My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 588
ตอนที่ 588 ความยุติธรรม
เป็นเพราะคําสั่งที่ได้ฟัง สีหน้าของผู้อาวุโสจากสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่ทั้งหมดจึงเปลี่ยนแปลงไป ในตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ไม่ว่าจะทํายังไงปลายทางของพวกเขาก็มีเพียงแค่ทางเดียว ปลายทางของเขาก็คือความตายนั่นเอง ในโลกนี้จะไปหดหูอะไรไปมากกว่าความตายได้
ลูกศรพลังงานของฮัวยู่จึงถูกปลดปล่อยออกมา ทุกๆ ครั้งที่ปลดปล่อยลูกศรพลังงาน ฮัวยู่จิงก็มักจะเคลื่อนไหวเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าฝีมือในการยิงธนูของนางพัฒนามากขึ้น
“ย่อมได้ ย่อมได้…” ผู้อาวุโสคนหนึ่งจากสถานศึกษาไม่อาจที่จะทนต่อแรงกดดันได้อีกต่อไป ชายคนนั้นได้ ลงมาจากที่สูงอย่างช้าๆ ทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้น ผู้อาวุโสคนนั้นก็ล้มลงไปในทันที แม้ว่าจะพยายามระงับ ความกลัวที่มีอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไร้ประโยชน์ เมื่อลงถึงพื้นความกลัวที่ไม่เคยคาดคิด ก็ได้ครอบนําเขา ร่างกายของผู้อาวุโสคนนั้นสั่นเครืออย่างรุนแรง หัวใจของเขาเต้นรั่วราวกับมันจะพุ่งออกมา จากอก ความกลัวยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อได้เห็นศพของหวางเย่ว นอกจากนี้ยังมีร่างกายที่ไร้ชีวิตของหลิวก่อีกด้วย ความสิ้นหวังได้ทําให้ผู้อาวุโสคนนี้ทิ้งความหยิ่งผยองไป ท้ายที่สุดแล้วสิ่งเดียวที่ทําได้ก็คือการคร่ําครวญเพื่อ ขอความเมตตา
“ผู้อาวโสจีโปรดเมตตาด้วย โปรดเมตตาข้าด้วยเถอะ!”
ตุ๊บ! ตับ! ตับ!
เสียงโขกศีรษะเริ่มดังขึ้น
ภายในป่าใหญ่มักจะมีสัตว์อยู่มากมายหลายประเภท สัตว์บางชนิดก็กล้าหาญ สัตว์บางชนิดก็ขี้ขลาดรักชีวิต ผู้คนในโลกเองก็ไม่ต่างกัน บางคนก็ซื่อสัตย์ภักดี บางคนก็ขี้ขลาด บางคนก็ดื้อด้านจนถึงวาระสุดท้าย
หนึ่งในผู้อาวุโสแห่งสถานศึกษาผืนฟ้าทนรับสิ่งที่ผู้อาวุโสเบื้องล่างทําไม่ได้ “เจ้าถือเป็นความอัปยศของ สถานศึกษาใหญ่จริงๆ เจ้าเป็นถึงผู้อาวุโสแท้ๆ แต่กําลังขอความเมตตาจากพวกนอกรีต เจ้าถือเป็นความอัปยศของพวกเรา!”
ลูโจวเหลือบมองขึ้นไปบนผู้อาวุโสที่เพิ่งจะพูดขึ้น “หืม?”
“ผู้อาวุโสจี แม้ว่าคนอื่นๆ อาจจะเกรงกลัวท่าน แต่ข้าน่ะไม่…แค่ความตายจะไปมีอะไรน่ากลัว! ถ้าหากเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในความมืดมิด เมื่อถึงตอนนั้นมันก็คงจะกลายเป็นเรื่องตลกที่เลวร้ายที่สุดในโลก เมื่อถึง ตอนนั้นความยุติธรรมจะไปอยู่ที่ไหน?” ผู้อาวุโสคนนั้นยังคงระเบิดอารมณ์ต่อไป “เขตแดนพลังทั้งสิบกําลังจะก ลับมาใช้งานได้อีกครั้งแล้ว…แม้ว่าข้าจะต้องตายแต่ข้าก็จะพาพวกเจ้าทั้งหมดไปกับข้า!”
ลูโจวได้ตอบโต้กลับไปด้วยท่าที่อันสงบ “ดี” สิ้นสุดเสียงตัวเขาก็ได้สะบัดแขนเสื้อออกมาเบาๆ พลังฝ่ามือที่มีแสงสีฟ้าได้พุ่งไปทางผู้อาวุโสคนนั้น
ทุกๆ คนต่างก็เหลือบมองตามพลังฝ่ามือ พลังฝ่ามือที่เห็นเป็นพลังฝ่ามือของชาวเต่ํา และเป็นเพราะสีที่เปลี่ยนแปลงไปและเพราะแบบนั้นจึงทําให้พลังฝ่ามือดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นพลังฝ่ามือผู้อาวุโสคนนั้นก็รีบเรียกพลังอวตารดอกบัวสี่กลีบออกมา!
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือของลู่โจวทําลายร่างอวตารของผู้อาวุโสคนนั้นไปอย่างง่ายดาย ใน
สนามรบแห่งการต่อสู้หน้า เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ไม่มีใครแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้เห็นแม้แต่เพียงนิดเดียว
ผู้มีพลังอวตารดอกบัวสี่กลีบจะไปรับมือกับผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้ยังไง? สําหรับเทียนเด้ ผู้อาวุโสคนนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากมดปลวก
ผู้อาวุโสคนนั้นร่วงหล่นสู่พื้น
ตุ้ม!
ผู้อาวุโสคนนั้นบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะต่อสู้ได้อีก
ลู่โจวจงใจทําให้ผู้อาวุโสคนนั้นขาดใจตายไปเอง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าตัวเขาได้ใช้พลังวิเศษส่วนหนึ่งไปกับการช่วยยู่เฉิงไห่ ในตอนนี้เหลือพลังเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ลูโจวจะต้องเก็บรักษาพลังวิเศษที่มีให้ได้มากที่สุด มันเป็นพลังที่มีไว้เพื่อจัดการคู่ต่อสู้ที่มีฝีมืออย่างหลิวคู่และหวางเย่วนั่นเอง
ลู่โจวไม่ได้ใช้พลังวิเศษไปกับการปลดปล่อยพลังฝ่ามือมากนัก แต่ถึงแบบนั้นมันก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ผู้อาวุโสคนนั้นไม่มีกําลังมากพอที่จะต่อสู้ต่อ ผู้อาวุโสที่ถูกโจมตีจะต้องตายในไม่ช้านี้แน่
การใช้พลังฝ่ามือจู่โจมได้ทําให้ผู้อาวุโสจากทั้งสองสถาบันที่เหลือต้องตกตะลึง ผู้อาวุโสที่เหลือไม่เหมือนกับผู้อาวุโสคนนั้น ไม่มีผู้อาวุโสคนไหนไม่กลัวตายหรือชอบความเป็นธรรมอีกต่อไป
สบู่หยาได้เดินมาหาลูโจวต่อหน้าฝูงชน ตัวเขาโค้งคํานับก่อนจะพูดออกมา “ท่านอาจารย์ ชายคนนี้ก็คือหนึ่งในผู้อาวุโสแห่งสถานศึกษาผืนฟ้า เฉินหรานจือ ชายคนนี้ก็คือผู้นําในการควบคุมเขตแดนพลังทั้งสิบ”
ลู่โจวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะจับจ้องไปที่เฉินหรานจือ “ในเมื่อเจ้าชอบพูดถึงความยุติธรรม…ถ้าอย่างงั้นข้าก็จะพูดถึงเรื่องความยุติธรรมกับเจ้า” ลูโจวหันไปหาผู้อาวุโสคนอื่นๆ “ข้าจะให้ทางเลือกกับพวกเจ้า ถ้าหากพวก เจ้าสามารถบอกได้ว่าอะไรคือความยุติธรรมของเฉินหรานจือ คนคนนั้นก็จะถูกไว้ชีวิต…แต่สิทธิ์พิเศษนี้มีจํากัด มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดไปได้”
ทันทีที่ลูโจวพูดจบ เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายของสถานศึกษาผืนฟ้าก็รีบยกมือขึ้น
“ข้า!”
“ข้าจะบอกเอง…ว่าอะไรคือความยุติธรรม!”
“หุบปาก! เจ้าจะไปรู้อะไรเกี่ยวกับความยุติธรรม? ข้าจะเป็นคน…”
ผู้อาวุโสแห่งสถานศึกษาผืนฟ้าเริ่มทะเลาะวิวาทกันเอง ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะที่โต้เถียงกันว่าใครจะเป็นคนที่จะตอบคําถาม
เฉินหรานจือหันกลับไปอย่างลําบากใจด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ในตอนนั้นเองก็เริ่มมีผู้คนสาปแช่งเฉินหรานจือมาจากบนท้องฟ้า “เฉินหรานจือ เจ้ามีสิทธิ์พูดถึงความยุติธรรมได้ยังไงในเมื่อเจ้าคิดถึงแต่ผลประโยชน์และชื่อเสียงของตัวเอง? เจ้าไม่ได้มาถึงจุดนี้ก็เพราะการติดสินบน ประมุขของเจ้าอย่างงั้นเหรอ? ข้าน่ะรู้สึกสมเพชเจ้าจริงๆ !”
“เฉินหรานจือ ในตอนที่เจ้ายังยากจน ในตอนนั้นเจ้าทําทุกอย่างก็เพื่อที่จะกําจัดภรรยาของเจ้าทิ้ง เจ้ายอมแม้กระทั่งฆ่านางก็เพื่อที่จะหาภรรยาใหม่และนางบําเรอ! เจ้ากล้าดียังไงมาพูดถึงเรื่องความยุติธรรมได้?”
“เฉิงหรานจือ…”
ไม่มีอะไรจะทําร้ายความรู้สึกไปมากกว่าคําพูดโจมตีของผู้เป็นสหาย
คําพูดของทุกคนได้เสียดแทงใจดําของเฉินหรานจือไปอย่างเต็มๆ “เจ้า…เจ้า…พวกเจ้า…”
ในตอนนั้นเองสู่โจวก็ได้พูดออกมา “เจ้า”
ผู้อาวุโสที่ได้ฟังรู้สึกปลาบปลื้มใจ ผู้อาวุโสคนนั้นรีบพุ่งเข้ามาหาในทันที “ขอบคุณผู้
อาวุโสจีที่เมตตา!”
สีรู่หยาส่ายหัว
ในโลกใบนี้การที่จะสังเกตเห็นความรู้สึกของใครสักคนไม่ใช่เรื่องยากมากมายอะไร แต่การที่จะเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของคนเรามันยากเกินกว่าจะจินตนาการได้ ถ้าหากมีผู้ที่แสวงหาความตายยังไง ก็ย่อมที่จะมีผู้แสวงหาชีวิตเช่นกัน
“ท่านอาจารย์ คนคนนั้นก็คือหนึ่งในสิบผู้อาวุโสแห่งสถานศึกษาผืนฟ้า จ้าวเจียงเหอ
จ้าวเจียงเหอยิ้มอย่างไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้น เมื่อจ้าวเจียงเหอหันไปมองเฉินหรานจือ รอยยิ้มที่เขามีก็จางหายไป ที่ใบหน้าของเขาเหลือแต่เพียงความเย็นชา “ข้าไม่คิดว่าพวกเราจะแสวงหาความยุติธรรมจากคนป่าเถื่อนแบบนั้นได้ เฉินหรานจือ เจ้าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องแสร้งทําเป็นดี เจ้าจะพูดถึงความยุติธรรมได้ยังไงใน เมื่อเจ้ายังเป็นคนไร้ยางอายแบบนี้?”
“เจ้า!” เฉินหรานซีโกรธจัดจนพูดไม่ออก
“อะไรกัน? ผู้ที่ทําเพื่อชาวบ้านตาดําๆ ถือเป็นฝ่ายถูก จากที่ข้าได้รู้มา ในระหว่างการต่อสู้ที่มณฑลหยานสํานักอเวจีได้เสียสละกําลังคนไปมากมายก็เพื่อที่จะปกป้องชาวเมือง ในทางกลับกันทหารรักษาการณ์รวมไปถึง แม่ทัพใหญ่อย่างหม่าปิงคอยจับชาวเมืองเป็นตัวประกัน นั่นน่ะเหรอคือความยุติธรรมอย่างงั้นเหรอ? ทําไมคนส่วนใหญ่ในมณฑลทั้งเก้าถึงไม่ประท้วงการปกครองของสํานักอเวจี? ทําไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะสนับสนุนเขาแทนล่ะ? เจ้าที่หูหนวกตาบอดไม่มีสิทธิ์ที่จะอ้างถึงความยุติธรรมอันดีงามแม้แต่เพียงนิดเดียว…ความยุติธรรมของเจ้ามันก็เป็นแค่เพียงลมปากก็เท่านั้น” เมื่อพูดจบผู้อาวุโสคนนั้นก็ได้ถ่มน้ําลายเข้าใส่เฉินหรานจือ
“…แล้วเจ้าล่ะ?”
“ข้า? ข้ายอมรับว่าตัวเองกลัวตาย ข้ายังมีบุพการีและคนหนุ่มคนสาวที่ยังจะต้องดูแล ไม่ว่าจะต่อหน้าฟ้าหรือต่อหน้าผู้คน แม้ว่าข้าจะทําผิดพลาดมามากมายจนต้องละอายมากแค่ไหนข้าก็ไม่กล้าพอที่จะพูดถึงเรื่องความยุติธรรม ความยุติธรรมจอมปลอมบิดเบือนความเป็นจริงเหมือนกับเจ้า! เจ้าน่ะถือเป็นความอัปยศของสถานศึกษา ผืนฟ้า! ถ้าหากเป็นข้า ข้ายอมที่จะเอาหัวโขกกําแพงเมืองเพื่อปลิดชีพตัวเองจะยังดีซะกว่า!”
ดวงตาของเฉินหรานจือเบิกกว้างจนถึงขีดสุด เขาไม่อาจที่จะระงับเลือดลมที่ไหลรินได้อีกต่อไป ท้ายที่สุด เฉินหรานจือก็ได้กระอักเลือดออกมาก่อนจะล้มลงและตายจากไป
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายสําเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,000”
ลู่โจวยังคงนิ่งเฉย ในบรรดาของเหล่าชนชั้นสูงที่อยู่ภายในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ การจะขึ้นมาสู่ระดับสูงได้ย่อมต้องยอมเอามือเปื้อนเลือด สําหรับลูโจวแล้วตัวเขาไม่ได้แปลกใจอะไร
แม้ว่าจะเป็นคําพูดของผู้อาวุโสที่เป็นฝ่ายศัตรู แต่จู่โจวก็ยังเห็นด้วยกับคําพูดของจ้าวเจียงเหออยู่ดี
เมื่อเฉินหรานจือตายจากไป ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง ในตอนนี้ไม่มีใครหวังว่าจะมีชีวิตรอดต่อไปได้
ในตอนนั้นเองร่างกายของหลิวคู่ก็ได้ปล่อยควันสีม่วงออกมา
“ท่านอาจารย์…”
ทุกๆ คนต่างก็หันกลับไปมอง
ผู้อาวุโสที่อยู่บนฟ้าสังเกตเห็นควัน และก็เพราะแบบนั้นจึงทําให้เขาตะโกนขึ้น “เปิดใช้งานเขตแดนพลัง!”
ม่านพลังสีแดงปรากฏขึ้น มันกําลังปรากฏขึ้นมาจากบนท้องฟ้า
“ท่านอาจารย์…รีบขึ้นรถม้าเถอะ!” หยวนเอ๋อตะโกนออกมาด้วยความเป็นห่วง
“ออกจากม่านพลังเร็วเข้า!”
รถม้าล่องเมฆาได้ลอยออกจากม่านพลัง
พลังจากเขตแดนพลังก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นม่านพลังอย่างรวดเร็ว
สาวกจากสํานักอเวจีทั้งหลายต่างก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า
“เขตแดนพลังทั้งสิบถูกเปิดใช้งานอีกครั้งแล้ว!”
เมื่อพลังลมปราณของทุกคนหายไป ทุกคนก็ทรุดตัวลงกับพื้น
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากที่จะตาย!
“ปกป้องท่านอาจารย์ไว้” ตัวนมู่เฉิงได้ตะโกนออกมาก่อนที่จะตวัดหอกราชันย์ไปที่ศัตรู
ทหารราชสํานักว่าหลายสิบคนถูกจัดการไปในพริบตา
ตัวนมู่เฉิงรีบกระโจนไปหาลูโจวอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ม่านพลังก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง! ม่านพลังที่มีเริ่มลดลงระดับจากท้องฟ้าลง
ร่างกายของหลิวคู่ที่เคยไร้ชีวิตแต่เมื่อถูกควันสีม่วงก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ในที่สุดร่างกายของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง!