Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 184
ตอนที่ 184
มองข้าม
“พระองค์….ข้าควรทําเช่นไรดี”เสียงของนิโคลยามนี้แหบพร่าราวกับเสียงของคนชราไม่มีผิด ที่เป็นเช่นนี้เพราะน้ําที่ให้นักโทษได้ดื่มมีน้อยและไม่สะอาดเอาเสียเลย อาหารเองก็มีแค่พอประทังชีวิตเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดแต่อย่างไร
“จงเชื่อมั่น และอดทน จงเชื่อมั่นในตัวเรา”เสียงคําตอบในหัวของนิโคลยังคงตอบกลับมาเป็นคําตอบเช่นเดิม ตั้งแน่นิโคลโดนจับตัวมาก็ผ่านมาแล้วกว่า 3 อาทิตย์ แต่ไม่ว่านิโคลจะอ้อนวอนขอร้องพระเจ้าเพียงไร้คําตอบก็มีเพียงแต่ให้อดทนเท่านั้น
“ค่ะ….”แต่ถึงอย่างนั้น แทนที่จะเสื่อมศรัทธานิโคลกลับยอมรับคําตอบของพระเจ้าอย่างเต็มใจก่อนจะเริ่มสวดภาวนาอีกครั้งอย่างตั้งใจ
ตึง!!!
ทุกวันในช่วงสายแขกคนหนึ่งจะเข้ามาหานิโคลตลอด เขาคือผู้คุมของคุกประจําปราสาท และเป็นผู้รับหน้าที่ทรมานนิโคลให้ยอมรับความผิดด้วยนั่นเอง
“ยัยเด็กปีศาจ วันนี้จะยอมรับได้หรือยังว่าเทพที่เจ้ากําลังบูชาไม่ใช่เทพที่แท้จริง”ผู้คุมเดินถือแส้เข้ามาในห้องด้วยท่าที่เย็นชาราวกับไม่ได้มองนิโคลเป็นมนุษย์แต่อย่างไร แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กสาว แต่เธอกลับเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้านนอก ผู้คุมเองก็เป็นคนของราชสํานักเช่นกัน ทําให้เขาได้รับข้อมูลมาว่าคนด้านนอกเป็นผู้ศรัทธาลัทธิประหลาดที่มีนิโคลเป็นหัวหน้าลัทธิ ที่พวกเขามาล้อมปราสาทเอาไว้เพราะเชื่อคําสอนของเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
เปรี้ยง!!
ไม่พูดพร่ําทําเพลง ผู้คุมเดินมาเตะเข้าที่ใบหน้าของนิโคลจนนิโคลล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนจะเริ่มใช้แสในมือฟาดไปบนร่างของนิโคลอย่างแรงแบบไม่สนด้วยซ้ําว่าจะเกิดบาดแผลแบบไหน
“ฟังให้ดี พระเจ้าจอมปลอมของเจ้าก็เป็นเพียงภาพมโนจิตที่เจ้าสร้างขึ้นเอง มันไม่มีตัวตนอยู่จริง ต่อให้ข้าเฆี่ยนตีเจ้าจนตายที่นี่ก็ไม่มีพระเจ้าองค์ไหนมาช่วยทั้งนั้น”ผู้คุมว่าพลางหวดซ้ําลงไปบนแขนของนิโคลจนเนื้อฉีกขาด ความเจ็บปวดเหล่านี้ทําให้นิโคลร้องออกมาอย่างทรมานและหลั่งน้ําตาออกมาจมอาบสองแก้ม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีท่าทีจะยอมฟังผู้คุมแต่อย่างไร
“ทั้งหมดเป็นประสงค์ของพระเจ้าค่ะ หากข้าตายก็เป็นเพราะประสงค์ของพระเจ้าแล้วค่ะ”นิโคลตอบทั้งๆที่เจ็บจนอยากจะกรีดร้องออกมา แต่เพราะเชื่อว่านี่เป็นบททดสอบของพระเจ้าก็เลยไม่แม้แต่จะร้องขอชีวิต เธอเชื่ออย่างจริงจังว่านี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่พระเจ้าต้องการแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรเธอก็จะยอมทําตาม
“นังเด็กนี่ เชื่อจนฝังหัวไปแล้วงั้นเหรอ”ผู้คุมได้ยินเช่นนั้นกลับไม่ได้สนใจพระเจ้าที่นิโคลพูดแม้แต่น้อย เขายกแส้ขึ้นก่อนจะฟาดลงมาบนตัวของนิโคลอีกหลายครั้งจนเลือดไหลนอกไปทั่วห้อง สําหรับคนที่ไม่เชื่อแล้ว เหล่าสาวกผู้เพ้อพกต่อพระเจ้าในจินตนาการนั้นเป็นเหมือนกับคนบ้าไม่มีผิด ทั้งๆที่ถ้ายัยเด็กนี่ยอมเปิดปากบอกกับกลุ่มคนหน้าปราสาทว่าตนเองเพียงสร้างพระเจ้าปลอมๆขึ้นมาเท่านั้นเรื่องทั้งหมดก็จะจบแล้วแท้ๆ
เปรี้ยง!!
แส้ที่ฟาดลงมายังร่างของนิโคลไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย แต่ละแสราวกับจะเปิดเนื้อให้เห็นกระดูกมันทุกแส้ทําเอานิโคลเจ็บแสบจนแทบจะสิ้นสติ แต่…
วูบ…
ขณะที่สติของนิโคลกําลังจะหมดลง เวทรักษาจากผู้คุมก็ทําให้บาดแผลของนิโคลบรรเทาลงก่อนจะเริ่มสมานตัวเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว มันเป็นเวทรักษาที่น่าเหลือเชื่อมากแต่ที่ผู้คุมทําแบบนั้นไม่ใช่เพราะสงสารนิโคล แต่…
วูบ!!
ไม่ใช่แค่เวทรักษาเท่านั้น ผู้คุมยังใช้เวทแก้คําสาปหลับใหลใส่นิโคลอีกต่างหาก แม้นิโคลจะไม่ได้โดนคําสาปทําให้หลับแต่ผลของเวทมนตร์นี้ก็ทําให้นิโคลลืมตาตื่นอีกครั้งแม้จะอยากสลบแค่ไหนก็ตาม
เปรี้ยง!!
ทันทีที่รักษาเสร็จ ผู้คุมก็เตะร่างเล็กๆของนิโคลอีกครั้งก่อนจะเริ่มฟาดแส้ลงไปบนร่างของนิโคลหลายต่อหลายครั้งพร้อมพร่ําบอกให้นิโคลยอมรับความผิดและยอมรับเสียทีว่าพระเจ้าของเธอมันเป็นเพียงสิ่งหลอกลวง แต่ถึงอย่างนั้นนิโคลก็ไม่มีท่าที่จะสิ้นศรัทธาแม้แต่น้อย เธอยังคงตอบว่านี่คือประสงค์ของพระเจ้าไม่ยอมหยุด และทนการสอบสวนของผู้คุมได้จนจบไปอีกวัน
เปรี้ยง!!
ร่างของทหารคนหนึ่งกระแทกตกลงมาบนพื้นเพราะพลังโจมตีของ ยักษ์สองหัว ที่กําลังยืนอยู่หน้าเมืองแห่งหนึ่ง นี่เป็นอีเวนท์ปกป้องเมืองเช่นเดียวกันกับอีเวนท์ยักษ์แห่งหุบเขากระดูกที่พวกกวีไปทําเมื่อครั้งก่อน เพียงแต่ครั้งนี้ทหารที่คอยรับมือยักษ์มีเพียงทหารบางส่วนของเมืองเท่านั้น
“อดทนไว้ พวกเรากําลังแจ้งไปทางกําลังเสริม อย่าให้มันเข้ามาในเมืองได้ เจ้าเมืองสัง กรอยู่บนกําแพงเมืองพร้อมส่งข้อความแจ้งไปยังเมืองต่างๆเพื่อขอกําลังเสริม ก่อนหน้านี้มันง่ายกว่าเมื่อมีคําทํานายของนิโคล พวกเขาจะรู้ล่วงหน้าว่าจะมีอะไรบุกมา พอถึงเวลาทหารที่เตรียมพร้อมเอาไว้พร้อมนักผจญภัยที่เป็นผู้ศรัทธา ของนิโคลก็จะเข้ามาช่วยเหลือก่อนจะส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปเสียอีก ทําเอาเจ้าเมืองต่างๆลืมไปเลยว่าก่อนจะมีคําทํานายการส่งคําขอไปขอกําลังเสริมนั้นยากเย็นแค่ไหน
ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงสงครามระหว่างอาณาจักรทริชและอาณาจักรโฟรทด้วยแล้วยิ่งทําให้การขอกําลังเสริมยากขึ้นเข้าไปอีก ทหารส่วนใหญ่ถูกส่งไปประจําการทางเหนือเพื่อปกป้องอาณาจักรตนเองเอาไว้ ทําให้โอกาสรอดจากสถานการณ์นี้ยากลําบากมาก
ไม่ใช่แค่เมืองนี้เท่านั้น หลายๆเมืองที่เคยได้รับคําทํานายของนิโคลเองก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แม้บางเมืองจะป้องกันได้บางเมืองจะป้องกันไม่ได้ แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าหากมีคําทํานายของนิโคลและกองทัพนักผจญภัยมาช่วยเหลือก็คงมีความเสียหายน้อยกว่านี้
ทั้งหมดที่มันเป็นแบบนี้เพราะองค์จักรพรรดิจับตัวท่านนิโคลไป รวมถึงแบ่งกําลังของนักผจญภัยไปช่วยในสงครามทางเหนือด้วย แม้เหล่านักผจญภัยจะสามารถเดินทางข้ามเมืองมาช่วยป้องกันได้ แต่เพราะมีการปะทะกันทางเหนืออยู่หลายครั้งทําให้ไม่สามารถขอกําลังได้เหมือนที่ผ่านมา แม้สภาพสงครามทางเหนือจะดีขึ้น แต่ ประชาชนในเมืองต่างๆที่ถูกรุกรานจากเหล่ามอนสเตอร์กลับรู้สึกราวกับตนโดนทอดทิ้ง
เป็นเพราะจักรพรรดิผู้แสนโง่เขลาหวาดกลัวคําทํานายของท่านนิโคลก็เลยจับตัวท่านนิโคลไป เป็นเพราะหวาดกลัวว่าจะพ่ายแพ้สงครามเลยเอากําลังของนักผจญภัยไปใช้เสียเองโดยไม่สนว่าประชาชนด้านหลังจะต้องรับมือกับสถานการณ์แย่ๆมากมายขนาดไหน ความรู้สึกขุ่นมัวและเกลียดชังองค์จักรพรรดิของชาวเมืองเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนน่าตกใจ และเพราะความเกลียดชังที่มากขึ้นทําให้เหล่าประชาชนบางกลุ่มเริ่มวางแผนอะไรบางอย่างกันแล้ว….
“องค์ชาย เหนื่อยหรือเปล่าครับ”เดเนฟ สหายคนสนิทขององค์ชายแฮโรลด์ยามนี้ยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบร่วมกับเหล่าทหารที่กําลังเก็บกวาดพื้นที่หลังจากขับไล่ทหารของฝั่งโฟรทออกไปได้อย่างฉิวเฉียด
“ไม่หรอก ต้องขอบคุณที่มีเหล่านักผจญภัยมาช่วย พวกเขา….ช่วยพวกเราได้เยอะจริงๆ”องค์ชายตอบพลางมองไปทางสนามรบที่เพิ่งจะรบกันเสร็จ ตอนแรกเหล่าผู้นําของอาณาจักรต่างก็คิดกันว่านักผจญภัยตอนนี้เป็นได้เพียงกําลังเสริมเท่านั้น แต่หลังจากกวีเข้ามานําเสนอพวกเขาก็ใช้ความสามารถของนักผจญภัยในการขนย้ายเสบียงและจัดหาวัสดุต่างๆได้มากขึ้น แม้จะขอซื้อแร่ต่างๆไม่ได้ แต่ก็สามารถซื้ออาวุธจากพวกนักผจญภัยมาได้เป็นจํานวนมาก แถมยามเข้าสงครามจริงๆ เหล่าทหารกล้าที่ไม่กลัวตายอย่างเหล่านักผจญภัยก็ทําให้รูปการณ์ของสนามรบเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แถมฝีมือของนักผจญภัยของฝั่งอาณาจักรทวิชยังเหนือกว่านักผจญภัยของอาณาจักรโฟรทมาก เพียงพริบตาเดียวก็กวาดล้างเอากลุ่มทหารของเหล่านักผจญภัยไปเกือบครึ่ง พอกวาดล้างจนหมดก็กลับมาช่วยทหารของฝ่ายตนได้อย่างเหลือเชื่อ
แถมเพราะมีกวีเป็นตัวกลางคอยสั่งการเหล่านักผจญภัยร่วมอยู่ในกองทัพ ทําให้ทหารของฝั่งอาณาจักรทริชผสานงานกับนักผจญภัยได้ดีมาก ถึงขั้นมีการรวมปาร์ตี้กับเหล่านักผจญภัยกับทหารของอาณาจักรเลยทีเดียว
“ท่านไอช่าเองก็คงเหนื่อยมากเลยสินะครับ”เดเนฟหันไปมองทางไอช่าที่เดินตามองค์ชายมาด้านหลังหนึ่งในคนที่ถูกย้ายมาอยู่ในเรดขององค์ชายก็คือไอช่านั่นเอง ไม่ใช่แค่เพราะองค์ชายสนิทสนมกับไอช่าเท่านั้น แต่เพราะนักบวชของอาณาจักรไม่ยอมมาเข้าร่วมสงครามเกินครึ่งเหล่ากําลังนักบวชเลยไม่พอต่อให้เอานักบวชของนักผจญภัยมาช่วยแล้วก็ตาม
“ไอช่าเก่งกว่าที่คิดนะ แค่นี้สบายมาก”ไอข่ายิ้มกว้างก่อนจะมองไปทางแฮโรลด์เหมือนจะอ้อนขอคําชม แน่อยู่แล้ว ไอช่าเก่งกว่าที่เห็นภายนอกมาก ทักษะด้านการซัพพอร์ตของไอช่าอยู่แถวหน้าจริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย เวลามีไอช่าอยู่ทหารในเรดเคลื่อนไหวได้ง่ายและแทบไม่ต้องกลัวสถานะผิดปกติจากฝั่งตรงข้ามเลย เรียกได้ว่า มีค่าเกินกว่าจะเอามาอยู่ในเรดขององค์ชายที่อยู่แนวหลังเพื่อคอยสั่งการและมีโอกาสปะทะน้อยเสียด้วยซ้ํา
“แน่นอนครับ ผมได้เห็นกับตาแล้วคงได้แต่ยอมรับ”เดเนฟตอบพลางพยักหน้าช้าๆ สําหรับจอมเวทผู้มาก ประสบการณ์อย่างเดเนฟแล้ว การได้เห็นวิธีการใช้เวทมนตร์ของไอช่านับว่าเปิดหูเปิดตามาก ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่การต่อสู้ของเหล่านักผจญภัยคนอื่นๆเองก็ทําให้เดเนฟสนใจไม่น้อย
“ใช่ ไอช่าสุดยอดมากเลยล่ะ ผมเองก็ต้องขยันบ้างแล้วสิ”แฮโรลด์ยิ้มเจื่อนๆออกมาก่อนจะมองไปที่ดาบของตัวเอง เพราะอยู่แนวหลังทําหน้าที่สั่งการและตัดสินใจแทนท่านพ่อที่ไม่ได้มาร่วมสงคราม องค์ชายเลยไม่ได้ชักดาบออกมาเสียด้วยซ้ํา แต่ถ้ามีคนเข้ามาถึงตัวได้ละก็บางทีองค์ชายแฮโรลด์อาจจะป้องกันตัวไม่ได้ด้วย ซ้ําเพราะเลเวลขององค์ชายยังไม่ถึง 200 เลย นับว่าต่ํามากเมื่อเทียบกับเหล่าทหารคนอื่นๆ
“จริงสิ ท่านไอช่า พอจะติดต่อท่านกวีให้ผมได้หรือเปล่าครับ”ระหว่างกําลังเดินตรวจตราภายในสนามรบอยู่ๆเดเนฟก็เข้าไปหาไอช่าก่อนจะขอร้องอะไรบางอย่าง
“ได้สิ ไอช่ายินดีช่วยเสมอเลย”ฝ่ายไอช่าเองเห็นเดเนฟเข้ามาขอร้องก็ตอบรับด้วยท่าที่ยิ้มแย้มทันที หากช่วยเหลือได้ไอช่าก็อยากจะช่วยอยู่แล้ว
“อีกไม่กี่วันสมาคมเวทมนตร์จะมีการจัดการสัมมนาครับ ข้าอยากจะส่งจดหมายเชิญให้ท่านกวีครับ”เดเนฟว่า พลางนําจดหมายฉบับหนึ่งยื่นให้ไอช่า การสัมมนาของสมาคมจอมเวทเป็นการประชุมระหว่างจอมเวทผู้มีชื่อเสียงและจอมเวทชั้นผู้ใหญ่ของสมาคมเวทมนตร์ หากได้เข้าร่วมย่อมได้ความรู้กลับมาแน่ๆ ไหนจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับคนในสมาคมเวทมนตร์อีกต่างหาก