My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 564
ตอนที่ 564 ร่วมมือ
แม้ว่าโจวยู่ไคจะเป็นถึงประมุขของสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่ แต่ตัวเขาก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนที่เคยเป็นที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะสถานศึกษาที่กําลังอ่อนแอมากขึ้นทุกที การที่โจวยู่ไคยังได้รับความเคารพเป็นเพราะตัวเขาอาศัยเงาที่เคยยิ่งใหญ่ของสถานศึกษาเพียงเท่านั้น โจวยู่ไคได้ก้าวมาเป็นประมุขแห่งสถานศึกษาเมื่อราว 100 ปีก่อน ในแง่ของพลังวรยุทธ ตัวเขารู้ดีว่าไม่อาจเทียบเคียงอะไรได้กับหวางซื้อเจียแต่ถึงแบบนั้นหวางซื่อเจียผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบกลับยกย่องให้ยู่เฉิงไห่เก่งกาจยิ่งกว่า ถ้าหากจะเปรียบเทียบแบบนี้โจวยู่ไคก็คงไม่อาจสู้อะไรกับยู่เฉิงไม่ได้เลย
หวางซื่อเจียยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าท่าทีที่ตกตะลึงบนใบหน้าของโจวยู่ไค “ถ้าหากยังสงสัยในตัวข้า ประมุขโจว ท่านก็ดูเอาเองซะเถอะ”
ภายในเมืองมณฑลหยาน
เหล่าสาวกจากสํานักอเวจีต่างก็มุ่งหน้าเข้าเมือง ในตอนนี้กําแพงทางด้านตะวันออกทั้งหมดถูกชาวสํานักอเวจีครอบครองเอาไว้แล้ว
ยู่เฉิงไห่ยังคงปลดปล่อยกระบี่พลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ใครก็ตามที่กล้าบินขึ้นมาจะถูกกระบี่นิลโลหิตของเขาสังหารในทันที
ในขณะเดียวกัน ณ คฤหาสน์แม่ทัพ
หม่าลูปังได้นํารองแม่ทัพทั้งสื่ออกมาที่ด้านนอก
“ท่านแม่ทัพ ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่สู้ดีแล้ว พวกเราควรจะใช้ชาวเมืองที่เหลือเพื่อหยุดสํานักอเวจีดีไหมครับ?”
“ลงมือซะ…ยังไงซะพวกฝ่ายอธรรมก็ยังเป็นพวกฝ่ายอธรรมอยู่วันยังค่ํา ถ้าหากจะต้องเสียสละชาวเมืองส่วนหนึ่งเพื่อรักษาความสงบสุขเอาไว้ มันก็คุ้มค่าแล้วล่ะ”
“ครับ ท่านแม่ทัพ!”
ทหารผู้ที่ได้รับคําสั่งรีบเดินจากไป
หม่าลู่ปิงออกคําสั่งต่อ “จงไปต้อนรับองค์รัชทายาทที่นอกเมืองทางใต้ซะ…”
“ครับ!”
“ส่วนเจ้าไปพบกับเหว่ยซูหยานที่ประตูทางตะวันออก”
“ครับ!”
“แล้วก็เจ้า ไปพบกับสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่กับสถานศึกษาผืนฟ้าเร็วเข้า บอกพวกเขาว่าพวกเราต้องการกําลังเสริมโดยด่วน!”
“ครับ!”
รองแม่ทัพทั้งสามได้ออกจากคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว
หม่าลู่ปิงเดินไปยังหน้าคฤหาสน์พร้อมกับเอามือไขว้หลัง เมื่อมองเห็นศพนิรนามอยู่บนพื้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “ข้าจะต้องให้พวกสํานักอเวจีต้องชดใช้แน่”
ทันทีที่หม่าจู่ปิงพูดจบ ชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ชายคนนี้เอามือทั้งสองข้างกอดอกเอาไว้ ตัวเขามองลงมาที่หม่าลีปิงจากบนหลังคาด้วยรอยยิ้มจางๆ สีหน้าที่สงบนิ่งบ่งบอกได้ถึงความมั่นใจได้เป็นอย่างดี
หม่าลู่ปิงตัวสั่นเมื่อเหลือบเห็นชายผู้ใช้ดาบ ตัวเขาแปลกใจของแขกผู้มาเยือนคนนี้ เจ้านี่มันยืนอยู่ตรงนี้ นานแค่ไหนแล้ว?
หม่าล่ปิงพยายามสงบสติตัวเองก่อนที่จะถามออกมา “เจ้าเป็นใครกัน?”
“ข้าขอโทษด้วย ข้าได้สังหารน้องชายของเจ้าอย่างหม่าชิงไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อของข้า แต่ข้าก็ไม่มีทางเลือก” ชายผู้ใช้ดาบพูดออกมา มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“เป็นเจ้าที่ฆ่าน้องข้า?”
“ข้าเสียใจด้วยจริงๆ แต่ข้าอยากให้เจ้าสงบสติและเลิกใช้อารมณ์” ยู่ฉางตงก้มศีรษะลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ตาย
แม้ว่าจะเห็นอกเห็นใจแค่ไหนแต่คําพูดที่ยู่ฉางตงใช้มันก็ดูเหมือนเป็นการเยาะเย้ยมากกว่า หม่าลู่ปิงที่คิด แบบนั้นยกฝ่ามือขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
ยู่ฉางตงรีบเคลื่อนไหว ตัวเขาเลือกที่จะพลิกตัวไปในกลางอากาศก่อนที่จะกระโดดลงมาอย่างสง่างาม
งก่อนที่จะปลดปล่อยระเบิดพลังงานออกมาจากตัว
ตู๊ม!
กําแพงของคฤหาสน์ถูกคลื่นพลังนั้นทําลาย
ทั้งสองคนได้บินออกมายังสระน้ําที่อยู่ใกล้ๆ
ทันทีที่เริ่มเคลื่อนไหวในอากาศก็เต็มไปด้วยพลังฝ่ามือ
“จงออกมา!” ยู่ฉางตงพูดออกมาเบาๆ
ในตอนนั้นเองดาบสีแดงจางๆ ก็ได้ลอยออกมาจากฝัก
ในขณะเดียวกันพลังฝ่ามือของหม่าลู่ปิงก็เปล่งประกายแสงสีทองมากยิ่งขึ้น!
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
ทั้งสองลอยไปที่ลานคฤหาสน์
ในตอนนั้นเองมีดาบพลังงานถูกปล่อยออกมา!
ตําหนักที่อยู่ใกล้ๆ ถูกตัดครึ่งไปในทันที
รูปแบบการต่อสู้ของหม่าลู่ปิงทั้งดุดันและน่าเกรงขาม ทุกฝ่ามือและหมัดล้วนแต่มีพลังทําลายล้างมหาศาล
“ดาบปีศาจ? เจ้ามีดีแค่นี้เองสินะ?” หม่าล่ปิงตะโกนออกมาก่อนที่จะประกบฝ่ามือของตน
ในตอนนั้นเองพลังฝ่ามือกว่าหลายสิบพลังได้ลอยไปบนอากาศ
สีหน้าของยู่ฉางตงยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ตัวเขายังคงกวัดแกว่งดาบด้วยท่าทีสบายๆ เช่นเคย การเคลื่อนไหวของยู่ฉางตงได้ทิ้งภาพติดตาเอาไว้
ดาบยืนยาวได้ผ่าฝ่าพลังฝ่ามือไปอย่างแม่นยํา
นี่คือเหตุผลที่ทําให้อาวุธระดับสรวงสวรรค์มันน่าเกรงขาม มันเป็นอาวุธที่สามารถตัดผ่านพลังงานได้อย่างง่ายดาย
อีกด้านหนึ่ง บนท้องฟ้าทางทิศตะวันออกของเมือง บนนั้นมีรถม้าลอยฟ้าของสํานักอเวจีลอยอยู่
ยู่เฉิงไห่ได้ใช้วิชาสืบสายราชันย์ไปที่เมืองกว่าหลายครั้ง ตัวเขาได้ใช้พลังลมปราณไปมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ยู่เฉิงไห้ได้กางมือออกมา ทันในนั้นกระบีนิลโลหิตก็บินกลับมาหาตัวเขา
“ศิษย์พี่ใหญ่ ช่วยออมแรงเอาไว้ด้วย ให้ข้ากับพี่จงหยางจัดการส่วนที่เหลือเองเถอะ” สีวู่หยาที่พูดจบได้ก้าวออกมาข้างหน้า ตัวเขากําลังจะใช้พัดขนนกยูงในมือ แต่ถึงแบบนั้นยู่เฉิงไห้ก็ได้หยุดตัวเขาเอาไว้
ยู่เฉิงไห่พูดขึ้น “ศิษย์น้องผู้หลักแหลมของข้า เจ้าควรจะอยู่ด้านในรถม้าของพวกเราและคอยวางแผนจะดีกว่า ข้าจะไม่ยกโทษให้ตัวเองแน่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”
ฮั่วจงหยางได้ระเบิดหน้าไม้ที่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะกลับมายังรถม้าลอยฟ้า “ไม่ต้องให้ถึงมือท่านเจ็ดหรอกครับ ศิษย์สาวกของสํานักอเวจีไม่ได้ไร้ฝีมือ พวกเราจัดการได้แน่…”
ยอดฝีมืออันดับสองแห่งโถงมังกรฟ้า ยู่ฮงได้นําคนจากสํานักอเวจีไปยังส่วนอื่นๆ ของเมืองยู่ฮงได้ใช้พลังอวตารดอกบัวหกกลีบของตัวเองก่อนที่จะนําทางผู้ฝึกยุทธระดับล่างไปอย่างมั่นใจ
สีวู่หยาที่เห็นแบบนั้นพยักหน้า “ถ้าหากสํานักอเวจียังเป็นแบบนี้ ในตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่เวลาแล้วที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์จะถูกพิชิตได้ ศิษย์พี่ใหญ่”
ยู่เฉิงไห้รู้สึกลอยตัว คําสรรเสริญในครั้งนี้ทําให้ตัวเขารู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง “ข้าเองไม่อยากได้ใจมาก ไป ในตอนนี้ยังมีเวลาจํากัดที่ท่านอาจารย์กําหนดเอาไว้”
“อย่ากังวลไปเลยศิษย์พี่ใหญ่ พวกเรามีเวลาเพียงพอแน่ สิ่งที่เราต้องระวังในตอนนี้ก็คือสถานศึกษาทั้งสอง และเหว่ยซ่หยานมากกว่า” สวี่หยาตอบกลับ
“น่าเสียดายที่ไปยู่ หยางยานและดีชิงไม่ได้อยู่ที่นี่”
ในตอนนั้นเองฮั่วจงหยางก็มองเห็นชาวเมืองธรรมดาตามท้องถนน พวกเขาทั้งหลายต่างก็ดูหวาดกลัว บาง คนได้รับบาดเจ็บ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ํา ชาวเมืองทั้งหลายต่างก็กําลังวิ่งไปยังพื้นที่ที่สํานักอเวจีกําลัง เริ่มการโจมตี
“ท่านเจ้าสํานัก ทางนั้น”
ยู่เฉิงไห่และสีวู่หยาที่มองเห็นชาวเมืองธรรมดาต่างก็ขมวดคิ้วอย่างพร้อมเพรียงกัน
“พวกเราจะทํายังไงกันดี?” ฮั่วจงหยางได้ถามออกมาด้วยความกังวล
ผู้ที่มีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่มักจะไม่กังวลกับเรื่องรายละเอียดยิบย่อยทั้งหลาย อันที่จริงสิ่งที่เหมาะ สมที่สุดก็คือการสังหารทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม…พวกเขาจะทําได้จริงๆ อย่างงั้นเหรอ? ถ้าหากทุกคนมาที่นี่ ด้วยความตั้งใจที่จะขัดขวางสํานักอเวจี ทุกคนก็คงจะถูกฆ่าตายไปแล้ว แต่นี่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
ยู่เฉิงไห่กําหมัดแน่นในขณะที่สังเกตการณ์ด้านหลัง ตัวเขารู้สึกโกรธมากที่เห็นแบบนั้น “หม่าลู่ปิง ข้าจะต้อง ฆ่าชายคนนั้นด้วยมือของข้าให้ได้!”
ฮั่วจงหยางคุกเข่า “ท่านเจ้าสํานักช่วยออกคําสั่งด้วย ข้าจะทําตามคําสั่งท่านอย่างไม่มีข้อแม้”
สีวู่หยาเริ่มเครียดในขณะที่มองไปยังฮั่วจงหยาง
ยู่เฉิงไห่ยังคงไม่ตอบอะไร ตัวเขายังคงมองดูชาวเมืองที่อยู่ตามท้องถนน
ทหารรักษาการณ์ทั้งหลายกําลังกดดันชาวเมืองเหล่านั้น
บนถนนมีทั้งเสียงเด็กที่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว เสียงของผู้เป็นแม่ที่กําลังโศกเศร้า ทุกคนต่างก็ตกอยู่ใน ความหวาดกลัว
ฮัวจงหยางยังคงรอคําสั่งต่อไป ตัวเขาได้แต่กําหมัดอย่างไร้ความรู้สึก
“ถอย” ยู่เฉิงไห่ยกมือขึ้น
แม้ว่าสีวู่หยาจะโล่งใจที่ได้ยินเช่นนั้น
แต่สําหรับฮั่วจงหยางตัวเขาตอบรับคําสั่งด้วยท่าทีที่ดูไม่พอใจ “ครับ ท่านเจ้าสํานัก!” เมื่อได้รับคําสั่งฮั่วจง หยางก็รีบบินออกจากรถม้าไปถ่ายทอดคําสั่งในทันที “ถอย ถอยไปที่กําแพงเมืองซะ!”
สาวกจากสํานักอเวจเงยหน้าขึ้นมองอย่างสับสน ในตอนนี้พวกเขาเป็นในฝ่ายที่ได้เปรียบไปแล้วแท้ๆ แล้ว ทําไมกันถึงต้องถอยด้วย?
ชาวเมืองที่ได้ฟังแบบนั้นต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ชาวเมืองบางคนถึงกับล้มตัวลงบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
ในตอนนั้นเองทางทิศตะวันตกของเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์ พลังอวตารดอกบัวแปดกลีบก็ปรากฏขึ้น!
พลังอวตารที่สูงกว่า 100 ฟุตได้ปรากฏตัวขึ้น ที่ใต้เท้าของพลังอวตารมีกลีบดอกบัวทั้งหมดแปดกลีบกําลังหมุนวนอยู่
ตู๊ม!
ท่ามกลางการระเบิดพลังงาน ชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวได้ถอยออกมา ชายคนนั้นยังดูสงบนิ่งและยังดูมั่นใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ
ยู่ฉางตงพยายามตั้งหลัก ตัวเขาเหลือบมองไปที่หม่าลู่ปิง แม้ว่ายู่ฉางตงจะต้องบาดเจ็บภายใน แต่ถึงแบบ นั่นบนใบหน้าของเขาก็ยังมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจอยู่ “ถ้าหากข้าไม่ได้ตัดดอกบัวทองคําไป เจ้าก็คงจะ ตายไปนานแล้ว แต่ถึงแบบนั้นการที่ได้ต่อสู้กับผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามันก็ยังเป็นเรื่องที่ทําให้ข้าได้ตื่นเต้นอยู่ดี”
หม่าลู่ปิงที่ใช้พลังอวตารมองไปที่ยู่ฉางตงด้วยสีหน้าที่เกรี้ยวกราด “เจ้าก็คือดาบปีศาจ ยู่ฉางตรงจริงๆ สินะ” หม่าลู่ปิงไม่ได้คิดว่ายฉางตงจะมีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ แต่แม้ว่าพลังจะสูงกว่าแต่ตัวเขาก็ไม่อาจบังคับให้ ยู่ฉางตงใช้พลังอวตารออกมาได้
บนรถม้าลอยฟ้า
ยู่เฉิงไห่ที่อยู่บนนั้นไม่ได้ตาบอด ตัวเขามองเห็นพลังอวตารที่สูงกว่า 100 ฟุตได้อย่างชัดเจน ยู่เฉิงไห่ที่เห็น แบบนั้นรีบพูดออกมาอย่างดีใจ “ศิษย์น้องผู้หลักแหลมของข้า ข้าขอฝากหน้าที่การสั่งการไว้ที่เจ้าด้วย! ข้าจะเป็นผู้ที่เด็ดหัวของหม่าลู่ปิงเอง!” สิ้นสุดเสียงของยู่เฉิงไห่ตัวเขาก็ได้จากไปในทันที
สีวู่หยาเป็นคนที่ช่างสังเกตมากกว่ายู่เฉิงไห่ ตัวเขามองเห็นชายผู้ใช้ดาบชุดเขียวที่อยู่บนอากาศ “ยอดฝีมือผู้ลึกลับคนนั้นก็คือศิษย์พี่รองอย่างงั้นเหรอ?”