Martial God Space - ตอนที่ 279
Martial god space ตอนที่ 279 ลองใช้วิธีอื่น
ข่าวการต่อสู้ระหว่าง เย่ ซีหวิน และ กู่หยัน ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสำนักยี่หยวน โดยเฉพาะในกลุ่มของเหล่าศิษย์เอกที่ชื่นชมในตัวของ เย่ ซีหวิน และความเกลียดชังอย่างรุนแรงที่มีต่อ กู่หยัน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากพอที่จะสอนบทเรียนให้กับ กู่หยัน อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ได้ทำลายความเชื่อมั่นของเขา และมอบความพ่ายแพ้ให้กับ กู่หยัน โดยสมบูรณ์
ความรู้สึกของเหล่าสาวกที่มีต่อ เย่ ซีหวิน ไม่ได้สำคัญเท่ากับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มันมากพอที่จะแทนความรู้สึกทั้งหมดของสาวกที่อยู่ในงานชุมชนศิษย์เอก ทุกคนต่างก็รู้สึกขอบคุณ เย่ ซีหวิน ในสิ่งที่เขาได้ทำลงไป
ในเวลานี้ เย่ ซีหวิน เป็นหนึ่งในพวกเขา และ กู่หยัน เป็นเพียงคนนอก พวกเขาจะคอยยืนอยู่ข้างๆ เย่ ซีหวิน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ในเวลานี้สีหน้าของ ลี่เฟย ยากที่จะจินตนาการได้ และทำให้พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจมากสำหรับชัยชนะ พวกเขาเป็นศิษย์เอกที่มีชื่อเสียงของของสำนักยี่หยวน และแน่นอนความรู้สึกภาคภูมิใจนี้มาจากหนึ่งในพวกเขา สามารถเอาชนะคนนอกที่ดูถูกเหยียดหยามพวกเขา และนิกายของพวกเขา
แน่นอนว่าบรรพบุรุษของ ลี่เฟย เคยเป็นศิษย์ของสำนักยี่หยวน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาจะสามารถดูหมิ่นสำนักยี่หยวนได้!
” เจ้าเห็นหรือไม่? กู่หยัน ไม่ใช่คู่มือของ เย่ ซีหวิน เขาถูกกระทืบจมลงไปบนพื้น คนเย่อหยิ่งเช่นเขาสมควรถูกบดขยี้! “
” ใช่ ศิษย์เอกของ สถาบันยอดยุทธ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ข้าไม่เข้าใจเหตุใดพวกเขาถึงเย่อหยิ่งกันนัก “
” ข้าว่า กู่หยัน ไม่ใช่สาวกที่ยิ่งใหญ่ของ สถาบันยอดยุทธ ข้าคิดว่าเขาเป็นเพียงสาวกระดับภารโรงที่มีพฤติกรรมที่เย่อหยิ่ง “
” ความแข็งแกร่งของสาวกจาก สถาบันยอดยุทธ ไม่ได้ด้อยเลย ถึงแม้ กู่หยัน จะพยายามโจมตี เย่ ซีหวิน เพียงใด แต่ก็ไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้เขาได้ เพราะ เย่ ซีหวิน นั้นแข็งแกร่งมากเกินไป ในเวลาเพียงสองปีหลังจากเข้าสำนักยี่หยวน เขาเป็นศิษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ของนิกายที่เติบโตอย่างบ้าคลั่ง เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่หายาก ที่ปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียวในหนึ่งพันปี! “
” อันที่จริงแล้ว ข้าได้ยินจากเหล่าศิษย์เอกหลายคนว่า กู่หยัน นั้นทรงพลังมาก ถ้า เย่ ซีหวิน ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว สาวกคนอื่น ๆ คงไม่รอดชีวิตจากการต่อสู้ในครั้งนี้ “
” ใช่แล้ว ความเร็วในการเติบโตของ เย่ ซีหวิน เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์มาก “
” ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้ยินมาว่าชายสองคนนี้เป็นตัวแทนของ สถาบันยอดยุทธ พวกเขามายังสำนักยี่หยวนเพื่อคัดเลือกเหล่าสาวกที่มีคุณสมบัติเข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ แต่ เย่ ซีหวิน ทำให้พวกเขาเสียหน้า ข้าหวังว่ามันคงจะไม่ส่งผลกระทบต่อการคัดเลือกของสาวกคนอื่นๆ “
เหล่าสาวกของสำนักยี่หยวนกำลังพูดคุยกัน เกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ พวกเขาไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย เพราะตลอดชั่วชีวิตของพวกเขาก็ไม่อาจเอื้อมไปถึง ดังนั้นพวกเขาจึงพูดคุยเรื่องนี้ได้โดยไม่ต้องกลัวรับโทษ
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่หลายๆ คน ต่างพากันกังวลก็เกิดขึ้น เมื่อรายชื่อของ เย่ ซีหวิน ไม่ได้ติดอยู่ในรายชื่อของสาวกที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ ข่าวลือดังกล่าวเป็นที่สนใจของทุกคนในสำนักยี่หยวน และลุกลามอย่างรวดเร็วราวกับไฟไหม้ป่า
เห็นได้ชัดว่าตัวแทนทั้งสองของ สถาบันยอดยุทธ ได้ใช้อำนาจของพวกเขาเพื่อจัดการปัญหาส่วนตัว ซึ่งสร้างความไม่พอใจในกลุ่มของเหล่าสาวก!
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ เย่ ซีหวิน ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักยี่หยวน หรือ ลี่เฟย และ กู่หยัน ต่างก็ไม่ให้คำตอบ หรือ มีคำอธิบายใดๆ
ภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์บนยอดขุนเขาเฉียนหยู่
” ครั้งนี้ เจ้าหุนหันพลันแล่นเกินไป! ” เย่ เฟ่ง ถอนหายใจ และมองไปที่น้องชายที่แสนดื้อรั้นของเขา ที่ต้องการจะไป สถาบันยอดยุทธ ก่อนหน้านี้ แต่จบลงด้วยการสร้างปัญหาดังกล่าว ตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ ได้
” ไอ้พวกขี้โกง ไอ้พวกหลอกลวง! พวกมันทำเกินไปแล้ว ” ลูกหมาป่า กล่าวด้วยความขุ่นเคือง และไม่อาจสงบใจลงได้ เมื่อนึกถึงคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามของพวกมัน
เย่ ซีหวิน ไม่พูดอะไร เพราะเขาเชื่อว่าเขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
” ตอนนี้เจ้าจะทำยังไง? เจ้าวางแผนจะเข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ อย่างไร ” เย่ เฟ่ง ถาม
” เชื่อใจได้เลย ข้าจะหาวิธีอื่น ข้าจะเข้าร่วมการคัดเลือกด้วยการแข่งขัน และเอาชนะพวกมันทั้งหมดเพื่อผ่านการคัดเลือก ” เย่ ซีหวิน กล่าวว่าด้วยท่าทางที่สงบ และะผ่อนคลาย
ในความเป็นจริง มีสองวิธีในการเข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ หนึ่งคือการสร้างความประทับใจให้กับตัวแทนที่ถูกส่งมาจาก สถาบันยอดยุทธ วิธีที่สอง คือ อาศัยความสัมพันธ์จากสาวกบางคนใน สถาบันยอดยุทธ เพื่อใช้สิทธิพิเศษดังกล่าวในการเข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ ถึงแม้จะมีการคัดเลือกด้วยการแข่งขัน อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์ของการคัดเลือกด้วยการแข่งขันนี้ เป็นเพียงการจัดอันดับ และแบ่งตามความสามารถในการต่อสู้ และความแกร่งของพวกเขา
แต่สำหรับหลายๆ คนไม่ได้โชคดีที่มีความสัมพันธ์บางอย่างกับ สถาบันยอดยุทธ และตัวเลือกเดียวของพวกเขา คือ วิธีที่สอง เข้าร่วมการคัดเลือกด้วยการแข่งขัน และเอาชนะผู้เข้าร่วมการทดสอบทั้งหมดจนติดอยู่ในรายชื่อระดับต้นๆ กรณีนี้ค่อนข้างยากลำบาก และผู้เข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 95% มักจะถูกตัดออกจากการแข่งขัน เหลือจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่สามารถผ่านการคัดเลือกได้
โอกาสของเขาถูกปิดกั้นตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ เย่ ซีหวิน จะต้องเข้าร่วมการคัดเลือกด้วยการแข่งขันเท่านั้น เขารู้ดีว่าการเข้าร่วมการคัดเลือกครั้งนี้ เขาจะต้องพบกับคู่ต่อสู่ที่น่าเกรงขาม และแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ และจะมีเหล่าอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วน ถูกฆ่าตายในระหว่างการเข้าร่วมการแข่งขัน
แม้ว่าผู้เข้าร่วมการคัดเลือกส่วนใหญ่จะมาจากตระกูล และนิกายเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ในความเป็นจริง มีอัจฉริยะที่ไร้เทียมทานมากมายที่ถือกำเนิดขึ้นจากนิกายเล็ก ๆ
เย่ ซีหวิน ไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน และหากเขาใช้ทางลัดก็คงหมดความสนุกตั้งแต่เริ่มต้น เขามองไปถึงประสบการณ์มากมายที่จะได้รับจากการต่อสู้รบอันโหดเหี้ยมที่กำลังจะเกิดขึ้น
เส้นทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้น ด้วยพลังอำนาจของตนเอง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้!
อย่างน้อยเขาก็ยังมีพื้นที่ลึกลับ และความช่วยเหลือของ เยโม่ ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกลัว และสามารถก้าวข้ามอุปสรรคไปข้างหน้า!
หลังจากสองสัปดาห์ต่อมาสาวกที่ผ่านการคัดเลือกได้เดินทางไปยัง สถาบันยอดยุทธ นอกเหนือจาก หวง ลั่วเฉิน, ฉี เฟ่ยฝาน และ สุ่ยเหยียน ลั่ว แล้ว ฮัว หมิงฮัน ก็เดินทางไปที่ สถาบันยอดยุทธ อย่างกะทันหัน ยังมีศิษย์เอกอีกสิบสองคนร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย อาจกล่าวได้ว่าสาวกระดับหัวกะทิทั้งหมดของสำนักยี่หยวน ถูกนำตัวไปโดยตัวแทนของ สถาบันยอดยุทธ
โชคดีที่สำนักยี่หยวนไม่ได้สูญเสียสาวกระดับหัวกะทิเพียงนิกายเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสาวกระดับหัวกะทิจากนิกายอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ได้เดินทางไปยัง สถาบันยอดยุทธ
ศิษย์แท้จริงทั้งหกของสำนักยี่หยวน ตอนนี้มีเพียง 2 คนเท่านั้น คือ ฉู จิ้งฉาย และ เย่ ซีหวิน
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้กับส่งผลดีต่อการเติบโตของสมาพันธ์เฉียนหยู่ เนื่องจากทุกคนต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธ์ของศิษย์แท้จริงที่ยังเหลืออยู่ เนื่องจากเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะเข้ากลุ่มของ ฉู จิ้งฉาย สมาพันธ์เฉียนหยู่ จึงกลายเป็นกลุ่มที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าร่วม เมื่อพิจารณาจากชื่อเสียงของ เย่ ซีหวิน และตำแหน่งของเขาในฐานะศิษย์แท้จริงที่แข็งแกร่งที่สุดในสาวกรุ่นเยาว์
ผลงานที่ยอดเยี่ยมของ เย่ ซีหวิน ในฐานะตัวแทนของสำนักยี่หยวน เขาช่วยรักษาชื่อเสียง และศักดิ์ศรีของสำนักยี่หยวนจากตัวแทนที่เย่อหยิ่งของ สถาบันยอดยุทธ ทำให้เขากลายเป็นที่นิยมในหมู่สาวกรุ่นเยาว์ และเป็นศิษย์แท้จริงในเวลาอันสั้นที่สุด
อย่างไรก็ตาม การสูญเสียสาวกระดับหัวกะทิครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อกำลังรบโดยรวมของสำนักยี่หยวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดการจลาจลของ ลัทธิมาร
เวลานี้พวกมันคิดจะลงมือเพื่อสร้างความวุ่นวาย โดยพิจารณาจากการขาดกำลังรบของสำนักยี่หยวน เป็นผลมาจากการส่งสาวกระดับหัวกะทิไปยัง สถาบันยอดยุทธ นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกมันสำหรับการก่อการจลาจล
. . . . . . . . . .
หนึ่งเดือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่า ลัทธิมาร จะรู้ว่ากองกำลังสำคัญทั้งหมดของสาวกระดับหัวกะทิได้ถูกส่งตัวไปยัง สถาบันยอดยุทธ พวกเขาจึงยกระดับความวุ่นวายอย่างเห็นได้ชัด
เย่ ซีหวิน ถูกส่งตัวไปกวาดล้างเหล่าสาวกของ ลัทธิมาร ที่ก่อความไม่สงบ ในขณะนี้มีเพียงสองศิษย์แท้จริงที่เหลืออยู่ในนิกาย ฉู จิ้งฉาย ต้องเข้าไปที่ในส่วนลึกของสำนักยี่หยวน เพื่อช่วยวางแผนแก้ไขปัญหา และบริหารงานต่างๆ ดังนั้นมีเพียง เย่ ซีหวิน เท่านั้นที่สามารถปฏิบัติภารกิจภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินได้
บางภารกิจที่เกี่ยวกับ ลัทธิมาร หากเกินความสามารถของเหล่าศิษย์เอกแล้ว เย่ ซีหวิน จะถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจแทน ถึงแม้จะมีสาวกระดับตำนานครึ่งก้าวเพิ่มขึ้นมากใน 5 กองกำลังหลัก แต่ตอนนี้จู่ ๆ พวกเขาก็หายตัวไปทั้งหมด ซึ่งสร้างความกดดันอย่างมากต่อสาวกที่ยังเหลืออยู่ เนื่องจาก ฉู จิ้งฉาย ต้องเตรียมพร้อมรับตำแหน่งหัวหน้านิกายคนต่อไป เย่ ซีหวิน จึงกลายเป็นผู้นำของสาวกรุ่นใหม่
ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านนี้ เย่ ซีหวิน ได้ทำลายล้างฐานที่มั่นมากกว่า 20 แห่งของ ลัทธิมาร และทำให้ชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากในอาณาจักรหุบเขาเมฆา
ในวันนี้ท้องฟ้าสีครามไร้เมฆราวกับว่ามันถูกชำระล้างสะอาดจนไม่มีที่ติ ทำให้สามารถลำแสงบางอย่างกำลังวิ่งตัดผ่านบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน
เย่ ซีหวิน กำลังเดินทางด้วยลำแสงสายรุ้ง ขณะที่มือทั้งสองข้างของเขาประสานกันไว้ด้านหลัง แม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาจะเทียบได้กับขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท แต่ภารกิจการทำลายล้างฐานที่มั่นของ ลัทธิมาร กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น ลัทธิมาร ได้เรียกสาวกที่แข็งแกร่งมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม เช่น เย่ ซีหวิน ตอนนี้ เย่ ซีหวิน ตระหนักได้ว่าเขาไม่ควรรอช้าอีกต่อไป
เขาจะต้องทะลวงขอบเขตลมปราณอีกครั้ง ก่อนเผชิญหน้ากับศัตรูในครั้งต่อไป!
หลังจากทำลายล้างฐานที่มั่นของ ลัทธิมาร มากกว่า 20 แห่ง เขาได้รับทรัพยากรเป็นจำนวนมากรวมถึง โอสถหลอมจิตวิญญาณ มากกว่า 50,000 ก้อน ซึ่งเพียงพอต่อการสะสมพลังของเขา เวลาในการทะลวงขอบเขตลมปราณใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น
ขอบเขตภายในของ เย่ ซีหวิน ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในห้องสมุด ดังนั้นตราบใดที่เขามีพลังงานมากเพียงพอ การทะลวงขอบเขตลมปราณก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
เย่ ซีหวิน ยังเหลือ แกนผลึกปีศาจ อีกหนึ่งก้อนจากหนังสือปีศาจระดับตำนานครึ่งก้าวในห้องสมุด ด้วยทรัพยากรทั้งหมดเหล่านี้จะช่วยให้เขาสามารถก้าวกระโดดจากระดับสูงสุดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 ไปสู่ขอบเขตลมปราณปัจฉิมบทได้ในคราวเดียว จากนั้นความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ซึ่งทำให้เขาสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานครึ่งก้าวได้อย่างง่ายดาย
เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะไปถึงระดับสุดยอดของขอบเขตลมปราณมหาเทพ และขั้นตอนต่อไปก็คือ การก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว อย่างไรก็ตามการสะสมพลังของเขายังไม่เพียงพอที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว เพื่อจะร่วมการคัดเลือกด้วยการแข่งขันกับผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่นๆ ของ สถาบันยอดยุทธ เขาต้องก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว และดูเหมือนเขาจะมีความมั่นใจมากขึ้น