Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 187 ปรึกษา
ตอนที่ 187 ปรึกษา
“ยินดีที่ได้พบครับท่านมหาปราชญ์” ทันทีที่กวีเดินเข้าไปในงานสัมมนาของเหล่าสมาคมจอมเวทเหล่าแขกในงานที่ได้เห็นกวีก็พากันเข้ามาทักทายอย่างรวดเร็วไม่เว้นแม้แต่หัวหน้าสมาคมอย่างลูปัสก็ตาม
“ผมเองก็ยินดีที่ได้พบครับ ชื่อเสียงของท่านหัวหน้าสมาคมโด่งดังมาถึงเมืองอันห่างไกลอย่างเมืองการ์กัน เลยทีเดียวผมเองก็หวังเอาไว้ว่าสักวันหากมีโอกาสได้พบท่านคงจะวิเศษมาก ไม่คิดว่าความหวังนั้นจะเป็นจริงได้รวดเร็วเช่นนี้” กวียิ้มออกมาก่อนจะเริ่มทักทายเหล่าแขกในงานอย่างเป็นมิตรในสายตาของเหล่าจอมเวทในห้องนี้ไม่มีฐานะเจ้าเมืองหรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่มาอวดอ้างอะไรกันทั้งนั้น ที่มีว่ากันด้วยตําแหน่งของชั้นจอมเวท ซึ่งมหาปราชญ์อย่างกวีอยู่สูงกว่าหัวหน้าสมาคมอย่างลูปัสเสียอีก
“ท่านมหาปราชญ์เชิญทางนี้ครับ พวกเรามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับท่านเยอะทีเดียว”ลูปัสเห็นกวีทักทายอย่างถ่อมตนก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เขาพากวีและผู้ติดตามทั้งสองเข้าไปในงานที่มีเหล่าจอมเวทมากมายล้อมหน้าล้อมหลังกันเต็มไปหมดในตอนนี้ยังเป็นช่วงของงานเลี้ยงที่จะให้เหล่าผู้มาร่วมงานสามารถพูดคุยได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่ากวีที่เป็นถึงมหาปราชญ่โดนพวกหัวหน้าสมาคมรวมถึงเดเนฟที่เป็นเลขาขององค์ชายพาตัวไปคุยด้วยเรียบร้อยแล้ว ทําให้คนที่เหลืออยู่มีเพียงสองสาวที่ตามมาด้วยเท่านั้น
“พวกท่านเป็น…ผู้ติดตามของท่านมหาปราชญ์สินะครับ ไม่ทราบว่าพวกท่านอยู่ตําแหน่งไหนแล้วงั้นหรือ”จอมเวทชราคนหนึ่งเดินเข้าไปถามสองสาวด้วยท่าที่เป็นมิตร ถ้าจําไม่ผิดเขาคนนี้เป็น NPC ที่ทําหน้าที่เปลี่ยนอาชีพจอมเวทที่เมืองหนึ่งนี่นาเรียกได้ว่าถ้าไปเปลี่ยนอาชีพที่เมืองนั้นจะได้รับฐานะจอมเวทจากเขาและได้เรียน เวทมนตร์จากเขาด้วยเป็นคนที่ได้รับความนับถือคนหนึ่งเลย
“ปัจจุบันดิฉันอยู่ในฐานะจอมปราชญ์ค่ะ แต่เพราะชื่นชอบการศึกษาเวทมนตร์หลายแขนงเลยยังไม่แตกฉานเสียเท่าไหร่”นาตาลีที่คุ้นเคยกับงานแบบนี้แล้วยิ้มรับชายชราตรงหน้าก่อนจะแนะนําตัวอย่างนอบน้อมเช่นกัน แม้ฐานะจอมปราชญ์ที่กวีเคยอยากจะเปลี่ยนจะเป็นฐานะที่สูงทีเดียว แต่ก็ยังไม่ได้สูงที่สุดในที่นี้แต่อย่างไร
“ไม่ทราบว่าท่านจอมปราชญ์ศึกษาเวทมนตร์กชนิดงั้นเหรอครับ”ชายอีกคนที่ฟังอยู่ได้ยินเข้าก็เข้ามาสอบถามทันที การศึกษาเวทมนตร์หลายๆชนิดไม่ใช่เพียงมีเวลาและความสามารถเท่านั้น เพราะเวทมนตร์หลายๆ สายไม่สามารถหามาได้จากการซื้อขาย แต่ต้องไปล่าเอาจากมอนสเตอร์เท่านั้นทําให้ผู้จะเรียนเวทมนตร์หลาก หลายสายได้จะต้องไปค้นหาเวทมนตร์จากทั่วทุกสารทิศกับ NPC ที่ไม่สามารถวาร์ปไปไหนมาไหนได้มันเป็นเรื่องยากมากทีเดียว
“ปัจจุบันดิฉันศึกษาเวทมนตร์อยู่สิบเจ็ดสาย มุ่งเน้นไปที่ธาตุ สายฟ้า แรงโน้มถ่วง และ เวทมนตร์กาลเวลาค่ะ”นาตาลียิ้มหวานก่อนจะอธิบายสิ่งที่ตัวเองศึกษาให้เหล่าจอมเวทในห้องอย่างสง่าผ่าเผย
“เวทมนตร์พวกนั้นมัน…”แน่นอนเหล่าจอมเวทบางคนแม้จะมีฐานะยิ่งใหญ่ แต่ไม่สามารถหาเวทมนตร์ที่นาตาลีเรียนรู้มาได้เลย เหล่าเวทมนตร์ที่ไล่ชื่อมานั้นเป็นเวทมนตร์ที่ยังไม่ได้ทําการศึกษาเพราะไม่สามารถหาเล่มวิชาได้ทั้งนั้น
“ยอดเลย สามารถศึกษาเวทมนตร์หายากพวกนี้ได้มิน่าล่ะท่านมหาปราชญ์ถึงได้ให้ท่านเป็นผู้ติดตาม” ทันทีที่ได้ยินเรื่องเวทมนตร์ของนาตาลีเหล่าจอมเวทก็แสดงท่าที่ยอมรับออกมาอย่างง่ายดาย ทั้งการวางตัวความรู้ ของเธอทําให้เธอดูสูงค่าและงดงามอย่างมากสมแล้วที่เป็นเลขาของกวี
“แล้วท่านหญิงทางนี้ล่ะครับ” หลังจากตื่นเต้นกับความสามารถของกวีแล้ว เหล่าจอมเวทก็หันไปหาเพลงเสียอย่างนั้น
“………….”แน่นอนเพลงไม่ได้มีเวทมนตร์มากมายเหมือนนาตาลี ไม่ได้มีฐานะเป็นปราชญ์เสียด้วยซ้ํา เป็นเพียงจอมเวทธาตุที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นขึ้นมาไม่ได้โดดเด่นอะไรเลยที่เธอถูกรับเลือกมาก็เป็นเพราะบังเอิญทําข้อสอบได้เท่านั้นเอง
“ดิฉัน…เป็นผู้ศึกษาทฤษฎีเวทมนตร์เชิงลึกค่ะ”เพลงกลืนน้ําลายลงคอก่อนจะเริ่มตอบคําถามตามที่เนตรบ อกเอาไว้ก่อนจะเดินทางมาที่เมืองหลวง อาชีพของเพลงยังไม่โดดเด่นนัก แต่เหล่าจอมเวทก็ไม่ได้วัดกันที่ฐานะจอมเวทเพียงอย่างเดียว พวกเขายังให้เกียรติคนที่มีความรู้ลึกซึ้งอีกด้วย แม้จะเป็นเพียงจอมเวทธาตุทั่วๆ ไปแต่หากมีความรู้มากมายย่อมได้รับความยอมรับอยู่แล้ว
“ผู้ศึกษาทฤษฎีของท่านมหาปราชญ่งั้นเหรอ….ขะ ข้าขอถามคําถามท่านหญิงสักคําถามได้หรือเปล่า”จอมเวทคนหนึ่งได้ยินแบบนั้นก็รีบเข้าไปหาเพลงทันที งานวิชาการแบบนี้เรื่องอวดอ้างตัวเองนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เป้าหมายของจอมเวทหลายๆคนที่มางานนี้ก็เพื่อพบผู้มีความรู้แตกต่างไปจากตนเองพวกเขาต้องการมุมมอง และความรู้เพิ่มเติมจากผู้อื่น และนําความเห็นมาถกกันจนตกผลึกนั่นเอง
“ได้ค่ะ….”เพลงพยักหน้าซ้ําๆก่อนจะจ้องมองท่าทีของอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ หลังจากได้รู้ว่ากวีเป็นหัวหน้ากิลด์ที่ใหญ่โตขนาดไหน งานที่ต้องทําร่วมกับกวีก็ทําให้เพลงต้องตื่นเต้นเสมอ หากเธอทําพลาดมันจะสร้างความเสียหายแค่กับกิลด์แค่ไหนกัน…
“เกี่ยวกับเวทมนตร์ที่สามารถฟื้นคืนความตายได้ ข้าอยากทราบว่าพวกท่านได้ศึกษาเวทมนตร์เหล่านี้หรือเปล่าครับ” ทันทีที่ได้ยินคําถาม เพลงก็ชะงักไปครู่หนึ่ง โชคดีจริงๆที่ก่อนมาเนตรเอาข้อมูลเวทมนตร์ต่างๆที่กิลด์บูรพาศึกษามาให้เพลงได้อ่านแล้ว และในนั้นก็มีเวทปลุกชีพที่กวีได้รับมาจากถ้ําผีดิบอยู่ด้วย
“แน่นอนค่ะ เวทมนตร์บทนี้เรียกว่าเวทมนตร์ปลุกชีพ ดิฉันเคยเห็นท่านมหาปราชญ์ใช้เวทมนตร์นี้ในการใช้งานสัตว์ที่ตายไปแล้วให้มารับใช้ท่านค่ะ”เพลงตอบพลางนึกถึงตอนเก็บเลเวลร่วมกับกวีเวทปลุกชีพไม่ใช่เวทโจมตีที่ใช้งานได้เฉพาะเวลาต่อสู้ กวีใช้เวทปลุกชีพเวลาว่างเพื่อเพิ่มความชํานาญให้กับสกิลโดยการบังคับอีกาที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาให้บินไปมาระหว่างพัก แต่ถึงอย่างนั้นความชํานาญก็ขึ้นช้ามากๆจนกวียังต้องถอนหายใจเลย
“เอ๊ะ….ท่านมหาปราชญ์สามารถใช้เวทมนตร์ปลุกชีพได้งั้นเหรอ” ทันทีที่ได้ยินเพลงพูดแบบนั้น เหล่าจอมเวทที่อยู่รอบๆก็ล้อมวงกันเข้ามาทันทีเล่นเอาเพลงสะดุ้งโหยงจนเผลอเดินถอยหลังไปหลายก้าว แต่พอเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่าจอมเวทคนอื่นๆเพลงก็ลดท่าที่ตกใจลงแล้วเริ่มพูดรายละเอียดของเวทปลุก ชีพ
“ก็ทําได้นี่นา…”นาตาลีที่อยู่ข้างๆหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นเพลงเริ่มพูดทฤษฎีเวทปลุกชีพให้เหล่าจอมเวทคนอื่นๆฟังและถกเถียงกันอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยทีเดียว นาตาลีเห็นแบบนั้นก็แยกตัวออกมาด้วยท่าทีสบายใจก่อนจะเข้าไปคุยกับเหล่าจอมเวทคนอื่นๆเพื่อสานสัมพันธ์กับคนของสมาคมอย่างรวดเร็ว
“ผู้ติดตามของท่านได้รับความนิยมมากเลยนะครับ โดนล้อมกันคนละวงเลย”เดเนฟที่พากวีเดินขึ้นมาที่ระเบียงชั้น 2 มองลงไปยังโถงชั้น 1 ด้วยท่าที่ชื่นชมการถูกล้อมเอาไว้แบบนั้นแสดงว่าทุกคนอยากจะสนทนากับผู้ถูกล้อมกันทั้งนั้น แสดงว่าทั้งสองคนมีความสามารถและความรู้มากทีเดียวเลยสามารถทําให้ผู้คนสนใจได้ขนาดนี้
“พวกเธอเป็นผู้ติดตามของผมนี่ครับ”กวียิ้มบางๆออกมาก่อนจะเดินเข้าไปหาเหล่าผู้นําของสมาคมเวทมนตร์ที่รออยู่ด้านบน ไม่ใช่แค่พวกนาตาลีกับเพลงเท่านั้นที่ต้องรับมือกับคําถามเรื่องเวทมนตร์ แต่กวีเองก็ต้องเข้าร่วมสนทนากับเหล่าผู้นําของสมาคมจอมเวทด้วยเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นกวีก็มีความสามารถโกงๆของมหาปราชญ์ที่ตอบทุกคําถามที่เหล่าหัวหน้าของสมาคมจอมเวทถามมาได้อย่างลื่นไหลเรียกได้ว่ากวีใช้เวลาไม่นานก็ได้รับการยอมรับจากเหล่าผู้นําของสมาคมเวทมนตร์คนอื่นๆแล้ว
“เป็นโอกาสที่ดีจริงๆที่ได้พบกับท่านมหาปราชญ์แบบนี้ แถมท่านยังมีความรู้มากมายอีกด้วยไม่นึกเลยว่าจะเป็นนักผจญภัยที่เพิ่งมาที่โลกของเราได้ไม่นาน” หญิงสาวคนหนึ่งพูดพลางยิ้มให้กวีด้วยท่าที่ยอมรับเวทมนตร์ต่างๆเหล่าจอมเวทหลายต่อหลายยุคศึกษากันมาเป็นร้อยๆปีไม่นึกเลยว่าจะถูกชายคนนี้เรียนรู้จนหมดแถมยังรู้เบื้องลึกยิ่งกว่าสมาคมเวทมนตร์เสียอีกบอกตามตรงว่าเขาน่ากลัวมากทีเดียว
“ข้าคิดว่าความสามารถของท่านกวีสมควรเป็นที่ยอมรับนะ เช่นนั้นแล้วให้ท่านได้ดูสิ่งนั้นเถอะ”อยู่ๆชายคนหนึ่งก็เอ่ยปากเรื่องบางอย่างออกมาเสียอย่างนั้น แต่แทบจะทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูดเหล่าผู้นําก็แสดงท่าที่ลังเลใจออกมาทันที
“ข้าเห็นด้วยนะ ท่านกวีมีความรู้กว้างขวางและลึกซึ้ง ข้าเชื่อว่าความเห็นของท่านต้องช่วยพวกเราได้แน่ๆ” หัวหน้าสมาคมอย่างลูปัสเสนอความเชื่อใจกวีออกมาด้วยตัวเอง แบบนี้คนที่ลังเลอยู่ก็คงเลิกลังเลแน่ๆ
“ท่านกวี พวกเรามีสิ่งหนึ่งอยากจะให้ท่านดูครับ”เดเนฟเห็นทุกคนเริ่มมั่นใจในตัวกวีขึ้นมาแล้วก็เดินเข้าไปหากวีก่อนจะขอให้กวีเข้ามาดูอะไรบางอย่างในห้องที่อยู่ด้านในสุดของระเบียงชั้น 2 เสียอย่างนั้น แน่นอนว่ากวีไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว เขาเดินตามเหล่าผู้นําของสมาคมเวทมนตร์เข้าไปในห้องก่อนจะได้เห็นว่าภายในห้องขนาดใหญ่ห้องนี้มีวงแหวนเวทและข้าวของมากมายวางเอาไว้รอบๆ
ไอเทมที่วางเอาไว้ในวงแหวนเวทรวมถึงวางเอาไว้รอบๆไม่ใช่ไอเทมธรรมดาทั่วไป มีทั้งแร่หายากที่กวีไม่เคยเห็นในท้องตลาดเสียด้วยซ้ํา ไม้เท้าที่ดูทรงพลังและระบุเลเวลเกิน 500 ขึ้นไปรวมถึงถ้วยรูปร่างแปลกๆที่มีน้ําสีเงินบรรจุอยู่ข้างในห้องนี้ราวกับห้องที่เตรียมเอาไว้สําหรับทําพิธีอะไรบางอย่างเลย
“เวทมนตร์อัญเชิญ?”กวีมองภาพวงแหวนเวทตรงหน้าด้วยท่าที่ตกใจ แม้จะไม่เคยศึกษาแต่ผลของมหาปราชญ์ทําให้กวีสามารถเข้าใจการทํางานของวงแหวนเวทวงนี้ได้ทันที แม้มันจะยังมีจุดบกพร่องหลายจุดก็ตาม
“สมแล้วที่เป็นท่านกวี นี่คือเวทอัญเชิญที่พวกเราเตรียมเอาไว้สําหรับอัญเชิญเทพแห่งปัญญาท่านวิส ครับ”เดเนฟตอบพลางมองไปทางกวีด้วยท่าที่คาดหวัง วงแหวนเวทนี้ลงทุนไปไม่น้อยใช้ของที่ดีที่สุดเพื่อสร้างสื่อพลังเวทให้มากพอจะรองรับการอัญเชิญเทพพระเจ้าลงมาได้ แต่เหล่าจอมเวทจะอัญเชิญเทพลงมาทําไมกัน?