I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 178
SC:บทที่ 178 แพนด้า
ซีซี
หลินเฉิง กําลังกลั้นลมหายใจและบังคับดาบในมือค่อยๆเจาะรูบนกําแพงด้านหน้าของเขา เขาคิดอะไรได้ก่อนและยกเลิกความคิดที่จะเข้าไปยังประตูหน้า สุดท้ายแล้วเรื่องนี้มันเสี่ยงเกินไป สถานการณ์ภายในยังไม่ชัดเจนเขาไม่ต้องการที่จะถูกปิดล้อมด้วยกลุ่มคนที่อยู่ด้านใน ดังนั้นเขาจึงหาวิธีอื่นและคิดได้ว่าเขาถือดาบที่แข็งแกร่งอยู่บนหลังของเขา!
แม้ว่ากําแพงจะมีความหนามากกว่าการตัดกระจกเล็กน้อย แต่มันก็ยังดีกว่าที่เดินเข้าไปยังประตูหน้า ยิ่งกว่านั้นดาบของหลินเฉิงนั้นคมมาก ภายใต้การแทงอย่างรุนแรงมันไม่ได้ส่งเสียงดังใดๆอีกทั้งดาบยังจมลงไปในกําแพงอีกด้วย!
หลินเฉิง ใช้ความพยายามเพียงไม่กี่นาทีเปิดรูกําแพงเพียงพอที่จะทําให้คนคนหนึ่งผ่านเข้าไป
“นี่กลิ่นอะไร…”
ทันทีที่กําแพงถูกทะลวงออกไป หลินเฉิง ก็ได้กินมาจากอีกฝั่ง เขาขมวดคิ้วและยื่นจมูกทันที หลินเฉิงพยายามดมกลิ่นเหม็นที่ไม่สามารถอธิบายได้จากด้านใน แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนเขาไอเบาๆ 2 ครั้ง
หลินเฉิง รู้สึกแปลกๆจึงส่งสัญญาณให้กับหยูซานและโคล่าเพื่อให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อม จากนั้นเขาดึงผ้าออกมาสวมไว้บนใบหน้าของเขา ก่อนที่จะกระโดดเข้าไปในกําแพง
คร่อกๆๆ
เพียงกระโดดเข้ามาด้านใน หลินเฉิงก็ได้ยินเสียงกรนดังก้องในหูของเขา เขาหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว และมองไปรอบๆพบกับแพนด้าตัวหนึ่งนอนน้ําลายไหลอยู่ข้างกําแพง
ขนาดรูปร่างของหมีแพนด้าตัวนี้ไม่แตกต่างจากที่เคยเห็นมากนัก แต่หลินเฉิงไม่กล้าที่จะประมาท การที่เขาเก็บสัตว์ตัวนี้ไว้ที่นี่โดยไม่มีความสามารถพิเศษใดๆเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ
“ไปตายสิ พวกเขาคงไม่เก็บแพนด้าตัวนี้เอาไว้รีดสเปิร์มหรอกนะใช่ไหม!”
เมื่อเห็นว่าแพนด้ากําลังนอนหลับอดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง แต่เขายังคงเคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบๆและตัดแท่งเหล็กที่เป็นกรงด้วยดาบยาว
“แกร็ก”
ทันใดนั้น หลินเฉิง ที่พยายามเงียบอยู่ตลอดเวลาก็ได้ยินเสียงดังเกิดขึ้นอย่างรุนแรง มีนกเหยี่ยวขนาดใหญ่ 2 ตัว ซึ่งมีขนาดใหญ่ผิดปกติอย่างมากพุ่งตรงมาที่ศีรษะของเขาปัง
หลินเฉิง ถอยออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วได้ยินเสียงกระแทกอย่างแรงกับลูกกรงด้านหน้าของเขา หลังจากที่นกเหยี่ยว 2 ตัวนี้ชนเข้ากับกรงเหล็กพวกมันกระพือปีกที่แข็งแกร่งและจ้องมองหลินเฉิงอย่างดุเดือด
“เยี่ยมมาก!”
หลินเฉิง มองเห็นเหล็กเส้นโค้งงอจากการกระแทกของนกอินทรีย์ จากนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมาจากด้านหลัง!
หลินเฉิง เงยหน้าขึ้นและพบกับชายหัวล้านที่เคยพบบนหลังคา เขายังคงกอดอกและมองหลินเฉิงราวกับคนตาย
“สหาย ฉันกําลังกังวลอยู่เลยว่านายไปอยู่ที่ไหน ด้วยเหตุนี้ ท่านจิว จึงส่งนกอินทรีย์คู่ออกมาสะกดรอยตามนาย! โดยไม่คาดคิดว่า นายไม่เพียงแต่คิดที่จะหลบหนีแต่กล้าที่จะแอบเข้ามาในนี้ ฉันชื่นชมความกล้าหาญของนายจริงๆ”
เมื่อมองเห็น หลินเฉิงยืนอยู่ในกรงโดยไม่พูดอะไร เฉิงเก้อจึงพูดออกมา หลินเฉิงขมวดคิ้วแล้วพูดออกมาว่า
“อินทรีคู่อย่างนั้นหรอหมายถึงเหยี่ยว2 ตัวนี้น่ะหรอ?”
“เหยี่ยว?นายคิดว่ามันเป็นเพียงแค่นกธรรมดาเหรอ นก 2 ตัวนี้สามารถฉีกนายออกเป็นชิ้นๆได้ทันที!”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง ไม่สามารถแยกแยะระหว่างความแตกต่างของนกอินทรีกับเหยี่ยวได้ เฉิงเก้ออดไม่ได้ที่จะด่าทอ
“หมีป่ากับงูพิษตายด้วยน้ํามือของคนโง่อย่างแกได้ยังไง!”
“ก็ได้..เหยี่ยวนี้มีชื่อว่าอินทรีใช่ไหม?”
เฉิงเกือ ต้องการที่จะสาปแช่ง หลินเฉิงมากกว่านี้ ในขณะเดียวกัน หลินเฉิงเองก็เฝ้ามองนกอินทรีย์ 2 ตัวนี้อย่างระมัดระวัง จากนั้น หลินเฉิง ก็พูดว่า
“มันยากสําหรับพวกนายใช่ไหมที่ต้องวิ่งไปรอบๆท่ามกลางสายฝนเพื่อตามหาผม…ดังนั้นผมจึงมาหา ท่านจิวด้วยตัวเองยังไงล่ะ”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิงยังคงมีฝีปากในการพูดด้วยทัศนคติที่กล้าหาญ ใบหน้าของเฉิงเก๋อมืดมนและพูดคําว่า
“ปากดีนักนะ ไอ้เด็กเวร!อย่างไรก็ตามในเมื่อแกมาถึงที่นี่แล้ว ถ้าฉันไม่ตอบสนองคงทําให้เสียชื่อเสียงของท่านจิว”
จากนั้นเขาก็ตะโกนไปด้านหลังของ หลินเฉิง ว่า “เทียนซื้อ ตัดแขนขาของมัน!”
หลินเฉิง รีบหันศีรษะไปด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็วและพบว่าแพนด้าที่เคยนอนอยู่ตรงมุมก่อนหน้านี้ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ในเวลานี้มันกําลังนั่งอยู่บนพื้นและมองมาที่หลินเฉิง อย่างไร้เดียงสาและไม่ได้ตอบสนองคําสั่งของเฉิงเก้อ
“หม?”
เมื่อเห็นว่าแพนด้าไม่เชื่อฟัง เฉิงเก้อ ขมวดคิ้ว
“ไอ้หมีโง่!แกไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันสั่งหรือไง ต้องการที่จะโดนสั่งสอนโดย ท่านจิว ใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินถึงคําขู่ของเฉิงเก้อ เทียนซือขมวดคิ้วและแสดงออกอย่างหงุดหงิด ทันใดนั้นปากมันก็เปิดออก พร้อมกับร้องออกมา “โฮ่งฮง” และวิ่งมาหาหลินเฉิง
“เพ้ย!!”
เมื่อได้ยินเสียงเห่าที่คุ้นเคย หลินเฉิงแทบอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาไม่เคยคิดว่าเสียงร้องของแพนด้าจะเป็นเช่นนี้
เพียงพยายามกลั้นหัวเราะทันใดนั้น หลินเฉิงก็รู้สึกว่ามีบางอย่างกระโดดข้ามศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้น หลินเฉิงก็เห็นโคล่าที่กระโดดเข้ามาจากทางรูกําแพง
“บัดซบ!ที่แกรีบกระโจนเข้ามาเพราะคิดว่าเจอหมาตัวเมียใช่ไหม?แต่นี่มันหมีแพนด้าโว้ย!!”
หลินเฉิง เข้าใจทันทีว่าทําไมโคล่าถึงกระโดดเข้ามาอย่างฉับพลันโดยไม่พูดไม่จา เมื่อเห็นสุนัขตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เฉิงเกือและอินทรียักษ์ทั้ง 2 ตัวรวมทั้งหมีแพนด้าตกตะลึงอยู่สักครู่ จากนั้นหมีแพนด้าพยายามที่จะเอื้อมอุ้งเท้าอวบอ้วนของมันจับหัวของโคล่า
“อว์ โฮ่งโฮ่ง!!”
ทันทีที่มีแพนด้าสัมผัสลงบนหัวของโคล่า โคล่าได้เห่าออกมาอย่างรุนแรง ทําให้หมีแพนด้าตัวนั้นหวาดกลัว และวิ่งกลับไปที่มุมด้านหนึ่งเพื่อซุกตัวอยู่ที่นั่น
เมื่อเห็นฉากนี้ หลินเฉิงแทบอยากตบหน้าผากของตัวเองพร้อมกับพูดไม่ออก
“อา!!… เป็นเรื่องดีที่สุนัขโง่ตัวนี้ปรากฏตัวขึ้น เราจะได้ไม่จําเป็นต้องออกค้นหามันอีก!ในเมื่อนายอยู่กับสุนัขโง่ของตัวเองแล้ว แต่ก็เหมือนว่าอินทรีคู่ยังไม่พอเล่น”
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของโคล่า เฉิงเก้อขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดขึ้นอย่างโศกเศร้า อย่างไรก็ตาม หลินเฉิงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า
“ เฉิงเก่อ ผมไม่รู้ว่าคุณกําลังพูดอะไรอยู่ แต่..คุณเพิ่งพูดว่าผมและหมาโง่ตัวนี้ไม่พอสําหรับให้นกใหญ่ 2 ตัวของคุณเล่นอย่างนั้นหรอ?
“เหอะ เทียนซื้อ จัดการกับพวก ห้ทุกข์ทรมาน!”
เมื่อได้ยินคําถามของหลินเฉิง เฉิงเก้อไม่ได้สนใจที่จะตอบเขาแต่หันหน้าไปหาเทียนซื้อและออกคําสั่งแทน!