Mai Kitsune Waifu – ภรรยาของผมเป็นเซียนจิ้งจอก - ตอนที่ 105
ตอนที่ 105 รางวัลการดื่มไม่ใช่กำไรที่ดี
หลังจากที่อดหลับอดนอนเมื่อวานเพื่อทำการบ้านเมื่อคืน เช้านี้หลิวอวี้ช่วยไม่ได้ที่จะเข้าห้องเรียนด้วยอาการหาวนอนอย่างหนัก.
นายเฟอร์เฟคคนอื่นถูมือของพวกเขาบนสาวสวยเมื่อวาน ไม่ดีเลยที่นายเฟอร์เฟคคนนี้ทำได้เพียงถูมือลงบนกองกระดาษเท่านั้น.
หัวใจของหลิวอวี้ช่วยไม่ได้ที่จะเศร้าโศก.
หัวใจของเขาถอนหายใจด้วยอารมณ์เมื่อเขามองไปและพบว่าที่นั่งของเขาได้ถูกครอบครองโดยคนอื่น.
ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างหล่อและเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลินหวาหยางจากห้องวิจัย.
โอ้ ผิดๆ หลินหวาหยางไม่ควรถูกเรียกว่าหนุ่มหล่ออีกต่อไป.
อาจบางทีเรียกว่าสาวหล่อ?
ในจุดนี้หลินหวาหยางกำลังนั่งบนที่นั่งของหลิวอวี้ถัดจากหวังหยู่เจิ้งขณะที่กำลังเซ้าซี้เธออย่างหนัก.
“หยู่เจิ้ง อย่างที่เธอเห็น”
หลินหวาหยางเคาะโต๊ะเบาๆด้วยนิ้วของเขาแล้วกล่าว “ห้องทั่วไปนี้แตกต่างมากกับห้องวิจัยของพวกเรา. ด้วยผลการเรียนของเธอ เธอควรอยู่ในห้องวิจัย. ห้องวิจัยเท่านั้นที่สามารถทำให้ความปรารถนาของเธอที่จะผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติเป็นจริงได้น่ะ. เธออยู่ในห้องทั่วไปในตอนนี้ ไม่ว่าอาจารย์หรือสภาพการเรียนรู้ พวกเขาทั้งหมดด้อยกว่าห้องวิจัยของพวกเรา”
“มันไม่ใช่ธุระของนาย”
หวังหยู่เจิ้งกล่าวโดยไม่ได้ยกศรีษะของเธอมองเขา. กลับกัน นัยน์ตาของเธอมุ่งมั่นไปที่ปัญหาวิชาเลขบนโต๊ะขณะที่เธอกล่าว “ตราบเท่าที่ฉันต้องการเรียนรู้ มันไม่ใช่ปัญหา ที่ไหนก็เหมือนกันหมด”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้น. หวังหยู่เจิ้ง เธอลองคิดดูสิ”
หลินหวาหยางกล่าวอย่างรวดเร็ว “ตราบเท่าที่เห็นด้วยที่จะเป็นแฟนของฉัน ในประโยคเดียว ฉันสามารถให้เธอกลับไปห้องวิจัยได้. ถ้าเธอต้องการอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมเพื่อสอนเธอเป็นการส่วนตัว ฉันสามารถทำได้”
คิ้วของหวังหยู่เจิ้งขมวดมุ่นลึกขณะที่นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ.
“หลินหวาหยาง นายยังไม่จบเหรอ ได้โปรดหยุดรังควานฉัน โอเค๊ ? ฉันถูกเตะออกจากห้องวิจัยแล้วเพราะนาย นายต้องการจะทำอะไรอีก? นาย สหายคนนี้ทำให้ฉันเหนื่อยใจจริงๆ”
“หวังหยู่เจิ้ง เธอกล้าพูดอย่างนี้กับฉัน”
หลินหวาหยางถูกทำให้อับอายหลังจากที่หวังหยู่เจิ้งกล่าวกับเขาและถึงกับหน้าซีด.
“ฉันจะถามเธอครั้งสุดท้าย เธอต้องการที่จะเป็นแฟนของฉันหรือไม่ ถ้าเธอไม่พูดว่า ใช่ สำหรับคำตอบนี้ ฉันกลัวว่าเธอจะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป”
“นาย..นายต้องการทำอะไร”
ใบหน้าที่น่ารักของหวังหยู่เจิ้งซีดลงทันที.
เขาคงไม่ไปบอกพ่อของเขาให้ไล่ฉันออกหรอกนะ.
นี่มันไม่ดี.
โรงเรียนอี้จงมีอัตราสูงสุดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในบรรดาโรงเรียนมัธยมปลายในเมืองเป่ยหลง. สภาพทางครอบครัวของฉันไม่ดี พวกเขาทุกคนคาดหวังกับฉันเพื่อให้ได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีเพื่อให้ฉันสามารถนำเกียรติมาสู่บรรพบุรุษของตระกูลในอนาคต.
เฮ้อออ เฮ้อออ.
ในที่สุดเมื่อเห็นหวังหยู่เจิ้งอยู่ในความกลัว หัวใจของหลินหวาหยางรู้สึกพึงพอใจ.
ฉันจะไม่สามารถจัดการกับลูกเจี๊ยบตัวนี้ได้อย่างไร?
หวังหยู่เจิ้งไม่มีเบื้องหลังและเธอไม่มีใครสักคนคอยสนับสนุนเธอ. เธอมีข้อดีเพียงอย่างเดียวคือใบหน้าที่น่ารักของเธอและความมุ่งมั่นของเธอคือการเรียน. ฉันคือคุณชายหลิน ถ้าฉันไม่สามารถจัดการผู้หญิงคนนี้ได้ ฉันจะเอาหน้าของฉันไปพบปะผู้คนอีกต่อไปได้อย่างไร.
หลินหวาหยางเมื่ออยู่ที่บ้านครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ตลอด.
เหตุผลว่าทำไมฉันไม่อาจผงาดช่วงล่างของฉันได้อีกครั้ง อาจเพราะว่าผู้หญิงไม่สวยพอ.
หม่าอวี่ฉวนคนนั้น ถึงแม้เธอค่อนข้างน่ารัก เมื่อเทียบกับหวังหยู่เจิ้ง เธอยังคงมีส่วนด้อยกว่า.
ถ้าฉันสามารถได้รับการกระตุ้นอย่างงดงามจากหวังหยู่เจิ้ง อาจบางทีช่วงล่างของฉันคงได้รับการแก้ไข.
“หวังหยู่เจิ้ง เธอมีความคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้อย่างไร? ฉันจะไปถามเธอถึงสิ่งนี้ในภายหลัง เธอ..”
ปัง.
ก่อนที่หลินหวาหยางจะจบประโยคของเขา เขาพลันรู้สึกถึงแรงลมในอากาศ แล้วปกคอเสื้อของเขาถูกยกขึ้นและถูกขว้างไปบนพื้น. ก้นของเขารู้สึกเจ็บราวกับมันจะแตกเป็นชิ้นๆ.
“แม่มันเถอะ ใครกล้าแตะพ่อคนนี้? แกไม่ต้องการมีชีวิตอยู่เรอะ”
หลินหวาหยางถูก้นของเขาขณะที่ลุกขึ้นหันไปรอบๆและสบถด่าด้วยความโกรธ.
“ออกไปซะ นายอยู่ในที่นั่งของฉัน”
หลิวอวี้กอดอกยืนอยู่เบื้องหน้าหลินหวาหยาง.
เมื่อเห็นหลิวอวี้ที่นี่ หลินหวาหยางพลันตัวสั่น.
ช่วงล่างของเขาดูเหมือนจะห่อเหี่ยวด้วยและมันมีอาการที่จะหดตัวลง.
เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่จากวันนั้นที่หลิวอวี้จัดการนักเลงสี่คนด้านนอกร้านน้ำชาช่วยไม่ได้ที่จะกลับมาในใจของหลินหวาหยางอีก.
นี่เป็นตัวตนที่แม้แต่แก๊งมังกรดำยังไม่อาจจัดการได้.
นับประสาอะไรกับเขา หลินหวาหยางคนเดียว เขาจะกล้ายั่วยุปีศาจเบื้องหน้าเขาได้อย่างไร.
“นายยังคงอยู่ที่นี่? นายรอให้ฉันส่งนายออกไปเหรอ?”
หลิวอวี้กล่าวขณะที่บีบกำปั้นเสียงดังกร๊อบ.
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อเขาเห็นหลินหวาหยาง เขารู้สึกอยากต่อยเขาตลอด.
ก่อนหน้านี้ฉันเหมือนมีเหตุผลกับเรื่องอย่างนี้ แต่ตอนนี้ฉันโน้มเอียงไปทางความรุนแรง.
นี่ต้องเป็นเพราะปราณมารทำงานแน่.
อามิตพุทธ ผิด ผิด.
มันต้องเป็นเพราะหลินหวาหยางคนนี้ค้างชำระหมัดนานเกินไป.
อืม นี่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง.
หลินหวาหยางกล้าที่จะเถียงกับหลิวอวี้ได้อย่างไร? โดยไร้คำพูด เขารีบวิ่งออกไปจากห้องเรียน.
คนฉลาดรู้ว่าอะไรดีกว่าแล้วจึงต่อสู้เมื่อโอกาสมาถึงเขา.
หลินหวาหยางวางแผนที่จะจัดการหลิวอวี้ในภายหลัง.
หลังจากที่เขาออกจากห้องเรียน เขาโทรหาหลันเหออย่างเร่งด่วนทันทีเพื่อโยนความไม่พอใจของเขาต่อสวรรค์.
“คุณชายหลัน เมื่อไหร่นายจะไปกำจัดหลิวอวี้ซะที”
เมื่อคิดว่ามีปรมาจารย์ฝ่ามือทรายเหล็กเป็นผู้รับใช้ของหลันเหอ หลินหวาหยางช่วยไม่ได้ที่จะเป็นกังวล.
“ฉันทนมันมาพอแล้ว ผู้ชายคนนี้ค่อนข้างรกหูรกตา คุณชายหลันไม่สามารถเร็วกว่านี้ได้เหรอ?”
หลันเหอกำลังนั่งบนโซฟาในห้องหรูหรา. เขาถือโทรศัพท์มือถือในมือข้างหนึ่งขณะที่มืออีกข้างกำลังกดลงบนศรีษะของสาวสวยคนหนึ่ง เพลิดเพลินกับบริการของริมฝีปากของผู้หญิงคนนี้ทั้งข้างในและข้างนอก.
“โอ้วว..นี่..หึ หึ หึ คุณชายหลินไม่ต้องกังวลไป มันจะถูกดำเนินการในสองวัน”
สาวสวยคนนั้นดูดและเลียดีมาก สร้างความพึงพอใจกับหลันเหอจนเขาเสร็จออกมา.
เขาจินตนาการว่าสาวสวยคนนี้คือมู่หรงเตี๋ยซึ่งทำให้หัวใจของเขารู้สึกผ่อนคลายและแจ่มใส.
“ฉันไม่สามารถยืนอยู่ได้อีกต่อไป. ตราบเท่าที่มันยังอยู่ในโรงเรียน ฉันก็เป็นเพียงหมาหัวเน่า”
หลินหวาหยางไม่สามารถทนความโกรธในใจของเขา.
“อ๊ายย..แต่ปรมาจารย์กำลังฝึกฝนอยู่เมื่อเร็วๆนี้”
หลันเหอกลอกนัยน์ตาแล้วกล่าว “การขัดจังหวะตารางเวลาของคนอื่น ฉันกลัวว่านั่นมันไม่ดี”
“งั้นพวกเราจะทำอย่างไร”
“นายสามารถจ่ายเงินได้เท่าไหร่ นายเข้าใจสิ่งนั้น ใช่มั้ย”
ถึงแม้หลันเหอเป็นคุณชายที่ชอบขว้างปาเงินทองอย่างมั่วซั่ว เขาก็ไม่ได้โง่.
เงินที่เขาขว้างปาไปแล้ว หลังจากนั้น เขาต้องได้รับมันคืน.
หลังจากที่ควบคุมโรงเรียนมาหลายปี ตระกูลหลินได้ผลกำไรจากการทุจริตจำนวนมาก.
ถึงแม้พวกเขาจะสนับสนุนการศึกษาที่ยอดเยี่ยม จำนวนนักเรียนที่ยอดเยี่ยมที่พวกเขามีจะเท่าไหร่กัน?
มีนักเรียนโดยเฉลี่ยมากกว่าด้วยคะแนนเฉลี่ยเสียอีก.
ถ้าพวกเขายึดติดกับมาตรฐานสูงสุดของพวกเขา 90 % ของนักเรียนของพวกเขาจะถูกคัดออก.
แล้วนักเรียน 90 % เหล่านั้นจะเข้าโรงเรียนได้อย่างไร?
มันง่ายมากก็ด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมสนับสนุนนั่นเอง.
ด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมสนับสนุนสองหรือสามหมื่นหยวน นักเรียนคนหนึ่งจึงสามารถเข้าโรงเรียน.
คะแนนไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ตราบเท่าที่ทำได้ไม่ต่ำกว่าคะแนนต่ำสุด.
ถ้าพวกเขาได้รับค่าธรรมเนียมสนับสนุนสองหรือสามหมื่นหยวนต่อนักเรียนหนึ่งคน นักเรียนหนึ่งร้อยคนจะเป็นจำนวนสองหรือสามล้าน.
สำหรับนักเรียนหนึ่งพันคน ทุกๆปีโรงเรียนจะรับนักเรียนอย่างน้อยสองหรือสามพันคน.
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตระกูลหลินได้ขจัดน้ำมันออกจากน้ำจำนวนมาก.
ถ้าพวกเขาไม่บีบน้ำมันออกจากน้ำบ้าง พวกเขาจะรู้สึกเสียใจต่อสังคม.
เพียงหลันเหอกล่าว หลินหวาหยางเข้าใจได้โดยธรรมชาติ.
เขาพยักหน้าและกล่าว “โอ้ ในกรณีนั้น ฉันจะจ่ายออก 3000 หยวน ดังนั้นปรมาจารย์จะช่วยฉัน ฉันต้องการให้มันตายในไม่กี่วันโดยเร็ว”
“พรู้ดดด”
หลันเหอไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้.
“3000 หยวน โอ้ คุณชายหลิน นายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่มั้ย?”
“เอ๊ะ..มีอะไรผิดเหรอ? นั่นไม่พอเหรอ?”
“นี่มันไกลจากคำว่าไม่พอ นายสามารถทำอะไรได้ด้วยเงินจำนวนน้อยนี้? ฉันกลัวว่ามันไม่แม้แต่จะเพียงพอสำหรับค่าอาหารค่ำของปรมาจารย์ด้วยซ้ำ”
หลันเหอเม้มริมฝีปาก.
หลินหวาหยางคนนี้ไร้ประสบการณ์จริงๆ.
“งั้น..เท่าไหรที่นายต้องการ”
หัวใจของหลินหวาหยางค่อนข้างอึดอัด. เงินในกระเป๋าของเขามีไม่มากนัก.
“หนึ่งแสน นี่คือราคาเพราะพวกเราเป็นพี่น้องกัน”
คำพูดของหลันเหอเกือบทำให้หลินหวาหยางกลัวแทบตาย.
“แม่งเอ้ย หนึ่งแสน”
ฉันจะเอาเงินเยอะแยะมาจากไหน.
เดี๋ยวนะ ดูเหมือนว่าแม่ของฉันได้ติดต่อบางอย่าง.
ในการณ์นั้น แม่ของฉันรักฉันที่สุด ดังนั้นมันควรจะไม่ยากนักที่จะได้รับเงินนี้จากเธอ.
ตราบเท่าที่หลิวอวี้ถูกฆ่า. ฉันจะเป็นลูกพี่ใหญ่ในโรงเรียน.
และหวังหยู่เจิ้งก็ไม่สามารถที่จะหนีพ้นจากฝ่ามือของฉันไปได้.
“มีอะไรงั้นเหรอ? นี่มันมากเกินไปเหรอ?”
“ไม่ ไม่ เพียงแต่ว่า คุณชายหลันเอาบัญชีของนายมา ฉันจะกลับบ้านตอนนี้เพื่อขอเงิน. ฉันจะบอกนายตราบเท่าที่ฉันโอนเงินแล้ว”
“ตกลง ไม่ต้องห่วง เงินนี้ไม่ใช่สำหรับฉัน มันจะเป็นของขวัญมอบให้ปรมาจารย์”
หัวใจของหลันเหอแอบหัวเราะ.
ไอ้เด็กโง่คนนี้ เขาต้องขอเงินหนึ่งแสนนี้จากพ่อแม่แน่ พวกเขาคิดมากสำหรับเขาจริงๆ.
เงินนี้จะตกถึงกระเป๋าของฉันในที่สุด. ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนตัดสินใจว่าเจิ้งเสี่ยวหลินจะทำอะไรเมื่อไหร่.
“ดี งั้นฉันขอบใจคุณชายหลันสำหรับสิ่งนี้”
หลินหวาหยางที่น่าสงสาร ไม่เพียงเขาไม่รู้ถึงสถานการณ์ เขายังขอบคุณที่เขาถูกโกงด้วย.
หลังจากที่หลันเหอวางสาย ผู้ดูแลห้อง KTV ที่ยืนถัดจากหลันเหอรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อถาม.
“คุณชายหลัน คุณต้องการให้ผมไปแจ้งปรมาจารย์หลินมั้ยครับ?”
“ไม่ต้อง ฉันจะแจ้งเขาเมื่อฉันพบกับหม่าเว่ย”
หลันเหอโบกมือและกล่าวกับผู้ดูแลคนนั้น.
“โอ้ ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เด็กเสิร์ฟวัยรุ่นที่เสิร์ฟผลไม้ฉันเมื่อสักครู่ เธอเป็นเด็กใหม่เหรอ?”
“คุณชายหลัน เธอเป็นนักศึกษาฝึกงานพาร์ทไทม์”
ผู้ดูแลรีบอธิบาย ใบหน้าของเขาอึดอัดเล็กน้อย.
“หึ หึ หึ นายควรจะรู้จักฉัน ใช่มั้ย”
หลันเหอผลักสาวสวยที่บริการตรงเป้าของเขาออกไปและกล่าว “เร็วนี้สิ่งดีๆที่นายมี ฉันได้เห็นหมดแล้ว ทำไมนายไม่เรียกพนักงานพาร์ทไทม์คนนั้นมาบริการฉันล่ะ?”
“นี่ เยี่ยมเลยครับ กรุณารอสักครู่ คุณชายหลัน”
ผู้ดูแลผงกศรีษะของเขาและนำสาวสวยก่อนหน้าออกไปจากห้อง.
ไม่นาน พนักงานเสิร์ฟน่ารักก็เข้ามาในห้องส่วนตัวนี้พร้อมกับแก้วไวน์แดง.
“คุณชายหลัน คุณต้องการดื่มเหรอคะ?”
“อืม คุณชายคนนี้เป็นคุณชายจากตระกูลร่ำรวย คนจำนวนมากต้องการที่จะทำร้ายฉัน”
หลันเหอมองไปที่พนักงานเสิร์ฟผู้บอบบางแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้นเวลาที่ฉันดื่ม ฉันจะให้บางคนดื่มก่อน”
“นี่..”
พนักงานเสิร์ฟคนนั้นมองไปอย่างทุกข์ทนเล็กน้อย.
“หึ หึ หึ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การดื่มฟรีๆ”
หลันเหอกล่าว “ฉันจะจ่ายเธอสองพันสำหรับหนึ่งดื่ม”
“ตกลง ฉันจะดื่ม”
พนักงานเสิร์ฟคนนี้ทำงานพาร์ทไทม์เพียงเพื่อพยายามทำชีวิตของเธอให้ดีขึ้น ดังนั้นแล้วเธอจึงสามารถซื้อ iPhone หรือบางอย่างได้.
เมื่อเธอได้ยินข้อเสนอนี้ เธอคิด ‘นี่ไม่ใช่ไวน์ธรรมดา นี่เป็นไวน์ราคาแพง การดื่มนี้เป็นกำไรอย่างยิ่ง.
เธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นและจิบไวน์แดงนั้น. มันมีรสชาติหวานและแปลกเล็กน้อย.
“คุณชายหลัน เห็นมั้ย มันไม่เป็นไร ไม่มีอะไรที่นี่”
ทันใดนั้นพนักงานเสิร์ฟรู้สึกเวียนหัวอย่างแรง ดวงตาของเธอปิดสนิท แก้วร่วงลงพื้นและเธอทรุดลงบนแขนของหลันเหอ.
“สองพันหยวนนี้สำหรับหนึ่งจิบ ไม่ใช่สำหรับรางวัลของเธอ”
หลันเหอเลียริมฝีปากและเริ่มการเดินทางครั้งใหม่.