Martial God Space - ตอนที่ 271
Martial god space ตอนที่ 271 รู้แจ้งในชั่วข้ามคืน
” เจ้า เพียงแค่ต้องจับพวกมันทั้งหมด และกลืนพวกมันเข้าไป นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อให้เข้าใจองค์ความรู้อย่างเป็นธรรมชาติ! ” เย่โม่ หัวเราะ มันไม่สนใจวิธีการ มันเพียงแค่ต้องการให้ เย่ ซีหวิน แข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แม้ว่า เย่ ซีหวิน จะเพียงแค่มองผ่านตัวหนังสือจำนวนมาก แต่มันก็คล้ายกับการสแกนเอกสารด้วยเครื่องสแกนเนอร์ และจัดเก็บข้อมูลดิบเอาไว้ในจิตใจของเขา แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาอ่าน แต่ถ้าหากเขากินปีศาจหนังสือเล่มนี้ เขาก็จะเข้าใจสาระสำคัญของข้อมูลทั้งหมดได้อย่างแท้จริง เพราะปีศาจหนังสือเหล่านี้เป็นศูนย์รวมของสาระสำคัญของหนังสือ
ความคิดนี้ดูน่าสนใจมากสำหรับ เย่ ซีหวิน แต่สำหรับปีศาจหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา มันกำลังขวัญหนีดีฝ่อด้วยความหวาดกลัว คนแปลกหน้าทั้งสองดูเหมือนคนชั่วร้ายที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม!
ในโลกของหนังสือ และปีศาจหนังสือเหล่านี้เป็นเหมือนศูนย์รวมของมรดกเคล็ดวิชาการต่อสู้ของนิกาย
เย่ ซีหวิน เปิดใช้ทักษะการค้นหาจิตวิญญาณ และทันทีที่เริ่มมองผ่านตัวหนังสือ สำหรับผู้เชี่ยวชาญทั่วไปมีความแตกต่างกันระหว่างการอ่านหนังสือ และซึมซับสาระสำคัญของหนังสือโดยตรงจากปีศาจหนังสือ แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ เย่ ซีหวิน แน่นอนว่า เยโม่ ไม่รู้ความลับของ เย่ ซีหวิน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงคำแนะนำให้เขาซึมซับสาระสำคัญของหนังสือปีศาจแทนการอ่านหนังสือ
ทักษะการค้นหาจิตวิญญาณของ เย่ ซีหวิน เริ่มป้อนตัวหนังสือ และเริ่มรวบรวมข้อมูลต่างๆ ภายในจิตใจของเขาในเวลาเดียวกัน พื้นที่ลึกลับเริ่มคัดแยกข้อมูลขนาดใหญ่ที่ไหลเข้ามา สาระสำคัญขององค์ความรู้ถูกถ่ายโอนไปเก็บไว้ในจิตใจของเขาเพื่อจัดเก็บอย่างถาวร
เย่ ซีหวิน พบว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลืนกิน ปีศาจหนังสือ เพื่อให้ได้สาระสำคัญของหนังสือ ด้วยความช่วยเหลือของทักษะการค้นหาจิตวิญญาณและพื้นที่ลึกลับ เขาสามารถเก็บรวบรวมองค์ความรู้ได้อย่างรวดเร็ว และข้อมูลเป็นจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น
คลังองค์ความรู้เริ่มเพิ่มขึ้นในจิตใจของเขา และระดับการเพาะบ่มของเขาก็เริ่มเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะช้ามาก อย่างไรก็ตาม การไหลบ่าเข้ามาขององค์ความรู้ และข้อมูลในฐานข้อมูลของเขากำลังขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เย่ ซีหวิน รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อพบว่าขอบเขตภายในของเขาค่อยแข็งแกร่งขึ้นทีละนิด ในขณะเดียวกันความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับโลกใบนี้ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อการเพาะบ่มของเขา ในขณะนี้เขารู้สึกได้ถึงการซ่อมแซมและปรับปรุงจุดด้อยของเขาอย่างเห็นได้ชัด
ในที่สุด เย่ ซีหวิน ก็เข้าใจว่าทำไมคนสมัยก่อนถึงกล่าวว่า การอ่านหนังสือก็เหมือนการเดินบนถนนที่ยาวนานนับหมื่นไมล์ เขาต้องยอมรับว่าเขาขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโลกใบนี้ และหากได้อ่านหนังสือเหล่านี้ และได้รับข้อมูลสาระสำคัญของพวกมัน เมื่อเขาสามารถรวบรวมประสบการณ์และองค์ความรู้ได้แล้ว ก็ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งเขาได้ หนังสือเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นหนังสือโบราณ และมีสาระสำคัญของข้อมูลเชิงลึก และองค์ความรู้ที่ถูกรวบรวมเอาไว้โดยผู้เชี่ยวชาญในยุคโบราณ โดยอาศัยการวิจัยอย่างรอบคอบและการทำงานหนัก แต่ตอนนี้ เย่ ซีหวิน กำลังขโมยผลงานของพวกเขามาอย่างง่ายดาย
เย่ ซีหวิน พบว่าผู้เขียนหนังสือเหล่านี้ จะต้องอ่านหนังสือมาจากผู้เขียนคนอื่นๆ ที่มาจากยุคก่อนหน้านี้ เนื่องจากหนังสือเหล่านี้ได้ถ่ายทอดความรู้ในยุคโบราณมารุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยส่งผ่านนักเขียนหลายคนจากยุคต่าง ๆ ผ่านหนังสือของพวกเขา
ในขณะที่เขากำลังซึมซับสาระสำคัญของหนังสือ เขารู้สึกราวกับว่าประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาของมันกำลังประสานเข้ากับจิตใจของเขา ทำให้ความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆ กำลังพลุ่งพล่านขึ้นในจิตใจของเขา
ยิ่งเขาก้าวเข้าไปในโลกของหนังสือเล่มมากขึ้น และซึมซับสาระสำคัญของพวกมันมากขึ้นเท่าใด อารมณ์ความรู้สึกของเขาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ชั่วระยะเวลาหนึ่งเขาเป็นผู้บัญชาการของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง อีกชั่วครู่หนึ่งเขากลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เขาสัมผัสได้ว่าออร่าในร่างกายของเขาเองก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และขณะนี้มีออร่าระดับจักรพรรดิปรากฏขึ้นภายในร่างกายของเขา ในขณะเดียวกันเขาได้รับองค์ความรู้ ข้อมูลเชิงลึกและประสบการณ์ เขาได้รับภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากยุคโบราณ ผลกระทบเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อบุคลิกภาพ หรืออารมณ์ของเขา แต่ยังเกี่ยวกับการเพาะบ่มของเขา
ปีศาจหนังสือ กำลังจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง มันเป็น ปีศาจหนังสือ และมันเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น มันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เย่ ซีหวิน อ่านหนังสือได้อย่างง่ายดายเพียงใด โดยใช้ทักษะการค้นหาจิตวิญญาณของเขา และการดูดซับสาระสำคัญของหนังสือเหล่านั้นเหมือนไม่มีอะไรมากนัก ในขณะเดียวกันการเพาะบ่มของเขาก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ในความเป็นจริง แม้แต่ปีศาจหนังสือเองก็เคยทำในสิ่งเดียวกัน ปีศาจหนังสือ ก็สัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึก และซึมซับสาระสำคัญของหนังสือ เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ และการเพาะบ่ม ดังนั้นมันจึงใช้เวลานานมากในการฝึกฝน
เย่ ซีหวิน ตอนนี้เป็นเหมือนมนุษย์ปีศาจหนังสือ แต่แตกต่างจากปีศาจหนังสืออื่น ๆ เขาสามารถเข้าใจเนื้อหาของหนังสือนับไม่ถ้วนและซึมซับสาระสำคัญของพวกมัน ความสามารถของเขานั้นได้เกินขอบเขตความเป็นจริงเมื่อเทียบกับปีศาจหนังสือเล่มอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านของความเร็ว และการเข้าใจ
ปีศาจหนังสือ ถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าจะมีใครสามารถเข้าใจสาระสำคัญของหนังสือได้ง่ายดาย ราวกับว่ามันง่ายยิ่งกว่าการหั่นผัก?
คนส่วนใหญ่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ ถึงแม้การใช้ทักษะการค้นหาจิตวิญญาณ เพื่อให้ได้องค์ความรู้ได้อย่างรวดเร็ว ปีศาจหนังสือ รู้สึกตกใจกับฉากที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกแยะข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และมีหนังสือจำนวนมากในห้องสมุดที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไป อาจต้องใช้การเกิดใหม่หลายครั้ง เพื่อที่จะเรียนรู้จากหนังสือทั้งหมด! แต่สิ่งที่ เย่ ซีหวิน กำลังทำอยู่ตอนนี้ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน และได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของปีศาจหนังสือ ในขณะเดียวกันมันมองเห็นออร่าของ เย่ ซีหวิน ได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
นี้เป็นสิ่งที่แปลกประหลาด และไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์!
ปีศาจหนังสือ ไม่รู้ว่ามี พื้นที่ลึกลับ ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของ เย่ ซีหวิน ซึ่งพื้นที่ลึกลับนี้มีบทบาทอย่างมากในเวลานี้ มันเหมือนกับเครื่องประมวลผลที่มีประสิทธิภาพมากกว่าล้านเท่าของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดบนโลก
ดังนั้นความเร็วในการอ่านของ เย่ ซีหวิน จึงน่าอัศจรรย์มาก เขาสามารถอ่านหนังสือทั้งเล่มจากชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่โดยการใช้ทักษะการค้นหาวิญญาณเพียงครั้งเดียว
แม้ว่า ปีศาจหนังสือ จะเคยผ่านการอ่านหนังสือมาเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีชั้นวางหนังสืออีกนับไม่ถ้วนในห้องสมุดแห่งนี้ และความ ก้าวหน้าของหนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้ถือว่าโดดเด่นนัก
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ไม่รีบร้อนเนื่องจากเขารู้สึกว่าระดับการเพาะบ่มของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด ในความเป็นจริงเขาอาจจะรู้สึกได้ว่าช่องว่างในองค์ความรู้เดิมของเขาเต็มไปด้วยเศษข้อมูลที่มาจากหนังสือเหล่านี้ เขารู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่โลกแห่งองค์ความรู้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเขาสามารถเรียนรู้สิ่งใดก็ได้ตราบเท่าที่เขาต้องการ
วันนี้ เย่ ซีหวิน ค้นพบว่าถ้าโลกขององค์ความรู้เป็นเหมือนทะเลแล้ว ความรู้ที่เขาเก็บสะสมมาเทียบกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เมื่อเขาได้รู้ความจริงในข้อนี้ เลือดภายในร่างของเขาก็สูบฉีดอย่างรุนแรงด้วยความตื่นเต้น ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งใหม่ที่เขาจะต้องเรียนรู้
เย่ ซีหวิน รู้ว่าถ้าเขาเข้าใจองค์ความรู้ทั้งหมดนี้แล้ว เขาก็จะสามารถก้าวไปสู่ขอบเขตที่เหนือกว่าได้ แม้ว่าเขาจะยังต้องสะสมพลังงานจำนวนมหาศาลเพื่อทะลวงขอบเขตให้ไปถึงขอบเขตดังกล่าว อย่างไรก็ตามองค์ความรู้และประสบการณ์นี้จะมากพอจะช่วยในการยกระดับการเพาะบ่มของเขา
ตราบเท่าที่เขามีแหล่งพลังงานเพียงพอ เขาจะสามารถทะลวงขอบเขตได้หลายครั้งภายในชั่วข้ามคืน
กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาได้รู้จักกับคำว่า ” การรู้แจ้งในชั่วข้ามคืน ” ตอนนี้เขาสามารถดูดซับองค์ความรู้อันล้ำค่าที่ผ่านมานานนับศตวรรษได้อย่างรวดเร็ว
ปีศาจหนังสือ กำลังบินอยู่ข้างๆ เขา แต่มันไม่กล้ารบกวนกระบวนการรู้แจ้งของเขา ในเวลานี้ เย่โม่ ก็นั่งอยู่ข้างๆ เขา และกำลังกลั่น โอสถหลอมจิตวิญญาณ เพื่อให้กระบวนการรู้แจ้งของ เย่ ซีหวิน ทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก นอกจากนี้เขายังคอยเป็นคนคุ้มกันให้กับ เย่ ซีหวิน อีกด้วย
ระดับการเพาะบ่มของ เย่ ซีหวิน กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ต้องแลกกับการเผาผลาญพลังงานจำนวนมหาศาล กระจกเทียนหยวน เป็นแหล่งเดียวในการกลั่น โอสถหลอมจิตวิญญาณ และ เย่ ซีหวิน ได้สะสม โอสถหลอมจิตวิญญาณ เอาไว้เป็นจำนวนมากบนเกาะปีศาจ เนื่องจากอัตราการบริโภคที่สูง ดังนั้นอัตราการผลิตก็ควรจะเท่ากัน หรือไม่น้อยกว่าอัตราการบริโภค เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการรู้แจ้งจะไม่หยุดชะงัก
ด้วยสถานการณ์ที่บังคับเช่นนี้ เย่โม่ ต้องกลั่น โอสถหลอมจิตวิญญาณ อย่างต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดแคลนพลังงานจากการเผาผลาญพลังงานจำนวนมหาศาลของ พื้นที่ลึกลับ
นับเป็นโชคดีสำหรับ เยโม่ ตลอดระยะเวลามากกว่าครึ่งปีบนเกาะปีศาจ ขณะที่ เย่ ซีหวิน กำลังยุ่งอยู่กับการฆ่าลูกหลานของเทพเจ้าและดูดซับพลังศักดิ์สิทธิจากร่างของพวกมัน เขายังใช้ ผลึกโลหิตปีศาจ เพื่อยกระดับการเพาะบ่มของเขา เลือดและเนื้อของเหล่าสัตว์ปีศาจถูกดูดซึมโดย เย่โม่ เพื่อกู้คืนพลังให้กับ กระจกเทียนหยวน จนไปถึงระดับสูงสุดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 9 ใช่แล้ว กระจกเทียนหยวน อยู่ในขอบเขตระดับที่สูงกว่า เย่ ซีหวิน ในขณะนี้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำให้ความเร็วในการกลั่น โอสถหลอมจิตวิญญาณ ของ เย่โม่ ถึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพียงพอที่จะรองรับอัตราการบริโภคของ เย่ ซีหวิน
” หนังสือเล่มนี้เป็นศาสตร์การทำสงครามและกลยุทธ์การต่อสู้ ข้าไม่คิดว่ามันจะมีความลับซ่อนอยู่มากมาย ” เย่ ซีหวิน บ่นพึมพำในขณะที่เขากำลังดูดซับศาสตร์การทำสงครามและกลยุทธ์ต่างๆ ที่กล่าวถึงในหนังสือ หากเมื่อเขาต้องบัญชาการทหารทั้งกองทัพจำนวนมากมายมหาศาลถึงหนึ่งล้านคน เขาก็ไม่รู้สึกลำบากใจ นี่เป็นประโยชน์ของการมีความเข้าใจเกี่ยวกับศาสตร์การทำสงคราม
หลังจากอ่านหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางทหารและสงครามแล้ว เขาเข้าใจสาระสำคัญของมัน และอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับของเขาในตอนนี้ เขาเริ่มทำความเข้าใจกับแนวความคิดของทหาร และแม่ทัพได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้เขายังเข้าใจวิธีการจัดการกับคน ทั้งเพื่อน และศัตรู เพื่อให้ทำตามคำสั่งของเขา
ออร่าของ เย่ ซีหวิน เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีลักษณะที่โดดเด่นเป็นมาจากออร่าของผู้บัญชาการ ถ้าเพื่อนๆ ของเขาได้มาเห็นตอนนี้พวกเขาจะบอกว่าเขาไม่ใช่คนเดิมต่อไป ตอนนี้เขาดูคล้ายกับผู้บัญชาการที่มีประสบการณ์ และสามารถบัญชาการ รบได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าเขาได้รับประโยชน์อย่างมากจากวิธีนี้ แต่ทักษะการค้นหาจิตวิญญาณของเขายังคงรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และความเร็วของมันเกินกว่าที่เขาสามารถเข้าใจได้ หากเขาต้องการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างถูกต้อง และหากต้องการที่จะแยกแยะมันก็จะต้องใช้เวลามากขึ้น จนกว่าเขาจะพบว่าหนังสือทั้งสองเล่มมีลักษณะเนื้อหาคล้ายคลึงกัน
กล่าวกันว่าผู้เชี่ยวชาญที่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง สามารถบรรลุระดับความชำนาญที่เรียกได้ว่า พวกเขาสามารถใช้กฎแห่งโลกเพียงหนึ่งข้อก็สามารถสั่งการกฎแห่งโลกนับร้อยได้ภายในครั้งเดียว เช่นเดียวกับ จักรพรรดิปีศาจ ที่ไม่เคยฝึกเทคนิคการใช้ดาบมาก่อน แต่ สามารถแสดงทักษะดาบได้อย่างไม่มีใครเทียบได้
เจตจำนงแห่งดาบของจักรพรรดิปีศาจ ก็เหนือกว่าของชายชราที่ เย่ ซีหวิน เคยพบในซากปรักหักพังที่ตั้งอยู่ทางตอนล่างของทะเลจีนตะวันออก
แน่นอนว่า เย่ ซีหวิน ยังไม่สามารถเข้าถึงระดับที่สามารถเรียกใช้กฏแห่งโลกได้อย่างถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็นำมันใช้เป็นตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบ และทำความเข้าใจจากนั้นก็สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยแนวคิดของตัวเอง เขาจำเป็นต้องใช้ตัวอย่างในเชิงปฏิบัติเพื่อทำความเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อน
เย่ ซีหวิน ใช้วิธีการเดียวกันในการ ” ทำความเข้าใจโดยการเปรียบเทียบ ” เพื่อทำความเข้าใจหนังสือศาสตร์การทำสงครามอย่างละเอียด นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถเข้าใจแนวความคิดทางทหารแบบเดียวกันได้อย่างง่ายดาย เมื่อพิจารณาจากหนังสือทางทหารเล่ม อื่น ๆ
เย่ ซีหวิน หลงใหลในความมั่นใจของตัวเองที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เขายังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อรวบรวมเศษชิ้นส่วนของความรู้
มีสมุดบันทึกการเดินทาง สมุดบันทึก จดหมายส่วนตัว และหนังสือที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนา เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเปิดอ่านพวกมันมาเป็นเวลานาน เย่ ซีหวิน ได้แต่ถอนหายใจยาวอย่างช่วยไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าผู้เขียนจะต้องเป็นนักปราชญ์ที่แท้จริง และได้รวบรวมความรู้ในตำนานที่หายากเอาไว้ในหนังสือเหล่านี้ซึ่งถูกทอดทิ้งเอาไว้เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตามองค์ความรู้ที่ถูกเก็บไว้ในนี้จะต้องมีค่ามาก แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเข้าใจได้ในตอนนี้สำหรับเขา
แน่นอนคนอื่นๆ พวกเขาคงไม่เสียเวลาอันมีค่า และทรัพยากรไปกับองค์ความรู้แบบนี้ แต่สำหรับ เย่ ซีหวิน เขายังคงอ่าน และจัดเก็บข้อมูลดิบเหล่านี้เอาไว้ในพื้นที่ลึกลับสำหรับใช้งานในอนาคต . . . .