Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ - ตอนที่ 443
หุบเขาทารัคแห่งสมาพันธ์พ่อค้าบรุทเป็นเขตแดนหวงห้าม หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป คงได้แต่ฝันหากคิดจะย่างกรายเข้าไปที่นั่น เหมือนกับป่าทมิฬแห่งจักรวรรดิแลนซล็อต ที่มีเพียงเหล่านักผจญภัยผู้กล้าหาญอย่างที่สุดเท่านั้นที่จะกล้าเดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของป่า
ด้วยพฤติการณ์แปลกประหลาดของเหล่าสัตว์วิเศษของหุบเขาทารัคเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้นักผจญภัยมากมายหลายคนต้องระเห็จหนีออกมา แม้แต่จอมขมังเวทย์ธาตุสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ เรย์โนลด์ ดิลา แห่งสมาพันธ์พ่อค้าบรุทยังถึงกับประกาศห้าม ทุกคนจึงพากันหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนั้น
เหล่าองครักษ์ชุดดำผู้ใต้บังคับบัญชาของเซซิเลีย เดินทางเข้าไปในหุบเขาทารัคภายใต้การนำของหานซั่ว แล้วพวกเขาก็รู้สึกว่าไม่มีใครแม้สักคนที่เคยย่างกรายเข้าไปที่นั่นมาก่อน ทั่วทั้งหุบเขาสงบเงียบจนน่าขนลุก
แต่ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาที่ไม่สม่ำเสมอ แตกต่างจากป่าทมิฬอย่างสิ้นเชิงที่เต็มไปด้วยหนองน้ำมากมาย
“ทุกวันนี้ กลุ่มต่าง ๆ พากันส่งคนเข้ามาสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นภายในหุบเขาทารัค แต่เป็นเพราะพวกสัตว์วิเศษที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างเกิดคุ้มคลั่งกันไปหมด ซึ่งนับวันก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกที จำนวนคนตายก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเหตุผลที่พวกเขาพากันออกห่างจากสถานที่แห่งนี้ในที่สุด”
เซซิเลียพูดอย่างรำคาญใจ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย
ด้านหลังของเซซิเลีย คือสมาชิกองครักษ์ชุดดำจำนวน 12 คนที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเธอโดยตรง เธอมักจะพากลุ่ม 12 คนนี้ให้คอยติดสอยห้อยตามเธอไปด้วยทุกที่ ในบรรดาคนเหล่านั้น มีทั้งนักเวทย์ นักดาบ อัศวิน โจร และนักธนู ถือว่าเป็นกลุ่มที่องค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์อย่างยิ่ง
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
และทั้ง 12 คน ต่างก็เป็นยอดฝีมือที่เซซิเลียคัดสรรมาด้วยตัวเอง หลังจากผ่านหลายต่อหลายปีที่ทำงานร่วมกัน พวกเขาก็สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นซึ่งเชื่อมโยงถึงกันอย่างลงตัวเท่าที่กลุ่ม ๆ หนึ่งจะสร้างขึ้นมาได้ แม้ในช่วงเวลาที่วิกฤติที่สุด วีรบุรุษก็จะถือกำเนิดขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีหานซั่วเป็นผู้นำ กลุ่มของพวกเขาจึงแข็งแกร่งมากขึ้นอีก
“ให้ตาย ทำไมตลอดทางมาจนถึงนี่ ถึงไม่มีร่องรอยของมนุษย์เลยสักคนนะ?”
จอมโจรทิคารุร้องถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ขณะสำรวจพื้นที่อย่างระมัดระวัง
ตลอดการเดินทาง ทิคารุพุ่งเป้าไปที่การบุกเบิกพื้นที่ทุกทิศทาง เพื่อนำข้อมูลเส้นทางล่วงหน้ากลับไปให้กลุ่มมากที่สุด เช่นนั้นแล้ว หลังจากเดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของหุบเขาได้ประมาณครึ่งวัน พวกเขาก็ไม่ได้พบกับกลุ่มนักผจญภัยใด ๆ และไม่มีใครสักคนที่เข้าไปภายในหุบเขาทารัคเพื่อตรวจสอบสถาณการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
และจากการสำรวจของสมาชิกองครักษ์ชุดดำ มีนักผจญภัยเพียงส่วนน้อยที่ทราบถึงสถานการณ์นั่น และเข้ามาภายในหุบเขาทารัคในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีพวกเขาอาจจะเข้าไปในหุบเขาลึกกว่านี้แล้วก็ได้ พวกเราน่าจะต้องเร่งฝีเท้าให้มากกว่านี้แล้วล่ะ”
เซซิเลียตอบโดยไม่คิดมากนัก แล้วไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม สายตาของเธอก็จับจ้องไปที่หานซั่วซึ่งกำลังเดินอยู่ด้านหลังของพวกเขา
ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเข้ามาในหุบเขาทารัค หานซั่วก็เอาแต่นิ่งเงียบมาโดยตลอด แต่ก็ยังติดตามกลุ่มมาไม่ห่าง บางครั้งบางคราว เขาก็หยิบตำราเวทมนตร์เล่มหนาออกมา ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจเลยสักนิดถึงสถานการณ์อันตรายที่เกิดขึ้นในหุบเขาทารัคในช่วงเวลานี้
ตั้งแต่ตอนที่เซซิเลียปลุกหานซั่วขึ้นในห้องลับ หานซั่วก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับ “อาคมแห่งความอ่อนแอ” มาตลอดทาง เพราะมันเป็นเวทมนตร์ที่ลึกลับซับซ้อนและมีความยุ่งยากอย่างยิ่ง เขาจึงเอาแต่เรียกตำราเวทมนตร์ออกมาจากแหวนมิติเล่มแล้วเล่มเล่า และศึกษาค้นคว้าหาคำตอบอย่างตั้งใจ
ซ่า……
ทันใดนั้นเอง เสียงความเคลื่อนไหวของสัตว์ก็ดังมาแต่ไกล
จอมโจรทิคารุขมวดคิ้ว และพุ่งตัวจากต้นไม้ใหญ่จากต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่งไปทางข้างหน้า จนกระทั่งเขาไปหยุดอยู่บนกิ่งของต้นหลิวต้นหนึ่ง และเพ่งสมาธิมองหาต้นทางของเสียงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ดูเหมือนจะมีสัตว์วิเศษกำลังมาทางนี้ พวกเราต้องระวังตัวกันให้ดี ถ้ามันมากันฝูงใหญ่ล่ะก็ พวกเราคงรับมือลำบากมากทีเดียว หวังว่ารอบนี้พวกเราคงไม่โชคร้ายนะ”
เซซีเลียพูดกับลูกน้องของเธอ พลางเรียกคทาเวทมนตร์ที่ทำขึ้นเพื่อนักบวชโดยเฉพาะออกมา
ส่วนหานซั่ว ที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับอาคมแห่งความอ่อนแอ เวทมนตร์ที่จะทำให้ศัตรูอ่อนแอลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ก็ได้ยินเสียงซ่าที่กำลังใกล้เข้ามาก่อนคนอื่น ๆ จะได้ยินเสียอีก โดยไม่จำเป็นต้องส่งปีศาจอาคมออกไปสำรวจรอบทิศทางเหมือนเคย หานซั่วก็สามารถรับรู้ได้ด้วยจิตของตัวเองว่ามีสัตว์วิเศษฝูงใหญ่กว่า 100 ตัวกำลังใกล้เข้ามาทุกที พวกมันทั้งหมดมีระดับที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะเป็นระดับ 3 และ 4 ส่วนตัวที่แข็งแกร่งที่สุดก็มีเพียงระดับ 1 ถึง 3 ที่เป็นพวกแถวหน้าเท่านั้น และไม่มีวี่แววของสัตว์วิเศษระดับสุดยอดเลยสักตัว เช่นนั้นแล้ว หานซั่วจึงไม่รู้สึกเป็นกังวลมากนัก
แล้วจอมโจรที่ห้อยโหนตัวไปตามต้นหลิวเพื่อล่วงหน้าไปตรวจสอบสถานการณ์เมื่อครู่ ก็ดีดตัวขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะลงมายืนเบื้องหน้าเซเซเลียอย่างมั่นคง
“พวกสัตว์วิเศษที่กำลังใกล้เข้ามามีเป็นร้อยตัว ดูเหมือนพวกมันตั้งใจมุ่งหน้ามาหาเรา”
ทิคารุพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
“เตรียมตัวสู้ สัตว์วิเศษพวกนี้น่าจะรับมือไม่ยากหรอก!”
เซซิเลียออกคำสั่งอย่างหนักแน่น ไม่นานนัก พวกเขาก็เริ่มสร้างเขตแดนกับดักขึ้นมา ทั้งนักธนู นักเวทย์ และนักดาบต่างประจำตำแหน่งของตน โดยมีนักเวทย์และนักธนูอยู่ตรงใจกลาง
ส่วนหานซั่วที่นั่งอยู่ตรงกลาง ก็ขมวดคิ้วและวางตำราเล่มใหญ่ลงชั่วคราว เขามองไปทางเซซิเลียที่กำลังกำกับลูกน้องของตนให้สร้างเขตแดนป้องกัน พลางยิ้มเล็กน้อย
“ให้ข้าช่วยมั้ย?”
“ขอบใจนะ แต่พวกเราจัดการได้”
เซซิเลียตอบ ด้วยมั่นใจว่ากลุ่มของเธอสามารถรับมือกับฝูงสัตว์วิเศษได้อย่างแน่นอน
หานซั่วพยักหน้า โดยไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น เขาก้มหน้าก้มตาอ่านตำราเวทมนตร์ “ศาสตร์แห่งความตาย” ในมือต่อไป เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจความลึกซึ้งของอาคมแห่งความอ่อนแอให้มากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแต่อาคมแห่งความอ่อนแอจะทำให้ศัตรูที่เข้ามาในเขตแดนรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนแรงแล้ว มันยังส่งผลอัมพาตกับวิญญาณของคน ๆ นั้นด้วย เพราะอาคมแห่งความอ่อนแอประกอบไปด้วยการร่ายคาถา 2 ส่วน — ส่วนหนึ่งโจมตีร่างทางกายภาพ และอีกส่วนหนึ่งโจมตีวิญญาณของเหล่าศัตรู
แต่อย่างไรก็ตาม การปลดปล่อยความเกรี้ยวกราดที่แท้จริงของอาคมแห่งความอ่อนแอนั้น ผู้ร่ายจะต้องเชี่ยวชาญในความสมดุลของพลังที่ควบคุมทั้งเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ หากล้มเหลวในการควบคุมอย่างใดอย่างหนึ่ง เท่ากับว่าอาคมฯ ทั้งหมดล้มเหลวไปด้วย หานซั่วเองก็ได้ฝึกฝนมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ จึงยังไม่สามารถผสานรวมทั้ง 2 คาถาให้เป็นหนึ่งเดียวและสร้างอาคมแห่งความอ่อนแอขึ้นมาได้
หานซั่วเข้าใจจากตำรา ว่าแก่นสำคัญของสรรพชีวิตคือวิญญาณ และการทำลายวิญญาณ ก็จะเป็นการทำลายร่างกายของศัตรูด้วยเช่นกัน หากรู้สึกว่าจิตใจอ่อนแอ ก็จะส่งผลต่อร่างกายให้สูญเสียกำลังตามไปด้วย และด้วยเหตุผลนั้นเอง หานซั่วก็สรุปได้ว่าเป้าหมายหลักของเวทมนตร์นี้คือการโจมตีจิตวิญญาณ และคิดว่าตนเองได้มาถูกทางแล้ว แต่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อซึมซับข้อมูลทั้งหมดจนกว่าจะช่ำชอง เขาจึงผ่อนคลายสมองด้วยหวังว่าจะมองเห็นทางสว่าง
ขณะที่หานซั่วกำลังศึกษาอย่างช้า ๆ สัตว์วิเศษของหุบเขาทารัคนับร้อยตัวก็กำลังรุดหน้ากันเข้ามา ราวกับว่าพวกมันได้กลิ่นของมนุษย์ ดวงตาของพวกมันเป็นสีแดง และส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งขณะพุ่งตัวเข้าใส่กลุ่มของเซซิเลียและคนของเธอ
“เจ้าสัตว์วิเศษพวกนี้คุ้มคลั่งไปกันหมดแล้ว!”
เซซิเลียร้องอุทานอย่างแผ่วเบา คทาเวทมนตร์ในมือปลดปล่อยแสงสีเงินที่ลอยไปยังนักดาบทั้ง 5 คนที่ยืนอยู่แนวหน้า เพื่อเสริมกำลังกายและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเขา
ทั้งนักเวทย์ธาตุไฟ นักเวทย์ธาตุสายฟ้า และนักเวทย์ธาตุน้ำที่อยู่ข้าง ๆ เซซิเลียก็ร่ายคาถาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวทย์อสรพิษอัคคีพุ่งตัวออกไปอย่างเกรี้ยวกราด ตามมาด้วยสายฟ้าที่ผ่าลงมาจากบนฟากฟ้า และรากไม้มากมายก็พุ่งขึ้นมาจากดินราวกับลิ่มอันแหลมคม เวทย์โจมตีทั้งหมดพุ่งเป้าไปยังฝูงสัตว์วิเศษที่กำลังกรูกันเข้ามาหาพวกเขา
เมื่อเวทมนตร์มากมายถาโถมเข้าใส่ หายนะก็บังเกิดกับสัตว์วิเศษฝูงนั้นทันที สัตว์วิเศษระดับต่ำหลายตัวสูญสิ้นเขี้ยวเล็บไปในทันทีที่โดยการโจมตีด้วยเวทมนตร์ระลอกแรก มีเพียงพวกระดับ 1 ระดับ 2 และระดับ 3 บางตัวที่ยังสามารถต้านทานเวทมนตร์เหล่านั้น และพาร่างกายอันแข็งแรงทนทานของพวกมันรุดหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นักธนู 2 คน ปลดปล่อยลูกธนูออกไปอย่างรัวเร็วด้วยท่วงท่าอันงดงาม หลังจากที่พุ่งสูงขึ้นไปบนฟ้า พวกมันก็ตกลงมาเสียบทะลุร่างของสัตว์วิเศษและฆ่าพวกมันตายไปทีละตัว แต่ละดอกไม่พลาดเป้าเลยแม้แต่น้อย
การโจมตีจากทั้งนักเวทย์และนักธนู ทำให้สัตว์วิเศษตายไปถึง 1 ใน 3 ก่อนที่พวกมันจะเข้ามาใกล้พวกเขาได้เสียอีก ส่วนพวกที่เหลืออยู่ สัตว์วิเศษทรงพลังบางตัวที่เข้ามาใกล้พื้นที่แล้ว ก็สามารถปล่อยพลังหรือพ่นของเหลวที่เป็นพิษออกมาได้ โดยเฉพาะอินทรีน้ำแข็งและเมดูซ่าที่เริ่มปล่อยพลังน้ำแข็งและพิษออกมา
เซซิเลียร่ายเวทย์เสริมแกร่งหลากหลายประเภทใส่ลูกน้องของเธออย่างไม่ลดละ ในขณะที่นักเวทย์ทั้ง 3 คน ก็ร่ายเวทย์สร้างม่านพลังป้องกันโจมตีที่โถมเข้ามา แล้วกับดักที่พวกเขาจัดวางไว้ล่วงหน้าก็เริ่มแสดงผล เมื่อสัตว์วิเศษมากมายเริ่มนอนจมกองเลือดไปทีละตัว ๆ
เรียกได้ว่าเซซิเลียและบรรดาสมาชิกองครักษ์ชุดดำที่อยู่ข้าง ๆ เธอสามารถต่อสู้ร่วมกันอย่างดีเยี่ยม ด้วยความร่วมมือของทั้งกลุ่ม สัตว์วิเศษก็ถูกฆ่าตายไปเป็นจำนวนมาก เวทมนตร์และลูกธนูสามารถสังหารพวกมันได้ก่อนที่จะเข้ามาใกล้ และหากมีสัตว์ตัวใดที่หลุดเข้ามาได้ พวกมันก็ต้องเจอเข้ากับนักดาบทั้ง 5 คนที่คอยป้องกันอยู่ด้านหน้า พร้อมที่จะจัดการศัตรูเหล่านั้นได้ทุกเมื่อ ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเซซิเลียและคนของเธอเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนั้น หานซั่วมองไปยังเหล่าสัตว์วิเศษที่ยังคงกรูกันเข้ามาอย่างบ้าคลั่งโดยไม่เกรงกลัวความตายแต่อย่างใด ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับเพิ่งรู้ซึ้งถึงอะไรบางอย่าง แล้วเขาก็ร่ายเวทย์ขึ้นมาบทหนึ่ง ไอแห่งความตายอันเย็นเยียบแผ่กระจายไปในอากาศ และปกคลุมฝูงสัตว์วิเศษพวกนั้นไว้ทั้งหมด
ทันใดนั้นเอง เหล่าสัตว์วิเศษระดับสูงที่พุ่งตัวเข้ามา กลับมีความเชื่องช้าขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าพวกมันถูกผลของยาระงับประสาทอันทรงพลังอย่างฉับพลัน และทำให้ความเร็วของพวกมันช้าลงไปกว่าครึ่ง
“ข้าทำได้แล้ว!”
หานซั่วสูดหายใจด้วยความภาคภูมิใจ พลางตกตะลึงกับเหล่าสัตว์วิเศษที่อยู่ในเขตแดนของอาคมแห่งความอ่อนแอที่กำลังตกอยู่ในภาวะเฉื่อยชา
แต่ทว่า เสี้ยววินาทีนั้นเอง หานซั่วก็รู้สึกได้ถึงตัวตนที่ทรงพลังอย่างมหาศาลกำลังเฝ้ามองพวกเขาอยู่ เขาหรี่ตาลง และพยายามใช้จิตเพื่อค้นหาสิ่งนั้น
***********************