My MCV and Doomsday - ตอนที่ 468
Chapter 468: การโจมตีของหุ่นเชิด
คุณหลี่ยืนมึนงงอยู่ตรงนั้น แต่มันก็ไม่สำคัญอะไรสำหรับเจียงลู่ฉี เมื่อเขาไม่ให้ความสนใจกับเขาอีกต่อไปและหลังจากนั้นเจียงลู่ฉีก็เดินไปช่วยซูกวงฉีพร้อมกับมือของเขา “ศาสตราจารย์ซูครับ ได้โปรดขึ้นมาบนรถเถอะครับ”เจียงลู่ฉีรู้สึกขอบคุณอย่างมาก เนื่องจากสมุดโน้ตที่ศาสตราจารย์ซูที่ให้กับเขามาซึ่งทำหน้าที่สำคัญในภารกิจ
“ขอบคุณมาก”ซูกวงฉีพยักหน้าและยิ้มออกมา
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นต่างมองไปที่พวกเขาอย่างอิจฉา พวกเขาต่างรู้ดีว่า ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่กับศาสตราจารย์ซูแล้วละก็ ไม่มีใครในพวกเขาสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้ ใครคนอื่นจะสามารถเข้าพื้นที่ A มาช่วยเหลือพวกเขาได้ยังไงกัน?
หลังจากศาสตราจารย์ทั้งสองคนขึ้นไปบนรถมินิบัสของเจียงลู่ฉี ทหารทั้งสองคนก็ขับรถไปจอดด้านข้าง
“พวกคุณทั้งหมดขึ้นมาบนรถเมล์นี่ครับ พวกเราจะตามกัปตันเจียงไปตลอดทาง”กัปตันตะโกนกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมด
เจียงลู่ฉีไม่ได้พูดอะไรออกมา สุดท้ายแล้วรถมินิบัสของเขาก็มีพื้นที่จำกัดและน้องสาวของเขาก็ยังคงนอนหลับลึกอยู่ ในอีกทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้เชื่อใจในตัวเขาจริงๆ ดังนั้นการติดตามด้วยรถทั้งสองคันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
คุณหลี่หงุดหงิดที่ไม่มีใครสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูดออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว ‘พวกเขากล้าที่จะทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวได้ยังไงกัน?’
ในตอนสุดท้ายเขาก็ยังคงต้องกล้ำกลืนความโกรธเคืองและตามพวกเขาไป
“ทำไมพวกเราถึงต้องไปโรงพยาบาลกัน? บอกฉันมาสิว่าทำไม…เขาไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในโรงพยาบาลเลยงั้นเหรอ?”คุณหลี่ยังคงบ่นต่อไป “นายมันก็เป็นแค่พวกไอ้โง่เง่า! รอก่อนเถอะ! ทันทีที่ฉันพบกับจางเกาเฮอก่อนเถอะ ฉันจะสอนบทเรียนกับนายเอง!”คำพูดเหล่านั้นต่างพูดตรงกับทหาร ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์ในการสั่งการเจียงลู่ฉี เขาก็ยังคงไม่คาดการณ์ว่าทหารจะตามคุ้นกันเขาต่อไป
ทหารสองคนที่อยู่ในห้องคนขับต่างหันกลับมามองที่เขา ทหารที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนโดยสารก็เป็นคนที่เจียงลู่ฉีช่วยมาก่อนหน้านี้ เขาก็จ้องไปที่คุณหลี่และตะโกนออกมา “หุบปากซะ! นายมีสิทธิ์อะไรที่จะบ่นกัน? ถ้าพวกเราสามารถยื้อต่อได้แล้วละก็ พวกเราก็คงจะทำมันไปแล้ว นายไม่รู้หรือว่าพวกเราแทบไม่มีกระสุนแล้ว? ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้สหายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันฉันมาได้เสียสละชีวิตไป ร่างกายของเขายังคงนอนอยู่ด้านนอกนั่น นายยังต้องการที่จะบ่นกับพวกเราอีกงั้นเหรอ?”ทหารหนุ่มไม่สามารถที่จะเก็บกักความโกรธเคืองของเขาไว้ได้อีกต่อไปและตอกกลับไป ในความคิดของเขา ถ้าเขาไม่ได้พบกับเจียงลู่ฉีแล้วละก็เขาก็คงตายไปนานแล้ว
คุณหลี่ไม่ได้คาดคิดว่าทหารจะกล้าด่าเขา แม้ว่าเขาจะค่อนข้างหนุ่ม อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่ทหารหนุ่มที่กำลังจ้องมาที่เขาพร้อมกับดวงตาที่เฉีบแหลมแล้ว คุณหลี่ก็หวาดกลัว สุดท้ายแล้วเขาก็ขี้ขลาดตาขาวเหมือนกับหนูตัวหนึ่ง
“การปกป้องพวกเราคือหน้าที่ของนายนะ”เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ
ทันทีที่ทหารหนุ่มได้ยินคำพูดนั้น เขาก็รู้สึกหงุดหงิด เขากระโดดขึ้นมาจ้องคุณหลี่ที่หวาดกลัวแทบตาย “นายต้องการที่จะทำอะไร?”
“อย่าทำแบบนั้น!”ทหารที่อยู่ในที่นั่งคนขับผลักหลังของทหารหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง
และหลังจากนั้นคุณหลี่ก็นั่งอยู่ตรงมุมรถและไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก แต่เขาก็รู้สึกหงุดหงิด เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามองไปยังผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ‘กลุ่มคนไร้ประโชน์เอ้ย’เขาพูดกับตัวของเขาเอง
ในครั้งนี้ รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็สตาร์ทรถ หลังจากที่ศาสตราจารย์ซูกวงฉีมาถึงพื้นที่ปลอดภัย กองทัพก็ได้จัดสรรให้หมอได้ตรวจสอบสุขภาพของเขา ด้วยเหตุนี้นี่เอง ศาสตราจารย์เฒ่าจึงคุ้นเคยกับถนนที่ตรงไปยังโรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงนำทางไป
“โอ้ กัปตันเจียง ทำไมคุณถึงต้องการที่จะไปยังโรงพยาบาลกัน? มันเป็นเพราะคุณเจียงงั้นเหรอ?”ซูตงถามหลังจากที่เห็นเจียงจู้อิง ถึงแม้ว่ามันเหมือนว่าเจียงจู้อิงกำลังหลับอยู่ ซูตงก็รู้ดีว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ
“ใช่ครับ ผมได้ยินมาว่าพื้นที่ปลอดภัยเซียหยวนได้พัฒนาเซรุ่มที่สามารถใช้ได้ในช่วงการวิวัฒนาการระดับ 2 น้องสาวของผมกำลังประสบกับการวิวัฒนาการของเธออยู่”เจียงลู่ฉีตอบกลับอย่างซื่อสัตย์พร้อมกับน้ำเสียงที่ใจเย็น เขารู้สึกว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังอะไรกับศาสตราจารย์ทั้งสอง พวกเขาอาจจะมีข้อมูลที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยเขาได้
แน่นอนว่าซูตงพยักหน้าและพูดออกมา “มันเป็นเรื่องจริง ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อนบ้าง แต่มันไม่ใช่โครงการของพวกเรา มันพูดกันไว้ว่าเซรุ่มประเภทนี้จะสามารถกระตุ้นความหลากหลายของการวิวัฒนาการเซลล์ของผู้ที่จะเป็นผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะผลิตสารประกอบเซรุ่ม จำนวนของมันก็มีเพียงแค่เล็กน้อยและไม่สามารถที่จะใช้ได้อย่างแพร่หลาย”
“ครับ”เจียงลู่ฉีพยักหน้า
เขาเชื่อว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล โชคดีที่ในโลกที่เลวร้ายเช่นนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังคงสามารถวิจัยสิ่งเหล่านี้ได้และพวกเขาก็ได้ทำผลงานจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคริสตัลวิวัฒนาการหรือเซรุ่ม พวกมันต่างเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอย่างมาก รวมทั้งพืชผักผลไม้และผลไม้ที่ปลูกขึ้นมาก็ต้องขอบคุณนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น
จากเรื่องนี้ ผลลัพธ์ของการวิจัยก็อาจจะปรากฏมากยิ่งขึ้น เจียงลู่ฉีเชื่อว่าเขาก็จะค่อยๆปลดล็อคการวิจัยอันใหม่ผ่านฟังก์ชั่นใหม่ของห้องปฏิบัติการทางชีวภาพและห้องปฏิบัติการเพาะพันธุ์พืช
ถึงแม้ว่าเขาจะได้อ่านสมุดโน้ตที่เป็นไปในทางเลวร้ายเกี่ยวกับชีวิตในโลกที่ล่มสลาย เจียงลู่ฉีก็เชื่อว่ามันยังคงมีแสงแห่งความหวังอยู่ อย่างน้อยที่สุดแล้ว เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวและ MCV ของเขาก็เป็นความหวังและเป็นตัวการันตีว่าเขาและเพื่อนร่วมทีมสามารถที่จะเอาชีวิตรอดในโลกใบนี้ได้
“โฮะ โฮะ!”
รถยนต์สามคันก็ได้ขับไปบนถนนก็เป็นที่ดึงดูดของคนติดเชื้อหลายต่อหลายคนในเวลาไม่นาน ไม่เพียงแค่นั้น มันก็ยังมีคนติดเชื้อที่มาจากตึกรามบ้านช่องและถนนมากขึ้นไปอีก คนติดเชื้อเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นมาจากทิศทางที่แตกต่างกันไป แต่ดวงตาอันแดงฉานของพวกมันต่างจดจ้องไปยังรถที่กำลังเคลื่อนที่ทั้งสามคัน
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกมันไป เพียงแค่ตามฉันไปโรงพยาบาลก่อนเป็นอันดับแรก”เจียงลู่ฉีตะโกนออกมา การยิงพวกมันจะเป็นการดึงดูดคนติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้นี่เองมันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะไปโรงพยาบาลก่อนเป็นอันดับแรก
‘โอมมม!’
รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็ขับมุ่งหน้าไปตลอดทางโดยไม่มีการหยุดจอด
“ฮูวว! ฮูวววว!”
อย่างไรก็ตามคนติดเชื้อก็ไล่ตามมาทางพวกเขาในเวลาเดียวกัน ตัวที่ใกล้ที่สุดก็พุ่งเข้าใส่รถคันหนึ่งและส่งเสียงร้องออกมา ใบหน้าอันรังเกียจของมันติดอยู่กับหน้าต่างของรถเหมือนกับว่าพวกมันกำลังจ้องมาที่คนติดเชื้อทั้งหมดที่อยู่ด้านใน
“อ๊า!”คุณหลี่กรีดร้องอกมาและผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์คนที่เหลือที่พวกเขานำมาก็ต่างหวาดกลัวด้วยเช่นกัน
เจียงลู่ฉีก็เหลือบมองไปที่คนติดเชื้อ ในความเป็นจริงหลังจากที่ติดเชื้อแล้ว ดวงตาของพวกมันก็ไร้ร่องรอยของการมีชีวิต ไม่เหมือนกับซอมบี้ที่ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความกระหายอันแข็งกร้า ซอมบี้สามารถที่จะมีสติปัญญาของตัวมันเองได้ แต่หลังจากที่ปรสิตได้เข้าครอบครองร่างกายของมนุษย์แล้ว พวกเขาก็จะไม่ได้ต่างอะไรไปจากหุ่นเชิดที่เคลื่อนไหวได้….