My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 642
ตอนที่ 642 นี่เขาไม่สนใจฉันเลยหรือ ?
แปล Tarhai
“ไอ้ตุ๊ด ! แกกล้าดียังไงมาขู่ฉันวะ ? อยากชิมรสชาติกําปั้นของฉันรึไง ?” หยางผิงตะโกนลั่นพร้อมกับแสยะ
เฉิงเฟิงหัวเราะเล็กน้อยและรู้สึกสงสารนักเลงตรงหน้าเขาคนนี้ ทําไมเขาถึงต้องเจอแต่พวกโง่ๆแบบนี้ ? พูดจากใจจริง เขาไม่อยากลงมือเลยเพราะคนเหล่านี้อ่อนแอเกินไปแต่พวกมันก็มาสร้างปัญหาให้เขาไม่เคยหยุดหย่อน
“นายรีบไสหัวไปให้ไกลๆเลยก่อนที่ฉันนับถึงสาม”
ฉิงเฟิงมองไปที่หยางผิงและเริ่มนับ “1, 2, 3”
แต่หยางผิงก็ไม่ได้ก้าวเท้าไปไหนแม้แต่น้อย เขายังคงมองหน้าฉิงเฟิงด้วยใบหน้าเยาะเย้ยเขาแม้แต่หมุน แขนและเบ่งกล้ามโชว์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นฉิงเฟิงอยู่ในสายตา
เอาเข้าไป ในเมื่อพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องสงสัยต้องใช้ความรุนแรงเสียแล้ว
ฉิงเฟิงเดินไปที่หยางผิงและยกขวาขึ้นหมายจะเตะเข้าที่ท้อง
เมื่อหยางผิงเห็นฉิงเฟิงกําลังจะเตะใส่เขา เขาก็สะดุ้งและคิดจะป้องกัน อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงนั้นรวดเร็วเกินไปลูกเตะของเขาพุ่งเข้าใส่ท้องของหยางผิงในพริบตาจนกระเด็นไปไกลและเริ่มร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
“ไอ้ลูกหมา !! แกกล้าเตะฉัน แกกําลังขุดหลุมฝังศพตัวเอง” หยางผิงโมโหอย่างบ้าคลั่งเขาต้องการที่จะโชว์ออฟต่อหน้าพี่สะใภ้ แต่ไม่ทันได้แสดงฝีมือเขาก็ถูกฉิงเฟิงเตะจนกระเด็นเรื่องนี้ทําให้เขารู้สึกอับอายมาก
ฟุบ !
หยางผิงพยุงตัวเองเพื่อยืนขึ้น ความเจ็บปวดจากลูกเตะของฉิงเฟิงทําให้เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะลุกขึ้นได้ จากนั้นเขาก็ชักมีดพกออกจากหน้าอกและชี้ไปที่ลิ้งเฟิง
“หยางผิง อย่าใช้อาวุธ วางมีดลง !” เมื่อเห็นหยางผิงหยิบมีดพกออกมาหว่านหรูก็หวาดกลัวและร้องตะโกนเธอไม่ต้องการให้ฉิงเฟิงถูกทําร้ายหรือเสียชีวิต
ซูหว่านหรูรู้สึกขอบคุณฉิงเฟิงมาก ถ้าไม่เป็นเพราะเขาช่วยเธอเอาไว้ เธอก็คงล้มและเจ็บตัวไปแล้วแต่ใครจะคิดว่าหยางผิงจะบ้าคลั่งถึงขนาดชักมีดออกมา เขามันเลวบัดซบจริงๆ
มีดพก ??
ฉิงเฟิงแสยะยิ้ม นักเลงใช้ตัวช่วยที่อ่อนแอพวกนี้ไม่อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย
“ลองชิมรสชาติมีดของฉันดูหน่อยเป็นไง ไอ้เด็กน้อย !” หยางผิงยิ้มเยาะและเดินไปหาฉิงเฟิง
“หนีเร็วสิคะคุณ !” ซูหวานหรูกังวลจนแทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อเธอเห็นฉิงเฟิงยังยืนนิ่งและไม่ขยับตัว
แต่ฉิงเฟิงเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยต่อคําเตือนของเธอ เขายังยืนนิ่งจนกระทั่งมีดมาถึงตรงหน้าจากนั้นเขาก็ชูมือขึ้นและหนีบมันไว้ด้วยสองนิ้ว
อะไรวะเนี่ย ? จับมีดด้วยมือเปล่า !?
หยางผิงตกใจมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มข้างหน้าคนนี้จะอวดดีมากขนาดนี้ จับมีดด้วยสองนิ้ว ? แกคิดว่าแกเป็นใคร? ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ ?
หยางผิงใช้พลังทั้งหมดของเขาในการขยับคมมีดให้เฉือนผิวของฉิงเฟิง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็ทําให้เขาตกใจอย่างสิ้นเชิง คมมีดไม่เพียงแค่จะไม่สามารถตัดผิวหนังของฉิงเฟิงได้แต่ใบมีดก็เริ่มมีรอยปริร้าวขึ้นอีกด้วย !
ผิวหนังของฉิงเฟิงนั้นแข็งแกร่งจนอาวุธทั่วไปไม่สามารถทําร้ายเขาได้อีกแล้ว
เพลง !
ฉิงเฟิงออกแรงเล็กน้อยในการหักมีด จากนั้นก็โยนมีดทิ้งไปและตบหน้าหยางผิงอย่างแรงใบหน้าของเขาเริ่ มบวมเป่งด้วยรอยนิ้วมือ 5 นิ้วบนใบหน้า
ตอนแรกหว่านหรูกังวลว่าฉิงเฟิงจะได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อเธอเห็นเขาหักมีดได้ด้วยสองนิ้วเธอก็เริ่มตื่นเต้นผู้ชายคนนี้แข็งแรงมาก
“แก ! แกตบฉัน !? “
หยางผิงยกมือกุมแก้มที่บวมเป่งของเขา เขายังไม่อาจทําใจเชื่อได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เออ ก็ตามนั้นแหละ บ้าชิบ นายทําฉันเสียเวลามาก ฉันแค่จะมาซื้อเหล้ากลับบ้านแต่นายก็ยังราวีฉันไม่เลิกตอนนี้ไสหัวไปได้แล้ว” ฉิงเฟิงยกมือขึ้นและตบไปที่แก้มอีกข้างของหยางผิงจนมันเริ่มบวมขึ้นเช่นกัน
หยางผิงต้องการที่จะหลบ แต่มันก็รวดเร็วเกินกว่าที่เขาจะตอบสนองได้ทัน
ฉิงเฟิงตบหยางผิงไปสองครั้งแต่เขาก็ยังไม่พอใจ เขายกขาขึ้นเตะอีกครั้ง หยางผิงลอยกระเด็นออกไป 4-5 เมตรนอกร้านด้วยความเจ็บปวด
“ไสหัวไป !”
ฉิงเฟิงสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด
หยางฝั่งค่อยๆพยุงตัวเอ
ยืนด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับใบหน้าของเขาที่บวมเป่งเป็นซาลาเปา
เขามองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความหวาดกลัวและวิ่งหนีไปเหมือนคนคนเจอผี
“คุณคะ, ขอบคุณสําหรับทุกอย่างนะคะ ไม่งั้นวันนี้ฉันเดือดร้อนเพราะเขาแน่”
ซูหว่านหรูกล่าวขอบคุณ
ฉิงเฟิงโบกมือให้เธอและกล่าวว่า “เรื่องเล็กน้อย อย่าใส่ใจเลย ผมมาซื้อเหล้าช่วยเอาให้ผมสองขวดเร็วๆด้วยครับ”
ซูหว่านหรูวูบวาบด้วยความขมขึ้นเล็กน้อย เธอคิดในใจว่า
“ฉันมันน่ารําคาญขนาดนั้นเลยหรือ ? คุณถึงรีบกลับขนาดนี้ ?”
ซึ่งความจริงก็คือถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่หม้าย แต่เธอก็เพิ่งจะอายุสามสิบต้นๆและมีเสน่ห์มากเธอมีคนตามจีบมากมายอย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าน้อยใจนักที่ลิ้งเฟิงดูเหมือนจะไม่สนใจเธอเลย
“คุณเจ้าของร้าน ช่วยเร่งมือหน่อยครับ ผมต้องรีบไป” ฉิงเฟิงกล่าวหลังจากเห็นว่าหว่านหรยังคงยืนเหม่อ
ฉิงเฟิงยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีใบหน้าที่สวยงาม แต่เมื่อเทียบกับหลินเสวี่ยหรือหลิวหรูหยานแล้วมันต่างกันราวฟ้ากับดินอีกทั้งพ่อตาก็กําลังรอกินเหล้าอยู่ เขาไม่มีเวลามาเสวนากับผู้หญิงคนนี้
“นี่ค่ะ เหล้าขาว อู่เหลียงเย่ ซูหว่านหรูส่งสินค้าให้ฉิงเฟิงด้วยความขมขื่น
ฉิงเฟิงรับของมาและเตรียมจะควักเงินจ่าย แต่ซูหว่านหรูกลับไม่ยอมรับเงิน เธอกล่าวว่าถือเป็นคําขอบคุณที่ช่วยเธอและแก้ปัญหาเรื่องหยางผิง
“เอางั้นก็ได้ ถ้าคุณไม่รับเงินงั้นฉันจะขอรับน้ําใจครั้งนี้ไว้” ฉิงเฟิงขอบคุณเธอและเดินจากไปทันที
เมื่อเห็นเขาเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว ซูหว่านหรูก็รู้สึกสับสนมาก เธอคิดในใจ
“ชายหนุ่มคนนี้ไม่สนใจฉันเลยเหรอ…. ?”
ฉิงเฟิงวิ่งกลับบ้านอย่างรีบร้อนและทันทีที่เขาเปิดประตเข้าไปก็ได้ยินเสียงพ่อตาแซวขึ้นทันที
“ฮ่าๆๆ ฉิงเฟิง ไปซื้อเหล้าแค่นี้ทําไมนานนัก ฉันก็คิดว่าเธอหลงทางหายสาบสูญจนจะโทรเรียกหน่วยกู้ภัยอยู่แล้ว” หลินจือหัวเราะ
ฉิงเฟิงอมยิ้มเล็กน้อย เขารู้ว่าเขาใช้เวลานานมาก จึงกล่าวขอโทษออกมาว่า “ผมขอโทษครับที่ทําให้พ่อตาต้องรอนาน ผมเสียเวลามากไปหน่อยกับการวิ่งหาร้านขายเหล้า”
เมื่อได้ยินคําพูดฉิงเฟิง หลินเสวี่ยก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ร้านสะดวกซื้อข้างๆชุมชนก็มีเหล้าขาย ทําไมเขาถึงต้องเสียเวลาหาร้าน ??
เธออยากจะเอ่ยปากถาม แต่ก็รู้ดีว่าไม่ควรเปิดเผยความจริงต่อหน้าพ่อแม่ เครื่องหมายคําถามจึงลอยอยู่ในหัวของเธอ
“พ่อตา ผมมาช้ ขอใช้เหล้าแก้วนี้แทนคําขอโทษก็แล้วกันนะครับ” ฉิงเฟิงเปิดขวดเหล้าเทใส่แก้วตัวเองและชูขึ้น
เฉิงเฟิงนั้นเย่อหยิ่งอวดดีต่อหน้าคนอื่น แต่เขาก็อ่อนน้อมถ่อมตนต่ออาวุโสที่เขาเคารพเสมอ