Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ - ตอนที่ 144
เหล่าสัตว์อสูรที่ถูกบงการโดยเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้า พวกมันไม่สามารถฝ่าการโจมตีที่รุนแรงของดัมมี่ได้
ต้าซื่ออาศัยจังหวะนี้รีบคลานไปหาเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าทันทีพร้อมชาร์จสายฟ้าขึ้นที่หนวดของมัน ก่อให้เกิดลูกบอลไฟฟ้าออกมา
*เปรี๊ยะ*
ลูกบอลฟ้าได้เปลี่ยนเป็นตาข่ายไฟฟ้าลงมาและปกคลุมเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้า
เฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด ตามร่างกายของมันเต็มด้วยรอยไฟไหม้
มันได้ยกรากของตัวเองขึ้นมา รากของมันเต็มไปด้วยรูขนาดเท่าถั่วจำนวนมาก หลังจากนั้นมันเริ่มสูดรวบรวมสปอร์ในอากาศเข้าไปในรากของมัน
ภาพของรูจำนวนมากทำให้เกาเผิงขนลุกทันที หากเขาเป็นเป็นโรคกล้วรู เขาคงเป็นลมไปแล้วกับภาพข้างหน้า
หลังจากนั้นสักพักเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าก็ได้ยิงสปอร์ออกมา ทำให้ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยสปอร์ของเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้า ในสปอร์เหล่านี้มีปรสิตของมันที่ไว้ใช้บงการตัวอื่น
มันพ่นสปอร์อย่างรวดเร็วทำให้ต้าซื่อไม่เวลาหลบมันโดนเข้าเต็มๆ
สปอร์ที่ร่วงลงบนเปลือกของต้าซื่อ จากนั้นก็ได้ขยายตัวเป็นตะไคร่อย่างรวดเร็ว รากของมันได้บิดเป็นเกลียวเจาะเข้าไปที่เปลือกของต้าซื่อ
ต้าซื่อคำรามและได้ชาร์จไฟฟ้ารอบตัวของมัน ส่งผลให้ตะไคร่ที่อยู่บนตามตัวของมันทั้งหมดไหม้เกรียมทันที
สปอร์ที่กระจายทั่วบริเวณ บางส่วนที่ได้ได้ตกที่เปลือกของต้าซื่อ ได้ตกลงที่พื้นดินแทน สปอร์ได้ดูดซับสารอาหารในดินอย่างรวดเร็ว มันเติบโตและกลายเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่
เถาวัลย์พวกนี้ได้พุ่งโจมตีต้าซื่ออย่างดุร้าย
เกาเผิงได้เห็นแถบสถานะของเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าเปลี่ยนไปเป็น บาดเจ็บเล็กน้อย (โกรธ)
ที่มันโกรธขนาดนี้ก็เพราะว่ามันต้องใช้เวลารวบรวมสปอร์นานขนาดนี้แต่มันกลับทำอะไรต้าซื่อไม่ได้เลยจึงไม่แปลกที่มันจะหัวเสีย
ในอีกด้านหนึ่งการต่อระหว่างดัมมี่กับเหล่าสัตว์อสูรที่ถูกบงการ พวกต่างพยายามฝืนลุกขึ้นมา เพื่อปกป้องร่างต้นของมันให้ได้
[ชื่อสัตว์อสูร] ร่างกาฝากของเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้า
[เอฟเฟ็ค] สามารถดูดซึมพลังงานโดยรอบเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของร่างโฮสต์ได้
[ผลข้างเคียง] ร่างโฮสต์จะสูญเสียสติและถูกบงการโดยเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้า
บาดแผลของร่างหมาป่าที่ถูกบงการ เลือดได้หยุดไหลและค่อยฟื้นตัว
เดิมทีเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าเป็นหนึ่งในส่วนผสมของยาจีนโบราณมีสรรพคุณในการรักษาบาดแผล แต่ดูเหมือนว่าหลังจากการกลายพันธุ์ผลของารรักษาก็มากขึ้นเช่นกัน
เกาเผิงรู้สึกทึ่งกับเอฟเฟ็คนี้ ขนาดร่างกาฝากก็สามารถทำได้ถึงขนาดนี้
แต่น่าเสียที่ผลข้างเคียงมันมากเกินไป เขาไม่ยอมให้ตัวเองและสัตว์ของเขาต้องถูกบงการโดยเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าตัวนี้หรอก
เหล่าสัตว์อสูรที่พุ่งมาหาดัมมี่ราวกับซอมบี้ที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดใดๆ พวกมันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ดัมมี่ได้ฟาดหนอนให้มืออออกไป
*แคว่ก*
ในที่สุดสัตว์อสูรที่ดัมมี่ใช้ฟาดเป็นเวลานานจนร่างของมันได้แหลกสลายและขาดไปในที่สุด เศษซากของมันหล่นสู่พื้นดินพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้าย
พวกมันยังเดินหน้าเข้ามาโจมตีดัมมี่โดยไม่หยุดหย่อนแม้ว่ามันจะถูกดัมมี่ฟาดไปสักแค่ไหนก็ตาม พวกมันก็จะกลับมาพร้อมกับบาดแผลที่ค่อยๆได้รับการรักษา
เมื่อเวลาผ่านไป พลังในการรักษาของร่างกาฝากก็ไม่เพียงพอที่จะรักษาได้อย่างทันท่วงที ดูเหมือนว่าแค่การดูดซับพลังจากอากาศและดินจะไม่เพียงพอรักษาร่างโฮตส์ได้แล้ว พวกมันจึงเปลื่ยนเป็นดูดเลือดและของเหลวในร่างกายของโฮสต์แทน
ทำให้เหล่าสัตว์อสูรเหล่านั้นได้แห้งเป็นมัมมี่
“ปรสิตตัวนี้ช่างโหดร้าย” เกาเผิงพึมพำกับตัวเอง เขาไม่คิดว่าเฟิร์นลอเรนก้าที่แต่ก่อนพวกมันจะดำรงชีพด้วยดูดซับอาหารของอากาศและน้ำเพื่อความอยู่รอด แต่มันได้กลายพันธุ์จนสามารถดูดสารอาหารจากร่างโฮสต์โดยตรง
นี่แค่ 3ปีเท่านั้นพวกมันสามารถวิวัฒนาการได้ขนาดนี้ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเขาไม่กล้าจินตนาการว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นตามมา
*ตึง*
หนึ่งในร่างโฮสต์ได้ล้มลงในที่สุด มันถูกดูดเลือดมากจนเกินไปจนร่างกายไม่สามารถไปต่อได้แล้ว เมื่อร่างโฮสต์ใช้การไม่ได้แล้วร่างกาฝากจึงออกจากมันและฝังตัวลงพื้นดิน และค่อยงอกขึ้นเป็นเถาวัลย์อย่างช้าๆ
ส่วนตัวอื่นๆก็ค่อยๆเริ่มทยอยลงไปเช่นกัน ทำให้การต่อสู้ที่ดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดของดัมมี่กับสัตว์อสูรที่ถูกบงการได้จบลงซะที
เกาเผิงจึงสั่งให้ดัมมี่ได้สมทบกับต้าซื่อที่กำลังรับมือกับร่างหลักอยู่
เฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้าที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะจนมุม มันจึงรีบหนีทันทีและสั่งให้พวกกาฝากที่ยังมีร่างโฮตส์อยู่ให้ไปจัดการเกาเผิง
เกาเผิงจึงสั่งให้ทั้งสองตามไปโดยไม่ต้องเป็นห่วง
ดั่มมี่กับต้าซื่อรับคำสั่งและปฏิบัติตามทันที
พวกสัตว์อสูรได้ค่อยๆเดินมาหาเกาเผิง แต่เขาก็ไม่มีทีท่าหวาดกลัวแต่อย่างใด เพาะเขายังมีสตีปี้อยู่ข้างกาย ถึงแม้มันจะยังไม่ได้อยู่ในชนชั้นนักรบ แต่พวกมันก็ไม่ใช่คู่มือของสตีปี้เลยแม้แต่น้อย
สตีปี้เดินมาข้างหน้าเกาเผิงมันได้ใช้ขาที่แหลมคมแทงเข้าไปแค่ที่เดียวพวกมันก็ตายในทันที แต่สตีปี้รู้สึกไม่หนำใจมันยังคงแทงซ้ำไปเรื่อยๆ
ส่วนเฟิร์นลอเรนก้าเหล็กฟ้า มันหนีไปอย่างไม่เร็วนักเพราะเป็นพืชที่กลายมาจึงไม่มีทักษะที่เคลื่อนที่อยู่แล้ว มันได้ถูกต้าซื่อที่ตามหลังมากัดที่ลำต้นของมันอย่างรุนแรง มันได้ตายในทันที มันเป็นเพียงแค่ปรสิตที่อ่อนแอ หากไร้ร่างโฮสต์ที่บงการคอยปกป้องมัน มันก็ทำได้แค่นอนรอความตายเท่านั้น
หลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย เกาเผิงก็ได้ค้นไปที่ร่างของมันก็พบแก่นคริสตัลสัตว์อสูรสีเขียวที่เป็นเส้นใยที่แตกกิ่งก้านสาขา มันช่างดูคล้ายกับเส้นใยของเชื้อราเลย
เกาเผิงได้จับขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ด้วยรูปร่างของมันทำให้เกาเผิงรู้สึกได้สบายใจ ดังนั้นเขาจึงเรียกซิลลี่มาเพื่อใส่ในกระเป๋ามิติของมัน