My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 565
ตอนที่ 565 รากฐานแห่งการฟื้นคืน
ยู่เฉิงไห่จดจ่อไปที่หม่าลีปิงเท่านั้น ตัวเขาคุ้นเคยกับพลังอวตารที่สูงกว่า 100 ฟุตและพลังหมัดดี นอกเหนือจากพลังแล้วยู่เฉิงไห่ยังคงสังเกตเอกลักษณ์ของหม่าลู่ปิง ยู่เฉิงไห้ได้บินไปด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกับกระบี่นิลโลหิตที่มีอยู่ในมือ
เมื่อยู่เฉิงไห่นึกถึงชาวเมืองที่ถูกจับเป็นตัวประกัน หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นเพราะอารมณ์ที่ไม่มั่นคงทําให้พลังลมปราณก็แปรปรวนไปด้วย ท้ายที่สุดแล้วมันก็ส่งผลต่อกระบี่นิลโลหิตที่ร่างกายของยู่เฉิงไห่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันมหาศาล
ในตอนนั้นเองยู่ฉางตงก็ตระหนักได้แล้วว่าร่างพลังอวตารของหม่าล่ปิงกําลังเปิดเผยตําแหน่งของพวกเขา
หม่าลู่ปิงไม่ได้สังเกตเลยว่ายู่เฉิงไห่กําลังบินเข้าหา ในตอนนี้ตัวเขาจดจ่ออยู่ที่ดาบปีศาจอย่างไม่ลดละ ยู่ฉางตงเป็นผู้ที่สังหารน้องชายของหม่าลู่ปิง เพราะแบบนั้นตัวเขาจึงอยากกําจัดยู่ฉางตงมากกว่าใคร หม่าลู่ปิงมองลงมาก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง หม่าล่ปิงได้เหวี่ยงหมัดขวาออกมา หมัดที่ถูกปล่อยออกมามีพลังมหาศาลไม่ต่างจากดาวตกรอบตัวของหม่าลู่ปิงเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า “ดาบปีศาจ…ตายซะ!”
ด้วยพลังวรยุทธที่หม่าลู่ปังมี ถือว่าหม่าลูปิงมีพลังวรยุทธที่สูงส่งในหมู่ของแม่ทัพก็ว่าได้
ยู่ฉางตงมองไปที่หม่าลู่ปิงที่กําลังพุ่งเข้าหา เมื่อเห็นแบบนั้นตัวเขาก็ยกดาบยืนยาวขึ้นมา
ซูวว!
ในที่สุดพลังอวตารของยู่ฉางตงก็ปรากฏ! ร่างอวตารของเขาได้ทําให้ทุกคนที่เห็นตกตะลึง
พลังอวตารส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะคล้ายกับพระพุทธรูปทองคํา แต่ถึงแบบนั้นพลังอวตารของยู่ฉางตงต่างออกไปเล็กน้อย ฝ่ามือของพลังอวตารเขาเชื่อมติดกัน ดูเหมือนว่านิ้วทั้งสิบของร่างอวตารจะเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกัน
“หม?” หม่าลู่ปิงตกใจมาก ตัวเขาไม่เคยเห็นพลังอวตารแบบนี้มาก่อน แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ได้ใช้สุดยอดเคล็ดวิชาออกมาแล้ว หม่าลู่ปิงไม่มีทางให้หันหลังกลับ ตัวเขากลั้นหายใจก่อนที่จะจดจ่อไปที่เป้าหมายอยู่ที่เดียว หม่าลู่ปิงได้ทุ่มแรงและพลังทั้งหมดไปกับหมัดครั้งนี้ เมื่อได้เห็นความสูงของร่างอวตารหม่าลู่ปิงก็พูดออก มาอย่างเหยียดหยาม “พลังอวตารดอกบัวหกกลับอย่างงั้นเหรอ? ตายซะ!”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบจะสามารถจัดการกับผู้มีพลังอวตารดอกบัวหกกลีบได้ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต่างก็เข้าใจดี
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ใกล้ต่างก็เฝ้ามองการต่อสู้ในครั้งนี้
ที่บนกลางอากาศหม่าลู่ปิงยังคงปล่อยหมัดพลังงานอย่างไม่หยุดยั้ง
ตุ้ม!
และแล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น! พลังอวตารดอกบัวหกกลีบของยู่ฉางตงได้ถูกพลังอวตารของหม่าล่ปิงคว้าไว้ได้!
ยู่ฉางตงขมวดคิ้ว ตัวเขารู้สึกว่าแขนของตัวเองกําลังตกอยู่ในอันตราย ยู่ฉางตงที่คิดแบบนั้นรีบเหวี่ยงแขนขวาในทันที จากนั้นตัวเขาก็เลือกเบนตัวไปทางด้านซ้าย
ตุ้ม!
หมัดพลังงานได้ชนเข้ากับร่างอวตารของฉางตง เป็นเพราะการกระแทกจนทําให้เกิดคลื่นพลังงานกระเพื่อมออกมา
“ข้าน่ะรออยู่ก่อนแล้ว…” ยู่ฉางตงรีบพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ ดาบยืนยาวในมือได้ฉายสีแดงออกมาอีกครั้ง รอบดาบถูกกลีบดอกบัวล้อมรอบเอาไว้ เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นร่างของยู่ฉางตงทั้งสามร่างก็ได้ปรากฏขึ้น มันคือวิชาที่ใช้สร้างชื่อให้กับยู่ฉางตงนั่นเอง เพลงดาบตัดวิญญาณสามส่วนหวนกลับ
หม่าล่ปิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าถูกหลอกแล้ว!” ร่างกายของหม่าลีปิงเปล่งประกายแสงสีทองออกมาอย่างไม่หยุดพัก
“พลังร่างมหายาน?!”
พลังร่างมหายานถือเป็นพลังขั้นสูงสุดของการฝึกฝนร่างกาย ผู้ฝึกยุทธคนนั้นจะสามารถใช้พลังลมปราณที่มีปกป้องทั้งเส้นพลังลมปราณและผิวหนังของผู้ใช้ได้ ผู้ที่ฝึกฝนร่างกายจนไปถึงขั้นสูงสุดได้จะสามารถย่อขนาด พลังอวตารตัวเองให้เหลือเท่ากับร่างกายของผู้ใช้ได้ มีผู้ฝึกยุทธไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถฝึกฝนร่างกายจนคลุมมันด้วยพลังงานที่อัดแน่นแบบนี้ได้ ในตอนนี้ผิวหนังของหม่าลู่ปิงไม่ได้ต่างอะไรกับพระพุทธรูปทองคํา! การป้องกันของตัวเขาเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ
หม่าลู่ปังพุ่งตัวไปด้านหน้า แม้ว่าจะต้องพบกับภาพลวงตา แต่ตัวเขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะเหวี่ยงหมัดใส่เป้าหมายต่อไป
เมื่อดาบถูกชักออกจากฝึกมันจะไม่มีวันหวนกลับ!
ดาบปีศาจได้เหวี่ยงดาบของตัวเองอย่างรุนแรงอีกเช่นเคย ดวงตาของเขามีแต่ความมุ่งมั่นที่ยังเหลืออยู่
ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม!
ร่างทั้งสามของยู่ฉางตงได้รวมเป็นหนึ่งก่อนจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง! ทันทีที่ยู่ฉางตงเคลื่อนที่ผ่านเป้าหมายมาได้ ตัวเขาก็ได้ปักดาบยืนยาวลงบนพื้นเพื่อเป็นการทรงตัว!
หม่าลู่ปิงกระเด็นถอยกลับไป
ตุ้ม! ตู้ม! ตุ้ม!
การโจมตีนี้ได้ทําให้หม่าลู่ปิงชนเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่อยู่ด้านหลัง และเพราะความเสียหายทําให้เกิดฝุ่นควัน บดบังวิสัยทัศน์ของทุกคน ในตอนนี้ทุกอย่างได้สงบลงอีกครั้ง
การต่อสู้ของยอดฝีมือมักจะเป็นการต่อสู้ที่มีพลังทําลายล้างและอันตรายเหนือกว่าจะจินตนาการได้
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ใกล้ทําได้เพียงเฝ้ามองดูเท่านั้น พวกเขาไม่กล้าพอที่จะเข้าใกล้ มันเป็นภาพที่น่าตื่นตกใจแล้วที่ได้เห็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบต่อสู้ การเข้าใกล้การต่อสู้ที่อันตรายแบบนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย
ยู่ฉางตงมองไปทางที่หม่าลู่ปิงกําลังยืนอยู่ ตัวเขาตกอยู่ในความสับสน หัวใจของยู่ฉางตงเต้นแรงเมื่อได้เห็นดาบมรกตขนาดใหญ่ฝังอยู่บนพื้น ยู่ฉางตงได้มองเห็นทุกอย่างหลังจากที่ฝุ่นควันจางหายไป ดาบเล่มนั้นส่องประกายอยู่ที่กลางแดด มันคือดาบพลังงานนั่นเอง ดูเหมือนว่าหม่าลู่ปิงจะไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ และเพราะแบบนั้นจึงทําให้หม่าลู่ปิงต้องบาดเจ็บ
ในที่สุดเขาคนนั้นก็มาถึง
“ศิษย์พี่ใหญ่อย่างงั้นเหรอ?” ยู่ฉางตงมองขึ้นไปบนฟ้า
ที่อาคารฝั่งตรงข้าม ยู่เฉิงไห่กําลังเอามือไขว้หลังก่อนที่จะจ้องมองมา ตัวเขาเหลือบมองไปที่ยู่ฉางตงอย่างใจจดใจจ่อ ยู่เฉิงไห้ไม่แม้แต่จะชายตามองหม่าลูปังที่นอนอยู่บนพื้น “เป็นเจ้าจริงๆด้วย”
ยู่ฉางตงยืดตัวขึ้นก่อนที่จะตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ เป็นข้าเอง”
“ทําไมเจ้าถึงต้องช่วยข้า?”
“ข้าไม่ได้ช่วยท่าน…ข้าก็แค่เดินไปตามทางของข้าก็เท่านั้น”
“ทางของเจ้า?”
“ถูกต้องแล้ว” ยู่ฉางตงตอบกลับมาอย่างเฉยเมย
ยู่เฉิงไห่ที่ได้ฟังแบบนั้นพูดต่อ “ศิษย์น้องรอง ในฐานะที่ข้าเป็นศิษย์พี่ใหญ่ ข้าต้องอดทนกับเจ้ามาโดยตลอด ข้าต้องพยายามทําความเข้าใจและช่วยเหลือเจ้า….ข้าพยายามจะไม่ถือสาเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต แต่…” ยู่เฉิงไห่หยุดพูดไปก่อนที่จะพูดออกมาอย่างจริงจัง “แต่เพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเหล่าสาวกสํานักอเวจี ข้าจะ ถอยไปไหนไม่ได้อีก ข้าจะฆ่าหม่าลู่ปิงแทนเจ้าเอง ศิษย์น้อง!”
ยู่ฉางตงยิ้มให้ก่อนจะตอบกลับมา “ท่านเป็นศิษย์พี่ใหญ่ ข้าเองก็เคารพท่านมาโดยตลอด ข้าให้เกียรติท่าน และพยายามที่จะหลีกทางให้ท่านเสมอ ยังไงซะผู้เป็นศิษย์น้องก็ไม่ควรดูหมิ่นศิษย์พี่ เป้าหมายของท่านอาจจะมีความสําคัญมาก และเจ้านั่นก็ไม่ควรจะขวางทางท่าน เป็นเพราะเจ้านั้นมีชื่ออยู่ในรายชื่อของข้า ข้าจะเป็นผู้ลงมือฆ่าเขาเอง”
หม่าลูปิงไออย่างรุนแรง ในตอนนี้ตัวเขาบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ หม่าลูปิงรีบรวบรวมเรี่ยวแรงก่อนที่จะลอยขึ้นมาอีกครั้ง ตัวเขาที่ลอยขึ้นมาได้มองไปยังรอบตัว
ใครจะไปคิดว่าหนึ่งในแปดแม่ทัพใหญ่จะถูกเปรียบเปรยจนดูเหมือนกับลูกไก่ในกํามือแบบนี้ ทั้งสองคนกําลังลอยอยู่บนอากาศก่อนที่จะโต้เถียงกันเพื่อหาว่าใครที่ควรจะฆ่าหม่าลู่ปิง! หม่าลู่ปิงที่รู้เรื่องทั้งหมดรู้สึกโกรธยิ่งกว่าเดิม “พอได้แล้ว! ยู่ฉางตง เจ้าเป็นแค่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวหกกลีบ เจ้าจะฆ่าข้าได้ยังไงกัน?”
อวตารดอกบัวหกกลีบ?
เปลือกตาของยู่เฉิงไห่กระตุก ในตอนนั้นตัวเขาก็เกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมา ตัวของยู่เฉิงไห่เองก็สามารถฝึกวรยุทธได้ดีเหมือนกัน แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ยุ่งอยู่กับการดูแลสํานักอเวจีมาโดยตลอด
หม่าล่ปิงหันไปหายู่เฉิงไห่ก่อนจะพูดต่อ “ยู่เฉิงไห่ กําลังเสริมของข้ากําลังจะเดินทางมา…ในตอนนี้เจ้าน่ะถูกล้อมไว้หมดแล้ว เจ้ามีสิทธิ์อะไรกันที่จะมาเผชิญหน้ากับข้า?”
ยู่เฉิงไห้ไม่ได้มองไปที่หม่าลู่ปิง ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ยู่ฉางตง “ศิษย์น้องรอง เจ้าเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวหกกลีบเท่านั้น ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถฆ่าหม่าลู่ปิงได้หรอกนะ…เจ้าน่ะไม่จําเป็นที่จะต้อง เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์อีกแล้วล่ะ”
ยู่ฉางตงยังคงยิ้มเช่นเดิม “ศิษย์พี่ใหญ่…ยกโทษให้ข้าด้วยที่ข้าไม่เห็นด้วยน่ะ” ดาบยืนยาวของเขาสั่นเครือ
ซูวว!
แสงสีแดงจางๆ ได้ส่องออกมาจากดาบ
ซึ่ง!
ดาบยืนยาวได้ลอยออกมาต่อหน้ายู่ฉางตง ยู่ฉางตงผสานฝ่ามือที่รอบตัวของเขาเต็มไปด้วยพลังงานที่พลุ่งพล่าน
สิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้ๆ กับยู่ฉางตงถูกยกขึ้นไปบนอากาศ ทุกสิ่งที่อยู่รอบกายของเขาล้วนสั่นสะเทือน
ไม่นานหลังจากนั้นดาบยืนยาวก็ลอยออกมา มันได้สร้างดาบพลังงานรูปแบบพัดขึ้น
ยู่เฉิงไห่ตกใจเล็กน้อย “นั่นมันพลังรากฐานแห่งการฟื้นคืน?”