Martial God Space - ตอนที่ 270

Martial god space ตอนที่  270   ปีศาจหนังสือ

” เวลาในการฝึกฝนของเราสั้นเกินไป ดังนั้นถ้าเราก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานตอนนี้ เราก็คงอยู่อันดับล่างสุดของ สถาบันยอดยุทธ” ฉี เฟ่ยฝาน กล่าว

เย่ ซีหวิน พยักหน้า แม้ว่าจะมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม  แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะยกระดับให้เหนือกว่าของขอบเขตระดับตำนานได้อย่างง่ายดาย

” ดังนั้น จะเป็นการดีถ้าอยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว และถ้าเราสามารถแสดงผลงานที่โดดเด่นได้ในระหว่างการทดสอบ  บางทีพวกเขาอาจได้รับสถานะของศิษย์ชั้นใน หรือแม้แต่ศิษย์หลัก ” ฉี เฟ่ยฝาน กล่าว

ตอนนี้  เย่ ซีหวิน  เข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมศิษย์แท้จริงเหล่านี้  จึงไม่กระตือรือร้นที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนาน!

ดังนั้น พวกเขาเลยวางแผนมานานหลายสิบปี ก็เพื่อเพียงโอกาสเดียวนี้เท่านั้น

” ศิษย์น้อง เย่  ด้วยอายุและระดับการเพาะบ่มของเจ้า  ถ้าเจ้ารออีก 100 ปีแล้ว จนถึงเวลาเปิดรับการทดสอบอีกครั้งของ สถาบันยอดยุทธ  หากฝ่ายตรงข้ามอยู่ในระดับตำนานครึ่งก้าว ก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าอีกต่อไป ” ฉี เฟ่ยฝาน พยายามพูดให้ความเห็นถึงความสำคัญ  เพราะหากเป็นไปตามความเร็วในการเพาะบ่มของ  เย่ ซีหวิน เขาน่าจะก้าวไปสู่ขอบเขตระดับตำนานได้ในอีก 100 ปีข้างหน้า ในความเป็นจริงเขาอาจจะสามารถเข้าถึงขอบเขตระดับนักปราชญ์ซึ่งเป็นระดับที่เหนือกว่าได้ หากการเพาะบ่มของเขายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

” กล่าวได้ว่าตอนนี้ ฉู จิ้งฉาย ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานแล้ว เขาจะปฏิเสธการเข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ ในครั้งนี้หรือ? ” เย่ ซีหวิน ถาม แต่เขาเห็นได้ชัดว่า ฉู จิ้งฉาย  ไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขารอมาถึง 100 ปี สำหรับโอกาสนี้ อย่างไรก็ตามการเลื่อนเวลาออกไปอีกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเขาในตอนนี้ เนื่องจากอายุขัยของผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานจะเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ปี และหากรออีก 100 ปี ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับ ฉู จิ้งฉาย เพราะพลังชีวิตของพึ่งเริ่มต้นหลังจากเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับตำนาน

“ใช่  ข้าถึงต้องมาเป็นคนกลางเพื่อไกล่เกลี่ยเพื่อขจัดความเข้าใจผิด ระหว่าเจ้าทั้งสองไม่ควรเกิดเรื่องบาดหมางกันโดยไม่จำเป็น  ข้าจะไปที่ สถาบันยอดยุทธ พร้อมกับศิษย์แท้จริงคนที่สอง และสาม  ดังนั้นตอนนี้จะมีเพียงเจ้า กับ ฉู จิ้งฉาย และ ฮัว หมิงฮัน เท่านั้นที่อยู่ในสำนักยี่หยวน ในฐานะศิษย์แท้จริง ข้าอยากให้พวกเจ้าทั้งสามร่วมมือกัน และคอยปกป้องสำนักยี่หยวน ” ฉี เฟ่ยฝาน กล่าว ” อย่าเข้าใจเจตนาของ ฉู จิ้งฉาย ผิดไป  เขาเป็นคนที่เสียสละอย่างมากเพื่อนิกายของเรา “

” ข้าไม่ได้ถือสาอะไรกับเขา ถ้าจะให้พูดตามตรง  แต่ผู้ติดตามของเขาพยายามยั่วยุข้า  ซึ่งข้าไม่อาจทนยืนนิ่งเฉยได้ และปล่อยให้พวกมันทำตามสิ่งที่พวกมันต้องการ ” เย่ ซีหวิน ล่าว

” นั่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้  เพราะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เสียมารยาท หรือดูหมิ่นศิษย์แท้จริง และสาวกคนใดก็ตามที่ละเมิดกฏนี้ พวกมันสมควรถูกลงโทษ   แม้ว่าเจ้าจะฆ่ามัน  ข้าคิดว่า ฉู จิ้งฉาย  ก็ไม่ว่าอะไร ” ฉี เฟ่ยฝาน กล่าว

ฉี เฟ่ยฝาน อยู่ข้าง เย่ ซีหวิน เพราะเขารู้ว่า เย่ ซีหวิน ไม่ใช่คนประเภทที่จะทำร้ายคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล

ไม่มีใครกล้าหยามเกียรติของศิษย์แท้จริง ซึ่งเป็นกฎที่เข้มงวดในสำนักยี่หยวน และแม้แต่ผู้อาวุโสก็ไม่อาจฝ่าฝืน

” ถ้างั้น  ธุระของข้าก็หมดลงแล้ว  ข้าคงอยู่นานไม่ได้  ได้เวลาที่ต้องจะกล่าวอำลา ” ฉี เฟ่ยฝาน กล่าวคำอำลา ด้วยรอยยิ้มและจากไป

หลังจากที่เขาจากไป เยโม่ ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้า เย่ ซีหวิน

” สถาบันยอดยุทธ เป็นสถานที่ที่น่าสนใจ  ข้าจะต้องไปเยือนมันสักครั้ง ” เย่ ซีหวิน กล่าว

เขารู้ดีว่าคำแนะนำของ ฉี เฟ่ยฝาน ให้รออีก 100 ปี เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในความเป็นจริง ถ้าเขารอนานพอก่อนที่จะเข้าร่วมการทดสอบของ สถาบันยอดยุทธ  ก็จะไม่ต้องมีใครเป็นคู่แข่งของเขา อย่างไรก็ตาม ฉี เฟ่ยฝาน และ เย่ ซีหวิน ต้องอยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวไปอีก 100 ปี

ระยะเวลาที่เขาอยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว จะเป็นประโยชน์มากสำหรับเขาในการสะสมพลัง และได้รับประสบการณ์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้เขามีความหวังที่จะสามารถกลับโลกได้  ไม่มีอะไรสามารถหยุดเขาได้ในตอนนี้  เขาต้องหาทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด แน่นอน 100 ปี อาจไม่ใช่เวลาที่ยาวนานสำหรับเขา แต่ไม่ใช่สำหรับคนบนโลก

เขาไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป  เพราะครอบครัวของเขาคงจะตายไปแล้ว

ดังนั้น เขาต้องยกระดับการเพาะบ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  เพื่อเขาจะได้กลับไปหาพ่อแม่ของเขาก่อนตาย

อย่างไรก็ตาม สำนักยี่หยวนไม่สามารถช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายใหม่ได้  เพราะผู้เชี่ยวชาญของสำนักยี่หยวนแห่งนี้มีขอบเขตพลังแค่ในขอบเขตระดับตำนาน  และพวกเขาก็ไม่สามารถเดินทางข้ามมิติได้!  จะกล่าวให้ถูกต้องก็คือเขาจะต้องก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่เหนือกว่าขอบเขตระดับตำนาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหม่ของเขา

และดูเหมือนว่า สถาบันยอดยุทธ  จะเป็นสถานที่ที่อาจช่วยเขาได้ในเรื่องนี้

หลังจากที่เขาตัดสินใจแล้ว เขาก็เดินตรงไปที่ห้องสมุดหลักของสำนักยี่หยวน เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ และศึกษาความรู้ทั่วไปพื้นฐานบางอย่าง สำหรับความเข้าใจที่ดีขึ้นของเขาในโลกใบนี้  เขาไม่มีเวลาที่จะสะสมประสบการณ์ และด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องใช้วิธีการดังกล่าว เพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมดและถ่ายโอนข้อมูลเหล่านี้ไว้ในจิตใจของเขา

ด้วยสถานะในปัจจุบันของเขา  เขาสามารถเข้าไปในส่วนต้องห้ามของห้องสมุดได้อย่างง่ายดาย  ห้องสมุดหลักตั้งอยู่มิติของโลกที่แตกต่างกัน  ซึ่งขนาดของมันค่อนข้างเล็ก แต่กับมีพื้นที่เพียงพอที่จะมีกองหนังสือนับล้านเล่ม และจัดเอาเป็นหมวดหมู่ต่างๆ กัน

ผู้ดูแลห้องสมุดหลักแห่งนี้ เป็นเพียงชายชราที่มีระดับการเพาะบ่มที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ เย่ ซีหวิน พยายามที่จะตรวจสอบระดับการเพาะบ่มของเขา แต่ก็ไม่สามารถทำได้  เขาเดาว่าชายชราคนนี้อาจจะอยู่ในขอบเขตที่ลึกซึ้งมากในขอบเขตระดับตำนาน  ผู้เชี่ยวชาญอย่างเขาสมควรได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าห้องสมุดของ สำนักยี่หยวน

ห้องสมุดแห่งนี้เป็นคลังเก็บหนังสือเกี่ยวกับเคล็ดวิชาการต่อสู้มากมาย และทักษะลับ ฯลฯ สำนักยี่หยวนมีข้อมูลลับอีกมากมายที่เก็บไว้ในห้องสมุดนี้

” คารวะท่านผู้อาวุโส ” เย่ ซีหวิน ประสานมือ และพูดด้วยความเคารพ

” อืม  เจ้าคงเป็นสาวกใหม่ระดับศิษย์เอก?  ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน ” ชายชรามองไปที่ เย่ ซีหวิน และกล่าว  เขาประหลาดใจมากเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา อยู่ในลมปราณมหาเทพขั้นที่ 7  แต่เขาไม่เคยเห็นเขามาที่ห้องสมุดแห่งนี้มาก่อน เรื่องนี้ค่อนข้างแปลกเพราะสาวกใหม่ระดับศิษย์เอกมักจะมาที่ห้องสมุดหลักทันที  หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณมหาเทพ เพื่อเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับขอบเขตลมปราณมหาเทพ และข้อมูลอื่น ๆ อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นผู้เชี่ยวชาญลมปราณมหาเทพขั้นที่  7  เข้ามาห้องสมุดหลักเป็นครั้งแรก

เนื่องจาก เย่ ซีหวิน  ได้ทะลวงขอบเขตอย่างต่อเนื่องหลังจากเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณมหาเทพ  ไม่ต้องพูดถึงขอบเขตพลังของเขาไม่เคยติดอยู่ระหว่างขั้นตอนการเพาะบ่ม  และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปที่ห้องสมุดหลัก

อย่างไรก็ตามตอนนี้  เขาต้องยอมรับว่าความรู้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการยกระดับพลังอำนาจให้มากขึ้น

เย่ ซีหวิน พยักหน้า ชายชรามองเขาด้วยความประหลาดใจ แล้วพูดว่า ” เจ้าสามารถเข้าไปข้างในได้ แต่เจ้าอาจมีปัญหาในการค้นหาหนังสือบางอย่างภายใน  ดังนั้นข้าจะให้ ปีศาจหนังสือ ช่วยนำทางให้เจ้า “

ชายชรา เรียก ปีศาจหนังสือ ออกมาทันที  มันเป็นวิญญาณสีขาวเรืองแสง สูงประมาณ 30 เซนติเมตร และมีลักษณะขี้ขลาด

” เจ้าจะสามารถหาหนังสือทุกประเภทตามที่ต้องการ เข้าไปข้างใน และหาดูเอาเอง! ” ชายชราคนนั้นพูดอย่างไม่แยแส

” ขอบคุณท่านผู้อาวุโสสำหรับความช่วยเหลือ ” เย่ ซีหวิน กล่าว และเดินเข้าไปในห้องสมุดกับปีศาจหนังสือเล่มนั้น

” น้องชาย  เจ้ากำลังมองหาหนังสือประเภทไหน? ” ปีศาจหนังสือ พูด  ปีศาจหนังสือเหล่านี้จะดูดซับพลังจากดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ทุกวัน เพื่อใช้เป็นพลังชีวิต

แม้ก้อนหินยังสามารถกลายเป็นปีศาจได้ นับประสาอะไรกับหนังสือ  และปีศาจหนังสือเหล่านี้มีข้อได้เปรียบ เพราะพวกมันถูกเขียนขึ้นโดยบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งได้ทิ้งส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณเอาไว้ในหนังสือ  จิตวิญญาณเหล่านี้มีความรู้สึกนึกคิดต่อมาภายหลัง และกลายเป็นปีศาจหนังสือ

แน่นอนว่า ประเภทของปีศาจหนังสือขึ้นอยู่กับเนื้อหาของหนังสือ

ในหมู่ของพวกเขามีบุคคลที่น่าเกรงขาม และฝ่ายกฏบบางคนได้หาสถานที่หลบภัยในสำนักยี่หยวน ตัวอย่างเช่น ปีศาจหนังสือเล่มนี้ที่กำลังนำทางให้กับ เย่ ซีหวิน

” ข้ากำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ ”  เย่ ซีหวิน กล่าว

” อืมม  นอกจากหนังสือข้อมูลเหล่านี้  เคยมีผู้อาวุโสหลายคนในอดีตเคยไปศึกษาที่ สถาบันยอดยุทธ และได้มีการบันทึกเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ยังมีบันทึกบางเรื่องเก็บไว้อีกด้วย ” ปีศาจหนังสือ กล่าว และนำทาง เย่ ซีหวิน ไปยังที่เก็บหนังสือ  แม้ปีศาจหนังสือเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง  แต่สถานะในนิกายของพวกมันก็ไม่ได้ด้อยเลย สถานะของพวกมันเปรียบได้กับศิษย์หลัก และพวกมันก็ยังสามารถเพาะบ่มได้อีกด้วย  เมื่อปีศาจหนังสือประสบความสำเร็จในการเพาะบ่มจนอยู่ในระดับที่สูงมากขึ้น  มันก็จะกลายเป็นสาวกของสำนักยี่หยวน

เย่ ซีหวิน สงสัยว่า ชายชราผู้ดูแลห้องสมุดคนนั้น บางทีอาจเป็นปีศาจหนังสือ บางทีเขาเคยเป็นปีศาจหนังสือมาก่อนหน้านี้ แต่ต่อมาเริ่มเพาะบ่มพลัง และในที่สุดก็บรรลุมาถึงระดับสูง จนเขาได้รับตำแหน่งที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยที่ห้องสมุดหลัก

อย่างไรก็ตามในเวลานี้ เย่ ซีหวิน  ไม่ได้อยากสนใจเบื้องหลังในเรื่องนี้

“ปังงงง!”

ทันใดนั้น มีเสียงโห่ร้องตะโกนดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของม้าที่อยู่ห่างออกไป  เย่ ซีหวิน หันไปมองตามทิศทางของต้นกำเนิดของเสียง และมองเห็นกองทหารปีศาจกลุ่มขนาดใหญ่ ของปีศาจหนังสือ ราวกับว่ามันกำลังจะเดินทางไปพิชิตศึกที่ไหน

ปีศาจหนังสือ สังเกตเห็นความอยากรู้อยากเห็นบนใบหน้าของ เย่ ซีหวิน,  ปีศาจหนังสือ จึงอธิบายว่า ” นั้นเป็น ปีศาจหนังสือ ที่เกิดจากหนังสือเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การทหารและสงคราม “

เย่ ซีหวิน  รู้สึกประหลาดใจอย่างช่วยไม่ได้  โลกใบนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์

พวกเขาเดินผ่านตู้หนังสือหลายชั้น มีหนังสือมากมายเรียงซ้อนอยู่บนชั้นวางเหล่านี้ และมีข้อมูลมากมาย

ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกล่าวเมื่อได้เห็นหนังสือเหล่านี้ ดูจากลักษณะสีเหลืองของหนังสือบางเล่มมีอายุหลายพันปีแล้ว

” นี่ เย่ ซีหวิน ข้ามีวิธีที่ดีกว่าการใช้ การค้นหาจิตวิญญาณ เพื่อทำความเข้าใจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ” เสียงของ เยโม่ ก็ดังขึ้นในใจของ เย่ ซีหวิน และในเวลาเดียวกันมันก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ เขา  เยโม่ สวมชุดบัณฑิตแบบขงจื้อ และปรากฏตัวของมันทำให้  ปีศาจหนังสือ ตกใจ และกระโดดหลบไปทันที  เยโม่ มองไปที่  ปีศาจหนังสือ ที่กำลังหวาดกลัว

” เจ้า เพียงแค่ต้องจับพวกมันทั้งหมด และกลืนพวกมันเข้าไป  นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อให้เข้าใจความรู้อย่างเป็นธรรมชาติ! “