Mai Kitsune Waifu – ภรรยาของผมเป็นเซียนจิ้งจอก - ตอนที่ 106
ตอนที่ 106 การสอนที่ดี
มู่หรงเตี๋ยและหวังเล่อเล่อยังคงไม่มาโรงเรียนในวันนี้.
หลิวอวี้มองไปที่ที่นั่งว่างเปล่าข้างหลังเขาพลางคิด ‘มู่หรงเตี๋ยยังโกรธฉันอยู่เหรอ?’
อารมณ์ของผู้หญิงคนนี้ใหญ่เกินไป.
ใช่แล้ว ใจแคบ.
ฉันควรหาเวลาไปขอโทษเธอหรือไม่?
ส่งข้อความหรือบางอย่างเหรอ?
เฮ้อ ดูเหมือนว่าฉันไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของเธอ.
หลิวอวี้เริ่มกลุ้มใจ.
มันเป็นในเวลานี้ หวังหยู่เจิ้งผู้ซึ่งดูเหมือนไม่พูดจาที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกับเขาพลันส่งกระดาษชิ้นหนึ่งให้กับเขา.
หลิวอวี้มองกระดาษและอ่านที่เธอเขียน.
“อย่าคิดว่าฉันจะซาบซึ้งกับนาย พวกนายเป็นเหมือนกันหมด”
หลิวอวี้ยิ้มขมขื่นคร้้งแล้วครั้งเล่า.
โธเว้ย ความประทับใจของหวังหยู่เจิ้งต่อฉันไม่ดีจริงๆเหรอ.
สวรรค์เป็นพยาน ฉันเป็นคนดีนะ.
หลิวอวี้ทำอะไรไม่ถูกและไม่สามารถอธิบายได้. และสุดท้าย เขาได้เข้าไปในเขตแดนจิตวิญญาณและเริ่มฝึกฝน.
ตั้งแต่ปราณมารเข้าไปในร่างกายของเขา หลิวอวี้รู้สึกว่าจิตใจของเขาค่อยๆเปลี่ยนไป.
บ่อยครั้งที่เขาช่วยไม่ได้ที่จะกลายเป็นพุงดำ. (คนตีสองหน้า)
โดยไม่ต้องให้อีกตัวตนหนึ่งของเขาตื่นขึ้นมา เขาสามารถแก้ไขปัญหาที่เขาไม่สามารถจัดการได้เอง.
ตัวอย่างเช่น เมื่อเขาโกงผู้หญิงคนนั้น เวยยี่.
หลิวอวี้ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้สำหรับเขา. เขาคิดว่านี่ไม่ใช่เขา.
เมื่อเขาเข้าไปในเขตแดนจิตวิญญาณ หลินถงอยู่ที่นั่นรอเขาแล้ว.
หลิวอวี้จ้องมองร่างเงาของหลินถงและช่วยไม่ได้ที่จะสงสัย.
พี่สาวเซียนจิ้งจอก จริงๆแล้วเธอหน้าตาเป็นยังไงนะ?
เธอสวยหรือว่าน่าเกลียด?
แน่นอน เธอต้องเป็นสาวสวยแน่.
ทั้งหมดนี้ เธอคือพี่สาวเซียนจิ้งจอกนี่นา.
ตั้งเเต่เมื่อไหร่กันที่วิญญาณจิ้งจอกจะน่าเกลียด.
“เมื่อคืนข้าจะเข้าไปคุยกับเจ้า แต่ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะจับจ้องอยู่แต่กับการบ้านของเจ้า ดังนั้นข้าจึงปล่อยเจ้า”
หลินถงยืนเอามือไพล่หลังร่างกายของเธอแล้วกล่าวกับหลิวอวี้ขณะที่มองไปที่เขา.
“ร่างกายของเจ้ายุ่งเหยิงอย่างแท้จริงตอนนี้ มีทั้งพลังมาร มีทั้งพลังอมตะ. หลังจากที่เป็นผู้ฝึกตนมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าพบเจอสถานการณ์อย่างนี้”
“มีอะไร มันไม่ดีเหรอ?”
หลิวอวี้รู้สึกปนเป.
จะเป็นไปได้อย่างไรที่ฉันจะโชคดีน่ะ หลังจากที่เป็นผู้ฝึกตน ฉันชนเข้าสิ่งแปลกๆจำนวนมาก.
“รหัสพระสูตรโลหิตสีชาดที่เจ้าได้รับโดยเหวินเหรินเชี่ยนวันนั้น ดูเหมือนจะเป็นทักษะของนิกายชั่วร้าย. เจ้าไม่สามารถใช้มันได้ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป”
หลินถงกล่าว “มีเพียงเจ้าในร่างปีศาจเท่านั้นที่สามารถใช้ได้”
“มันไม่อันตรายเหรอ?”
หลิวอวี้กังวลว่าวันหนึ่งสภาวจิตของเขาจะถูกใช้โดยร่างปีศาจของเขาอย่างสมบูรณ์.
“ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเกี่ยวกับอะไร”
หลินถงคาดเดาอย่างฉลาดว่ามีอะไรอยู่ในใจของหลิวอวี้.
“แม้ว่าเจ้าในร่างปีศาจจะกลายเป็นทรงพลังมากกว่า เขาก็ไม่สามารถครอบงำสภาวจิตของเจ้าได้ เพราะเจ้าคือหลิวอวี้ ไม่ว่าสภาวจิตที่เจ้ามีเป็นอะไร พวกมันทั้งหมดก็คือเจ้า. มันก็เหมือนในวิทยาศาตร์สมัยใหม่ เจ้าในร่างปีศาจคืออีกตัวตนหนึ่งของเจ้า. อีกตัวตนหนึ่งของเจ้าก็คือเจ้า”
“คุณทำให้ผมสับสนไปหมดแล้ว”
หลิวอวี้รู้สึกวิงเวียนศรีษะ.
“ไม่ต้องกังวลไป เป้าหมายหลักวันนี้สำหรับท่านหญิงผู้นี้คือปลุกอีกตัวตนหนึ่งของเจ้าให้ตื่น”
นัยน์ตาของหลินถงส่องประกาย “ข้าอยากพูดคุยส่วนตัวกับเขาตัวต่อตัวเพื่อรู้ขีดจำกัดของเขา. มิเช่นนั้นท่านหญิงผู้นี้จะไม่สามารถมั่นใจส่วนที่เหลือได้”
“หืม?”
หลิวอวี้ตกใจ.
“คุณต้องการปลุกอีกตัวตนหนึ่งของผมเหรอ? นั่น..มันจะไม่อันตรายเหรอ?”
“ไม่ต้องเป็นห่วง”
หลินถงรับประกันกับเขา “ถึงแม้นี่จะเป็นเขตแดนจิตวิญญาณของเจ้า ท่านหญิงผู้นี้ก็ได้ช่วยเจ้าสร้างมันขึ้นมา. ข้ามีการป้องกันวิญญาณของข้าได้ เขาไม่สามารถที่จะสร้างบาดแผลร้ายแรงแก่ข้าได้หรอก”
“คุณต้องการที่จะทำอย่างนี้จริงๆ”
“แน่นอน ข้าต้องทำ. เจ้าคิดว่าท่านหญิงผู้นี้มีเวลาหยอกล้อกับภัยคุกคามที่ว่างเปล่าเหรอ”
หัวใจของหลินถงค่อนข้างประหม่า.
เพราะมีอันตรายอยู่จริงอย่างแน่นอน.
มีบางคำพูดที่เธอปิดหลิวอวี้ไว้. เขตแดนจิตวิญญาณนี้ ทั้งหมดเป็นของหลิวอวี้. ถ้าหลิวอวี้อีกคนมีพลังมาก สุดท้ายเขาย่อมสามารถควบคุมที่ว่างนี้ได้อย่างแน่นอน. ถ้าในกรณีนั้นเขาย่อมสามารถฆ่าเธอได้ในไม่กี่วินาที.
แต่สำหรับหลิวอวี้ เธอจึงต้องพยายาม.
นี่คือความเสี่ยงที่เธอแบกรับ.
“ตกลง งั้น..”
หลิวอวี้เห็นถึงการยืนยันของหลินถงและไม่มีตัวเลือกอื่น ได้แต่ผงกศรีษะและเห็นตาม.
“หลับตาของเจ้าซะ”
หลินถงตะโกนเสียงดัง.
หลิวอวี้หลับตาของเขาอย่างเชื่อฟัง.
เมื่อผู้นำออกคำสั่ง เขาต้องทำตาม.
หลังจากที่หลิวอวี้หลับตาแล้ว ร่างของหลินถงพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง.
ร่างกายที่คลุมเครือของเธอกลายเป็นชัดเจน เปลี่ยนจากภาพโมเสกกลายเป็นภาพ HD.
หญิงสาวแสนสวยปรากฏเบื้องหน้าหลิวอวี้ แต่โชคร้ายที่หลิวอวี้ไม่สามารถมองเห็นเธอได้.
ขณะเดียวกันร่างกายของหลินถงเปลี่ยนกลับไป.
คู่ของหูที่มีขนยาวของจิ้งจอกงอกขึ้นมาและหางจิ้งจอกสีแดงปรากฏด้านหลังเธอ ตอนนี้ผมหยักโศกยาวอยู่เหนือสะโพก.
เพื่อการเผชิญหน้ากับหลิวอวี้อีกคน หลินถงจึงกลายร่างของเธอเป็นร่างครึ่งปีศาจ.
หลินถงเหยียดคู่กรงเล็บที่เเหลมคมของเธอตรงไปยังหลิวอวี้และร้องออกมา.
“ย่าห์…”
แสงสีแดงพลันกระโดดไปในร่างกายของหลิวอวี้.
ทั่วทั้งร่างกายของหลิวอวี้ส่าย เขารู้สึกว่าในใจของเขามีเสียงแปลกๆที่ก่อให้เกิดความยุ่งเหยิงซึ่งดังอยู่ภายในศรีษะของเขาอย่างไม่รู้จบทำให้หลิวอวี้รู้สึกไม่สบาย.
ความรู้สึกด้านมืดท่วมท้นหัวใจของเขาไปหมด.
ในขณะนี้ เขาโกรธมาก รู้สึกรำคาญมาก อารมณ์ร้อนแรงมาก.
ภาพจากอดีตเหล่านั้นโผล่มาเบื้องหน้าเขาเรื่อยๆ.
มู่หรงหงที่ข่มขู่ครอบครัวของเขา หยวนเฉาจวินที่กอดหม่าอวี่ฉวนขณะที่เยาะหยันเขา และความทรงจำอื่นๆอีก.
“อ๊ากกกก”
หลิวอวี้คำรามออกมา แสงสีดำและสีแดงสองสายไหลเวียนรอบกันพลันระเบิดออกมาจากร่างกายของเขากระจายไปในเขตแดนจิตวิญญาณของเขาอย่างรวดเร็ว.
หลินถง ภายใต้ผลกระทบของพลังนี้ ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวและเกือบทรุดนั่งลงบนพื้น.
เป็นการระเบิดที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้.
หลิวอวี้ที่ฝั่งตรงข้ามเริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน.
ผมสีเงินยาวงอกออกมาบนศรีษะของเขาซึ่งถูกรวบไว้ข้างหลังด้วยมือของเขา.
มันไม่แน่ชัดว่าเขาชอบทรงผมเช่นนี้หรือเพราะก่อนหน้าผมที่กระเซอะกระเซิงบังการมองเห็นของเขากันแน่.
ความสูงของเขาก็สูงเช่นกัน. ตอนนี้ประมาณ 180 เซนติเมตร.
รูปร่างที่ผอมแห้งตามปกติของหลิวอวี้ ตอนนี้กลายเป็นสมส่วนสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความรู้สึกของมัดกล้าม.
เขาเหยียดนิ้วมือเรียวของเขาออกไปลูบผมเบาๆชั่วขณะ แล้วจึงลืมตาสีทองของเขาตกลงไปบนหลินถง.
นัยน์ตาสีทองเปิดออก.
ทันใดนั้นหลินถงรู้สึกว่าร่างกายของเธอกลายเป็นอ่อนนุ่ม ใบหน้าของเธอขึ้นสีแดง และจังหวะหัวใจของเธอเต้นถี่ขึ้น.
ความปรารถนาของเธอที่มีต่อเขาเพิ่มขึ้น.
บ้าเอ้ย นัยน์ตาสีทองนี้ท้าทายสวรรค์จริงๆ.
หลินถงหลับตาของเธออย่างรวดเร็ว ปฏิเสธที่จะมองหลิวอวี้ร่างปีศาจเบื้องหน้าเธอ อย่างน้อยนัยน์ตาสีทองก็ส่งผลกับเธอ ทำให้เธอสูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้ไป.
“หึ หึ หึ สาวสวยมาหาฉันอีกครั้งแล้ว”
เสียงของหลิวอวี้ค่อยๆผ่านเข้าไปในหูของหลินถง “ไม่นานมานี้ อัตราส่วนที่บ่งบอกถึงการตอบสนองของฉันสูงมาก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าสาวสวยเป็นคนขี้อายอย่างมากจนไม่กล้าลืมตา”
เสียงนั้นอยู่ใกล้ๆและได้มาถึงหูของหลินถง.
หลินถงสะดุ้งรีบก้าวถอยหลังไปไกลมากและลืมตาของเธอขึ้น.
แม้เมื่อตาของเธอปิด เธอก็ยังประสบกับการสูญเสีย.
แต่ความร้ายกาจของนัยน์ตาสีทองของหลิวอวี้ใหญ่เกินไป.
“เธอต้องการสู้กับฉันเหรอ?”
หลิวอวี้จุดเปลวเพลิงสีแดงขึ้นบนฝ่ามือของเขาอย่างไม่ใส่ใจ.
รูปลักษณ์ของเปลวเพลิงนี้แปลกเล็กน้อย ถึงแม้มันเป็นเปลวเพลิง แต่มันเหมือนกลุ่มเลือดมากกว่า.
เพลิงมารโลหิตสีชาด. (赤血魔炎).
หลินถงไม่เคยเผชิญกับเพลิงประเภทนี้ และเธอไม่รู้ว่ามันทรงพลังแค่ไหน.
ความจริงก็คือเหวินเหรินเชี่ยนเป็นผู้หญิงลึกลับ.
“ข้าต้องการถามเจ้า เจ้าต้องการทำอะไร?”
หลินถงถาม.
“ฉันอยากทำอะไรเหรอ”
ร่างของหลิวอวี้พลันปรากฏตัวเบื้องหน้าหลินถง.
หลินถงไม่รู้ว่าหลิวอวี้สามารถปรากฏตัวเบื้องหน้าเธออย่างรวดเร็วได้อย่างไร เป็นไปได้มั้ยว่าความสำเร็จในย่างก้าววิญญาณจิ้งจอกของเขาบรรลุถึงขั้นแล้วน่ะ?
เมื่อเธอยังคงคาดเดา หลิวอวี้พลันเหยียดมือของเขาออกและทำให้หลินถงอยู่ในอ้อมกอดของเขา.
“เธอ ปีศาจจิ้งจอกน้อยค่อนข้างน่ารักจริงๆ. เมื่อเธอกังวลมากเกี่ยวกับฉัน ทำไมเธอต้องปกปิดมันไว้ด้วย?”
“ใคร ใครเป็นห่วงเกี่ยวกับเจ้ากัน”
ใบหน้าของหลินถงขึ้นสีแดง. เธอต้องการที่จะปัดแขนของหลิวอวี้ออก เพียงแต่พบว่าร่างกายของเธอดูเหมือนเริ่มจะเคลิบเคลิ้มอ่อนแรงเกินจะขยับเขยื้อน.
“สาวสวยผู้น่ารัก..ต้องการเดทกับฉันมั้ย?”.
หลิวอวี้กล่าว ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้กับใบหน้าที่เขินอายของหลินถงจนเกือบจะแตะที่หูของเธอขณะที่เขากล่าว.
หลินถงรู้สึกได้ถึงลมหายใจของหลิวอวี้.
นี่มันไม่ถูกต้อง.
เจ้าสามารถทำหยาบคายกับท่านหญิงผู้นี้ได้อย่างไร.
“ดาบสั้นเสน่ห์วิญญาณ”
หลิวอวี้รู้สึกถึงภัยคุกคาม. ร่างของเขาแวบหายไปและในพริบตาก็ปรากฏในที่ห่างไกล.
ดาบสั้นเล่มหนึ่งไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนหวีดร้องกับสายลม ฉีกผ่านอากาศรอบร่างของหลินถงด้วยการหมุนอย่างต่อเนื่องราวกับองครักษ์พิทักษ์จักรพรรดิ.
“มันกลายว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เหรอ?”
นัยน์ตาของหลิวอวี้แสดงถึงความอยากรู้เล็กน้อย.
“เฮอะ นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับมอบโดยอาจารย์ของข้า. เป็นงานศิลปะที่อาจารย์ของข้าภูมิใจที่สุด”
หลินถงกล่าวอย่างภาคภูมิ “นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่รับประกันชีวิตของข้า. หลิวอวี้ ด้วยดาบสั้นเสน่ห์วิญญาณเล่มนี้ เจ้าจะไม่สามารถเข้าใกล้ข้าได้อีก”
“อ้อ ฉันรู้แล้ว..เด็กดี. อย่างไรก็ตาม ฉันอยากเข้าไปในร่างกายของเธอจริงๆ”
“เจ้า..ไอ้คนสกปรก”
หลินถงไม่ได้โง่ และได้ยินชัดถึงความหมายของหลิวอวี้.
“ฉันรักเมื่อเธอเอ่ยชมฉัน. งั้นให้ฉันลองดูว่าฉันสามารถเข้าไปในร่างกายของเธอได้หรือไม่”
หลิวอวี้กล่าว ร่างกายของเขาแวบไปในไม่กี่นาที และในพริบตาก็ได้มาถึงเบื้องหน้าหลินถงแล้ว.
หลินถงควบคุมดาบสั้นเสน่ห์วิญญาณของเธอหมุนควงเข้าโจมตีไปยังหลิวอวี้.
ดาบสั้นเสน่ห์วิญญาณคล่องแคล่วและรวดเร็วอย่างมาก แต่ตลอดเวลาเมื่อมันฟันร่างกายของหลิวอวี้ มันกลับตัดถูกอากาศแทน.
หลิวอวี้ดูเหมือนรู้ว่าดาบสั้นเสน่ห์วิญญาณจะมาจากทางไหน และจะหลบเลี่ยงมันได้ตลอดเวลา.
“อย่าลิมสิว่า สถานที่นี้คือเขตแดนจิตวิญญาณของฉัน”
หลิวอวี้หลบพร้อมกล่าวและยิ้ม “เมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการโจมตีฉัน ตราบเท่าที่ดาบสั้นเสน่ห์วิญญาณยังอยู่ในโลกนี้ ฉันก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน”
“บ้าเอ้ย”
หลินถงคิดกับตัวเอง ‘การต่อสู้ที่นี่เป็นข้อเสียเปรียบสำหรับข้าจริงๆ’
แต่เธอไม่สามารถออกจากสถานที่นี้ได้.
ผู้เชี่ยวชาญดาราสี่ดวงคนหนึ่งถูกกดดันโดยมือใหม่ดาราสองดวงคนหนึ่งจริงๆ.
ถ้าอาจารย์ของเธอรู้เรื่องนี้ เธอต้องวิจารณ์เธออย่างรุนแรงแน่นอน.
แต่เมื่อคิดว่าหลิวอวี้ได้โค่นหัวหน้าดาราสามหรือสี่ดวงสองคนลง หลินถงก็รู้สึกพึงพอใจเช่นกัน.
อึ้มม ใช่แล้ว มันเป็นเพราะการสอนของข้าดี.
อุ้ยส์.
นี่ไม่ใช่เวลามาคิดนะ.
ในเวลาที่หลินถงเสียสมาธิ หลิวอวี้พลันขยับร่าง.
“ระเบิดเพลิง”