Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ - ตอนที่ 405
ไม่เพียงแต่เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กจะมีสติปัญญาของตัวเอง แต่มันทั้งชั่วร้ายและโหดเหี้ยม ทำให้หานซั่วรู้สึกสับสนไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หานซั่วสามารถมั่นใจได้อย่างแน่นอน ก็คือในตอนนี้เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กสามารถเอาตัวรอดในมิติมืดได้ดีขึ้นแล้ว ในดินแดนที่เต็มไปด้วยการรบราฆ่าฟันและการรุกราน เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กนั้นแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้เขารู้สึกวางใจ
เมื่อผู้นำแห่งตระกูลเมนโลถูกฆ่าตาย ขวัญกำลังใจสุดท้ายที่ฟลอริด้าพยายามยื้อไว้อย่างเต็มที่นั้นก็พังทลายอย่างไม่เป็นท่า ฟลอริด้าไม่กล้าที่จะต่อสู้กลางอากาศอีกต่อไปแล้ว ก่อนจะตะโกนสั่งการให้คนของเขาล่าถอยออกไปอย่างสิ้นหวัง และบินไปหาลอเรตัน
“หึหึหึ ยังคิดหนีอยู่อีกเรอะ?”
เสียงหัวเราะอย่างเย็นชาของหานซั่วดังลั่นขึ้นทันที เขาสั่งการให้ทั้งมังกรดำกิลเบิร์ต ไฮดร้าลาเนีย และเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กรีบมารวมตัวกันข้างกาย ก่อนจะร่วมกันต่อสู้บุกฝ่าแนวป้องกันเพื่อเข้าให้ถึงตัวฟลอริด้า
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
ยังคงมียอดฝีมือจากกองกำลังฯ เคียวรุ้งที่ล้อมฟลอริด้าไว้เหลืออยู่อีกราว 20 คน ซึ่งหากฟลอริด้าลงไปสมทบกับลอเรตันได้สำเร็จ การฆ่าเขาก็จะลำบากยากเย็นยิ่งกว่าเดิม ครั้งนี้ หานซั่วตั้งใจจะจัดการกับฟลอริด้าให้ได้ เพื่อที่จะตัดปัญหาอันไร้ที่สิ้นสุดที่จะเกิดขึ้นกับทรังคส์
ก่อนหน้านี้ที่หานซั่วมุ่งหน้าไปหาฟลอริด้าโดยลำพังพร้อมจิตสังหารอันคุกรุ่น เหล่ายอดฝีมือที่อยู่รอบตัวฟลอริด้าต่างก็ละทิ้งทุกสิ่งอย่างเพื่อมาโจมตีหานซั่วอย่างสุดกำลัง แม้ว่าเขาจะสังหารยอดฝีมือไปมากมายระหว่างทาง เขาก็ยังไม่สามารถจัดการกับฟลอริด้าได้อย่างที่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีสุดยอดสัตว์วิเศษถึง 2 ตัว รวมทั้งเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก เหล่ายอดฝีมือที่อยู่รอบตัวฟลอริด้าก็ไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ต่อพวกเขาได้เลย หานซั่วเพียงจับจ้องไปที่ฟลอริด้าอย่างไม่วางตา ส่วนที่เหลือก็ถูกจัดการโดยเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก กิลเบิร์ต และลาเนีย
ทั้งเวทย์ฝนเพลิง ลิ่มน้ำแข็ง คมวายุ สายฟ้า และเวทย์อื่น ๆ ต่างถูกยิงออกไปจู่โจมหานซั่วและคนอื่น ๆ และเป็นเพราะเวทย์หลายหลายชนิดที่ถาโถมออกมาพร้อม ๆ กันนี้เอง ทำให้ท้องฟ้าที่ขมุกขมัวนั้นเปล่งประกายไปด้วยสีสันต่าง ๆ นานา ราวกับพลุที่ระเบิดและแตกกระจายอย่างสวยสดงดงาม
แก่นมนตราของหานซั่วโคจรอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นม่านพลังที่เบาบางราวกับปีกแมลงที่ห่อหุ้มร่างของเขาอยู่ และสำหรับการป้องกันชั้นนอก โล่กระดูกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนามก็ปรากฏขึ้นมา พร้อมปัดป้องเวทมนตร์มากมายที่ถาโถมเข้าใส่ ส่วนกิลเบิร์ตกับลาเนียก็ใช้โอกาสนั้นโจมตีด้วยพิษและฝนที่โหมกระหน่ำ
และด้วยชั้นของม่านพลังป้องกันขมุกขมัวที่ปกคลุมร่างกาย หานซั่วก็สามารถเคลื่อนตัวผ่านกลุ่มคนมากมายไปได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาบินฉวัดเฉวียนไปมาเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็มาถึงเบื้องหน้าของฟลอริด้าในที่สุด
หอกกระดูกจำนวนมากระเบิดตัวออกมาจากหานซั่ว ทำให้กลุ่มคนที่ได้แต่ป้องกันตัวจากการโจมตีของกิลเบิร์ตและลาเนียต้องโกลาหลมากขึ้นอีก ตอนนั้นเอง คมมีดพิชิตมารในมือของหานซั่วอันตรธานหายไปอย่างไร้สุ้มเสียงอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบจากทิศทางใดก็มิอาจทราบได้
แล้วเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กซึ่งขี่อยู่บนหลังอสูรกระดูกมาปรากฏตัวด้านหลังกลุ่มของฟลอริด้าอย่างไม่คาดคิด มันยกหอกกระดูกยาวกว่า 3 เมตรขึ้นและพุ่งแทงไปที่ฟลอริด้าขณะที่คนอื่นเพิ่งจะทันสังเกต ปราณแห่งความตายหนาแน่นนั้นนำพาซึ่งความหนาวเหน็บและความสิ้นหวังซึ่งไม่มีอยู่ในโลกนี้
“ข… ข้างหลัง!”
กลุ่มของฟลอริด้าที่ไหวตัวทันร้องตะโกนขึ้นทันที เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงกระแสลมรุนแรง และอันตรายบางอย่างที่อยู่ด้านหลังพวกเขา
ตอนที่เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กสังหาร อดัม เมนโล ก่อนหน้านี้ เป็นช่วงที่หานซั่วไม่ได้จู่โจมกลุ่มของฟลอริด้าอย่างรุนแรงนัก เพราะเขาเองก็กำลังตะลึงมองด้วยความประหลาดใจ พวกเขาจึงพอมีเวลาที่จะเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน และเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กที่สามารถฆ่า อดัม เมนโล ซึ่งขี่ร็อกปีกทองนั้นถือว่าเป็นอันตรายต่อฟลอริด้ามากพอ ๆ กับหานซั่ว คน ๆ นั้นจึงร้องตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงอันดังเมื่อมองเห็นเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กกำลังจะจู่โจมจากทางด้านหลัง
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าจำนวนคนที่คอยช่วยฟลอริด้าอยู่นั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว ทั้งการโจมตีของกิลเบิร์ตและลาเนียจากทั้ง 2 ข้าง การโจมตีของหานซั่วจากด้านหน้า และยังมีบางสิ่งที่ทรงพลังปรากฏขึ้นด้านหลังอีก
หากพวกเขาพุ่งเป้าไปเพียงด้านใดด้านหนึ่ง พวกเขาก็จะไม่สามารถต้านทานด้านอื่น ๆ ที่เหลือได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันหนักหน่วง ฟลอริด้าก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่แสนหนักอึ้งในหัวใจ เขามองไปยังหานซั่วที่กำลังแสยะยิ้มขณะคร่าชีวิตเหล่ายอดฝีมือเพื่อเปิดทางเข้ามา ทันใดนั้นเอง เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าอาวุธของหานซั่วหายไปแล้ว ฟลอริด้าก็รู้สึกหวาดผวาขึ้นมาทันที
โชคร้าย ที่เมื่อเขานึกได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว ชั่วขณะที่เหล่ายอดฝีมือกำลังทุ่มเทเพื่อจัดการกับสัตว์ประหลาดทั้ง 3 และวุ่นวายเกินกว่าที่จะสนใจฟลอริด้า เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา พวกเขาก็เพิ่งจะตระหนักได้ว่าเรื่องเลวร้ายบางอย่างได้เกิดขึ้น
เสี้ยววินาทีนั้น ฟลอริด้ากำลังพยายามใช้เวทมนตร์ธาตุแสงและธาตุสายฟ้าเพื่อการป้องกันในระดับสูงสุด จึงไม่สามารถหยุดคมมีดพิชิตมารได้ทัน ม่านพลังป้องกันของทั้งเวทมนตร์ธาตุแสงและธาตุสายฟ้าของเขาแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ ราวกับเศษแก้ว แล้วคมมีดพิชิตมารก็พุ่งผ่านม่านพลัง ก่อนจะแทงเข้าที่คอของเขาจนทะลุ ทิ้งไว้เพียงรูเหวอะที่เต็มไปด้วยเลือด
ความเคียดแค้นชิงชังในดวงตาของฟลอริด้าค่อย ๆ จางหายไป เมื่อไร้ซึ่งพลังจิต ร่างของเขาก็ร่วงหล่นลงไป และแล้ว หนึ่งในผู้นำของกลุ่มอิทธิพลทั้ง 4 ในหุบเขาแสงตะวัน ก็ตายลงด้วยน้ำมือของหานซั่วไปอีกคนหนึ่ง
เมื่อเหล่ายอดฝีมือจากกองกำลังฯ เคียวรุ้งที่เคยคุ้มกันอยู่รอบ ๆ ฟลอริด้าเห็นว่าหานซั่วฉวยโอกาสสังหารฟลอริด้าไปแล้ว ความรู้สึกสิ้นหวังก็เอ่อล้นขึ้นมาในหัวใจของพวกเขา ในตอนนั้น การโจมตีของเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก กิลเบิร์ต และคนอื่น ๆ ต่างถาโถมเข้ามาราวกับห่าฝน และคร่าชีวิตคนของพวกเขาไปอีกนับ 10
หลังจากที่ฟลอริด้าตาย เหล่ายอดฝีมือระลอกแรกก็ไร้ซึ่งผู้นำ ยอดฝีมือนับสิบคนที่ยังเหลืออยู่ต่างเริ่มล่าถอยอย่างสิ้นหวัง แต่ก็ยังไม่วายถูกกลุ่มของหานซั่วสังหารอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงลอเรตัน คนทั้ง 20 คนก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น
จากยอดฝีมือกว่า 300 คน รวมทั้งสัตว์วิเศษที่บินได้ที่เข้าร่วมการต่อสู้ มีเพียง 19 คน และสัตว์วิเศษอีก 11 ตัว ที่สามารถหนีรอดกลับไปหาลอเรตันได้ ในขณะที่ทั้ง อดัม เมนโล และฟลอริด้า แห่งกองกำลังฯ เคียวรุ้ง ได้หายไปจากกลุ่มอิทธิพลในหุบเขาแสงตะวันตลอดกาล
“ไง ลอเรตัน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”
เมื่อหานซั่วไล่ตามกองกำลังของศัตรูไป เขาก็หยุดยืนอย่างสง่างามอยู่กลางอากาศ พลางทักทายลอเรตันด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ทั้ง 2 ข้างของหานซั่วขนาบไปด้วยสุดยอดสัตว์วิเศษถึง 2 ตัว และเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก ประกอบกับมีฝูงการ์กอยล์อีกนับร้อยที่คอยคุ้มกันและกระพือปีกอยู่เงียบ ๆ เป็นฉากหลัง เมื่อประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ หานซั่วก็ไม่รู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใด ต่อให้มีลูกธนูพุ่งขึ้นมาโจมตีจากด้านล่างก็ตาม
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
ลอเรตันเงยหน้าขึ้นมองบนฟ้า และเห็นว่าหานซั่วกำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาเย้ยหยัน ความรู้สึกต่าง ๆ พลันถาโถมเข้ามาในหัวใจของเขา ทั้งศพของฟลอริด้า และ อดัม เมนโล ต่างนอนแน่นิ่งอยู่ข้าง ๆ ลอเรตัน เมื่อผู้นำกลุ่มอิทธิพลถึง 2 ใน 3 กลุ่มได้ตายไปแล้ว ลอเรตันควรจะรู้สึกยินดี แต่เมื่อมองไปยังหานซั่ว เขาก็ได้แต่รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก
“ใช่ ไม่เจอหน้ากันนานเลยนะ ข้าคิดว่าเจ้าจะมาเร็วกว่านี้ซะอีก นอกจากเจ้าแล้ว ทรังคส์ก็ไม่มีไพ่ตายอะไรเหลืออยู่อีกแล้วนี่นะ”
ลอเรตันถอนหายใจก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาก็มองหานซั่วและพูดขึ้น
“ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ข้าก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก ใช่แล้ว… เป็นข้าเองที่จับตัวทรังคส์ไป แต่ข้าไม่เสียใจหรอกนะ”
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันในหุบเขาแสงตะวัน หากลอเรตันไม่ลุกขึ้นสู้กับทรังคส์ กองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณก็จะมาแทนที่กองกำลังฯ ไคโรจนได้ไม่ช้าก็เร็ว และไม่ว่ายังไง เขาก็จำต้องคิดถึงพวกพ้องของตนเองก่อนเป็นลำดับแรก ดังนั้นแล้ว สิ่งที่เขาทำลงไปก็ถือว่าเข้าใจได้พอสมควร
“ก็นั่นสินะ ไม่มีอะไรต้องพูดแล้วจริง ๆ นับจากวันนี้ไป กองกำลังฯ ไคโรจะถือเป็นศัตรูตลอดกาลของข้าเลยทีเดียว ลอเรตัน ระวังตัวไว้ให้ดีล่ะ”
หานซั่วยิ้มขณะมองลอเรตัน ก่อนจะเหลือบมองไปยังศพของฟลอริด้าและ อดัม เมนโล อีกครั้ง และมุ่งหน้ากลับไปยังกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณ
การโจมตีระลอกแรกของทั้ง 3 กลุ่มอิทธิพลนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่เพียงแต่จะสูญเสียเหล่ายอดฝีมือที่มีไปเกือบทั้งหมด แม้แต่ฟลอริด้า และ อดัม เมนโล ก็ถูกสังหาร ในสถานการณ์เช่นนี้ พันธมิตรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ก็ไร้ซึ่งอำนาจที่จะจัดการกับกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณได้อีกต่อไป
มนุษย์นั้นล้วนแล้วแต่เห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยการตายของฟลอริด้าและ อดัม เมนโล หานซั่วก็ค่อนข้างแน่ใจว่ากองกำลังฯ เคียวรุ้ง และตระกูลเมนโลจะต้องเจอกับความโกลาหลวุ่นวายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกองกำลังฯ เคียวรุ้งของฟลอริด้าที่ต้องเกิดการแก่งแย่งชิงดีจนแตกคอกันเองในที่สุด
หากเป็นเช่นนั้น ภัยคุกคามที่จะเกิดกับกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณก็จะลดน้อยลงไปอย่างมาก หานซั่วเพียงแค่ต้องเฝ้าสังเกตการณ์ความพังพินาศของพวกนั้นอยู่ห่าง ๆ ก็เพียงพอ ดังนั้นแล้ว เขาจึงจากไปอย่างไม่สนใจใยดี
แล้วสิ่งต่าง ๆ ก็เป็นไปตามที่หานซั่วคาดการณ์ไว้ หลังจากที่หานซั่วจากไป คนของกองกำลังฯ เคียวรุ้ง และตระกูลเมนโลก็เกิดความขัดแย้งกันขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองกำลังฯ เคียวรุ้งที่แยกตัวออกเป็นกลุ่มที่เล็กกว่า มีเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่ต้องการจะแก้แค้น ในขณะที่ส่วนมากต้องการจะออกจากที่นี่ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับตระกูลเมนโล ในเมื่อ อดัม เมนโล คือผู้อาวุโสที่พวกเขาทุกคนล้วนให้ความเคารพ เนื่องจากอำนาจส่วนใหญ่ภายในตระกูลเมนโลจะถูกควบคุมดูแลโดยเหล่าเครือญาติ หลายคนจึงร้องตะโกนด้วยความโศกเศร้าเพื่อเรียกร้องหาการแก้แค้นเหนือสิ่งอื่นใด
ความขัดแย้งกระทันหันนี้หยุดความคิดของลอเรตันอย่างฉับพลันทันที เมื่อมองไปยังกองกำลังฯ เคียวรุ้งที่เตรียมพร้อมจะจากไป รวมทั้งเหล่าผู้นำที่หวาดกลัวของพวกกองกำลังเล็ก ๆ ลอเรตันจึงรู้สึกอับจนหนทางไม่น้อย
เพราะเหล่าสัตว์วิเศษถูกฆ่าตายไปเป็นจำนวนมาก หากคิดจะหวังพึ่งสัตว์วิเศษบินได้ที่เหลือรอดอยู่ให้บุกเข้าไปยังกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย และพวกเขาต้องมีแหวนมิติที่กักตุนเสบียงไว้อย่างแน่นอน การที่จะพยายามปิดล้อมและทำให้กองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณอดตายไปเองก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกัน มีทางเดียวก็คือจู่โจมเข้าไปตรง ๆ เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็จำต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงลิ่ว ซึ่งพวกเขาไม่มีทางรับไหว
ในตอนนี้ ลอเรตันไม่มีความมั่นใจในชัยชนะเอาเสียเลย ขณะที่เขามองดูคนของกองกำลังฯ เคียวรุ้งและตระกูลเมนโลกำลังโต้เถียงกันอย่างไม่ลดราวาศอก เขาก็รู้สึกสิ้นหวังเหลือเกิน
“หัวหน้า เราฉวยโอกาสนี้กำจัดทั้ง 2 กลุ่มนั้นให้สิ้นซากไปเลยดีมั้ย?”
ขณะที่ลอเรตันกำลังลำบากใจ แฮร์ริสก็เข้ามาหาและลดเสียงลง พร้อมกับแนะนำอย่างชั่วร้าย
เขาจ้องมองไปที่แฮร์ริส ก่อนที่จะมองไปยังทิศทางที่หานซั่วจากไป เขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดขึ้น
“เจ้าหมอนั่นก็อยากให้เราทำแบบนั้นนั่นล่ะ ถ้าเราไปสู้รบกับ 2 กลุ่มนั้น มันก็เหมือนกับไปทำตามสิ่งที่เขาต้องการ เมื่อกลุ่มอิทธิพลทั้ง 3 ต่างสูญสิ้นซึ่งอำนาจและพลัง ผู้ที่จะเข้ามาควบคุมหุบเขาแสงตะวันก็คือกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณเท่านั้นแหละ”
แฮร์ริสนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาทำความเข้าใจกับคำพูดของลอเรตันสักพัก ก่อนจะพยักหน้าและพูดขึ้น
“หัวหน้ายังมองการณ์ไกลเหมือนเดิมเลยจริง ๆ ไม่ว่ายังไง ทั้งฟลอริด้าและ อดัม เมนโล ก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว เท่ากับว่าเราเองก็มีศัตรูลดลง กองกำลังฯ เคียวรุ้งและตระกูลเมนโลในตอนนี้ ก็ไม่ใช่ศัตรูที่เราต้องกลัวอีกต่อไปแล้วสินะ”
“นั่นก็จริงอยู่ ยังไงซะ ถ้าเรารีบกำจัดกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณไม่ได้เสียตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็ ชื่อเสียงของพวกเขาคงจะเพิ่มขึ้นอีกมากมายเลยแน่ ๆ แล้วในอนาคต นอกจากกองกำลังฯ ไคโรของพวกเราแล้ว ก็คงไม่มีใครที่สามารถสั่นคลอนอำนาจของพวกเขาได้อีก ข้าไม่แน่ใจเลยเหมือนกันว่านี่คือโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่”
ลอเรตันตอบอย่างเจ็บปวด
ขณะที่ลอเรตันและแฮร์ริสกำลังหารือกันอยู่เงียบ ๆ หัวหน้าของกองกำลังขนาดเล็กจำนวนหนึ่งก็เดินเข้ามา หนึ่งในนั้นมองลอเรตันด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
“หัวหน้าลอเรตัน ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ข้าคิดว่าเราไม่มีโอกาสทำลายกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณได้อีกแล้วล่ะ
แล้วถ้ากองกำลังฯ ไคโรอยากให้พวกเราสู้หัวชนฝาและเอาชีวิตไปทิ้งอีก ข้าก็ต้องขออภัยด้วย เราไม่อยากจะแลกชีวิตของพี่น้องเพียงเพื่อผลประโยชน์ที่ท่านจะมอบให้ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ข้าว่าพวกเราควรแยกย้ายกันไปก่อนดีกว่านะ”
“ข้าเห็นด้วย สถานที่นั้นยากต่อการโจมตีมากเกินไป ถ้าไม่มีพวกสัตว์วิเศษบินได้คอยช่วย พวกเราก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะได้เลยจริง ๆ”
หัวหน้าของกองกำลังอีกกลุ่มหนึ่งตะโกนขึ้นมา
ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่คนหรือสองคนที่มีความคิดเช่นนี้ พวกเขาทุกคนที่เดินเข้ามาต่างวางแผนที่จะจากไป
เป็นพวกโง่ที่ไร้หัวคิดสิ้นดี! ลอเรตันสาปส่งพวกเขาในใจ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้น
“คิดให้ดีก็แล้วกัน ถ้าเราไม่สามารถโค่นล้มกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณให้ได้ในตอนนี้ ทุกคนที่เคยเข้าร่วมการโจมตีนี้จะต้องเผชิญกับหายนะ กองกำลังฯไคโรของพวกเราน่ะแข็งแกร่งพอ และไม่กลัวการแก้แค้นของทรังคส์หรอก แต่กับพวกเจ้า มันจะเป็นปัญหาไม่น้อยเลยนะ”
“หัวหน้าลอเรตันไม่ต้องย้ำพวกเราเรื่องนั้นหรอก เราเองก็คิดใคร่ครวญกันมาดีแล้ว”
คนหนึ่งพูดขึ้น
“งั้นก็เชิญทำตามที่พวกเจ้าสบายใจได้เลย ไม่ว่ายังไง ข้าก็ถือว่าเตือนพวกเจ้าแล้ว ถึงเวลาที่ทรังคส์ตามหาพวกเจ้าเพื่อแก้แค้นเมื่อไหร่ ก็อย่ามาเรียกร้องหาข้าก็แล้วกัน!”
ลอเรตันพ่นลมอย่างเย็นชาและเหยียดหยามขณะพูดกับพวกเขา พวกเขามองหน้ากันไปมา ก่อนจะบอกลาลอเรตันอย่างพร้อมเพรียงกันและนำคนของตนเองออกไป ในขณะที่คนของกองกำลังฯ เคียวรุ้งส่วนมากสูญเสียศรัทธาในตัวลอเรตัน เมื่อฟลอริด้าตายไปแล้ว พวกเขาก็จากไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเลยด้วยซ้ำ
จากกำลังพลถึง 6,000 คนที่เข้าร่วมแผนการโจมตีกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณ มีเพียง 3,000 คนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตรอด หากพวกเขาต้องการโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณโดยปราศจากสัตว์วิเศษบินได้ต่อไป ไม่เพียงแต่จะมีปัญหาเรื่องจำนวนคน และคำถามสำคัญก็คือ หลังจากที่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแล้ว พวกเขาจะยังสามารถกวาดล้างกองกำลังฯ พิฆาตวิญญาณได้จริงหรือไม่ต่างหาก!
**************************