Martial God Space - ตอนที่ 266
Martial god space ตอนที่ 266 ออกจากเกาะปีศาจ
” การตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุดของเจ้า คือ การปฏิเสธที่จะยอมรับความตาย เจ้าปฏิเสธข้อเสนอของเราในเมื่อเจ้าอาจจะกลายเป็นนายแห่งความตายได้ แต่น่าเสียดายที่อิทธิพลที่เคยย่ำยีอาณาจักรทั้งหมื่นโลกได้ตกต่ำไปอย่างน่าสมเพช ” ร่างเงานั้น กล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ย
” ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเอาแต่หลบซ่อนในความมืดเหมือนหนู และยังไม่ตาย ” จักรพรรดิปีศาจ พูดอย่างภาคภูมิใจด้วยท่าทางที่องอาจ
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า, จักรพรรดิปีศาจ, เจ้ายังไม่รู้ตัว และยังไม่เข้าใจว่า ถ้ามีแสงสว่างในโลกนี้จะต้องมีความมืดเช่นกัน เพื่อรักษาความสมดุล และจำไว้ว่า ไม่สำคัญว่าจะมีชีวิตอยู่รอดได้นานแค่ไหน ความตายเพียงอย่างเดียวคือนิรันดร์ในโลก! ” ร่างเงานั้นหัวเราะอย่างแปลกประหลาดราวกับกำลังเยาะเย้ย จักรพรรดิปีศาจ
” มีบางอย่างที่เจ้าไม่เคยเข้าใจมาตลอดจนถึงเวลานี้ ” จักรพรรดิปีศาจ กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส ว่า ” เจ้าได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่กล้ามาที่นี่ด้วยร่างที่แท้จริงของเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าคงพร้อมที่จะจ่ายในความโง่เขลาของเจ้า “
“แก๊งงงงง!”
“แก๊งงง!”
“แก๊งงงงง!”
ประกายลำแสงจำนวนมากปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างของเขา พร้อมกับเสียงดังกึกก้องไปทั่วทุกหนทุกแห่งจากดาบนับหมื่น พร้อมกับการก่อตัวของปราณดาบขนาดมหึมา และกลายเป็นลำแสงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า การโจมตีด้วยเจตจำนงแห่งดาบนี้ทรงพลังมากกว่าการโจมตีด้วยเจตจำนงแห่งดาบที่ เย่ ซีหวิน ได้เรียนรู้มาจากจักรพรรดิดาบเมื่อนานมาแล้ว เจตจำนงแห่งดาบของจักรพรรดิปีศาจนั้นบริสุทธิ์และน่ากลัวมาก เพราะมันมีพลังอำนาจของกฎแห่งโลก
ทันใดนั้นปราณดาบที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้รวมตัวกันเป็นม่านลำแสงขนาดใหญ่ของดาบบนท้องฟ้า
เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ ได้แต่กลืนน้ำลายของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถคาดเดาระดับการเพาะบ่มของจักรพรรดิปีศาจ แต่เมื่อตัดสินจากปราณดาบที่น่าสะพรึงกลัวแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะคาดเดาได้ว่าเขาจะมีขอบเขตที่เหนือกว่าพวกเขา
ดูเหมือนว่า จักรพรรดิปีศาจ จะใช้กฎแห่งโลกหลายอย่างร่วมกันสำหรับการโจมตีในครั้งนี้!
ทุกคนพากันตื่นตระหนก และหวาดกลัวต่อผลกระทบที่มาจากการโจมตีในครั้งนี้ พวกเขารู้ว่าหากสัมผัสโดยปราณดาบเพียงครั้งเดียว มันก็สามารถฆ่าพวกเขาได้ทันที
พวกเขาไม่กล้าพอที่จะยืนอยู่ข้างนอก และพากันวิ่งเข้าไปหลบในพระราชวัง
ทุกคนต่างพากันรีบวิ่งเข้ามาในพระราชวัง และในเวลานี้มีเสียงดังกึกก้องขึ้นทุกหนทุกแห่ง ลำแสงที่น่าสะพรึงกลัวของแสงทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า และระเบิดอย่างรุนแรงทำให้หลังคาของพระราชวังพังทลายทันที ทั้งสองร่างกระโจนขึ้นสู่ท้องฟ้า หนึ่งคือ จักรพรรดิปีศาจ และอีกหนึ่งเป็นร่างเงานั้น
จักรพรรดิปีศาจ กำลังลอยอยู่ที่ระดับความสูงที่สูงมาก จนร่างของเขาดูพล่ามัว และเลือนหายไปในที่สุด ราวกับว่าร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยหมอก พื้นที่บริเวณรอบๆ ตัวเขาบิดเบี้ยว จนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้
เย่ ซีหวิน รู้สึกราวกับว่าเขากำลังมองไปที่เทพแห่งดาบ ผู้ซึ่งสามารถผ่าท้องฟ้า และทลายปฐพีให้กลายเป็นผุยผงได้ เทพแห่งดาบกล่าวกันว่าสามารถบดขยี้โชคชะตาได้เช่นกัน
วิถีแห่งเต๋ามากมายซึ่งเป็นรากฐานของกฎแห่งโลกกำลังส่องแสงระยิบระยับอยู่รอบๆ ตัวของเขา และผลักดันให้ปราณดาบที่ไม่มีที่สิ้นสุดทั้งหมดในอากาศ มันพร้อมที่จะสังหารทุกคนที่กล้าเข้ามาใกล้มัน
ปราณดาบกระจัดกระจายออกมาเป็นดาบจำนวนมาก และดาบแต่ละเล่มทะลุผ่านช่องมิติทำให้เกิดหลุมจำนวนนับไม่ถ้วนในพื้นที่มิติ ซึ่งมันสามารถซ่อมแซมตัวเองได้โดยอัตโนมัติ มันเป็นฉากที่น่าตื่นเต้น และน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้ร่างเงาที่สูงใหญ่นั้น ได้ปลดปล่อยออร่าอันน่าเกรงขามออกมาจากร่างกายของมัน และยิงพลังปราณมรณะออกไปในอากาศทันที ปราณมรณะกลายเป็นหอก และปะทะเข้ากับปราณดาบของ จักรพรรดิปีศาจ บนท้องฟ้า
” เย่ ซีหวิน ตอนนี้เป็นโอกาสของเจ้าแล้ว รีบขึ้นไปหาตราประทับ! ” ในเวลานี้เสียงของ เยโม่ ดังขึ้นในใจของ เย่ ซีหวิน
เย่ ซีหวิน ไม่ได้ถาม ว่าทำไมมันถึงต้องซ่อนตัว เมื่ออยู่ตรงหน้า จักรพรรดิปีศาจ คำตอบในตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน
“ตูมมมมมม!”
“ตูมมม!”
“ตูมมมมมม!”
การปะทะกันระหว่างปราณมรณะ และ ปราณดาบ ทำให้เกิดการระเบิดอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งส่วนใหญ่ของพื้นที่ได้พังทลายลงราวกับวันสิ้นสุดของโลก
แต่แล้ว จักรพรรดิปีศาจ ก็เหยียดมือออก และคว้ากฎแห่งโลกออกมาจากพื้นที่ที่ถูกทำลาย หลังจากนั้นเขาได้รวมเอากฎแห่งโลกเอาไว้ในดาบ และปลดปล่อยลำแสงจากดาบขนาดใหญ่พร้อมกับกฎแห่งโลกพุ่งตรงเข้าไปหาร่างเงานั้น
“เปรี้ยงงงง!”
พื้นที่ทั้งหมดที่อยู่ในเส้นทางของลำแสงจากดาบนั้นถูกตัดออกทันที และส่วนใหญ่ของมันก็แตกสลายราวกับกระจกแตก ในขณะเดียวกันลำแสงจากดาบก็ตรงมาถึงร่างเงานั้น
ร่างเงานั้น ยิงหอกลำแสงสีดำออกจากปราณมรณะในมือของเขา
“ตูมมมมม!”
ผลกระทบจากการปะทะกันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ดูเหมือนจะเป็นสาเหตุของการทำลายโลก ราวกับว่าทั้งโลกจะพังทลายได้ทุกเมื่อ
ในเวลานี้ เย่ ซีหวิน รู้สึกถึงคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวปะทะเข้ากับร่างของเขา เขารีบใช้กระจกเทียนหยวนเพื่อป้องกันคลื่นพลังงานเหล่านั้น และรีบวิ่งตรงไปยังห้องโถงพระราชวัง ในที่สุดเขาก็เห็นระฆังโบราณที่ส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่อง และปลดปล่อยคลื่นพลังเสียงที่น่าสยดสยอง นอกจากนี้เขามองเห็นตราประทับที่กำลังตามหา มันได้ผนึกพลังของระฆังโบราณเอาไว้อย่างสมบูรณ์
” เย่ ซีหวิน , ลงมือตอนนี้! ” เยโม่ ตะโกนอย่างฉับพลัน
เย่ ซีหวิน ไม่ลังเลรีบเอื้อมมือออกไปคว้าจับที่ตราประทับทันที แต่เขาไม่คิดว่าจะสามารถดึงเอาตราประทับออกมาได้อย่างง่ายดาย โดยแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
เย่ ซีหวิน มองไปที่ตราประทับในมือของเขา เขาไม่คิดว่าตราประทับนี้จะสามารถสะกดพลังของระฆังโบราณอันทรงพลังเช่นนี้ได้
” วิ้งงงงง! ” ระฆังโบราณกลายเป็นลำแสง และบินตรงไปทางจักรพรรดิปีศาจ ตอนนี้ใบหน้าอันหยิ่งยโสของร่างเงานั้น มันเผยท่าทีหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจน
” แก๊งงงงงงงงงงง! ” เสียงระฆังดังก้องกังวานสะท้อนไปทั่วเทือกเขาอันชั่วร้าย และคลื่นเสียงได้กระจายออกไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ร่างเงานั้นกลายเป็นลำแสงสีดำและพยายามบินหลบหนี แต่คลื่นเสียงสามารถเดินทางได้เร็วกว่ามัน และทันทีที่คลื่นเสียงกระแทกโดนตัวมันจากด้านหลัง ร่างของมันก็แตกสลายกลายเป็นผุยผงในทันที ดูราวกับว่าศัตรูที่น่าเกรงขามเช่นมันก็ไม่อาจมีชีวิตรอดเมื่ออยู่ตรงหน้าของระฆังโบราณ
คลื่นเสียงได้กระจายออกไปทั่วเทือกเขาอันชั่วร้าย และกองทัพซอมบี้ และปีศาจโครงกระดูกทั้งหมดก็ล้มลงทันที
พลังของระฆังโบราณนี้ มีอานุภาพรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ
กองทัพที่ไม่มีวันสิ้นสุดของซอมบี้ได้พ่ายแพ้ในทันที และซากศพจำนวนนับไม่ถ้วนนอนเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้น จักรพรรดิปีศาจ มองไปที่ลูกสัตว์ปีศาจแล้วถอนหายใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และค่อยๆ เลือนหายไปตรงเส้นขอบฟ้า
ลูกสัตว์ปีศาจ ยังคงร้องไห้เมื่อเห็น จักรพรรดิปีศาจ หายไป จักรพรรดิเฉิน และคนอื่นๆ มองพวกมันด้วยความตกใจ เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นสัตว์ปีศาจร้องไห้อย่างนี้มาก่อน
ในเวลานี้บนท้องฟ้าเมฆฝนเริ่มก่อตัวขึ้น หลังจากนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ชำระล้างปราณมรณะ และ ปราณหยิน ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดูเหมือนน้ำฝนจะมีพลังวิเศษบางอย่างทำให้ชำระล้างพลังอันชั่วร้ายออกไปจากเกาะ พืชทุกชนิดบนเกาะเริ่มเติบโตขึ้นอีกครั้ง และเกาะปีศาจที่เคยมืดมนก็กลับกลายมาเป็นดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ในภายไม่กี่อึดใจ
ทุกคนรู้ดีว่านี่อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดย จักรพรรดิปีศาจ ของโลกใบนี้ แต่พวกเขาต่างรู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้งต่อพลัง และทักษะของเขาที่อยู่ไกลเกินกว่าจินตนาการของมนุษย์
. . . . . . การต่อสู้บนเกาะปีศาจในที่สุดก็จบลงด้วยการสูญเสียอัจฉริยะของมนุษย์หลายคน และกองทัพของสัตว์ปีศาจจำนวนนับพัน จากสาวกกว่า 1,000 คน ที่ถูกเรียกตัวมายังเกาะปีศาจแห่งนี้ มีเพียง 400 คน เท่านั้น ที่รอดชีวิตได้จนครบหนึ่งปี ตัวเลขนี้ยังรวมถึงสาวกที่อ่อนแอประมาณ 100 คน ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสู้รบครั้งสุดท้าย
ตอนนี้ผู้รอดชีวิตทุกคนต่างเข้าใจอย่างชัดเจนในทันทีว่าทำไมเกาะปีศาจแห่งนี้จึงถูกเรียกว่าเครื่องบดเนื้ออัจฉริยะ
แม้ว่าเวลาจะยังไม่ครบกำหนดหนึ่งปี แต่ภารกิจบนเกาะปีศาจได้สิ้นสุดลงก่อนเวลา ทุกคนคาดว่านี่อาจจะเป็นการเรียกเหล่าอัจฉริยะมายังเกาะแห่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้ระฆังบนเกาะปีศาจจะไม่เรียกอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานจากสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
หลังจากการก่อจลาจลของเหล่าซอมบี้จบลงด้วยดี ในวันรุ่งขึ้นเหล่าผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์ได้รวมตัวกันที่ชายฝั่ง พวกเขากำลังรอเรือที่จะพาพวกเขาออกจากเกาะปีศาจไปยังชายฝั่งทะเลตะวันออกของจีน เนื่องจากอาณาเขตของเกาะปีศาจถูกแยกออกจากส่วนหนึ่งของโลก ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคือการใช้เส้นทางทะเล
ความรู้สึกดีใจบนความสำเร็จสามารถมองเห็นได้บนใบหน้าของทุกคน พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจบนเกาะปีศาจ
แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่เต็มใจที่จะจากไป เพราะบนเกาะปีศาจแห่งนี้เอื้อประโยชน์ต่อการเพาะบ่ม และประสบการณ์ในการต่อสู้ของพวกเขา
” หากเจ้ามาเยือนตระกูลราชวงค์วู เรายินดีต้อนรับเจ้าเสมอ ” วู เฉาฉิน ยิ้มและพูดกับ เย่ ซีหวิน ส่วน มู่ หลิง เขาค่อนข้างเศร้าใจที่ต้องจากเพื่อนสนิทสองคน แต่ด้วยเส้นทางของการฝึกวรยุทธพวกเขาต่างคุ้นเคยกับฉากดังกล่าว
มู่ หลิง พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ในเวลานั้นมีเสียงอันไพเราะดังมาจากระยะไกล และร่างของใครคนหนึ่งค่อยๆ ใกล้เข้ามาหากลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เย่ ซีหวิน เห็นร่างของหญิงสาวผิวสีขาวราวกับหิมะ คิ้วสีดำโค้ง และแววตาที่เป็นประกาย บินเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ ราวกับว่าตอนนี้เขากำลังมองไปที่นางฟ้าผู้มีรูปโฉมที่งดงาม
เย่ ซีหวิน รู้สึกประหลาดใจทันที เมื่อได้เห็นหญิงสาวคนนี้ ซึ่งเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก ฮัว หมิงฮัน
เธอสวมชุดคลุมสีขาวราวกับหิมะ และร่างของเธอถูกปกคลุมด้วยออร่าสีขาว และมีปีกคู่สีขาวยื่นออกมาจากด้านหลังของเธอ
ไม่เพียงแต่ เย่ ซีหวิน ทุกคนต่างก็พากันประหลาดใจเมื่อได้เห็น ฮัว หมิงฮัน เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นเธออยู่บนเกาะแห่งนี้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ราวกับว่าเธอไม่เคยเดินเท้าบนเกาะ หรืออาจซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ฮัว หมิงฮัน ค่อยๆ ร่อนลงมาข้างๆ เย่ ซีหวิน เธอมองเขาด้วยดวงตาอันงดงามของเธอ พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา
” เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ” เย่ ซีหวิน ถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ” ตอนเวลาเจ้าไปอยู่ที่ไหนมา? ข้าพยายามตามหาเจ้าทุกที่ แต่ก็ไม่พบเจ้า “
” เรื่องมันยาว ” ฮัว หมิงฮัน กล่าว เย่ ซีหวิน รู้ว่าในทันทีว่าเธอคงได้รับสมบัติล้ำค่า และไม่อาจบอกให้ทุกคนฟังได้
สายตาของทุกคน มองที่เธอด้วยความอิจฉา ซึ่งเห็นได้ชัดจากปีกคู่สีขาวบนหลังของเธอ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าเธอคงได้รับสมบัติบางอย่าง หรือเคล็ดวิชาการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
เย่ ซีหวิน สังเกตเห็นว่าเธออยู่ในขั้นแรกของขอบเขตลมปราณมหาเทพ ในขณะที่ถูกเรียกจากระฆังของเกาะปีศาจ แต่ตอนนี้เธออยู่ในขั้นที่ 9 ลมปราณมหาเทพแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอได้รับสมบัติล้ำค่าที่ไม่น่าเชื่อบางอย่างในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แล้ว เฉิน รั่วเฉิน อยู่ไหน?
เย่ ซีหวิน มีข้อสงสัยบางอย่างในใจ แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่ถามในตอนนี้
ในเวลานี้เขาเห็นใครบางคนกำลังบินเข้ามาด้วยความเร็วยิ่งกว่า ฮัว หมิงฮัน คนๆ นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้ดูแลสุสาน
เขายิ้มให้กับ เย่ ซีหวิน และ มู่ หลิง จากนั้นเขาก็โบกมือ และลูกบอลแสงศักดิ์สิทธิ์สองดวงก็หายเข้าไปในจิตใจของ เย่ ซีหวิน และ มู่ หลิง อย่างรวดเร็ว
เย่ ซีหวิน เข้าใจในทันทีว่า ผู้ดูแลสุสาน ได้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับเขา และมู่ หลิง แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นๆ จะไม่ได้รับมรดกจากผู้ดูแลสุสาน บางทีสัญญานี้อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน
หลังจาก ผู้ดูแลสุสาน มอบมรดกของเขาให้ เย่ ซีหวิน และ มู่ หลิง เขาก็ไม่ได้พูดอะไร และจากไป เย่ ซีหวิน ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะถามกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ว่าได้รับมรดกนี้หรือไม่
และนั่นเป็นเพราะเรือขนาดใหญ่กำลังแล่นเข้ามาที่เกาะอย่างช้าๆ
. . . . . . . . จบภาค เสียงเรียกจากเกาะปีศาจ . . . . . . . .