Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 254
LSG บทที่ :254 หนี
แสงไฟหลากสีปรากกขึ้นพร้อมกับแสงอาคมทุกๆอย่างและผนึกที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมๆ
แขกที่มาร่วมงานกินดื่มสุราวิญญาณด้วยความครื้นเครงพูดคุยสนุกนาน สายตามีชีวิตชีวามาก
แต่เมื่อเจ้าสาวเข้ามาเสียงการพูดคุยกันได้หยุดลงและมองไปที่ทางเข้า
พวกเขามองดูขณะที่ราชันตะขาบพิษกับผู้ติดตามสองสามคน ทุกคนได้รับการแต่งชุดสวยงามหรูหราอย่างดีที่สนับสนุน หูเชี่ยนเหม่ยที่งดงาม
“นั่นนะหรือ ผู้พิทักษ์หูผู้เลื่องลือ? ทำไมนางถึงตัวเล็กจัง? “
“อย่าบอกข้านะว่าผู้พิทักษ์หลิว มีของดี?”
เหล่าสาวกของ หุบเขาฮวาซิน กระซิบ
“หยุดพูดไร้สาระ!”
กู่โม่เจี๋ย ทำตาดุลูกศิษย์ที่พูดออกมา “ผู้พิทักษ์หู มีร่างกายที่พิเศษซึ่งเกินกว่าเราจะเข้าใจพวกเจ้าทุกคนหยุดพูดจาไร้สาระได้แล้วหากคนของสำนักวิชาหมิงหยิงได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้พวกเราจะมีปัญหา! “
สองลูกศิษย์ สั่นบ่นพึมพำก่อนจะพยักหน้ารับคำไม่กล้าพูดขึ้นอีก
เมื่อ หูเชี่ยนเหม่ย เข้ามาในที่แห่งนี้ทำให้เสียงความยินดีกระจายออกมา
หลินซินตง มีความสุขมาก มองดูคนที่กำลังเดินผ่านไป
ในขณะเดียวกันนอกเวทีหลัก
“วิชาเทพคชสาร!”
จางอู่หมิง ไม่กล้าประมาทกระบวนท่าแรกของเขาใช้วิชาลับที่มีชื่อเสียงของตัวเอง ร่างของเขาปลดปล่อยช้างสีทองสองตัวดุจเทพออกมา ช้างสีทองแผ่รัศมีเข้าไปในร่างของเขาทำให้ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้นดูน่าสพรึงกลัว ราวกับร่างถูกย้อมไปด้วยสีทองสุกใสทั้งร่าง
ขณะที่ จุ้ยหมิงกับจุ้ยชา พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับฟันกระบี่มารออกไป
ปลายกระบี่ได้ปลดปล่อยวิญญาณมารอันโหดเหี้ยมดุร้าย
แต่.
เคร้ง เคร้ง!
เสียงสองเสียงดังลั่นชัดเจน มีปลายกระปลดปล่ยคลื่นพลังตามมาด้วยปราณมารแผ่กระจายไปทั่วทิศทาง แต่จุ้ยหมิงกับจุ้ยชาไม่เป็นอะไร!
สองกระบี่สีดำไม่สามารถเจาะทุลุร่างของเขาได้
จุ้ยหมิงกับจุ้ยชา ขมวดคิ้ว
“หลบไป!”
เสียงตะโกนดังขึ้นจากข้างหลัง
แรงกดดันสีแดงเลือดที่พรั่งพลุมาจากด้านหลัง ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้าน
จุ้ยหมิงกับจุ้ยชารู้ได้ทันทีและหลบออกด้านข้าง
จางอู่หมิง ตะลึงเมื่อเห็นแสงสีแดงปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาโดยไม่ให้โอกาสเขาตอบโต้กระบี่สาดเข้ามาผ่านการป้องกันของเขาเสียบเข้าที่หน้าอก
ราวกับวิชาเทพคชสารของเขาเป็นดั่งเศษกระดาษ!
เคร้ง เคร้ง!
สองคชสารทองของจางอู่หมิงสลายกลายเป็นควันทันที!
“คชสารถูกทำลาย!”
ดวงตาของ จางอู่หมิง เปิดกว้างขณะที่เขามองกระบี่ที่หน้าอกของเขา
“อ้าาาาาาา?
ในเวลาต่อมาเสียงคำรามน่าชวนขนหัวลุกดังมาจากด้านหลัง ซูหยุน พลันด้านหลังของเขาปรากฏเป็นแสงสีเลือด มันดูน่าเกรงขามมาก วินาทีต่อมาเวทปีศาจสวรรค์สีแดงเลือดได้ปรากฏภาพขึ้นด้านหลังเขา กลายเป็นภาพแขนที่พลังของหมัดสามารถกวาดล้างได้ทุกสิ่งชกออกไปที่จางอู่หมิง!
มันเป็นการโจมตีจาก ปีศาจสวรรค์! มันคือการโจมตีที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าของซูหยุน! กำปั้นสีแดงเลือดดูเหมือนจะทำลายทั้งโลกได้!
ตูม!
จางอู่หมิงถูกชกที่หน้าอกอย่างจัง ปราณวิญญาณลึกซึ้งของเขาแตกกระจายสมบัติป้องกันทั้งหมดของเขาแตกสลายกลายเป็นชิ้นๆ เขาถูกซัดปลิวที่ที่สิ่งปลูกสร้างไปทางมังกรและหงห์เพลิงที่กำลังบินอยู่!
เมื่อเขาลอยไป ปีศาจสวรรค์ก็เหือดหายไป
ซูหยุนคว้ากระบี่มรณะเดินไปทาง จางอู่หมิง
เหตุการณ์นี้ดึงดูดผู้คนที่อยู่ไกล้กับมังกรและหงห์บิน
“มีอะไร?”
“เกิดอะไรขึ้น?
“เหมือนจะเป็นเสียงระเบิด?”
“ปราณอะไรอยู่ในอากาศ?”
แขกทุกคนเริ่มลุกขึ้นยืนและมองไปที่เสียงระเบิด
หลิวซินตงที่กำลังจะคว้ามือน้อยที่ราวกับร้กระดูกของหูเชี่ยนเหม่ยแข็งทื่อและหันกลับมามองทันที
เมื่อทุกคนเห็นต่างก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตกตะลึงทันที
“จางอู่หมิง!
ประมุขสำนักวิชาหมิงหยิง!
ทุกคนต่งจ้องมองตาเบิกกว้าง ราวกับพวกเขาไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง!
ตอนนี้หน้าอกของจางอู่หมิงยุบลงไ ปากของเขามีรอยเลือด ลมปราณของเขาบางเบาแตกซ่านใบหน้าซีดเซียว…ต่างจากจางอู่หมิงก่อนหน้านี้?
นั่นจางอู่หมิงจริงๆหรือ? หรือว่าเขาแกล้งหลอก?
แค้ก!
นั่นมันจางอู่หมิงประมุขของสำนักนักวิชาหมิงหยิง! เหตุใดเขาถึงตกอยู่ในสภาพแบบนั้น?
ใครกันที่สามารถทำให้เขาอยู่ในสภาพแบบนี้ได้?
ผู้เชี่ยวชาญ ระดับดาราวิญญาณ !!
ทุกๆคนต่างก็คิดเเบบเดียวกัน! พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถระงับอารมณ์ของพวกเขาขณะที่พวกเขาเริ่มสั่น
ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงพวกเขาจะปกปิดลมปราณและพลัง! ไม่มีใครรู้ลึกถึงความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญ! เว้นไว้แต่ว่าผู้เชี่ยวชาญจะจงใจแสดงตัวเอง
“ท่านประมุข”
คนของสำนักหมิงหยิงทั้งหมดหระโดดเข้าไปช่วย จางอู่หมิง
เหรินจื่อเหิง มองไปแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ประมุขนั้นอยู่ยงคงกระพัน เขากระอักเลือดจริงหรือ?
เขาคือผู้เชี่ยวชาญระดับดาราวิญญาณขั้นที่สอง !!
ทันใดนั้นมีคนเห็นร่างสามร่างเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ชายทั้งสามคนสวมชุดสีดำ มีสองคนสวมชุดนักสู้กระบี่ที่มีกระบี่สีดำสะพายอยู่ด้านหลัง ขณะที่ชายที่เดินออกมาอีกคนมีกระบี่สีแดงเลือดอยู่ด้านหลังและก้าวบนฝักกระบี่ ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยเสื้อคลุม ในมือของเขามีกระบี่สีดำดูน่ากลัว
ร่างกายของเขาปล่อยลมปราณสีแดงฉาน ปลดปล่อยเจตจำนงอันหนาวเย็นซึ่งทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้ โดยเฉพาะกลิ่นอายที่ชั่วร้ายของเขาหนาแน่นมากจนทำให้ผู้คนสำลักได้
ใบหน้าของเขาขาวซีดเมื่อมองหน้า”มันคือเขา?”
“นั่นมัน” กุ่ยโม่เจี๋ย ชี้นิ้วไปยังชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า
“แกเป็นใคร?”
หลิวซินตง กัดฟันกรอดนำผู้ติดตามสองคนวิ่งไปหาคนทั้งสาม
“ผู้ชายของนาง!”
ซูหยุน ชี้กระบี่มรณะไปที่หูเชี่ยนเหม่ย
เมื่อคำพูดเหล่านั้นออกมามันก็เหมือนกับระเบิดซึ่งระเบิดสถานที่ทั้งโลกทุกคนเริ่มวุ่นวาย
“ผู้ชายของนาง? ผู้พิทักษ์หูเชี่ยนเหม่ย คือผู้บ่มพลังคู่? “
“เกิดอะไรขึ้น?” ไม่ใช่ว่าผู้พิทักษ์หูจะแต่งงานกับผู้พิทักษ์หลิวไม่ใช่หรือ? “
“เกิดอะไรขึ้น?”
ผู้พิทักษ์หู ไปพบกับผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ประมุขจางรู้เรื่องนี้หรือยัง?”
ทุกคนต่างส่งเสียงความแปลกใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
“เจ้าอึกหมาแกพูดอะไรของแก?” หลิวซินตง ทำสีหน้าอัปลักษณ์แสดงออกมาด้วยอารมณ์ควบคุมความโกรธไม่ได้ “ผู้พิทักษ์หู เป็นคู่บ่มเพาะของข้า นางไปเป็นคู่บ่มเพาะของแกตอนไหน?”
“ตอนไหน? ก็นานแล้ว!” ซูหยุนพูดอย่างเฉยเมย “ร่างกายที่พิเศษของนางเป็นของข้ามานานแล้วแล้ว ทำมน้องต้องแต่งกับเจ้า?”
“ว่ายังไงน่ะ? หลิวซินตง ตัวแข็งทื่อ
เมื่อ หูเชี่ยนเหม่ย ที่ซึ่งคลุมหน้าอยู่นั้นเห็นร่างคนทั้งสามยืนอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาของนางสั่นไหวไม่หยุด
“เขามาจริงๆเขามาจริงๆ ในโลกนี้มีคนที่เอาใจใส่ข้าด้วยหรือ? “
นางไม่คิดเลยว่าในเวลาเช่นนี้จะมีคนมาช่วยนางด้วย และยังเป็นคนที่นางเกลียดด้วย!
ในยุทธภพนี้ นางเกลียดคนอยู่สองคน คนแรกคือหลงเชี่ยนหลี่ ส่วนอีกคนคือ ซูหยุน
นางไม่คิดเลยว่า ซูหยุน จะมาช่วยตัวนางและเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจและผู้เชี่ยวชาญมากมาย
หัวใจหูเชี่ยนเหม่ยสับสน ตอนนี้นางรู้สึกมีความสุขมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นหว่งนาง ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังเขามาช่วยนางออกจากที่นี่จริงๆ!
“เจ้าทึ่ม” หูเชี่ยนเหม่ย กล่าวเบา ๆ ด้วยริมฝีปาก แต่เผยยิ้มอ่อนโยน
ซูหยุน เดินเข้าไปหาหูเชี่ยนเหม่ย ซ฿่งมีราชันตะขาบพิษที่กำลังสั่นหน้าขาวซีด นางรีบถอยออกมา ใครจะกล้ายั่วโมโหยมทูต?
ซูหยุนยื่นมือไปหาหูเชี่ยนเหม่ยด้วยความนุ่มนวล “ข้าบอกเจ้าแล้วไงว่า อีกสองวันข้าจะมาช่วยเจ้า! ตอนนี้เราจะไปได้รึยัง? “
“อืม” หูเชี่ยนเหม่ย พยักหน้าอย่างนุ่มนวลน้ำตาไหลบ่าภายในดวงตาของนาง
นางยื่นมือเล็กของนางวางไว้บนมือใหญ่ๆของซูหยุน
“หยุด!” แกรู้มั้ยว่าที่นี่ที่ไหน? เจ้าโง่มากที่กล้ามากำแหงที่นี่! มาลิ้มรสดาบของข้าหน่อยจะเป็นไร !! “
ผู้เชี่ยวชาญของสำนักวิชาหมิงหยิงตะโกนและพุ่งเข้าหาซูหยุน
แต่ก่อนที่เขาจะเข้าใกล้ภาพกระบี่สีดำพุ่งมาจากฟากฟ้าด้วยความโหดเหี้ยวและน่าสยดสยองฟันร่างของเขาที่เอวขาดออกเป็นสองท่อนตายลงทันที
“อะไรกัน?”
“ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นแรกถูกฆ่าตายในกระบวนท่าเดียว!”
แขกที่มาร่วมงานทุกคนเห็น ต่างพ่นลมหายใจอันหนาวเย็นด้วยความตื่นตลึง
คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน?
“สำนักวิชาหมิงหยิง ไม่ใช่ที่ๆแกจะมาทำหยาบคาย?”
จางจื่อหมิง ที่อยู่ด้านข้างปะทุขึ้นด้วยความโกรธเขารีบกลืนลูกปัดไข่มุข ลมปราณของเขาแข็งแกร่งขึ้นแล้วพุ่งเข้าหา ซูหยุน
เข้าพุ่งเข้าไปราวกับพยัคฆ์พร้อมกับระเบิดพลังลมปราณอันเกลี้ยวกราดกดดันคนรอบข้างราวกับผิวหนังของพวกเขาถูกฉีกออกมาเป็นชิ้นๆจนไม่สามารถทนได้
แต่ดูเหมือนซูหยุนไม่ได้สะทกสะท้านในสายตาของเขาไม่มีความลังเล แล้วฟันกระบี่ออกไปวิญญาณมารพุ่งออกมาจากกระบี่ของเขาปล่อยเสียงกรีดร้องหวยหวนตรงไปหา จางจื่อหมิง!
“นั่นมันปราณมาร !!”
จางจื่อหมิง ผู้ซึ่งรู้สึกถึงพลังนี้ได้สูญเสียสีสันทั้งหมดบนใบหน้าของเขาและตะโกนทันที
“นั่นมัน?” ปราณมาร?”
“พวกมันมาจากอณาจักรมาร?”
“ไม่น่าแปลกใจ ที่ลมปราณหยินของมันจะมากจนน่ากลัวขนาดนี้! พวกเราจะรู้ได้ยังไง! พวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าชาวมารจะมาที่นี่ !! “
“สวรรค์ หนีเร็ว !! มีชาวมารอยู่ที่นี่! หนีเร็ว!”
ทุกคนที่อยู่รอบๆวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกเกิดความวุ่นวายไปทั่วทุกที่
ชาวมาร! ถึงเป็นชาวทวีปนภายุทธ พวกเขาก็ชั่วร้าย โหดเหี้ยม และไร้ความเมตรตา
“ชาวอณาจักรมาร? ผู้ชายคนนั้นควรเป็นซูหยุน เขาเป็นชาวมารตั้งแต่เมื่อไหร่? “
กุ่ยโม่เจี๋ย รู้สึกทึ่ง
“ทุกคน !! ชาวมามาที่นี่ และทำร้ายชาวทวีปนภายุทธของพวกเรา พี่น้องโปรดช่วยข้ากำจัดมารร้ายปกป้องดินแดนของเรา !! “
จางอู่หมิง ถือโอกาสตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจและผู้เชี่ยวชาญโดยรอบ ขณะที่ตัวเขาเองปล่อยปล่อยภาพร่างนับหมื่นหลบการโจมตีของวิญญาณมารและวิ่งเข้าหาซูหยุน
ร่างของซูหยุนกลายเป็นหมอกควันล้อมรอบภาพเงานับหมื่อน ภาพกระบี่นับไม่ถ้วนปรากฏภายในหมอกพุ่งเข้าโจมตีภาพเงาทุกๆเงา
จางจื่อหมิง รู้ว่าพลังบ่มเพาะของเขาไม่สามารถสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้ดังนั้นเขาจึงหยุดใช้วิชาลึกลับของเขาและเปลี่ยนไปใช้สมบัติของเขา
เขาหยิบเอาวัตถุที่เป็นดอกไม้สีแดงไฟหลับตาแล้วสวดบางอย่างแล้วขว้างไปทางซูหยุน
วัตถุที่เป็นดอกไม้สีแดงไฟค่อยๆลอยไปทางซูหยุน มันค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นเปลวเพลิง ภายในพริบตาวัตถุนั้นก็เหมือนกับแสงตะวันจ้าสุกใสเป็นทั่วทุกแห่ง อุณหภูมิสูงมากจนน่ากลัวมันสามารถละลายโลหะและหินได้
“ดอกอัคคีแท้จริงลี้ลับ!”
รองประมุข เหรินจื่อเหิง ตะโกนออกกมา
ดอกไม้เริ่มเพิ่มความเร็วขึ้น เมื่อไกล้ซูหยุนกลีบดอกขนาดมหีมาเริ่มหุบห่อร่างซูหยุนทันที
“ข้าจะเผาเจ้า! หืมม”
จางจื่อหมิง เริ่มลงมือใช้วิชาลับของเขา อุณภูมิของดอกไม้เริ่มทวีสูงขึ้น ซูหยุนรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกเผาไหม้จากเปลียวไฟที่รุนแรงเกินกว่าคำบรรยาย
“ช่วยเจ้านาย!”
จุ้ยหมิงกับจุ้ยชา ตะโกนออกมาพร้อมกับปลดปล่อยปราณมารอันมหาศาลทยานเข้าหาจางจื่อหมิง
“ชาวมารกล้าหยาบคายอย่างนั้นรึ !! เอา หุบเขาชำแหละชีพ ของข้าไปกิน! “
ราชันวาฬยักษ์ กระโดดพุ่งเข้าไปตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับสับขวานไปทาง จุ้ยหมิง
“ประเมินตัวเองสูงไปแล้ว!”
จุ้ยหมิงไม่หลบหรือป้องกัน แต่แทงกระบี่สวนไปทาง ราชันวาฬยักษ์
ราชันวาฬยักษ์รู้สึกประหลาดใจแปลก “ทำไมมันถึงไม่หลบ? เมันยอมแลกชีวิตอย่างนั้นหรือ?
เพียงแต่เขาคิดผิด
จุ้ยหมิง กระพริบตาอันชั่วร้าย แขนของเขางอกขึ้นมาพร้อมกับปราณมาร ทันใดนั้นวิญญาณมารโผล่ขึ้นมาจากแขนด้วยสองกรงเล็บมาร มันคว้าจับขวานยักษ์อย่างรุนแรง
แคร้ง!!!
ขวานถูกสกัดไว้!
“ไม่จริง!”
ราชันวาฬยักษ์ หัวใจเต้นระรัวรีบถอยกลับทันที
ไม่น่าเชื่อ! นี่หรือวิชาของชาวมาร? ไม่น่าเชื่อจริงๆ!
กระบี่มารที่แทงเข้ามาตอนนี้ได้ถูกแทงเข้าไปในหน้าอกแล้ว
ฉึก
กระบี่มารที่เสียบเข้าไป มือมารโผล่ออกมาบนร่างของวาฬยักษ์และดึงเขาอย่างแรง
ฉั๊วะ!
ร่างที่เต็มไปด้วยไขมันของราชันวาฬยักษ์ถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนอวัยวะภายในเลือดและกระดูกทั้งหมดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นดิน!
หนึ่งในสี่พราชันของสำนักหมิงหยิงตาย!
ฆ่าเหมือนหมูตายเยี่ยงสุนัข!
พอสิ้นสุดความสยดสยองดังกล่าว คนของสำนักวิชาหมิงหยิงที่กำลังจะเข้าไปช่วย ต้องรีบวิ่งกลับไปทันที
“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวใครกล้าช่วยสำนักหมิงหยิงจะต้องพบจุดจบแบบนี้!”
ซูหยุน พูดด้วยน้ำเสียงแข็งแกร่งกร้าวโดยการแผดเสียง ต่อจากนั้น มีเสียงคำรามดังออกมาจากด้านหลัง ปรากฏร่างปีศาจขนาดมหึมายกแขนทั้งสองข้างขึ้นแล้วทุบลงที่กลีบดอกไม้เพลิงอย่างรุนแรง
ตูมๆๆๆ!
ราวกับว่ากลีบดอกไม้ทำมาจากเศษกระดาษยับยู่ยี่เป็นชิ้นๆ ด้วยกำปั้นเหล็กของปีศา
“อะไรกัน?”
จางอู่หมิง พ่นเลือดออกมา แสงในตาจางลงด้วยความไม่อาจเข้าใจความสามารถของปีศาจสวรรค์ได้ เขาไม่คิดว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้
นอกจากนี้เขายังไม่รู้ซูหยุนนั้น ด้วยสายเลือดปีศาจสวรรค์เขาได้ถูก