My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 653
ตอนที่ 653 ตัดผ่านสู่ขั้นปลายใต้สวรรค์
ล้วที่เป็นถึงคุณชายน้อยแห่งนิกายหมัดเหล็กมีของดีซะด้วย”
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและฉกขวดยาของเตี๋ยเมิ่งใส่กระเป๋า เขารู้สึกดีใจมาก
ตอนนี้ฉิงเฟิงเป็นผู้ฝึกยุทธ์จึงเข้าใจความหายากของยาวิเศษพวกนี้เป็นอย่างดี ยาเสริมแกร่งเส้นเอ็นสามารถช่วยยกระดับจากขั้นกลางใต้สวรรค์ให้ขึ้นเป็นขั้นปลายได้
ขั้นตอนในการบ่มเพาะและปรับแต่งร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งจากแก่นแท้ที่ได้รับจากการดูดซับจากเทคนิคหายใจทางผิวเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องใช้ส่วนประกอบอื่นในการช่วยเสริมการบ่มเพาะอีกด้วย เช่น ยาวิเศษ เม็ดยาจิตวิญญาณ ทรัพยากรตามธรรมชาติและอื่นๆ
การฝึกฝนในขั้นใต้สวรรค์ช่วงกลางจนถึงสูงสุด หลักๆแล้วจะเป็นการกลั่นสายเลือด ด้วยความช่วยเหลือจากยาเสริมแกร่งเส้นเอ็นจะทําให้สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นใต้สวรรค์ระดับปลายได้ในทันที
ฉิงเฟิงใบหน้าซีดเซียว ในความเป็นจริงตอนนี้เขาอ่อนแอมากจนแม้แต่คนธรรมดาก็สามารถล้มเขาได้
ฉิงเฟิงกัดปลายลิ้นประครองสติและขับรถกลับวิลล่าทันที โชคดีที่มันเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้วจึงไม่ค่อยมีคน มิฉะนั้นถ้าเจออันธพาลเขาจะตกอยู่ในอันตราย
เมื่อฉิงเฟิงกลับมาถึงหลินเสวี่ยก็หลับสนิทแล้ว เขาจึงเดินกลับห้องตัวเองที่ชั้นแรก
ถึงแม้ว่าสีหน้าเขาจะดูไม่ค่อยดี แต่ฉิงเฟิงก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาหยิบขวดลายครามออกมา, เปิดจุกและเทเม็ดยาลงบนฝ่ามือ มันเป็นยาเม็ดสีเขียวมีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือและเปล่งแสงจางๆออกมา
ฉิงเฟิงอ้าปากและโยนยาเข้าปากทันที ยาเม็ดละลายอย่างรวดเร็วตามมาด้วยกลิ่นหอมน่ารื่นรมย์ มันไหลเข้าสู่เส้นเลือดและเส้นลมปราณของเขาและกําลังปรับแต่งพวกมัน
ในร่างกายมนุษย์มีเส้นเลือดและเส้นลมปราณมากมายซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ
ฉิงเฟิงนั่งสมาธิตามคําแนะนําของเคล็ดวิชาจักรพรรดิยุทธ์ เขาชักนําพลังจากเม็ดยาชะล้างและปรับแต่งเส้นเลือดและเส้นลมปราณของเขา
ฟีดๆ !
มีสารปนเปื้อนอยู่มากมายในเส้นเลือดและเส้นลมปราณของเขา แต่มันก็ระเหิดออกจากภายในร่างกาย โดยมีกากตะกอนสีดําและมีกลิ่นคาวออกมา
หนึ่งชั่วโมงต่อมาสิ่งสกปรกทั้งหมดในเส้นเลือดและเส้นลมปราณของฉิงเฟิง ก็ถูกขับออกมานอกร่างกายของเขา ร่างกายของเขาราวกับเป็นคริสตัลใสและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง
ปัง !
ฉิงเฟิงลุกขึ้นยืนและออกหมัดชกลมปรากฏหลุมใหญ่ 4 หลุมกลางอากาศจากหมัดของเขา
หลุมอากาศขนาดใหญ่ 4 หลุมหมายถึงความแข็งแกร่งของพลังหมัด 2000 กิโล มันเป็นสัญญาณว่าเขาอยู่ในขั้นปลายใต้สวรรค์แล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความก้าวหน้าในการฝึกฝนพลังและปรับแต่งร่างกายของฉิงเฟิงนั้นรวดเร็วอย่างมากราวกับสัตว์ประหลาด ไม่เพียงแค่นั้น กล่าวได้ว่าเขาผิดมนุษย์อย่างมาก โดยทั่วไปแล้วสําหรับผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปีกว่าจะทะลวงเข้าสู่ขั้นกลางใต้สวรรค์ได้ แต่ฉิงเฟิงใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งเดือน!
แน่นอนว่าความรวดเร็วเช่นนี้สืบเนื่องมาจากการที่ฉิงเฟิงฝึกฝนเทคนิคตามคัมภีร์จักรพรรดิยุทธ์ ซึ่งเป็นวิชาจากปรมาจารย์เต นอกจากนี้มันก็เกี่ยวข้องกับวูฟคิงโทเท็มของเขาอีกด้วย
ฉิงเฟิงเกิดมาพร้อมกับวฟคิงโทเท็มที่หน้าอกของเขา ดังนั้นเขาจึงมีพลังพิเศษจากสายเลือดโบราณกาล แต่พลังนี้เพิ่งจะตื่นขึ้นไม่นานและยังไม่โตเต็มที่ แต่เมื่อใดที่มันโตเต็มแล้ว มันจะทําให้ฉิงเฟิงแข็งแกร่งมากขึ้น
“กาโตร์คิง รอก่อนเถอะ พรุ่งนี้จะเป็นวันตายของแก”
เมื่อรู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งขึ้นของร่างกาย ฉิงเฟิงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
คืนวันพรุ่งนี้จะเป็นการต่อสู้ระหว่างฉิงเฟิงกับกาโตร์คิง เรื่องในคืนนี้เหมือนเป็นพรจากพระเจ้าก็ว่าได้ ที่ทําให้เขาบังเอิญได้ยาเสริมแกร่งเส้นเอ็นจนทําให้ตัดผ่านเข้าสู่ขั้นใต้สวรรค์ปลาย
แน่นอนว่าฉิงเฟิงต้องขอบคุณคนๆหนึ่งซึ่งเขาก็คือเตี๋ยเมิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะเตี๋ยเมิ่งมาหาเรื่องเขาคงไม่ได้ยามา
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินไปที่ห้องน้ําเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกหลังจากการฝึก จากนั้นเขาก็ได้เข้านอนจริงๆเสียที หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายมาตลอดทั้งวัน
วันรุ่งขึ้น ฉิงเฟิงตื่นขึ้นแต่เช้และรู้สึกสดชื่นมาก เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังตั้งแต่ที่เขาก้าวข้ามไปสู่ขั้นใต้สวรรค์ขั้นปลาย ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าเขาจะเหนื่อยล้าแค่ไหนก็ตามเขาจะฟื้นตัวได้เต็มที่หลังจากพักผ่อนเพียงคืนเดียว
ฉิงเฟิงเข้ามาในห้องครัวและเตรียมอาหารเช้าง่ายๆซึ่งเป็นไข่ตุ้น จากนั้นไม่นานหลินเสวี่ยก็ลงมาพอดี
“ที่รัก วันนี้คุณเตรียมอาหารเช้าอะไรหรือ ?” หลินเสวี่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันน่าหลงใหล ซึ่งทําให้ใบหน้าที่เย็นชาของเธอดูงดงามขึ้น สาวงามมักจะสร้างบรรยากาศที่น่าลุ่มหลงได้ทุกที่
“อ่อ ฉันทําไข่ตันน่ะ มันมีประโยชน์ต่อผิวสวยๆของคุณและต่อต้านริ้วรอย”
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินว่ามันสามารถช่วยคงความงามและรักษาความเยาว์วัยได้ หลินเสวี่ยก็รู้สึกตื่นเต้นยินดี ผู้หญิงทุกคนปรารถนาให้ตนเองมีรูปลักษณ์ที่งดงามตลอดไป
แต่หลินเสวี่ยก็ไม่สามารถกินคนเดียวหมดเพราะฉิงเฟิงใส่ไข่ไปถึง 6 ฟอง ดังนั้นจึงเฟิงจึงต้องช่วยเธอกิน
“ที่รัก ฉันจะไม่อยู่หัวเซี่ยสักสองสามวันนะ ฉันจะไปทวีปเสือ” ฉิงเฟิงกล่าวกับหลินเสวี่ยหลังทานอาหารเช้าเสร็จ
ไปทวีปเสือ ?
หลินเสวี่ยขมวดคิ้วและถามว่า “อีกครึ่งเดือนก็จะถึงวันงานของเราแล้ว คุณจะไปทวีปเสือทําไมกัน ?”
“ที่รัก ฉันท้ารบกับคนผู้หนึ่งไว้ มันคือกาโตร์คิง เราจะสู้กันคืนนี้ ดังนั้นฉันจึงต้องรีบขึ้นเครื่องไปทวีปเสือ” ฉิงเฟิงอธิบาย
กาโตร์คิง ?
หลินเสวี่ยไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเหล่าราชันและไม่เคยได้ยินชื่อกาโตร์คิงมาก่อน แต่พอได้ยินชื่อนี้เธอก็รู้ว่าชายคนนี้น่าจะเข้มแข็งหรือกล่าวได้ว่าน่ากลัวมาก ลองคิดหยาบๆ จระเข้ (gator) เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ดังนั้นคนที่มีชื่อว่าจระเข้จะเป็นคนธรรมดาได้ไง ?
“มันอันตรายมั้ยที่รัก ? ถ้าอันตรายก็อย่าไปเลยนะ”
“ไม่ไปไม่ได้ ฉันเป็นฝ่ายท้า อยากให้ฉันโดนตราหน้าว่าเป็นคนกลับคํางั้นหรือ ?”
“แต่ชั้นเป็นห่วงคุณ อีกทั้งทวีปเสือก็ต่างจากหัวเซี่ยเป็นอย่างมาก คนที่นั่นโหดร้ายทารุณ แม้แต่ฆ่าคนกลางวันแสกๆก็มี”
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ถึงแม้ว่ากาโตร์คิงจะแข็งแกร่ง แต่ในเมื่อฉันกล้าท้าฉันก็มีทางจัดการกับมันเอง” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ฉิงเฟิงอาจจะรอบคอบเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกาโตร์คิงผู้ซึ่งเคยเป็นราชันมามากกว่าสิบปีและนอกจากนี้เขาก็ยังถือว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง แต่ทว่าตอนนี้ฉิงเฟิงกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์และตัดผ่านไปถึงขั้นปลายใต้สวรรค์แล้ว เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในการเผชิญหน้ากับกาโตร์คิงในคืนนี้
หลินเสวี่ยไม่ต้องการให้ฉิงเฟิงเสี่ยงอันตรายเธอจึงพยายามพูดหว่านล้อมเขาอีกหลายครั้ง แต่ฉิงเฟิงปฏิเสธเสียงแข็ง เขาสามารถรับปากเธอได้ทุกเรื่องในโลกยกเว้นเรื่องนี้ เพราะมันเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงแห่งราชันของเขา
ในวงการใต้ดิน เมื่อสาส์นท้ารบถูกป่าวประกาศออกไปแล้ว คนผู้นั้นจะต้องปฏิบัติตาม มิฉะนั้นเขาจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้เชี่ยวชาญที่คนในโลกใต้ดิน
คิงไม่อาจถูกลบหลู่ !
พวกเขามีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ