I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด - ตอนที่ 248
ตอนที่ 248 หนูไม่แสดงแล้ว
หลังจากที่เขาได้ยินชื่อของเด็กสาวเอริคก็รู้ทันทีว่าเหตุใดเด็กคนนี้จึงได้ปรากฏตัวอยู่ในที่แห่งนี้ ต้องเป็นเพราะโดนัลเป็นคนพาหล่อนมาด้วยอย่างแน่นอน ทว่าคนในกองของเขาก็ถือว่าทํางานผิดพลาดอย่างมากเพราะปล่อยให้เด็กคนนี้มาเล่นหน้าจอของเขาโดยไม่ห้ามปรามใดๆ
ขณะที่เอริคกําลังจะตําหนิคนที่ดูแลบริเวณมอนิเตอร์อยู่นั้น เสียงวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้น ” เอริคทุกอย่างโอเคแล้ว จะเริ่มเลยไหม ? “
” โอเค” เอริคคตอบกลับไปพร้อมกับทิ้งเรื่องที่จะตําหนิคนงานของเขาก่อนที่จะเดินตรงไปยังหน้าจอมอนิเตอร์และใส่หูฟังเพื่อเตรียมความพร้อม
เมื่อการถ่ายทําเริ่มต้นขึ้น เควินก็เดินเข้ามายังล็อบบี้พร้อมกับมองไปรอบๆ ก่อนที่จะเดินไปเดินมาในล็อบบี้ทันที ขณะที่เขาเคลื่อนไหวไปมาอยู่นั้นช่างภาพก็ต้องเดินตามเด็กหนุ่มไปอย่างช้าๆเพื่อจับภาพ
“คัท! นิกเกิลเกิดอะไรขึ้น ไม่เห็นหรอว่าภาพที่จับมีปัญหา ? เอาใหม่! ” หลังจากที่เดินเพียงไม่กี่ก้าว เอริคก็สั่งคัทในทันที
นิกเกิลขอโทษเอริคผ่านวิทยุสื่อสารก่อนที่จะใช้เวลาสองนาทีเพื่อรวมกลุ่มคนที่ดูแลในการถ่ายก่อนที่จะเริ่มถ่ายใหม่อีกรอบ
“คัท ! รอยซ์นายไปดูแลฝั่งนูน คนที่ใส่เสื้อถักสีน้ําเงินคนนั้นหน่ะบอกให้เขาจดจ่อกับการถ่ายหน่อยอย่าให้เขามองมาที่กล้อง ถ้ายังเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกก็ให้เขาออกไปเลย ถ่ายใหม่! “
“คัท! ….”
“คัท!”
ไม่รู้ว่าการถ่ายถูกขัดไปกี่ครั้ง ทว่าเอริคก็ยังพบกับข้อผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นเสียงของนิกเกิลที่ผ่านมาจากวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้น “เอริคไม่ไหวแล้ว แขนฉันล้าไปหมดแล้ว “
เอริคชะงักไปก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าในเวลานี้พวกเขาถ่ายทํากันโดยไม่ได้ใช้รางเลื่อน ทว่าเป็นการใช้การถือกล้องด้วยมือของตนเอง
ได้ยินเช่นนั้นเอริคก็ถอดหูฟังออกก่อนที่จะหันไปบอกคนที่อยู่ด้านข้างว่า “แจ้งทุกคนไปว่าพักกอง 10 นาที”
” นายนี่โง่จริงๆเลย ถ่ายมากี่ครั้งแล้วยังทําออกมาได้ไม่ดีอีก ” เสียงเล็กๆดังขึ้นหลังจากที่เอริคนั่งลงตรงเก้าอี้ผู้กํากับพร้อมกับยื่นมือออกไปรับน้ําที่มีคนนํามาเสริฟให้
น้ําที่เพิ่งถูกดื่มเข้าไปพุ่งออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ความกระทันหันที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับเด็กเล็กข้างเขาจนกรี๊ดออกมา
“แค่กแค่กแค่ก….” เอริคสําลักอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “อีแวนก้า เธอไม่ได้ยินหรือไงว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉัน”
เด็กหญิงล้วงมือไว้ในกระเป๋าก่อนที่จะเชิดหน้าพร้อมกับพูกขึ้นว่า “คุณคะ ช่วยเรียกฉันว่าคุณหนูเทพูแลนด้วย “
ได้ยินเช่นนั้นเอริคก็รู้สึกราวกับได้ยินคําพูดของคนที่มีชื่อเสียงที่พูดว่า ‘เรียกฉันว่าราชินีผู้ยิ่งใหญ่’ ขึ้นมาในหัวของเขา ยังไม่ทันที่เอริคจะพูดอะไร นิกเกิล สติวและคนในกองถ่ายก็เดินเข้ามาหาเขาในทันที
“คุณพ่อ “อีแวนก้าเห็นพ่อของตัวเองก็รีบเดินไปหาโดนัลพร้อมกับจับมือเขาไว้
“อีแวนก้า เมื่อกี้ลูกคุยอะไรกับเอริคเหรอ ? “โดนัลที่เพิ่งเห็นว่าเอริคกับยืนคุยอยู่กับลูกสาว จึงถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
” ไม่นี่คะ หนูก็แค่บอกว่าเขาเก่งมากก็แค่นั้น แต่หนูนั่งดูตั้งนานแล้วฉากเดินไปเดินมาง่ายๆแค่นี้ยังถ่ายออกมาได้ไม่ดีเลย ดูเหมือนว่าจะแย่กว่าผู้กํากับที่คุณพ่อเคยเล่นให้ก่อนหน้านี้มากเลยนะคะ”
ยังไม่ทันที่เอริคจะพูดอะไร ใบหน้าของนิกเกิลก็เขื่อนลงในทันที เป็นเพราะเมื่อครู่ที่ความผิดพลาดส่วนใหญ่เกิดจากช่างภาพจึงทําให้เอริคตต้องถูกเด็กหญิงคนนี้เยาะเย้ย
” เอริค ฉันขอโทษนะ ” นิกเกิลหันไปขอโทษเอริคในทันที
” ไม่เป็นไร ทุกคนรู้ดีว่าการถ่ายให้ออกมาดูดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย” เอริคพูดพลางตบไปที่บ่าของนิกเกิล ” นายไปพักก่อนเถอะ หาคนมาช่วยนวดให้นายสักหน่อย อีก 10 นาทีค่อยมาถ่ายใหม่ ถ้ามันไม่ได้จริงๆเราก็ถ่ายฉากอื่นไปก่อน”
นิกเกิลพยักหน้าก่อนที่จะเดินออกไป
” นายคือเควินเหรอ? ” ทันใดนั้นเอริคก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวอีกครั้ง
“จริงๆแล้วฉันชื่อสติวาร์ด แลงเคิล ” ที่แท้ก็เป็นเพราะเห็นเด็กที่มีอายุรุ่นเดียวกันจึงทําให้สตัวเป็นคนแนะนําตัวเองก่อน
“ฉันได้ยินมาว่านายเองก็อายุ 8 ปีนี่ ทําไมถึงได้เตี้ยกว่าฉันขนาดนี้ล่ะ ” เด็กสาวพูดพร้อมกับยืนเทียบและใช้มือวัดจากศีรษะของสติวก่อนที่จะมาแตะตรงปลายจมูกของตนเอง
เป็นเพราะความแก่แดดของสติวจึงทําให้เด็กชายออกตัวอย่างเห็นได้ชัด ทว่าทันทีที่เขาถูกหญิงสาวที่หน้าตาราวกับตุ๊กตาพูดเยาะเย้ยเรื่องความสูงของเขา เขาก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมาก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “อนาคตฉันต้องสูงกว่าเธอแน่นอน”
“ตอนนี้นายยังไม่สูงกว่าฉันเลย ฉันว่าอย่าพูดถึงอนาคตเลย”
ได้ยินเช่นนั้นคนในกองถ่ายก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แม้แต่โดนัลเองก็อดไม่ได้ทว่าเขาก็รีบลากแขนของหญิงสาวก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “อีแวนก้า อย่าเสียมารยาทแบบนี้สิลูก สติวเป็นคนเก่งมากๆเลยนะอายุแค่นี้ก็ได้ถ่ายหนังแล้ว “
” แล้วยังไงคะ ? ฉากเดินไปเดินมาแบบเมื่อกี้หนูก็ทําได้ ” อีแวนก้าอดไม่ได้ที่จะโต้กลับไป
” งั้นเธอก็แสดงให้พวกฉันดูสิ “ สติวถือโอกาสนี้พูดขึ้น แม้ว่าเด็กชายจะอายุเพียงแค่ 8 ปี ทว่าเขาเองก็รู้ว่าการแสดงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
“ฉัน…..”อีแวนก้าสายตาลอกแลกไปมาก่อนที่จะหยุดสายตาไปที่เอริค” คุณวิลเลี่ยม ให้ฉันลองหน้ากล้องหน่อยได้ไหม ? “
เอริคยักไหล่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขอโทษจริงๆครับคุณหนูเทพูแลน ช่างภาพของเราพักกองอยู่ครับ “
” แล้วนายล่ะ ? เป็นผู้กํากับ ทําไมถึงไม่มาทําหน้าที่นี้ ? “
“ฉัน ? ” เอริคถามขึ้นด้วยความสงสัย
” ใช่ไง อย่าบอกนะว่านอกจากเป็นผู้กํากับแล้วนายทําอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง ? “อีแวนถ้าใช้คําพูดเยาะเย้ยเอริค
นอกจากเป็นผู้กํากับแล้วก็ทําอะไรไม่เป็นสักอย่างเลย …….
คําพูดของเด็กคนนี้ช่างรุนแรงเสียจริง
เหล่าพนักงานที่ยืนอยู่ข้างเอริคที่ทํางานกับเขาเป็นเวลานานจนทําให้เห็นความสามารถในการมากมาย ทว่าเมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กสาวพูดออกมาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า
” เอริคโชว์ฝีมือให้สาวน้อยคนนี้ดูหน่อยสิ”
“คุณวิลเลี่ยมอย่าปล่อยให้สุภาพสตรีตัวน้อยดูถูกเชียวนะครับ”
” ผู้กํากับครับ ถ้าผู้กํากับจะลงมือด้วยตัวเองเดี๋ยวผมจะจัดการดูแลสายเคเบิ้ลให้ “
“….”
เสียงยังคงดังต่อเนื่องจนทําให้เอริคต้องปรบมือตัวเองก่อนจะพูดขึ้นว่า “เงียบหน่อย เงียบเสียงหน่อย อย่าลืมว่าที่นี่คือที่ไหน ! “
หลังจากที่คนเงียบเสียงลงแล้ว เอริคก็หันไปหาเด็กน้อยพร้อมกับขึ้นว่า “คุณหนูเทพูแลน คุณอยากจะทดสอบจริงเหรอ ? “
อีแวนก้าเช็ดหน้าก่อนจะตอบด้วยน้ําเสียงมั่นใจว่า ” แน่นอน”
” โอเค” เอริคตอบรับ” คุณคงจะได้เห็นการแสดงของสติวก่อนหน้านี้จากหน้าจอมอนิเตอร์แล้ว ดังนั้นผมคงไม่ต้องบอกว่าจะต้องแสดงยังไงใช่ไหมครับ “
“อืม “เด็กสาวพยักหน้ารับก่อนที่จะทวนบทอีกครั้ง “ฉันก็แค่เดินเข้ามาที่ประตูใหญ่ หลังจากเดินมาตามทางเดินก็แวะถามทางกับคุณพ่อ แล้วก็เดินตรงเข้ามาในนี้ “
” ดีมาก งั้นพวกเรามาเริ่มกันเถอะ ” เอริคพยักหน้า
เนื่องจากเป็นช่วงพักเบรกจึงทําให้กลุ่มนักแสดงไม่ต้องมายืนตามจุดบล็อคก่อนหน้านี้ ทว่าโดนัลก็เต็มใจที่จะเข้าร่วมการถ่ายในครั้งนี้อีกทั้งยังวานขอให้เอริคช่วยถ่ายเก็บไว้ให้กับเขาเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจําให้กับเขาด้วย
จากทางเข้าล็อบบี้ ทําให้อีแวนก้ามองเห็กลุ่มคนจํานวนมากที่ยืนอยู่ด้านหลังเอริคกําลังมองมาที่หล่อน แม้ว่าหล่อนจะพยายามเก็บอาการของตนเองไว้ทว่าก็ไม่สามารถซ่อนอาการตื่นตระหนกในเวลานี้ได้
“คุณหนูเทพูแลน ฉากหนึ่ง เทคหนึ่ง แอคชั่น! ” หลังจากที่เกิดเสียงสเลทกระทบกันคนที่ทําหน้าที่ถือสเลทก็รีบวิ่งไปอยู่ด้านข้างในทันที
เด็กสาวกระพริบตาก่อนที่จะมองไปยังกลุ่มคนที่กําลังมองมาที่หล่อนจนทําให้หล่อนรู้สึกชาไปทั้งตัว ทว่าหล่อนก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าพร้อมกับหันไปมองซ้ายและขวาตามที่สติวเล่นก่อนหน้านี้ ทว่าเดินไปได้เพียงครู่เดียวอีแวนก้าก็รู้สึกว่าทนไม่ได้อีกต่อไปจึงรีบก้าวเท้าเดินให้เร็วขึ้น
เมื่อเดินมาถึงทางเดินที่สองหล่อนก็มองเห็นพ่อของหล่อนที่กําลังมองมาที่หล่อนเพื่อให้กําลังใจอยู่ด้านหลังกล้อง จนทําให้อีแวนก้ารู้สึกได้รับการช่วยเหลือครั้งใหญ่ เป็นเพราะมีพ่อของหล่อนอยู่จึงทําให้หล่อนรู้สึกถึงความปลอดภัย หล่อนเดินหลบกล้องอย่างไม่ลังเลก่อนที่จะร้องไห้และวิ่งไปหาพ่อของหล่อนในทันที ” คุณพ่อ หนูไม่แสดงแล้ว “
” นิกเกิลหรือว่าเราจะแบ่งถ่ายฉากทางเดินแรกกับทางเดินที่สอง ถ้าทําแบบนี้โอกาสที่จะประสบความสําเร็จน่าจะเยอะกว่าถ่ายรวดเดียวด้วย”
ถึงแม้ว่าอีแวนก้าจะเดินไปได้เพียงครึ่งทาง ทว่าเอริคก็ยังคงถ่ายต่อไปเรื่อยๆก่อนที่จะพบว่าการเดินถือกล้องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกทั้งหลังจากการถ่ายทําก็ยังต้องตัดต่ออยู่ดีเขาจึงคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหากจะแบ่งถ่ายเป็นสองซีน แม้ว่านิกเกิลจะกลับมาจากการพักกองแล้ว ทว่าเอริคยังคงถือกล้องถ่ายอีกทั้งยังพูดคุยกับช่างภาพเพื่อเสนอความคิดใหม่ในการถ่ายฉากนี้
ในเวลานี้เขาทั้งสองมีแผนที่ของโรงแรมวางอยู่ตรงหน้า
เอริคใช้ดินสอในมือของเขาชี้ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “จากตรงนี้เดินทางไปตรงนี้ถ่ายหนึ่งซีน หลังจากที่สั่งคัท แล้วก็เริ่มถ่ายซีนต่อไปจากจุดนี้จนถึงตอนที่เควินเดินเข้าไปในล็อบบี้ “
นิกเกิลนึกตามสิ่งที่เอริคแนะนําก่อนที่จะพูดขึ้นว่า ” ถ้าเป็นแบบนี้เราก็ต้องแบ่งนักแสดงออกเป็นสองกลุ่มใช่ไหม ? “
” ใช่ นี่ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรใช้เวลาแค่สิบนาทีก็เสร็จแล้ว และมันก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับสติวด้วย จุดสําคัญคงอยู่ที่นายแล้วหล่ะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ ? “
“ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไร ” นิกเกิลโบกมือไปมา ” ถ้าแบ่งออกเป็นสองซีนก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว “
” งั้นดีเลย ตามนี้แล้วกันนะ ” เอริคพูดจบก็เงยหน้าขึ้นก่อนที่จะพูดกับทุกคนว่า ” ทุกคนได้ยินแล้วนะ ผมให้เวลาเตรียม 10 นาทีเดี๋ยวเรามาเริ่มถ่ายกัน “
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายแล้ว เอริคก็กลับมาตรงตําแหน่งผู้กํากับอีกครั้ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เด็กสาวตัวน้อยกําลังนั่งกอดม้วนฟิล์มในมือของตนเองพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าสร้อย โดยไม่เหลือท่าทางที่หยิ่งยโสก่อนหน้า โดนัลยังคงนั่งอยู่ข้างหล่อนพร้อมกับพูดด้วยน้ําเสียงต่ําราวกับกําลังปลอบใจอะไรบางอย่าง