Martial God Space - ตอนที่ 280

Martial god space ตอนที่  280   ทหารม้าปีศาจ

เย่ ซีหวิน  กลับมาที่ สำนักยี่หยวน เขารีบปิดด่านฝึกตนทันที  การทะลวงขอบเขตลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 ไปยังขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อความสามารถในการต่อสู้ของเขา

เย่ ซีหวิน  สั่งห้ามไม่ให้ใครรบกวนเขา  แม้ว่าจะมีงานเร่งด่วน ไม่ว่าใครก็ไม่ได้รับอนุญาตให้รบกวนเขา ความสำคัญในการทะลวงขอบเขตลมปราณของ  เย่ ซีหวิน  ในครั้งนี้จะส่งผลต่ออนาคตและผลประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับสำนักยี่หยวน การทำลายล้างฐานที่มั่นต่างๆ ของ ลัทธิมาร เป็นภารกิจที่สำคัญมาก เพราะภารกิจนี้ไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่ผู้อาวุโสของสมาพันธ์หอการค้าจะประสบความสำเร็จในการทำเช่นนั้นได้อย่างง่ายดาย

หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน หรือมากกว่านั้น และการโจมตีของ ลัทธิมาร เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันเริ่มโจมตีเมืองสำคัญใหญ่ ๆ

กองกำลังหลักทั้ง 5 กองกำลังใช้ความพยายามอย่างมากในการกวาดล้างกองกำลังของ ลัทธิมาร อย่างไรก็ตามกองกำลังของ ลัทธิมาร ในตอนนี้พวกมันดูเงียบสงบ ราวกับความสงบก่อนที่จะเกิดพายุ

ท้องฟ้าในวันนี้ปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำทั่วท้องฟ้า ทันใดนั้นก็มีเสียงโห่ร้องดังขึ้น และประตูหลักของ สำนักยี่หยวนก็สั่นสะเทือน คลื่นแห่งความน่าสะพรึงกลัวกระจายไปทั่วยอดขุนเขาหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณด้านหน้า ประตูหลักของสำนักยี่หยวนไม่สามารถต้านทานพลังอันรุนแรงจากการโจมตี มันแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั่นม่านพลังป้องกันก็ถูกทำลายในชั่วพริบตา

พื้นที่โดยรอบถูกฉีกขาดแตกออกเป็นชิ้นๆ  และกรงเล็บปีศาจขนาดมหึมาก็ยืดออกมาคว้าจับส่วนบนของยอดขุนเขาที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ ประตูหลักของสำนักยี่หยวน

” บรึ่มมม! ” ยอดขุนเขาถูกบดขยี้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ มีสาวกนับร้อยคนบนยอดขุดเขาถูกฆ่าตายในทันที

” นั่นใคร? ใครบังอาจโจมตีสำนักยี่หยวน ของเรา! ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ ดังออกมาจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน

” สำนักยี่หยวนของเจ้า ยืนหยัดอยู่มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว  ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะยุติความรุ่งโรจน์ของมัน! ” เสียงหัวเราะอันเยือกเย็นดังออกมาจากรอยแตกของพื้นที่มิติ  ทันใดนั้นมีมือขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า  มันกวาดเอาพื้นที่ที่มีรัศมีกว้างมากกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตรพังราบเป็นหน้ากลองทันทีในครั้งเดียว

” คำพูดของเจ้า ช่างน่าขัน! ” เสียงหัวเราะเยาะดังออกจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน ปราณดาบที่น่ากลัวก็พุ่งตัดผ่านช่องว่างของพื้นที่มิติ และชนกับมือขนาดใหญ่นั้น

” เปรี้ยงง! ” มือขนาดใหญ่ถูกสับออกเป็นชิ้นทันที ปราณจิตวิญญาณที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็แตกกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

ในเวลานั้น ร่างเงาบางอย่างได้ปรากฏขึ้น มันก้าวออกมาจากรอยแตกของพื้นที่มิติ  ร่างของมันถูกปกคลุมไปด้วย ปราณปีศาจ อันน่าสยดสยองที่สามารถบิดเบือนอากาศจนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของมันได้  มีเพียงดวงตาของมันที่ส่องสว่างเหมือนโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ 2 ดวง

ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวกระจายออกไปทุกทิศทุกทาง โดยมีร่างของมันอยู่ตรงกลาง

” ขอบเขตระดับนักปราชญ์!  ปีศาจตนนี้อยู่ในขอบเขตระดับนักปราชญ์! “

(NT: ขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท < ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว < ขอบเขตระดับตำนาน < ขอบเขตระดับนักปราชญ์ )

สาวกของสำนักยี่หยวน ต่างพากันสิ้นหวังในทันที เมื่อพวกเขาสัมผัสถึงระดับลมปราณที่แท้จริงของปีศาจตนนี้ ทุกคนรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของขอบเขตระดับนักปราชญ์นั้นน่ากลัวมาก และน่ากลัวมากเกินกว่าความเข้าใจของพวกเขา

ขอบเขตระดับตำนาน เป็นเพียงบุคคลในตำนานเท่านั้น และบุคคลในตำนานเหล่านี้ยังคงยึดติดอยู่กับวัฏจักรมนุษย์ อย่างไรก็ตามหลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับนักปราชญ์ บุคคลเหล่านี้จะก้าวข้ามวัฏจักรมนุษย์ และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการชำระร่างกาย และจิตวิญญาณของตนเอง สิ่งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการยกระดับที่เหนือกว่าวัฏจักรมนุษย์ และจากนั้นก็จะสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับนักปราชญ์ได้

ภาพเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน รอยแยกขนาดใหญ่ของพื้นที่มิติ กลายเป็นประตูมิติสำหรับกองทัพปีศาจและสาวกของ ลัทธิมาร ในการเดินทางเข้ามาเพื่อรุกรานโลกใบนี้ พวกมันขี่สัตว์ปีศาจที่น่าขยะแขยงออกมาจากประตูมิติ

เสียงคำรามต่างๆ ของสัตว์ปีศาจมากมายดังกึกก้องสะท้อนขึ้นไปบนท้องฟ้า กองทัพนับร้อยนับพันของปีศาจ และสาวกของลัทธิมาร หลายแสนคนได้มาถึงแล้ว

ในเวลานี้ กองกำลังที่น่าสะพรึงกลัวของปีศาจ และสาวกของลัทธิมาร ได้ปรากฏตัวขึ้นให้เห็นอย่างเด่นชัด

” พวกมันมีกองกำลังมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?  นี่มันบ้าไปแล้ว!  ลัทธิมารสามารถรวบรวมกองกำลังทหารปีศาจที่ชั่วร้ายได้มากมาย นี่มันไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่เราได้รับมา  ให้ตายเถอะ! ” สาวกคนหนึ่ง ตะโกนออกมา แม้ว่า ลัทธิมาร จะได้รับการกล่าวขานว่าเป็นองค์กรที่น่าเกรงขามมาก แต่พวกมันก็โดนกวาดล้างแบบชนิดขุดรากถอนโค่นไปแล้วเมื่อครั้งในอดีต พวกมันไม่น่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว  แต่ในเวลานี้ ลัทธิมาร สามารถรวบรวมกองกำลังทหารปีศาจที่ชั่วร้ายได้อย่างมากมาย!

พวกเขาต่างพากันสัมผัสถึงลางสังหรณ์อันน่ากลัวเกี่ยวกับเรื่องนี้  ความรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านได้เกาะกินไปจนถึงขั้วหัวใจของพวกเขา  ในขณะที่พวกเขายังคงจ้องมองไปที่ภาพเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของพวกเขา

กองกำลังทหารนับแสนคน กำลังเคลื่อนทัพมุ่งหน้าเดินตรงมายังสำนักยี่หยวน สาวกบางคนถึงกับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

กลุ่มของพวกผู้อาวุโส และศิษย์เอก ต่างพากันบินขึ้นไปบนท้องฟ้า  ในขณะที่สาวกคนอื่นๆ ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดของพวก เพื่อจัดการกับทหารปีศาจที่อยู่บนภาคพื้นดิน

เหล่าสาวก และผู้อาวุโสของสำนักยี่หยวน ต่างพากันออกมาเพื่อมีส่วนร่วมในการสู้รบในครั้งนี้ พวกเขายอมเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลก เพราะสำนักยี่หยวนเป็นเหมือนบ้านของพวกเขา  พวกเขาจะต้องปกป้องมันเอาไว้ด้วยชีวิต เหล่าสาวกทยอยวิ่งกันออกมาจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน และกระโดดเข้าไปร่วมการต่อสู้ในสนามรบอย่างไม่ลังเล

พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้  ขณะที่ทหารม้าปีศาจกำลังวิ่งไปด้านหน้า  ปีศาจตนหนึ่งที่นั่งอยู่บนสัตว์ปีศาจ มันเป็นผู้นำทัพทหารม้าปีศาจ  ท่าทางของมันดูดุดัน และดูเหมือนกำลังโกรธอยู่ตลอดเวลา

“ปังงงงง!”

สาวกส่วนหนึ่งของสำนักยี่หยวน ถูกบดขยี้โดยทหารม้าปีศาจ ร่างของพวกเขาฉีกขาดกระจายไปในอากาศ และเสียชีวิตแทบจะในทันที

” ฉึบบบ! ” สาวกหลายคนถูกหอกของทหารปีศาจ แทงเสียบทะลุเหมือนลูกชิ้นเสียบเรียงกัน  ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ ฉากนองเลือดก็เกิดขึ้นทั้งบนท้องฟ้า และบนสนามรบ

ภาพเหตุการณ์เหล่านี่เป็นฉากการต่อสู้ที่นองไปด้วยเลือด แต่ไม่มีเวลาพอที่จะคิดถึงเรื่องเหล่านี้  ตอนนี้ทุกคนมีเพียงความคิดเดียวคือการฆ่า  พวกเขาไม่ยอมแพ้ และทุ่มเทพลังทั้งหมดออกไป

ทหารม้าปีศาจที่ชั่วร้ายอีกกลุ่มหนึ่งได้วิ่งออกมาจากช่องว่างของพื้นที่มิติ และรีบวิ่งเข้าไปโจมตีแนวป้องกันของสำนักยี่หยวน

” ฉัวะ! ” สาวกของสำนักยี่หยวนหลายคนที่มีดาบ  ได้จัดตั้งทีมขึ้นมา และรีบวิ่งตรงไปข้างหน้าเพื่อจัดการทหารม้าปีศาจที่เข้ามา พวกเขาร่วมพลังกันสร้างกำแพง ปราณดาบ ขึ้นมา และทันทีที่ทหารม้าปีศาจเข้ามา มันก็ถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆ เหมือนเนื้อที่ถูกสับ

ทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย  และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าฝ่ายตรงข้าม

นี่เป็นเหตุการณ์การต่อสู่ที่ยิ่งใหญ่ และจะถูกเล่าขานต่อไปจนเป็นตำนานอันเป็นอมตะ!

สำนักยี่หยวนได้ยืนหยัดมานานนับพันๆ ปี  นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบุกเข้ามาโจมตีประตูหลักของสำนักยี่หยวนโดยตรง นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  ดังนั้นเหล่าสาวกส่วนหนึ่งยังคงพากันตกอยู่ในความสับสน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าตอนนี้เจตนารมณ์ของพวกเขาแข็งแกร่ง และชัดเจนมากยิ่งกว่าที่เคยมีมา

ที่นี่คือบ้านของพวกเขา  พวกเขาไม่คิดที่จะยอมแพ้ หรือการหลบหนีไม่ใช่ตัวเลือกของพวกเขา

ค่ายกลสนามพลังโบราณได้ถูกเปิดใช้งาน และเหล่าสาวกก็ได้เห็นพลังที่แท้จริงของสำนักยี่หยวน ค่ายกลสนามพลังเหล่านี้ถูกฝังเอาไว้นานนับร้อยนับพันปีได้เริ่มทำงานแล้วในเวลานี้  ทหารปีศาจหลายคนที่วิ่งเข้ามาในสนามพลัง ร่างของพวกมันก็ถูกบดขยี้ทันที

” ยิง! ” เสียงตะโกนดังมาจากฝั่งของฝ่ายปีศาจ และทันใดทหารปีศาจก็เอาคันธนูออกมา  พวกเขาและยิงลูกศรเวทขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับสายฝน และทำให้ท้องฟ้าถูกบดบังเอาไว้ชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นลูกธนูก็ตกลงมาโดนสาวกของสำนักยี่หยวน

” อาาาาร์! “

” อ๊ากกกก! “

” อั่กกก! “

ในชั่วพริบ ร่างของเหล่าสาวกของสำนักยี่หยวนจำนวนมากก็ถูกเสียบด้วยลูกศรเวท ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวด หลังจากสิ้นเสียงของเหล่าสาวกนั้น  นั่นก็หมายถึงการเสียชีวิตของเหล่าสาวกนับไม่ถ้วน

” โจมตีสวนกลับ! ” ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสคนหนึ่งตะโกนออกมาจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน และทันใดนั้นการก่อตัวของค่ายกลโจมตีโบราณขนาดใหญ่ ก็การดูดซับเอาปราณจิตวิญญาณทั้งหมดในอากาศทันที

” ครึ่นน! “

” ครึ๊นนนน! “

ในชั่วพริบตา ท่ามกลางก้อนเมฆสีดำบนท้องฟ้า มังกรดำได้ปรากฏตัวขึ้นในก้อนเมฆ และปลดปล่อยสายฟ้าอันรุนแรงกระจายไปทั่วท้องฟ้า ทันใดนั้นสายฟ้าขนาดใหญ่ก็พุ่งลงมาจากก้อนเมฆสีดำราวกับงูสายฟ้า ทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบฝ่ายของปีศาจกลายเป็นทะเลสายฟ้า ทหารปีศาจจำนวนมากและสาวกของลัทธิมารก็หยุดชะงักกลายเป็นอัมพาตด้วย และถูกเผาไหม้ด้วยพลังโจมตีจากสายฟ้า

ทหารปีศาจนับไม่ถ้วนถูกเผาไหม้จนดำเป็นตอตะโกในทะเลสายฟ้านี้

นี่คือการเผชิญหน้าระหว่างสองกองกำลังขนาดใหญ่ ทุกช่วงเวลามีการสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากทั้งสองฝ่าย การปะทะกันอย่างรุนแรงได้ทำให้สนาบรบแห่งนี้กลายเป็นแม่น้ำเลือด และเนื้อบดละเอียดเหมือนซอสเนื้อ

ปราณปีศาจอันน่าสยดสยองจำนวนมหาศาลได้ลอยออกไปไกลหลายร้อยไมล์บนท้องฟ้า

การเปิดใช้งานค่ายกลโบราณหลายชนิดได้ช่วยแก้ไขวิกฤตในตอนนี้ แต่การฟื้นฟูพลังของพวกเขาจะต้องใช้เวลา อาจทำให้สาวกของพวกเขาต้องเผชิญอันตราย  ในขณะเดียวกันเหล่าสาวกของสำนักยี่หยวนต้องมาเสียชีวิตโดยไม่จำเป็นจากการต่อสู้ของพวกเขา  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในสงครามนี้คือ  ทหารม้าปีศาจที่มีดวงตาส่องสว่างเหมือนโคมไฟสีแดง

ในขณะนี้ แนวป้องกันของสาวกของสำนักยี่หยวนได้ถูกทำลายลง

ทหารม้าปีศาจที่ชั่วร้ายนับร้อยนับพันตน ได้รีบพากันวิ่งเข้ามาโจมตีในทันที

“เปรี้ยงง!” แต่ทันใดนั้นลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งออกมาจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน พลังทำลายล้างของมันกวาดเอากองทหารม้าปีศาจที่ชั่วร้ายทั้งหมดได้ในครั้งเดียว

ป้อมปราการแห่งสงครามขนาดใหญ่ได้บินออกมาจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน  มันคือเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ ยอดขุนเขา ของสำนักยี่หยวน ในเวลานี้ป้อมปราการแห่งสงครามขนาดใหญ่ ถือเป็นอาวุธอันทรงพลัง มันถูกสร้างในในช่วงยุคแห่งการสถาปนาจักรพรรดิ ตอนนี้ในที่สุดมันถูกนำออกมาใช้งาน  แต่มันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว ดังนั้นควรนำมาใช้เฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น

ป้อมปราการแห่งสงคราม บรรจุไปด้วยค่ายกลต่างๆ ทุกครั้งที่มันเริ่มโจมตี ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้เทียมทานจะถูกเล็งเป้าหมายไปที่กองทัพของเหล่าปีศาจ และก่อให้เกิดการระเบิดอันน่าสะพรึงกลัว  กองทัพของเหล่าปีศาจต้องสูญเสียกำลังคนเป็นจำนวนมากหลังจากการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของป้อมปราการแห่งสงคราม

ทันทีที่ ป้อมปราการแห่งสงคราม บินออกมาจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน กองทัพของทหารม้าปีศาจ ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และทำให้การโจมตีของกองทัพของทหารม้าปีศาจต้องหยุดชะงักลงทันที

“ปังงงง!”

ในเวลานี้มีเสียงดังกึกก้องราวกับเสียงของสายฟ้า และมีเสียงแตกประจุของสายฟ้าดังออกมาจากรอยแตกของพื้นที่มิติ จากนั้นร่างขนาดใหญ่ของสัตว์ปีศาจที่มีความสูงกว่าร้อยเมตรพุ่งออกมาจากรอยแตกของพื้นที่มิติ

” สัตว์ปีศาจสงคราม! “

” มันคือ สัตว์ปีศาจสงคราม! “

สาวกคนหนึ่งจดจำมันได้จากหนังสือสงครามโบราณที่ถูกบันทึกเอาไว้ มันคือ สัตว์ปีศาจสงคราม แต่ละตัวสูงราวกับภูเขาสูงหลายร้อยเมตร เมื่อมันมาถึงช่องว่างของพื้นที่มิติจะถูกฉีกขาดเกิดเป็นรอยแตกของมิติขนาดใหญ่ และการดำรงอยู่ของมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่เคยปรากฏขึ้นในโลกของพวกเขา มันเป็นมากกว่าอาวุธที่ทรงพลังของโลกแห่งปีศาจ  การมาถึงของมันมาพร้อมกับการทำลายชื่อเสียงของมันถูกกล่าวขานอยู่ทั่วทุกมุมของโลก  แต่ในเวลานี้มันกำลังแสยะยิ้ม และเผยให้เห็นเขี้ยวที่แหลมคมของมัน