Martial God Space - ตอนที่ 257
Martial god space ตอนที่ 257 ผู้ดูแลสุสานปรากฏตัวอีกครั้ง
” บัดซบ, เนื้อของข้า! ตอนนี้มันเสียรสชาติหมดแล้ว! ” ลูกหมาป่า ไม่อาจทนเห็นเนื้อที่แสนอร่อย ถูกน้ำฝนกัดกร่อนไปต่อหน้าต่อตาของมัน ความรู้สึกของมันเต็มไปด้วยความโกรธในความสิ้นหวัง มันไม่สามารถควบคุมความรู้สึกครั้งนี้ได้
เย่ ซีหวิน ลุกขึ้นและยืนมองไปที่ท้องฟ้าทันที วู เฉาฉิน และ มู่ หลิง ก็มองขึ้นไปที่ท้องฟ้า และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างกระทันหัน
“แกว๊กกก! ” นกสีทองที่ทรงพลังอำนาจมหาศาลกำลังโบยบินข้ามฟากฟ้า และมันกำลังมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาอันชั่วร้าย เย่ ซีหวิน สังเกตเห็นว่านกสีทองตัวนี้เป็นนกที่มีปีกสีทอง ซึ่งนกแบบเดียวกันที่ทำลายเรือของเขาเมื่อครั้งที่เขาเดินทางเข้ามาถึงเกาะ
จากนั้นนกยักษ์สีทองตัวนี้ก็บินจากอีกฟากหนึ่งไปยังเทือกเขาอันชั่วร้าย
” ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น! ” วู เฉาฉิน พูดพึมพำ
มันเป็นเรื่องง่าย เมื่อมองจากสภาพแวดล้อมปัจจุบันบนเกาะ มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นและนี่จะต้องเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างแน่นอน
และมันก็น่ากลัวมาก เมื่อมองจากสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะต้องเกี่ยวข้องกับเทือกเขาอันชั่วร้าย!
ฝนตกหนักมากยิ่งขึ้น และเมฆสีดำได้ปกคลุมไปทั่วเกาะทั้งหมด ดูเหมือนทั้งเกาะกำลังถูกกลืนกินด้วยบรรยากาศแห่งความตาย ทำให้มันดูเหมือนโลกแห่งความตาย
เย่ ซีหวิน และ วู เฉาฉิน ใช้ปราณหยวนปกคลุมตัวเองเอาไว้เพื่อป้องกันฝนที่มีฤทธิ์กัดกร่อนขณะที่ มู่ หลิง ไม่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมา แต่ตรงกันข้ามน้ำฝนกลับถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากระยะไกล เย่ ซีหวิน เห็นชายชราร่างผอมแห้งกำลังบินอยู่ท่ามกลางสายฝนอีกฝั่งหนึ่งของท้องฟ้า เขาดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลมาก แต่ในชั่วพริบตาเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา จริงๆ แล้วมันคือ ผู้ดูแลสุสาน
ม่านตาดำของ เย่ ซีหวิน หดตัวลงเพราะเขาจำได้ว่า ผู้ดูแลสุสาน เคยเล่าเกี่ยวกับเรื่องคำสาบานของเขา ว่าจะต้องดูแลและปกป้องสุสาน และไม่สามารถออกมาจากสุสานได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถออกมาได้ และนี่แสดงให้เห็นว่ามีบางสิ่งที่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งบังคับให้เขาต้องออกมาจากสุสาน
และเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการปะทุอย่างฉับพลันบนเทือกเขาอันชั่วร้าย
” คารวะท่านผู้อาวุโส!” เย่ ซีหวิน และ มู่ หลิง รีบทำความเคารพต่อชายชรา วู เฉาฉิน ไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร แต่เมื่อเห็น เย่ ซีหวิน แสดงความเคารพต่อชายชราคนนี้แล้ว ซึ่งเขาจะต้องเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น วู เฉาฉิน รีบทำความเคารพตามคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว
” เรื่องที่เจ้าจะต้องตัดสินใจ เกี่ยวกับสิ่งที่ข้าเคยบอกกับเจ้าก่อนหน้านี้? เจ้าพร้อมที่จะทำหรือไม่? ” ผู้ดูแลสุสาน กล่าว ” มันเป็นสิทธิการตัดสินใจของเจ้า ไม่ว่าเจ้าต้องการที่จะทำหรือไม่ แต่จงจำไว้ว่า ถ้าเจ้าทำภารกิจครั้งนี้ไม่สำเร็จแล้ว ลืมเรื่องเกี่ยวกับการออกไปจากเกาะนี้ได้เลย แน่นอนว่าเจ้าอาจจะต้องตาย “
สีหน้าของ เย่ ซีหวิน เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เพราะคำถามนี้เป็นเรื่องจริงจังมาก นอกจากนี้พวกเขาอาจจะไม่สามารถออกจากเกาะนี้ได้
สำหรับอัจฉริยะเหล่านี้ การอยู่บนเกาะนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการผจญภัยเท่านั้น ไม่มีใครอยากใช้ชีวิตที่เหลือทั้งชีวิตบนเกาะนี้ ความปรารถนาของพวกเขา คือเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น ตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะแห่งนี้แล้วกลับไป และแสดงพลังความแข็งแกร่งใหม่ของพวกเขาให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ไม่พูดถึงสิ่งนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับนิกายของตน
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กลายเป็นปัญหาร้ายแรงที่ทำให้ทุกคนบนเกาะแห่งนี้จะต้องตาย
” ท่านผู้อาวุโส มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อย่างน้อยพวกเราสมควรได้รู้ ” เย่ ซีหวิน กล่าว
อย่างน้อย เขาก็อยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วเขาจะตัดสินใจภายหลังว่าจะทำหรือไม่
“สิ่งที่เรากำลังเห็นในตอนนี้ คือ เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหนึ่งพันปี ในช่วงเวลาดังกล่าวเหล่าวิญาญาณนักรบที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาอันชั่วร้ายจะถูกสะกดพลังลงอย่างมาก และเป็นช่วงเวลาที่พวกมันอ่อนแอมากที่สุด ” ชายชรา กล่าว ” ในความเป็นจริงเหล่าวิญาญาณของผีดิบจะถูกกักขังไว้ในค่ายกลอาณาเขตอันทรงพลังบนเทือกเขาอันชั่วร้าย และไม่มีทางที่พวกมันจะหลุดออกมาได้ แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับเลวร้ายลงเนื่องจากมีช่องว่างมิติปรากฏขึ้นในค่ายกลอาณาเขต และเหล่าวิญาญาณของผีดิบเหล่านี้สามารถผ่านออกมาจากช่องว่างมิติ ดังนั้นข้าจึงส่งสัตว์ปีศาจบนเกาะแห่งนี้ ไปที่เทือกเขาอันชั่วร้าย และะตรวจสอบเพื่อปิดกั้นช่องว่างมิติ มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะกลายเป็นหายนะร้ายแรง แม้ว่าเหล่าวิญาญาณของคนตายจะถูกสะกดพลังของพวกมันในช่วงเวลานี้ แต่พวกมันก็น่ากลัวมาก และถ้าหากพวกมันคนใดคนหนึ่งหลุดรอดออกมาจากเกาะปีศาจได้แล้ว ทั้งโลกจะต้องตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง “
ตอนนี้พวกเขาทั้งหมด ต่างพากันเข้าใจความรุนแรงของสถานการณ์ตอนนี้แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เย่ ซีหวิน สามารถเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี เพราะเขาสามารถบอกได้ว่าสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลก
สิ่งเหล่านี้เรียกว่า สัตว์ปีศาจผีดิบ พวกมันโหดเหี้ยมและน่าสะพรึงกลัว แม้ว่าจะถูกสะกดพลังที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในช่วงสหัสวรรษ แต่พวกมันก็ยังคงน่ากลัวมาก แม้เพียงตัวเดียวก็เพียงพอที่จะคุกคามความมั่นคงของโลก
อย่างไรก็ตามค่ายกลอาณาเขตนี้มีพลังมากจนสามารถกักขังเหล่าสัตว์ปีศาจผีดิบเป็นเวลานับหมื่นปี ตามสิ่งที่ เยโม่ พูด บุคคลที่สามารถวางค่ายกลอาณาเขตนี้ได้นานนับหมื่นปีที่ผ่านมา ต้องเป็นบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริงเกินกว่าความเข้าใจของอาณาจักรนี้
อย่างไรก็ตาม มีช่องว่างมิติที่ปรากฏขึ้นภายในค่ายกลอาณาเขตที่ทรงอานุภาพ แม้ว่าจะเป็นช่องว่างมิติขนาดเล็ก ๆ แต่พอที่จะทำให้คนทั้งโลกตกอยู่ในอันตรายได้
ผู้สร้างค่ายกลอาณาเขตนี้ต้องเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามมาก หรือบางทีก็ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคล แต่ถูกสร้างขึ้นโดยองค์กร
เย่ ซีหวิน สังเกตเห็นว่าไม่มีการควบคุมในหมู่สัตว์ปีศาจบนเกาะนี้ เหมือนกับว่าสัตว์ปีศาจได้แบ่งดินแดนของมันบนเกาะ และไม่มีใครเข้าไปก้าวก่ายซึ่งกันและกัน แน่นอนว่าไม่มีร่องรอยของการบุกรุกเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกฎระเบียบที่ราบรื่น และความเข้าใจในหมู่สัตว์ปีศาจ สัตว์ปีศาจจะถูกล่าในพื้นที่ของตน และไม่มีร่องรอยของการโจมตีข้ามพรมแดน
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของไข่สัตว์ปีศาจโบราณก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าเกาะปีศาจแห่งนี้มีความลับบางอย่างซ่อนเก็บไว้ แต่ครั้งนี้สิ่งต่าง ๆ กับยิ่งแปลกประหลาดมากกว่าก่อน สัตว์ปีศาจที่มีสติปัญญาและแปลกใหม่ในระดับตำนาน หรือสูงกว่านั้น ทำตามคำสั่งของผู้ดูแลสุสาน ดูเหมือนว่าเกาะนี้เคยเป็นของสมาพันธ์ที่ทรงอำนาจอยู่แล้ว และแม้ว่าอิทธิพลของมันจะลดลงตามกาลเวลา หัวหน้าเผ่าสัตว์ปีศาจอาจจเคยเป็นสมาชิกของกลุ่มสมาพันธ์โบราณ และชายชราเป็นหัวหน้าของพวกมัน
ถึงแม้ว่าอิทธิพลของกลุ่มนี้จะลดลง แต่ก็ยังสิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจสำหรับโลกแห่งวรยุทธ
มันเหมือนกับการปะทะกันระหว่างสองกองกำลังทำลายล้าง
ทำไมเกาะปีศาจจึงปรากฏตัวขึ้นทุกๆ 50 ปี? เหตุผลใดที่อยู่เบื้องหลังการเรียกเหล่าอัจฉริยะหนุ่มมาบนเกาะแห่งนี้
อะไรคือจุดหมายที่ทหารปีศาจพยายามจะเดินทางไปทุกคืนในแม่น้ำสีเหลือง และต่อสู้กับใคร?
ชายชราคนนี้เป็นใคร?
บรรดาสัตว์ปีศาจบนเกาะแห่งนี้เป็นลูกหลานของเทพเจ้าจริงๆ หรือ?
เย่ ซีหวิน กำลังจมอยู่ในความคิด คำถามเหล่านี้ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในใจของเขา!
” มองไปที่ความรุนแรงของสถานการณ์แบบนี้ เราจะทำอะไรได้บ้าง? ” เย่ ซีหวิน ถาม
” เจ้าสามารถค้นพบตราประทับเหล่านั้นได้ เนื่องจากผีดิบเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุม และเจ้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการเดินทางไปยังเทือกเขาอันชั่วร้าย แต่เจ้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียว ถ้าเจ้าล้มเหลวและนั่นจะกลายเป็นจุดจบของเจ้า ” ผู้ดูแลสุสาน กล่าวอย่างจริงจัง ” แต่ข้อเสนอของข้ายังคงมีผลอยู่ตราบใดที่เจ้าสามารถค้นพบตราประทับนั้นได้ ข้าจะให้สิทธิ์เจ้าในการรับมรดกของข้า เจ้าลองคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในขณะที่ข้าจะไปแจ้งผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “
จากนั้นชายชราหันหลังกลับ และหายตัวไปในอากาศ ความสามารถของทักษะความคล่องตัวของเขาอาจทำให้ทั่งโลกต้องตกตะลึง
ก่อนที่เขาจะจากไป เขาเหลือบมองมาที่ลูกหมาป่าก่อนไปจากที่นั่น
ทั่งสองคนหันมองมาที่ เย่ ซีหวิน และถามว่า ” ตอนนี้พวกเราควรทำอะไร? “
” ข้าแนะนำให้เจ้าทำในสิ่งที่ชายชรากล่าว เพราะนี่เป็นปัญหาใหญ่” ลูกหมาป่าจู่ ๆ ก็พูดออกมา ” ถึงแม้จะเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลกลุ่มดาวโจวที่ชำรุด มันก็เพียงพอแล้วที่จะกลายเป็นประตูสู่การปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย ที่รอคอยโอกาสมานานแล้วที่จะสร้างความหายนะให้กับโลกใบนี้ “
” เราต้องทำมันพวก! มันไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าสิ่งที่ผู้อาวุโสกล่าวว่าเป็นความจริง พวกเราก็ต้องตาย ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง ” วู เฉาฉิน กำหมัดของเขา และกล่าวขึ้นมา
” ถ้าเราไม่ลงมือทำอะไร พวกเราก็ต้องตาย แต่ถ้าเรายอมเสี่ยงและสามารถเอาชีวิตรอด เราอาจได้รับมรดกตามที่เขาพูดถึง ” เย่ ซีหวิน กล่าว แม้เขาจะเห็นความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของชายชราอย่างชัดเจนว่า พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องรับงานนี้
ก่อนหน้านี้ชายชราได้กล่าวว่า ถ้า เย่ ซีหวิน และ มู่ หลิง ปฏิเสธที่จะรับงานนี้ เขาจะรออีกห้าสิบปีเพื่อจะมอบงานนี้ให้กับอัจฉริยะรุ่นอื่น แต่ตอนนี้เขาดูวิตกมาก และดูเหมือนว่าเขาต้องการให้พวกเขารับงานนี้ และทำมันให้สำเร็จ
เย่ ซีหวิน ไม่ได้คิดเกี่ยวกับผลตอบแทนอีกต่อไป เพราะการเอาชีวิตรอดเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่ามากในขณะนี้!
” มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีอะไรต้องพูดอีกต่อไป พวกเราไปกันเถอะ! ” มู่ หลิง กล่าว
ทั้งสามคนได้ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย และรีบวิ่งไปในทิศทางของภูเขาอันชั่วร้ายของเหล่าผีดิบ พวกเขาจะพยายามทำอย่างดีที่สุดก่อนที่หายนะจะเกิดขึ้น แต่ทันใดนั้น เย่ ซีหวิน ก็รู้สึกประหลาดใจ เมื่อได้เห็นลูกหมาป่าตัวนี้ติดตามพวกเขา ลูกหมาป่าตัวเดียวกันที่พยายามหลายครั้งเพื่อหนีเขาอยู่หลายครั้ง ตอนนี้มันตามพวกเขาอย่างเงียบ ๆ