว์ถอยไปนั่งที่เครื่องเล่นเกมเสมือนจริง
หยวนก่วยมาถึงชั้นที่มีไวน์หยกวางตั้งอยู่ จากนั้นจึงหยิบมาขวดหนึ่ง
เหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องเลือก เพราะสินค้าที่มีขายในร้านต้นตำรับเหมือนกันไม่มีใดผิดเพี้ยน
อย่างไรแล้วก็เป็นการผลิตจำนวนมาก หากแตกต่างกันก็คงแปลกแล้ว
แม้ว่ายังเร็วไปที่จะดื่มไวน์หยก แต่ทั้งร้านก็คึกคักประหนึ่งมีงานเลี้ยงแล้ว
ตอนนี้เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงยังมีที่ว่าง หยวนก่วยจึงหาที่นั่งโดยง่าย
ก่อนอื่นคือล้างปากด้วยของพิเศษที่เตรียมไว้เพื่อเปิดการรับรู้อย่างเต็มที่
จากนั้นจึงสูดลมหายใจ หลับตาลงเชื่องล้า และสงบจิตใจ
เสียงรอบด้านลดทอนลงจนกระทั่งเลือนหาย
ในโลกนี้ราวกับเหลือเขาเพียงแค่คนเดียว
หลังผ่านไปสิบวินาที เขาค่อยลืมตาขึ้น
นัยน์ตานั้นดำขลับไม่มีความเคลื่อนไหว เป็นสภาวะสงบนิ่งอันยอดเยี่ยม
จากนั้นเขาจึงเปิดฝาขวดไวน์หยก
กลิ่นหอมเย็นเยือกปรากฏปะทะเข้ากับใบหน้า ขณะนี้เขารู้สึกเหมือนได้เดินเข้าสู่ป่าใหญ่
ถัดจากนั้นจึงเป็นกลิ่นผลไม้จากป่าที่ฟุ้งกระจายจนทำให้ต้องมัวเมา
เพียงแค่กลิ่น หยวนก่วยก็ได้รับประสบการณ์อันน่าทึ่งแล้ว
เมื่อพลิกฝ่ามือ มันจึงเกิดแก้วโปร่งแสงที่ทำขึ้นจากน้ำแข็งวิญญาณ
จากนั้นจึงเทไวน์ลงไป
ของเหลวใสกระจ่างเหมือนดังหยกบริสุทธิ์งดงามพร้อมกลิ่นหอมเริ่มฟุ้งกระจาย
โดยไม่คิดเสียเวลา หยวนก่วยยกดื่มหมดแก้ว
กลิ่นของผลไม้หลากหลายนำพากระจายทั่วปาก จากนั้นจึงตามมาด้วยความเย็น
หลังดื่มไปแก้วหนึ่ง หยวนก่วยรู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณของตนเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น สภาวะทางร่างกายก็สมบูรณ์มากขึ้น
เขาต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย
เพราะกลิ่นผลไว้ของไวน์หยก เขาไม่ทราบเลยแม้แต่ชนิดเดียว
อีกทางฟากฝั่ง กลุ่มของเหยาฮุยเฉินและเหล่าผู้อาวุโส พวกเขากำลังยกกระดวกไวน์หยกดื่มเข้าไป
“ยอดเยี่ยม!” ผู้อาวุโสใหญ่ร้องออก
รูปลักษณ์เขาเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยขนาดมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ดวงตานั้นราวเป็นประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าก่อนหน้า
ถัดจากนั้น… ถัดจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว
เขาก็ยังเป็นชายชราเช่นเดิม
“หมดแล้วหรือ?” ผู้อาวุโสที่สามเผยความประหลาดใจ
ผู้อาวุโสใหญ่ตรวจสอบถี่ถ้วนก่อนจะยิ้มตอบ “สรรพคุณนี้ดีเยี่ยม”
ไม่ใช่ผู้ฝึกตนทุกคนจะใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ของตนเอง
เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งหุบเขาโอสถก็เป็นเช่นคนนั้น
ไวน์หยกสามารถเพิ่มพลังชีวิต เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมให้เยาว์วัยลงแต่อย่างใด ดังนั้นรูปลักษณ์ของเขาจึงไม่เปลี่ยน
“ถัดจากนี้พวกเราคงได้ทำอะไรกันอีกมาก” เหยาฮุยเฉินเผยท่าทีจริงจัง
เก้าผู้อาวุโสแห่งหุบเขาโอสถพยักหน้ารับ