I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 177
SC:บทที่ 177 หอคอยว่านฮวา, ท่านจิว!
ใช้ประโยชน์จากการที่ฝนตก หลินเฉิงมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็วและสามารถหลีกเลี่ยงการจับกุมของลูกน้อง ท่านจิว หลังจากผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมงในที่สุดเขาก็มาถึงเป้าหมายหอคอยว่านฮวาที่ท่านจิวอาศัยอยู่
ที่เรียกว่าหอคอย ว่านฮวา ความจริงแล้วเป็นบ้านที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีรูปทรงแปลกๆด้านนอกเป็นสีน้ําตาล อาคารขนาดเล็กถูกสร้างขึ้นโดยตรงบนทางลาดล้อมรอบด้วยป่าทึบเกือบจะบดบังอาคารทั้งหมด
สถานที่แปลกประหลาดที่สุดของบ้านหลังนี้ก็คือ ไม่มีหน้าต่าง! แผนการที่จะลักลอบเข้าไปทางหน้าต่างของหลินเฉิงต้องพับเก็บไว้อย่างสิ้นหวัง
เมื่อมองดูรูปร่างหอคอยว่านฮวาซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับโลงศพยักษ์ หลินเฉิง ขมวดคิ้วและสงสัยว่าจะแอบเข้าไปในห้องได้อย่างไร
หลังจากคิดอยู่สักครู่ หลินเฉิงก็หันมาหาหยูซาน และพูดว่า
“ผมรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มีบางอย่างผิดปกติ เธอควรระวังตัวเอาไว้ และตรวจสอบพื้นที่โดยรอบสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่!”
เมื่อได้ยินคําพูดของ หลินเฉิง ใบหน้าของ หยูซาน กลายเป็นจริงจัง เธอพยักหน้าเบาๆและหายตัวไปทันที
หลังจากหยูซานหายตัวไป หลินเฉิง รู้สึกไม่สบายใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองบนหลังคาซึ่งมีความสูงอย่างน้อย 10 เมตรเขาปล่อยโคล่าไว้ที่นี่เพื่อรอหยูซานกลับมา จากนั้นตัวเขาเองเดินไปที่กําแพงและใช้ฝ่ามือแปะลงบน กําแพงทําให้เกิดผลึกน้ําแข็งปรากฏบนผนัง
หลังจากนั้น หลินเฉิง ค่อยๆปีนขึ้นไปพร้อมกับจับผลึกน้ําแข็งที่ก่อขึ้นมา เขาพยายามย่องขึ้นไปอย่างเบาที่สุด เป้าหมายของเขาคืออาคารขนาดเล็กเพื่อเป็นจุดสังเกต
“ท่านจิว มีคําสั่งว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับบ้านของเขาให้ทุกคนออกไปค้นหาชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว!”
ทันทีที่หลินเฉิงมาถึงด้านบน เขาก็ได้เห็นชายหัวล้านคนหนึ่งกําลังพูดต่อหน้ากลุ่มคนใบหน้าของชายหัวล้านมีความกังวลใจเล็กน้อย
“คือ… ท่านจิว ไม่ได้บอกหรือว่าชายคนนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก? ท่านกวนได้พาใครบางคนออกไปค้นหาเขาและให้พวกเราอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องนายท่าน!”
เมื่อได้ยินคําพูดของชายศีรษะล้านชายหนุ่มคนหนึ่งในวัย 20 ปีก้าวออกมาด้านหน้าและพูดขึ้น
“เหอะ
เมื่อเห็นชายหนุ่มคนนี้พูดออกมาด้วยแรงจูงใจซ่อนเร้นชายหัวล้านพูดอย่างหยิ่งยโสว่า
“เฮาเลอ สิ่งที่นายคิดอยู่ตอนนี้คิดว่าฉันคนนี้ไม่รู้อย่างนั้นหรอ รีบออกไปและทําตามคําสั่งได้แล้ว ไม่อย่างนั้นชีวิตของนายเองก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้!”
ทันใดนั้นเขาก็ผิวปาก มีสิงโตตัวใหญ่กระโดดมายืนด้านข้าง มันมองไปที่เฮาเลอ พร้อมกับแยกเขี้ยวอยากหิวกระหาย!
หลังจากเห็นสิงโตตัวนี้ เฮาเลอ ใบหน้าซีดเซียวและโบกมืออย่างรวดเร็ว
“เข้าใจแล้วครับ!เฉิงเก้อ ผมจะรีบพาคนอื่นๆออกไปค้นหาอย่างรวดเร็ว!”
หลังจากพูดจบเขาก็โบกมือให้กับคนที่อยู่ด้านหลังด้วยใบหน้าเกลียดชังและจากไปทันที เมื่อมองดูแผ่นหลังของเฮาเลอหายไป ชายที่ถูกเรียกว่าเฉิงเก่อหลี่ตาเล็กน้อยและมีใบหน้าพึงพอใจ
หลินเฉิง นอนฟังเงียบๆอยู่บนหลังคา เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาของเขา และเข้าใจได้ว่าเมื่อท่านจิว ถูกตัดขาดจากแมลงสื่อสารทําให้เขารู้สึกเป็นกังวลและต้องการส่งทุกคนออกไปค้นหาตัวหลินเฉิง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะจัดส่งทุกคนออกไปแต่เป็นเพียงเพราะเขามีความมั่นใจเกินไป หากจะเชิญหน้ากับหลินเฉิง เขาคิดว่าเขาสามารถจัดการแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หลินเฉิง รู้สึกบางอย่างในหัวใจ เขาไม่เคยจัดการกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับนี้มาก่อน หากเขาประมาทเพียงเล็กน้อยผลลัพธ์สุดท้ายคงไม่ใช่เรื่องดี
อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน หลินเฉิง คิดว่าค่าพลังงานที่ได้จาก ท่านจิว นั้นจะต้องมหาศาลรวมถึงสัตว์กลายพันธุ์ทุกชนิดที่จะให้ค่าพลังงานเหล่านั้น ทําให้หลินเฉิงรู้สึกไม่อยากยอมแพ้…
“แน่นอนว่าความโลภนั้นเป็นแรงจูงใจของมนุษย์..”
หลินเฉิง ถอนหายใจอย่างเงียบงันแล้วหันลงไปชั้นล่าง จากนั้นเข้าพบว่าหยูซานได้กลับมาจากสํารวจแล้ว ดังนั้นเขาจึงถามโดยตรง
“ได้อะไรมาบ้าง”
หยูซาน กัดริมฝีปากแล้วพูดว่า
“ไม่ได้อะไรมากนัก…รอบๆบ้านไม่มีหน้าต่างเลยมีเพียงประตูหน้าเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ และฉันเห็นคนกลุ่มหนึ่งกําลังพูดคุยกันกับชายหัวล้าน เมื่อฟังพวกเขาดูเหมือนว่าทุกคนที่อยู่ในสวนสัตว์กําลังตามหาพวกเราอยู่!”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ที่หยูซาน สอดแนมมาไม่ได้แตกต่างไปจากสิ่งที่เขาได้รับรู้นัก หลินเฉิงพยักหน้า
“ดูเหมือนว่า ท่านจิวต้องการดักจับเราในสวนสัตว์ ให้เหมือนกับการจับเต่าในบ่อ เราไม่สามารถเข้าไปในบ้านหลังนี้ได้และคนของท่านจิว ก็ไม่สามารถหาเราได้เช่นกัน แต่ไม่ว่ากรณีใดๆ ตราบใดที่เรายังคงยืดเยื้อ เวลาออกไปความได้เปรียบของเราก็จะลดน้อยลง…”
เมื่อพูดดังนั้นใบหน้าของหลินเฉิงแสดงออกอย่างเย็นชา
“ดังนั้นเราควรที่จะจัดการปัญหากับท่านจิวคนนี้ก่อนที่จะเช้า!”
เวลาเที่ยงคืน ในอาคารว่านฮวา
“แกร็ก”
มีเสียงไฟแช็คจุดขึ้น ชายชราคนหนึ่งอายุประมาณ 60 ปีสวมชุดราตรีสีน้ําตาลเข้มนั่งอยู่บนโซฟาในขณะที่ เขากําลังจุดซิก้า
ลักษณะของชายชราคนนี้ดูธรรมดามากใบหน้าของเขายังคงเหี่ยวย่นตามวัย แต่ดวงตาของเขายังคงความ สดใสซึ่งดูแตกต่างจากชายชราทั่วไป
ถัดจากเขามีลิงชิมแปนซี 2 ตัวที่สูงเกือบ 2 เมตรยืนอยู่คนละข้างกําลังกินเนื้อสัตว์แช่แข็งชิ้นใหญ่
“นายหมายถึงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบร่องรอยของอีกฝ่ายอย่างนั้นหรอ?”
ชายชราพ่นควันออกมาชายชราผู้มีผมขาวคนนี้คือ ท่านจิว และมองไปที่ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนที่จะถามขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อได้ยินคําถามไม่แยแสของท่านจิว ร่างกายของเฉิงเก้อสั่นสะท้าน เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า
“ครับ…ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นมันแมลงที่คุณเคยให้ไว้กับผมขาดการติดต่อ จนถึงบัดนี้ก็ไม่สามารถติดต่อกับมันได้อีกต่อไป”
“อืม…”
ท่านจิว พยักหน้าและหยิบแก้วขึ้นมาจิบเบาๆ
“นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแสดงว่าอีกฝ่ายจะต้องสังเกตเห็นมันและฆ่ามันทิ้งแล้ว!”
“แต่…แต่มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินใบหน้าของเฉิงเก้อดูเป็นกังวล แต่ถูกขัดจังหวะด้วยคําพูดของท่านจิว
“ฉันเคยพูดก่อนหน้านี้แล้วไงว่าชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แม้ว่าการตรวจจับแมลงที่มองไม่เห็นจะค่อนข้างเป็นเรื่องยาก แต่ในกรณีของชายคนนี้อาจเป็นแบบนั้น..”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ท่านจิว ถอนหายใจเบาๆแล้ววางแก้วลงก่อนจะลุกขึ้น และเดินไปในห้องหนังสือ ในขณะที่เดินไปเขาไม่ได้หันหลังกลับมาแต่พูดว่า
“ฉันได้สั่ง”นกอินทรีย์คู่“แล้ว นายแค่ไปที่ศาลาร้อยสัตว์ ที่อยู่ชั้นล่างและพาพวกเขาออกไป และถ้านายมีนกอินทรีย์คู่“แล้วยังหาผู้ร้ายไม่พบเมื่อถึงเวลานั้นฉันคิดว่าคนอื่นเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าคนคุ้มกันมากกว่า!”