My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 652
ตอนที่ 652 รูปแบบที่เลือนลางของหมัดหมาป่าโลหิต
เปรี้ยง !!!
หมัดของเตี๋ยเมิ่งกระแทกเข้าใส่ฉิงเฟิงเป็นผลทําให้เขาต้องถอยหลังไปอีกหลายก้าว
ในแง่ของความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวเตี๋ยเมิ่งอยู่ที่ระดับใต้สวรรค์ขั้นปลาย ซึ่งหมายความว่าเขาแข็งแกร่งกว่าฉิงเฟิง 500 กิโลกรัมถ้าวัดกันจากพลังหมัด ในตอนแรกฉิงเฟิงได้เปรียบทางด้านความเร็ว แต่ทันทีที่เตี๋ยเมิ่งสําแดงย่างก้าวนกกระเทียนออกมาฉิงเฟิงก็สูญเสียความได้เปรียบไปในพริบตา จากที่กล่าวมาทั้งหมด เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวของผู้ฝึกยุทธ์โบราณนั้นยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
ต้องบอกว่าเตี๋ยเมิ่ง ในฐานะที่เป็นคุณชายน้อยของนิกายหมัดเหล็กนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และเป็นเพราะเขาได้รับทรัพยากรในการฝึกฝนมากมายจากนิกายซึ่งแตกต่างจากผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป
ฉิงเฟิงลูบหมัดตัวเองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดราวกับหมัดกําลังถูกไฟแผดเผา เขาได้ตระหนักแล้วว่าเตี๋ยเมิ่งนั้นไม่ธรรมดา และเขาก็รู้แล้วว่าความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์ใต้สวรรค์ขั้นปลายนั้นเป็นอย่างไร
เคล็ดวิชาจากในคัมภีร์จักรพรรดิยุทธ์ของฉิงเฟิงนั้นเป็นเพียงเทคนิคเกี่ยวกับการหายใจ ซึ่งสามารถเสริมความแข็งแกร่งแต่ไม่ได้เพิ่มความเร็วและพลังโจมตี
“ดูท่าคงต้องปลดผนึกเปิดใช้วฟคิงโทเท็ม…ถึงจะรับมือมันไหว”
ฉิงเฟิงพึมพํากับตัวเองและตัดสินใจใช้พลังจากโทเท็มราชันหมาป่า
ใจจริงแล้วฉิงเฟิงไม่ค่อยเต็มใจใช้พลังจากโทเท็มเท่าใดนักยกเว้นจะอยู่ในช่วงคับขันเป็นตายจริงๆ นี่เป็นเพราะว่าพลังจากวูฟคิงโทเท็มนั้นสามารถกระตุ้นพลังจากสายเลือดของฉิงเฟิงและเพิ่มพลังให้เขาเป็นสองเท่า แต่มันเป็นอันตรายต่อร่างกายของเขา
ทุกครั้งที่เขาใช้วฟคิงโทเท็ม หลังจากหมดเวลาร่างกายของเขาจะไร้เรี่ยวแรงจนอ่อนแอยิ่งกว่าคนธรรมดา ดังนั้นเขาจะไม่ใช้มันจนกว่าจะคับขันอย่างแท้จริง
โฮกกกกกกกก !!!
ฉิงเฟิงโห่ร้องราวกับหมาป่า รอยสักหมาป่าที่หน้าอกของเขากลายเป็นสีแดงเลือด ดวงตาและทั่วทั้งร่างของเขาก็เป็นเช่นเดียวกัน
พลังที่รุนแรงระเบิดออกมาจากร่างกายของฉิงเฟิง ความดุร้ายและกระหายเลือดแผ่ซ่านออกมา ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทันทีและเหนือกว่าเตี๋ยเมิ่งแล้ว
“หมัดหมาป่าโลหิต !!!”
ฉิงเฟิงเหวี่ยงหมัดขวาที่เป็นสีแดงเลือดด้วยพลังที่บ้าระห่ําออกมาในทันที เล็งไปที่ร่างของเตี๋ยเมิ่ง
ในหมัดสีแดงเลือดนี้มีเสียงร่ําร้องอย่างพร่าเลือนและเงาลางๆของหัวหมาป่าปรากฏออกมา แน่นอนว่ารูปแบบหัวหมาป่าที่ปรากฏออกมาอย่างเลือนลางนี้เกี่ยวพันกับพลังของเขา รูปแบบนี้จะไม่ปรากฏออกมา ถ้าหากเขาไม่ได้ฝึกยุทธ์โบราณจนระดับพลังก้าวข้าวมาอีกขั้น
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าหวาดหวั่นของหมัดหมาป่าโลหิต เตี๋ยเมิ่งก็ตกตะลึงด้วยแววตาที่เป็นกังวล
“หมอนี่…. ครอบครองโทเท็ม ?”
นัยน์ตาของเตี๋ยเมิ่งหดวูบในทันที ในฐานะที่เป็นคุณชายน้อยแห่งนิกายหมัดเหล็ก เขาย่อมรู้เกี่ยวกับพลังของโทเท็มเป็นอย่างดี ว่ากันว่าชนเผ่าหรือวงศ์ตระกูลที่ทรงพลังบางกลุ่มจะสลักสัญลักษณ์สัตว์บนร่างกายของลูกหลานที่มีพรสวรรค์มากที่สุด สัตว์เหล่านั้นอาจเป็นช้าง สิงโต เสือ หมาป่า มังกร เหยี่ยว เป็นต้น
ในขณะนี้เตี๋ยเมิ่งรู้สึกตกใจมาก เพราะเขารู้ว่าคนธรรมดาทั่วไปย่อมไม่สามารถครอบครองพลังอํานาจจากสายเลือดผ่านโทเท็มได้ มันเกินกว่าที่เขาคาดคิด
เมื่อเห็นว่าหมัดหมาป่าโลหิตของฉิงเฟิงกําลังพุ่งเสียดอากาศอย่างรุนแรงเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที เตี๋ยเมิ่งไม่กล้าประมาท เขาใช้พลังทั้งหมดเหวี่ยงหมัดเข้าปะทะกับฉิงเฟิงทันควัน หมัดของพวกเขากระทบกันเกิดเสียงดังสนั่น แม้แต่อากาศโดยรอบยังถูกฉีกกระชาก
ครั้งนี้ฉิงเฟิงยืนนิ่งอยู่กับที่ ส่วนเตี๋ยเมิ่งก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
ต้องบอกว่าหลังจากเปิดใช้งานวูฟคิงโทเท็ม ฉิงเฟิงก็แกร่งขึ้นจนเหนือกว่าเตี๋ยเมิ่งแม้ว่าระดับพลังจะต่างกัน
“ต้องล้ม.. เตี๋ยเมิ่ง … ภายใน 10 กระบวนท่า” ถึงแม้ว่าดวงตาและร่างกายของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด ราวกับอสูรร้ายแต่สติของฉิงเฟิงก็ยังคงแจ่มใส เขารู้ว่าพลังแห่งสายเลือดจากวฟคิงโทเท็มนั้นอยู่ได้ไม่นาน เขาต้องรีบปิดเกมโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นเขาจะอ่อนแอลงอย่างมากเมื่อพลังจากโทเท็มหมดไป
ดูม ตูม ตูม !! ..
ฉิงเฟิงออกหมัดหมาป่าโลหิตออกไปหลายหมัดพร้อมกับเสียงคํารามของหมาป่า ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงหมัดออกมาจะปรากฏรูปแบบที่พร่าเลือนของหัวหมาป่าโลหิตบนหมัด ทําให้มันดูดร้ายและน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เมื่อถูกโจมตีด้วยหมัดหมาป่าโลหิตของฉิงเฟิงไม่ยั้ง เตี๋ยเมิ่งก็ต้องล่าถอยไปเรื่อยๆด้วยใบหน้าซีดเซียวและ มีเลือดซึมที่มุมปาก พลังจากโทเท็มนั้นแข็งแกร่งตามที่เล่าขานกันไว้จริงๆ
ใบหน้าของเตี๋ยเมิ่งซีดขาว เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ซึ้งถึงพลังของโทเท็ม มันทําให้เขารู้สึกหวาดหวั่นมาก ถ้าเขาเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาที่ไม่ใช่คุณชายของนิกาย ป่านนี้เขาจอดตั้งแต่หมัดแรกไปแล้ว
วิชาหมัดหมาป่าโลหิตนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นตามพลังที่แท้จริงของผู้ใช้ ในขณะนี้ พลังที่แท้จริงของฉิงเฟิงอยู่ที่ระดับใต้สวรรค์ชั้นกลาง เขาจึงสําแดงพลังของหมัดหมาป่าโลหิตได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ฮมมมมมมม !!!
เสียงหมาป่าโห่ร้องออกมาอีกครั้ง ร่างกายของฉิงเฟิงกลายเป็นสีแดงยิ่งกว่าเดิม ลําแขนของเขาใหญ่ขึ้น รูปลักษณ์ที่ตอนแรกดูเลือนรางของหัวหมาป่าก่อรูปแบบขึ้นอย่างสมบูรณ์บนหมัดของฉิงเฟิงในครั้งนี้ หัวหมาป่านั้นไม่ใช่ภาพลวงตาอีกต่อไป ครั้งนี้ดูเหมือนของจริงมากทีเดียว
“การควบแน่นของแก่นแท้ ? หมอนเปิดใช้งานพลังสายเลือดจากโทเท็มได้โดยสมบูรณ์แล้ว” การแสดงออกทางสีหน้าของเตี๋ยเมิ่งเปลี่ยนไปอย่างมาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเรื่องความแข็งแกร่ง ยามปกติเขาไม่กลัวและไม่มีทางแพ้ฉิงเฟิงแน่นอน แต่สิ่งที่เขาหวาดหวั่นที่สุดก็คือพลังแห่งสายเลือดจากโทเท็ม ซึ่งมันคือพลังที่สืบเชื้อสายมาตั้งแต่โบราณกาล
“จบกันที !!”
ฉิงเฟิงตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด เหวี่ยงหมัดหมาป่าโลหิตที่แฝงด้วยเงาของหัวหมาป่า รวดเร็วราวกับสายฟ้าสีแดงที่กําลังผ่าลงมา ฉีกอากาศตลอดเส้นทางหมัดและจบลงที่การกระแทกเข้าสู่ร่างของเตี๋ยเมิ่งอย่างรุนแรง
กรอบ !
เตี๋ยเมิ่งถูกหมัดจนลอยไปบนอากาศและตกลงมาพร้อมกับเสียงกระดูกหัก เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด และเอียงศีรษะไปด้านข้างหมดสติทันที
บะ.. บ้าเอ๊ย คุณชายน้อยแพ้แล้ว !?
เมื่อเห็นเตี๋ยเมิ่งพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด โจวอี้ก็หน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือด ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาเทิดทูคุณชายน้อยแห่งนิกายเป็นอย่างมากเพราะว่าเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปลายใต้สวรรค์และเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับท็อบของนิกายหมัดเหล็กในยุคนี้ แต่ตอนนี้เขาพ่ายแพ้ต่อหลี่ฉิงเฟิงอย่างหมดรูป ยิ่งไปกว่านั้นคือถ้าข่าวนี้แพร่กระจายออกไป มันจะทําให้ผู้ฝึกยุทธ์ของนิกายต้องตกตะลึงอย่างมาก
ฉิงเฟิงหายใจถี่ ถึงแม้ว่าเขาจะเอาชนะเตี๋ยเมิ่งได้แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลงอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการปลดผนึกพลังจากวูฟคิงโทเท็ม
“ไม่ได้…. ฉันยังหมดสติตอนนี้ไม่ได้ ยังเหลืออีกคน.. ” ฉิงเฟิงกัดปลายลิ้นเพื่อดึงสติไว้ไม่ให้หมดสติไป และวิ่งไปหาโจวอี้ทันที
“มะ… ไม่ !!”
โจวอี้กรีดร้องและหันหลังเตรียมจะวิ่งหนีไป แต่ฉิงเฟิงย่อมไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ หลังจากไล่ตามทัน เขาก็ต่อยหลังคอจนหมดสติไป
จากนั้นจึงเฟิงก็หันไปมองเตี๋ยเมิ่งที่สลบอยู่ “ในฐานะคุณชายน้อยแห่งนิกายหมัดเหล็ก เจ้าหมอนี่ต้องมีของดีติดตัวบ้างแน่นอน”
หลังจากค้นตัวเตี๋ยเมิ่ง ฉิงเฟิงก็พบขวดลายครามสีขาวที่เขียนข้างขวดด้วยตัวหนังสือว่า ยาเสริมความแข็งแกร่งเส้นเอ็น
“หือ ? ยาเสริมแกร่งเส้นเอ็น ? ของดีนี่นา”
เมื่อเห็นชื่อยาฉิงเฟิงก็มีรอยยิ้มด้วยความสุข