Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 343
ตอนที่ 343 ความภาคภูมิใจของเบี้ยนเหยาฉวน?
“คางคกยักษ์กลายพันธุ์?”
ทุกคนต่างรู้สึกตกใจกับคางคกยักษ์กลายพันธุ์ที่กระโดดขึ้นมาจากแม่น้ําอย่างกะทันหัน พวกเขาหลายคนก้าวถอยหลังออกไปสองสามก้าวอย่างลืมตัว และหลายคนจ้องมองไปที่คางคกยักษ์กลายพันธุ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
อีกกก! โอ๊บบบ!
คางคกยักษ์กลายพันธุ์ส่งเสียงร้องคํารามออกมา ในขณะที่ลิ้นสีขาวซีดที่มีเมือกเหนียวๆ ของมันยังคงขยับส่ายไปมาอย่างช้าๆ มันจ้องมองไปยังกลุ่มคนทั้งหมดด้วยดวงตาอันกระหายเลือด
[ซากศพคางคกกลายพันธุ์: ระดับ 10]
[ไม่สามารถสกัดพลังงานมังกรได้]
ข้อความปรากฏขึ้นในใจของหวังเสียน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับ 10 เพียงเท่านั้น แต่หวังเสียนสามารถรับรู้ได้ว่าคางคกยักษ์กลายพันธุ์ตัวนี้แข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรระดับ 10 ทั่วๆไปเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะลิ้นสีขาวซีดที่มีเมือกเหนียวๆและปลายลิ้นคล้ายกับถ้วยที่มีเขียวอันแหลมคมเอาไว้คอยดูดเลือดของมัน น่าจะเป็นอาวุธที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่งของมัน
“มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่จะมีคางคกตัวใหญ่โตได้มากถึงขนาดนี้?”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“ช่วยกันฆ่ามัน! หากทิ้งมันไว้อย่างนี้คงจะต้องเป็นอันตรายมากอย่างแน่นอน!! หมอเทวะคนที่ถือเข็มเงินตะโกนออกมาเสียงดัง
ครับบบ!
เมื่อหมอเทวะคนนั้นพูดจบประโยคคางคกยักษ์กลายพันธุ์ก็ขยับตัวในทันที
มันพุ่งตัวเข้าไปหากลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณที่อยู่ด้านหน้าด้วยความเร็วที่น่ากลัว
“ไอ้สัตว์นรก! ไปตายซ้าาา!”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณที่ยืนอยู่ตรงด้านหน้า ตะโกนกันออกมาเสียงดัง พร้อมกับฟาดฟันอาวุธในมือของพวกเขาเข้าใส่มันในทันที
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณสี่คนพุ่งเข้าหามันอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คนอื่นๆก็ตั้งท่าเตรียมพร้อมคอยเข้าไปช่วยเหลือได้ตลอดเวลากรณีเกิดเหตุผิดพลาด
ตูมมม! ตูมมมม!
“ไม่ดีแล้ว!”
แต่เมื่อคมดาบของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณทั้งสี่คน กระทบกับร่างกายของคางคกยักษ์กลายพันธุ์ ผิวหนังของมันนั้นก็ไม่มีบาดแผลเกิดขึ้นเลยแม้แต่รอยเดียว
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณทั้งสี่คน ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ใบหน้าของพวกเขานั้นเปลี่ยนสีกันไปในทันที
เสี้ยวววว!
ในทันใดนั้นลิ้นของคางคกยักษ์กลายพันธุ์ก็ยื่นตวัดออกมายาวกว่า 5 เมตรตรงเข้าไปโจมตีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณวัยกลางคนคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว
เมื่อมันอ้าปากในระยะใกล้กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพอันน่าสะอิดสะเอียน ก็โซยคละคลุ้งออกมาจากปากของมัน จนผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ใกล้ๆต้องเบือนหน้าหนีกันอย่างรวดเร็ว
พรึบบบ!
ผู้เชี่ยวชาญ ระดับก่อกําเนิดลมปราณคนนั้นรีบยกแขนทั้งสองข้างไขว้กัน เพื่อป้องกันตรงหน้าอกที่ลิ้นของมันตรงเข้ามาโจมตีเขา
แต่อย่างไรก็ตามการป้องกันของเขานั้นเหมือนกระดาษบางๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าการโจมตีอันทรงพลังของลิ้นคางคกยักษ์กลายพันธุ์!
นิ้วะ!
ลิ้นของคางคกยักษ์กลายพันธุ์เจาะทะลวงหน้าอกของเขาจนเป็นรู ร่างกายของเขาถูกดูดกลืนจนแห้งเหี่ยวเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกตายลงไปภายในพริบตา!
อึกๆ! โอ๊บบบ!
คางคกยักษ์กลายพันธุ์คํารามออกมาอย่างมีความสุข ขณะที่มันดูดกลืนเลือดและพลังงานชีวิตของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณวัยกลางคนคนนั้น!
“บัดซบบบ! ความแข็งแกร่งของมันในตอนนี้ถึงระดับครึ่งขั้นขอบเขตเม็ดยาเซียนแล้ว!”
นายทหารวัยกลางคนรู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของคางคกยักษ์กลายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้น
เขาฟันดาบในมือของเขาส่งไปยังลิ้นของคางคกยักษ์กลายพันธุ์ตัวนั้นอย่างเต็มแรง!
“ระดับครึ่งขั้นขอบเขตเม็ดยาเซียน?!”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณทั้งหมดล้วนอยู่ในความตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขารีบถอยหลังทิ้งระยะห่างจากคางคกยักษ์กลายพันธุ์ตัวนั้นอย่างรวดเร็ว
“ช่วยกันลงมือโจมตีมันเดี๋ยวนี้”
นายทหารวัยกลางคนตะโกนขึ้นมาเสียงดัง!
การโจมตีของเขาเมื่อครู่นี้ค่อนข้างจะได้ผล มันไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับลิ้นของคางคกยักษ์กลายพันธุ์ตัวนี้ได้เลยแม้แต่น้อย!
“ทุกคนโจมตีมันพร้อมกัน!”
หลังจากได้ยินคําสั่งของนายทหารวัยกลางคน ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณทุกคนได้สติขึ้นมาทันที พวกปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาออกมากันอย่างเต็มที่
บริ่มมม! บรูมๆๆ! บรูมๆๆ!
แรงโจมตีของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณกว่า 20 คน กระหน่ําลงบนร่างกายของคางคกยักษ์กลายพันธุ์จนเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ!
แต่กระนั้นคางคกยักษ์กลายพันธุ์ก็ยังเพิกเฉยต่อการโจมตีของเหล่าผู้เชี่ยวชาญก่อกําเนิดลมปราณทั้งหมด มันไม่มีท่าทีตื่นตระหนกใดๆเลยแม้แต่น้อย
การโจมตีทั้งหมดของพวกเขาเหลือเพียงร่องรอยเล็กๆน้อยๆบนผิวหนังของคางคกยักษ์กลายพันธุ์เท่านั้นเอง!
“นี่! นี่มันอะไรกัน?”
“ไอ้บัดซบเอ้ยยย!”
“ไอ้สัตว์นรกตัวนี้มันเป็นตัวอะไรกันแน่!”
“ระดับการป้องกันของมันช่างน่ากลัวมากเลยจริงๆ!”
หลังจากพวกเขาโจมตีเสร็จ พวกเขาต่างกระโดดถอยออกมาพร้อมๆกัน ใบหน้าของนายทหารวัยกลางคนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจัง
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับชักดาบเล่มใหญ่ออกมาจากทางด้านหลังของเขา “ดาบมังกรฟ้าสังหาร!”
เขาจับดาบใหญ่ด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมกับระเบิดพลังของเขาออกมาจนสูงสุด และโจมตีอย่างเต็มรูปแบบไปที่คางคกยักษ์กลายพันธุ์
บรมมมม!
ด้วยความคมของดาบมังกรฟ้าเล่มใหญ่พร้อมกับพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มกําลังของผู้เชี่ยวชาญระดับกําเนิดลมปราณขั้นสูง มันสามารถทิ้งบาดแผลและรอยเลือดยาวกว่าครึ่งเมตรไว้บนตัวของคางคกยักษ์กลายพันธุ์
อําๆๆ! ฟูวววว!
นายทหารวัยกลางคนกระโดดถอยหลังกลับมา ในขณะที่เขาหอบหายใจออกมาเสียงดัง เพื่อปรับสภาพลมปราณในร่างกายของเขา
แต่เมื่อเขาเห็นบาดแผลบนตัวของคางคกยักษ์เขาก็รู้สึกตกตะลึงจนใบหน้าชาขึ้นมาในทันที
“นี่! นี่มัน! อาวุธวิญญาณระดับ 8 และด้วยการโจมตีเต็มกําลังของข้าที่อยู่ในระดับก่อกําเนิดลมปราณขั้นสูงยังทําได้เพียงแค่สร้างบาดแผลให้มันได้เท่านั้นเองหรือนี่! ทุกคนระวังตัวกันเอาไว้ด้วย!”
“ในการโจมตีพร้อมกันเมื่อครู่นี้ กระบี่ของข้าโจมตีไปที่ดวงตาของมันอย่างเต็มที่ แต่ก็มีเพียงแค่ร้อยจางๆบนดวงตาของมันเท่านั้น! พลังการป้องกันของไอ้เจ้าสัตว์นรกตัวนี้ช่างน่ากลัวมากจริงๆ!”
“มันจะไม่มีจุดอ่อนเลยหรืออย่างไร?”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณจ้องมองไปที่คางคกยักษ์กลายพันธุ์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“คางคกกลายพันธุ์ตัวนี้แข็งแกร่งมาก! พวกเราจะทําอย่างไรกันดี?!”
ทางด้านหลังของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณ เปี่ยนเหยาฉวนและเหล่าสาวกรุ่นเยาว์ทั้งชายหนุ่มหญิงสาวที่ยังมีความสามารถไม่ถึงระดับก่อกําเนิดลมปราณ ต่างจ้องมองไปยังคางคกยักษ์กลายพันธุ์ด้วยความหวาดกลัว
“พวกเราเองก็สมควรจะลงมือกันได้แล้วล่ะ!”
ซุนหลิงซิ่วพูดในขณะที่ค่อยๆยกมืออันเรียวงามของเธอไปยังคางคกยักษ์กลายพันธุ์
“จ๊ๆๆ! เคี้ยกๆๆ! ใช่แล้วล่ะขอรับนายหญิง ถึงเวลาที่พวกเราจะแสดงความสามารถ ให้เจ้าไก่อ่อนพวกนี้ได้ดูเป็นบุญตาแล้วล่ะขอรับ!”
คําพูดและเสียงหัวเราะอันหยิ่งผยองของหมอโลหิตดังขึ้นมาในทันที เมื่อได้ยินคําสั่งของซุนหลิงซิ่ว เขาเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆพร้อมกับหมอกสีแดงเลือดที่ฟังกระจายออกมารอบๆตัวเขา
และในทันใดนั้นหมอกโลหิตของเขาก็พุ่งตรงไปยังคางคกยักษ์กลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว
“แสงศักดิ์สิทธิ์สะกดวิญญาณ!”
“คุกโลหิตทมิฬ!”
หลิงซิ่วโจมตีออกไปด้วยลําแสงศักดิ์สิทธิ์ หมอโลหิตก็รีบใช้หมอกสีแดงเลือดของเขาโจมตีตามไปในทันที
แสงสว่างสีทองของดวงอาทิตย์ตัดสลับกับออร่าสีแดงของหมอกโลหิต ตรงเข้าไปล้อมรอบคางคกยักษ์กลายพันธุ์และกักขังมันไว้ภายในคุกสีแดงเลือด และประกายแสงสีทองก็ถูกถักทอจนเป็นชั้นตาข่ายกักขังไว้อีกชั้นหนึ่ง
ถึง! กิ่งงง!
สีหน้าท่าทางของคางคกยักษ์กลายพันธ์ยังไม่แสดงอารมณ์อื่นใดออกมา นอกจากมันจะพยายามใช้ลําตัวของมันกระแทกคุกสีแดงเลือดและตะข่ายแสงสีทองเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามพลังของกรงขังสีแดงและตาข่ายแสงสีทองก็ทําให้มันกระเด็นกลับไปที่เดิมในทันที!
“รวบรวมพลังโจมตีมันพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง!” นายทหารวัยกลางคนตะโกนขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นว่าคางคก ยักษ์กลายพันธุ์นั้นถูกกักขังจนไม่สามารถเคลื่อนตัวหลบหนีไปไหนได้
เหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณกว่า 20 คนจับอาวุธของพวกเขาไว้แน่นพร้อมกับโจมตีไปยังค้างคกยักษ์กลายพันธุ์อย่างรุนแรง
บูมมๆๆ! บรึมๆๆๆ!!
การโจมตีแต่ละครั้งของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณนั้นรุนแรงกันเป็นอย่างมาก พวกเขาแทบจะทุ่มกําลังทั้งหมดไปในการโจมตีของพวกเขาในแต่ละครั้ง
บูมมๆๆ! บริ่มๆๆๆ!
แต่กระนั้นคางคกยักษ์กลายพันธุ์ก็ดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น ขณะที่มันก็พยายามใช้ตัวของมันกระแทกกรงขังอย่างต่อเนื่อง
“โอ้! ดูนั่น! คุกสีแดงเลือดและตาข่ายแสงสีทองของเทพธิดาแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ และหมอโลหิตนั้นจะกักขังมันไว้ไม่อยู่แล้ว!” ชายชราระดับก่อกําเนิดลมปราณคนหนึ่งตะโกนออกมาเสียงดัง
ในขณะเดียวกันซุนหลิงซิ่ว ก็ปลดปล่อยพลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ของเธอออกมารุนแรงมากขึ้น
ในตอนนี้ออร่าแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์สว่างจ้าออกมาจากรอบๆร่างกายของซุนหลิงซิ่วจนคล้ายกับเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งสรวงสวรรค์เลยทีเดียว!
“ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายและการป้องกันของมันนั้นทรงพลังมากเกินไป ระดับความแข็งแกร่ง การโจมตีของพวกเราที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณไม่สามารถทําอันตรายมันได้แม้แต่ผิวหนังของมัน!”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณที่ได้รับรู้ความจริงในข้อนี้ ต่างรู้สึกหวาดผวากันขึ้นมาในทันที!
ในตอนนี้พวกเขาไม่รู้จะทําเช่นไรต่อไป ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณบางคนถึงกับคิดแผนการหลบหนีเอาไว้ล่วงหน้าอยู่ในใจแล้ว!
“ท่านผู้อาวุโส ท่านสามารถใช้ดาบวิญญาณเมฆคราม ที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับ 9 ของข้าจัดการมันได้เลย!”
เมื่อเบี้ยนเหยาฉวนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็จับดาบในมือของเขาโยนส่งไปให้ผู้อาวุโสผู้ชายชราคนที่มีแผลเป็นบนใบหน้าจากสํานักสวนศาลาสมุนไพรที่มาพร้อมกันกับเขา
“อาวุธวิญญาณระดับ 9!?”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณที่อยู่โดยรอบ ต่างตกใจและหันไปมองกันในทันที บางคนก็มองไปที่ดาบเล่มนั้นด้วยสายตาที่เร่าร้อน
“ตกลงครับนายน้อย!”
ผู้อาวุโสต์ รับดาบจากเบี้ยนเหยาฉวนเอาไว้ในมือด้วยรอยยิ้ม
เขาปลดปล่อยออร่าที่มีสีเขียวคล้ายกับควันพิษออกจากร่างกายของเขา พร้อมกับชักดาบวิญญาณเมฆครามออกจากฝัก และกระโจนออกไปโจมตีคางคกยักษ์กลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว
ฟวับบบ!
เกิดบาดแผลพร้อมกับรอยหยดเลือดบนร่างกายของคางคกยักษ์กลายพันธุ์ในทันที ถึงแม้ว่าบาดแผลของมันจะไม่ยาวมากนักแต่ก็มีความลึกมากเลยทีเดียว เพราะสามารถสังเกตเห็นได้จากปริมาณเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลของมัน
และนี่สามารถแสดงให้เห็นว่าอาวุธวิญญาณระดับ 9 นั้นทรงพลังมากขนาดไหน!
“ดาบที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับ 9 เล่มนี้นั้นคมมากเลยทีเดียว ความแข็งแกร่งของอาวุธระดับนี้แตกต่างกับอาวุธที่อยู่ในมือของพวกเรามากจริงๆ!”
บระดับก่อกําเนิดลมปราณต่างตกตะลึงกันในทันทีเมื่อเห็นบาดแผลลึกจนถึงกระดกบนตัวของ คางคกยักษ์กลายพันธุ์
“ยอดเยี่ยมมาก! ดูเหมือนว่าตระกูลของคุณชายเบี้ยนผู้นี้จะร่ํารวยมากจริงๆ ถึงกับสามารถมอบอาวุธวิญญาณระดับ 9 ให้เป็นอาวุธคู่มือของเด็กหนุ่มรุ่นเยาว์เช่นนี้ได้!”
“ช่างน่าอิจฉามากจริงๆ! ทําไมบรรพบุรุษของข้าถึงไม่ร่ํารวยเช่นนี้บ้างนะ!”
“ในตอนแรกข้ายังคิดว่าดาบที่เขาถืออยู่ในมือนั้นเป็นแค่ดาบสวยงามธรรมดาทั่วๆไปที่เขาพกเอาไว้ทําให้ตัวเองดูดีขึ้นมา แต่ใครจะคาดคิดกันละว่าดาบเล่มนี้นั่นคืออาวุธวิญญาณระดับ 9 โลกใบนี้มันช่างไม่มีความยุติธรรมเลยจริงๆ!”
เหล่าสาวกหนุ่มสาวบางคนชําเลืองมองไปที่เบี้ยนเหยาฉวนด้วยความอิจฉา
ในตอนนี้เงี่ยนเหยาฉวน เงยหน้าเชิดคางขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับมีรอยยิ้มที่มุมปาก ที่แสดงถึงความภาคภูมิใจออกมา
ความสามารถของยอดยุทธรุ่นเยาว์ในยุคนี้ บางคนอาจจะมีความแข็งแกร่งในด้านวิชายุทธมากกว่าเขา แต่ด้านความร่ํารวยและเบื้องหลังของตระกูลนั้นคงจะไม่มีใครสามารถเทียบได้กับเบี้ยนเหยาฉวนผู้นี้ได้อย่างแน่นอน!
จบบท