My MCV and Doomsday - ตอนที่ 466
Chapter 466: ขอความช่วยเหลือ
“นายควรที่จะรีบคิดทำอะไรสักอย่างซะ!”ชายวัยกลางคนเร่งออกมา
กัปตันมองไปยังชายคนนั้น เนื่องจากว่าเขาได้เสนอคำแนะนำกับเขามาหลายครั้งแล้ว ร่างกายอันอ้วนท้วมของชายคนนี้เหงื่อไหลออกมาและเขาก็กังวลอย่างมากจนเดินไปรอบๆ กัปตันก็อธิบายกับเขาอย่างใจเย็น “พวกเราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะทำการจัดการกับสถานการณ์นี้ แต่ในตอนแรก พวกเราควรที่จะปกป้องคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความปลอดภัยในตอนนี้…”
“เลิกพูดไร้สาระซ้ำๆได้แล้ว! พวกเราตกอยู่ในอันตรายนะ! นายไม่เห็นเหรอว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน?”ชายวัยกลางคนพูดขัดกัปตันขึ้นมาอย่างดุเดือด การหวาดกลัวความตายนั้นทำให้การตัดสินใจและเหตุผลของชายวัยกลางคนพังทลายลงไป
ซูกวงฉีขมวดคิ้วและพูดออกมา “หัวหน้าหน่วยหลี่ คุณไม่ควรที่จะทำแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะทหารแล้วละก็ พวกเราก็คงจะตายไปแล้ว! คุณสามารถที่จะสู้กับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้งั้นเหรอ?”
“หุบปากซะ!”คำว่า ‘ตาย’ นั้นส่งผลต่อระบบประสาทของชายวัยกลางคน เขาจ้องไปที่ซูกวงฉีอย่างโกรธเคืองและพูดออกมา “ซูกวงฉี อย่าใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้สูงอายุนะ! ในสถาบันวิจัย ฉันไม่เคยจำกัดอิสระของนายเลยแม้แต่ครั้งเดียว! นายคิดเหรอว่าฉันกลัวนายหน่ะ? นั่นเป็นเพราะว่าฉันนับถือในตัวนายต่างหาก!”
และหลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็ตะโกนใส่กัปตัน “บอสของนาย จางเกาเฮอเป็นน้องเขยของฉัน นายไม่รู้งั้นเหรอ? ฉันต้องการที่จะให้เขาพบกับฉันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้!”คุณหลี่รู้สึกตื่นเต้น น้องเขยของเขารับผิดชอบพื้นที่ A แต่คุณหลี่ไม่ได้ถูกคุ้มกันไปยังพื้นที่ปลอดภัย เขากับติดอยู่ในตึกนี้แทนและเขาก็ยังไม่เห็นทีมช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย
ศาสตาจารย์ซูเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากคำพูดและท่าทางของคุณหลี่ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่รู้จะสวนกลับอย่างไรดี ดังนั้นเขาจึงแค่จ้องไปที่คุณหลี่อย่างโกรธเคือง
อย่างไรก็ตามคุณหลี่ก็ไม่สนใจเกี่ยวกับซูกวงฉีหรือความรู้สึกของศาสตราจารย์คนอื่น ตราบเท่าที่เขาสามารถเอาชีวิตรอดได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะโอเคสำหรับเขา มันเป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่ได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับความหวาดกลัวเช่นนี้ สำหรับเขาแล้ว มันไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตของเขา เขาได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและเขาก็ไม่ต้องการที่จะตาย
“พ่อ อย่าโกรธเลย”ซูตงพูดกับพ่อของเธอ ในโลกที่ล่มสลายเช่นนี้ ธรรมชาติด้านหนึ่งของมนุษย์ก็จะถูกเปิดเผย ซูกวงฉีก็ถอนหายใจออกมาและหันกลับไป ถึงแม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลายากลำบาก ศาสตราจารย์ซูก็ไม่มั่นใจ
‘ฉันหวังว่าทีมช่วยเหลือจะมาที่นี่เร็วๆนะ…’พร้อมกับเรื่องทั้งหมดควบคู่ไปกับอาการบ้าคลั่งของคุณหลี่กำลังทำลายเหตุผลของทุกคนลงไป
…..
โชคดีที่พร้อมกับความช่วยเหลือของหลันซิหยู่ ทีมฉี่หยิงจึงสามารถหาสถานที่ที่เหมาะสมที่พวกเขาสามารถลอบเข้าไปข้างในได้
พื้นที่ A และ B ซึ่งระบุตำแหน่งอยู่บนภูเขาที่จริงแล้วมันเคยเป็นระแวกที่มีคฤหาสน์จำนวนมากรวมทั้งพื้นที่ที่มีทิวทัศน์สวยงาม หลังจากวันโลกาวินาศ ตึกมากมายก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยรากฐานเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเสริมการป้องกัน นอกจากนี้ พื้นที่สองบริเวณก็ถูกแบ่งแยกโดยลวดหนามและกำแพงและจุดยิงปืนก็สามารถเห็นได้ทั่วทุกแห่ง มันก็มีโรงอาหารขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังลวดหนาม ไม่มีผู้ติดเชื้อที่สามารถพบได้ในบริเวณนี้ ดังนั้นมีเพียงทีมเล็กที่ประจำการอยู่ที่นี่
เจียงลู่ฉีสั่งให้หยิงรอคอยอยู่ในซอยนี้สักพักหนึ่งและหลังจากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้นอย่างฉับพลันและทำลายลวดหนามด้วยความเร็วสูงและหลังจากนั้นก็หายไปที่ด้านหลังของโรงอาหาร
ทหารตกตะลึงกับภาพที่เห็น แต่พวกเขาก็สายเกินไป เมื่อพวกเขาจะได้ทำอะไร เนื่องจากความเร็วของรถมินิบัสนั้นเร็วมากเกินไป ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกสับสนว่าทำไมคนในรถมินิบัสถึงต้องการที่จะเข้าพื้นที่ A ภายใต้สถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะเมินเฉยกับรถมินิบัส…
“พวกเราทำสำเร็จ!”เจียงลู่ฉีตะโกนออกมา อย่างไรก็ตามหลี่ยู่ซินก็ไม่ได้เปิดเผยการแสดงออก ในทางตรงกันข้าม ความกังวลในดวงตาของเธอก็เพิ่มมากสูงขึ้น
ในตอนนี้พื้นที่ A เต็มไปด้วยรอยเลือดรวมทั้งร่องรอยของการต่อสู้ก็สามารถที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สำคัญสองคนของสถานบันวิจัย ปู่และแม่ของหลี่ยู่ซินก็ถูกจัดสรรให้อยู่ในรีสอร์ทให้เป็นที่พัก เจียงลู่ฉีก็เคยไปเยี่ยมอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เจียงลู่ฉีก็รู้สึกว่ามันไร้ความหมายและเสียเวลาในการที่พวกเขาจะไปที่นั่น
“คนติดเชื้อน่าจะถูกพบโดยพื้นที่บริเวณกองทัพและโรงพยาบาล แต่พื้นที่ของกองทัพแบ่งออกเป็นเขตซ้ายและเขตขวา”หลี่ยู่ซินพยายามที่จะใจเย็นลงและพูดออกมา เธอเคยอยู่ในสถานที่นี้มาก่อนในเวลาสั้นๆ ดังนั้นเธอจึงได้เข้าใจถึงสถานการณ์โดยรวมเล็กน้อย
เดิมทีพื้นที่ A ถูกล้อมรอบโดยกองกำลังติดอาวุธหนักเพื่อป้องกันเครื่องจักรและบุคคลที่สำคัญ อย่างไรก็ตามต้นกำเนิดไวรัสในครั้งนี้ถูกนำกลับมาโดยทหารที่กลับมาจากรังสัตว์ป่า ด้วยเหตุนี้นี่เองหลี่ยู่ซินจึงเดาว่าทหารที่ติดเชื้อเหล่านั้นกำลังอยู่ในโรงพยาบาล
“พวกเขาควรที่จะอยู่แถวๆนี้ ฉันคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเราในการที่จะหาพวกเขาให้พบ”เจียงลู่ฉีพูด
ตราบเท่าที่พวกเขาอยู่ในรถมินิบัสของเขา เจียงลู่ฉีก็ไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับคนติดเชื้อจะโจมตีพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากผ่านมุมตึกไป เจียงลู่ฉีก็บอกให้หยิงหยุดรถและหลังจากนั้นเขากระโดดออกไปด้านนอกรถมินิบัสและเดินเข้าไปใกล้กับศพที่อยู่ด้านข้างถนน ดวงตาของศพยังคงเปิดอยู่รวมทั้งเต็มไปด้วยรอยเลือด บนใบหน้าและร่างกายของศพนั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีน้ำเงินที่สามารถเห็นได้บนผิวหนัง
เจียงลู่ฉีเห็นศพเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดและมาตรวจสอบมันใกล้ๆ เมื่อเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวแจ้งเขาว่าพลังงานที่ไม่รู้จักมาจากพวกมัน หลังจากตรวจสอบอยู่สักพักหนึ่ง เจียงลู่ฉีก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
“พี่เจียง มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอครับ?”จางไฮ่กระโดดลงมาจากรถด้วยเช่นกันและก็ยืนคุ้มกันอยู่ด้านข้างเขา
“ไม่มีอะไร ฉันแค่กำลังตรวจสอบอยู่แค่นั้นเอง”เจียงลู่ฉีพูดในขณะที่ยังคงจดจ้องไปที่ศพนั่นและหลังจากนั้นเขาก็ควักกริชออกมาและกรีดเปิดแขนของศพนั้น
“พี่กำลังทำอะไรอยู่ครับ? พี่เจียง!”จางไฮ่ตะโกนออกมา เขาคิดว่าชายคนนั้นตายแล้ว แต่เขาก็ไม่น่าจะมีนิวเคลียสกลายพันธุ์ อย่างไรก็ตามก่อนที่เสียงของเขาจะหายไป จางไฮ่ก็ตกตะลึง เขาก็เห็นหนอนกำลังคลานอยู่บนกริชของเจียงลู่ฉี!
หนอนตัวนั้นย้อมไปด้วยเลือดและยาวเกือบสิบเซนติเมตรและผอมมาก เจียงลู่ฉีก็สังเกตเห็นมันกำลังเคลื่อนที่อยู่ในเส้นเลือด หนอนตัวนี้ก็ดิ้นไปมาและพยายามที่จะเจาะลงไปที่มือของเจียงลู่ฉีแต่มันก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อเขาจับมันกดลงไปบนพื้น
“นั่นมันบ้าอะไรกัน!?”ดวงตาของจางไฮ่ก็โตขึ้น เนื่องจากหนอนตัวนั้นดูน่ากลัวมาก
“นายควรที่จะยืนห่างๆไว้จะดีกว่านะ”เจียงลู่ฉีพูด
“พี่เจียง ผมว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำมันนะ”จางไฮ่ตอบ
“ฉันหมายว่านายควรที่จะยืนห่างจากร่างกายมันแทนที่จะเป็นหนอนตัวนี้ ถ้าฉันเดาไม่ผิดแล้วละก็ มันน่าจะมีหนอนอีกจำนวนมากอยู่ในศพหนึ่งศพ”เจียงลู่ฉีอธิบาย
ถึงแม้ว่าเขาจะขุดเอาหนอนตัวนี้ออกมา เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่พิเศษ เจียงลู่ฉีก็เชื่อว่าหนอนตัวนี้สามารถที่จะเจาะทะลุผิวหนังได้อย่างง่ายดาย ตราบเท่าที่มันเจาะทะลุเข้าไป คนผู้นั้นก็จะติดเชื้อในทันที หลังจากที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จางไฮ่ก็หวาดกลัวมากและกระโดดหนีไปหลายเมตร
“มันเหมือนกับพวกปรสิตเลย”หลี่ยู่ซินพูดจากหน้าต่าง “ปรสิตหลายตัวสามารถที่จะควบคุมการกระทำของเจ้าของได้ ฉันเดาว่าปรสิตประเภทนี้สามารถที่จะทำให้คนติดเชื้อแข็งแกร่งขึ้น รวดเร็วขึ้นและดุร้ายขึ้น”
“แต่มันไม่เหมือนกับไวรัสที่กลายพันธุ์เซลล์ มันเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตและร่างกายของคนติดเชื้อ นอกจากนี้ซิหยู่พูดถูก เมื่อเธอพูดว่าถ้าผู้บังคับบัญชาหวังไม่ถูกฆ่า อีกไม่นานเขาก็จะต้องตาย”หลี่ยู่ซินพูดเพิ่มเติม
“มันไม่ใช่ไวรัส”เจียงลู่ฉีพยักหน้า เขาก็เข้าใจดีเกี่ยวกับพฤติกรรมของปรสิตที่จะควบคุมการกระทำของเจ้าของ
ยกตัวอย่างเช่นโรคทอกโซพลาสโมซิสที่สามารถที่จะหลั่งสารโดพามินเพื่อที่จะทำให้เจ้าของไม่รู้สึกกลัว ยกตัวอย่างเช่นหนูที่ไม่หวาดกลัวแมวซึ่งจะทำให้พวกมันโดนจับโดยผู้ล่าง่ายมากยิ่งขึ้นและหลังจากนั้นโรคนี้ก็จะแพร่กระจายอีกครั้งหนึ่ง
อีกประเภทหนึ่งของหนอนก็ถูกพบในกระเพาะของพวกตั๊กแตนตำข้าวมากมาย มันสามารถที่จะทำให้ตั๊กแตนตำข้าวกระโดดเข้าไปในทะเลเพื่อที่จะฆ่าตัวตายและหลังจากนั้นก็หลุดออกมาจากร่างกายของมันและมันก็ยังสามารถวางไข่ในน้ำได้อีกด้วย
ในจุดนี้นี่เอง เชื้อราก็สามารถที่จะทำให้มดติดเชื้อและเปลี่ยนพวกมันกลายเป็นมดซอมบี้ที่บ้าคลั่งซึ่งมีการกระทำเหมือนกับซอมบี้ในหนังโลกล่มสลายและเกม
เมื่อมองไปยังหนอนบนพื้นดิน เจียงลู่ฉีก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศรกมากมาย เขาคิดว่า ถ้าการระบาดของไวรัสถูกแทนที่โดยการระบาดของปรสิตแล้ว มนุษยชาติก็คงไม่มีโอกาสที่จะอยู่รอดได้ โชคดีที่ไวรัสสุดยอดนั้นทำให้ยีนส์ของมนุษย์กลายพันธุ์และด้วยเหตุนี้นี่เองผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจึงปรากฏตัวขึ้น มันยังคงมีแสงแห่งความหวังสำหรับพวกเขาอยู่!
แน่นอนว่าปรสิตประเภทนี้ก็เป็นการวิวัฒนาการทางชีวภาพ หลังจากวันโลกาวินาศ เมื่อต้นกำเนิดของมันมาจากรังสัตว์ป่า
ไม่ใช่หมายความว่ามันมีกลุ่มปรสิตขนาดใหญ่หรือกลุ่มของปรสิตจำนวนมากอยู่ในรังสัตว์ป่าหรือยังไงกัน!?
นอกจากนี้แล้วมันสามารถที่จะเห็นได้เด่นชัดว่าปรสิตสามารถที่จะสื่อสารต่อกันและกัน พวกมันสามารถที่จะควบคุมเจ้าของที่แตกต่างกันได้ แต่พวกมันก็สามารถที่จะติดเชื้อกับมนุษย์คนอื่นได้ด้วยเช่นกัน
“ส่งหนอนนั่นมาให้ฉันหน่อย”หลี่ยู่ซินพูด
“โอเค”เจียงลู่ฉีพูด เขาบอกจางไฮ่ให้เอาขวดแก้วและใส่หนอนเข้าไปด้านใน ถึงแม้ว่ามันแทบจะถูกตัดออกไปเป็นสองส่วน มันก็ยังมีพลังชีวิตที่ดีอยู่
“ยู่ซิน อะเอาไป”เจียงลู่ฉีพูด “ระวังด้วยละ! ถ้ามันเจาะเข้าผิวหนังของเธอ มันจะอันตรายมาก!”
“ค่ะ ฉันจะระมัดระวังกับมันอย่างมาก”หลี่ยู่ซินพยักหน้า
เมื่อเป็นผู้หญิงแล้วเธอก็ไม่ชอบหนอนโดยสัญชาตญาณ แต่เธอก็เริ่มที่จะทำการตรวจสอบมันอย่างระมัดระวังทันทีที่เธอหยิบขวดนั้นไป..
…
‘ปัง! ปัง!’
หลังจากที่ยิงและฆ่าคนติดเชื้อสองคนไป ทหารที่กำลังปกป้องซูกวงฉีและคนอื่นอยู่ก็ดูตึงเครียดอย่างมาก เมื่อพวกเขาเชื่อว่าคนติดเชื้อจะมาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามกระสุนของพวกเขาก็จะหมดลงในเวลาไม่นาน
สำหรับพวกเขาแล้ว วิธีดีที่สุดก็คือการวิ่งหนีมัน แต่พวกเขาควรที่จะทำให้มั่นใจว่าคนแก่อย่างซูกวงฉีจะต้องปลอดภัย นักวิทยาศาสตร์ต่างหมกตัวอยู่ในห้องแลปตลอดเวลา ดังนั้นพวกเขาจะสามารถกันการโจมตีของคนติดเชื้อได้ยังไง เมื่อพวกเขาไม่มีกระสุนเพียงพอ
ความเสี่ยงของมันสูงมากและมันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ถ้าผู้เชี่ยวชาญคนไหนตายไปในกระบวนการนี้
ในเวลาเดียวกันซูตงก็หยยิบขวดน้ำออกมาและมายืนอยู่ข้างพ่อของเธอ “พ่อ ดื่มน้ำก่อน”ซูกวงฉีมองไปที่มัน แต่เขาก็ไม่ได้รับมันไป ก่อนหน้านี้เขาใจเย็นอย่างมาก แต่เมื่อเขามองไปที่คนอื่นที่อยู่รอบตัวเขา ซูกวงฉีก็เริ่มที่จะกังวลใจด้วยเช่นกัน เขากังวลเกี่ยวกับหลานสาวของเขา หลี่ยู่ซิน
คนติดเชื้อหลายต่อหลายคนนั้นมาจากสนามรบ ดังนั้นเขาจะไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับหลานสาวที่อยู่ใกล้กับสนามรบได้ยังไงกัน?
“พ่อ ไม่ต้องกังวลไป ยู่ซินอยู่ในทีมฉี่หยิง พวกเธอจะปลอดภัยอย่างแน่อน”ซูตงปลอบประโลมพ่อของเธอ
ซูกวงฉีพยักหน้า “ใช่ ทีมฉี่หยิงนั้นทรงพลัง ดังนั้นมันไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาในการหลบหนีจากพื้นที่บริเวณรังสัตว์ป่า อย่างไรก็ตาม พื้นที่ปลอดภัยเซียหยวนทั้งหมดต่างตกอยู่ในสภาวะตื่นตัว..”
“ศาสตราจารย์ครับ ผมไม่เห็นทีมช่วยเหลือสักทีมเลย ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจที่จะส่งทหารอีกสองนายออกไปขอความช่วยเหลือ”ในเวลาเดียวกัน กัปตันก็เดินมาพูด
“ขอความช่วยเหลือ?”ซูกวงฉีและซูตงประหลาดใจ ผู้เชี่ยวชาญที่เหลือก็มึนงงด้วยเช่นกัน
“เอาละ ออกไปหาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”
“อะไร? นายเปลี่ยนกลายเป็นไอ้โง่หลังจากที่เรียนและวิจัยงั้นเหรอ? สมองของนายจะต้องมีปัญหาแล้วละ!”คุณหลี่ตะโกนและหันกลับไปถามกัปตัน “นายมีคนแค่หกคน ถ้านายส่งทหารสองคนออกไปขอความช่วยเหลือ ใครจะเป็นคนปกป้องพวกเรากัน? และฉันเดาว่าพวกเขาจะต้องเอากระสุนไปบางส่วนใช่ไหม? ฉันเห็นว่านายแทบจะไม่เหลือกระสุนแล้วนะ!”ถึงแม้ว่าคุณหลี่จะบ้าคลั่ง เขาก็ยังคงให้ความสนใจกับทหารเหล่านี้ สุดท้ายแล้วเขาก็ยังคงปลอดภัย เนื่องจากพวกเขา
“ในความคิดของฉัน นายควรที่จะส่งคนไปเพียงคนเดียวเพื่อถามหาความช่วยเหลือพร้อมกับกระสุนเพียงเล็กน้อย เขาจำเป็นแค่ขอความช่วยเหลือ ดังนั้นตราบเท่าที่เขาระมัดระวังตัว มันก็จะไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้น”คุณหลี่พูด
‘มันเป็นไปไม่ได้!”กัปตันปฏิเสธตรงๆ “สิ่งที่คุณพูดมันห่างจากความเป็นจริงอย่างมาก! ในความเป็นจริง ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่แท้จริงในตอนนี้ ถ้าทหารคนหนึ่งพบกับคนติดเชื้อสองคน เขาจะตายอย่างงายดาย สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ก็คือการอยู่ที่นี่พร้อกมับไม่ทำเสียงใดๆและระมัดระวังการเคลื่อนไหวของพวกเรา”ภายใต้คำอธิบายของเขา ทหารสองคนก็ออกจากตึกไป
“โอเค นายควรที่จะพาจางเกาเฮอกลับมา”คุณหลี่รีบพูดออกมา เขาเพียงแค่ต้องการอยู่ภายใต้การป้องกันของทีมจางเกาเฮอ ในความคิดของเขา การอยู่กับชายแก่และป่วยจะทำให้เขาช้าลง มันเป็นบางสิ่งที่เขาไม่สามารถยอมให้มันเกิดขึ้นได้!