Gate of God - ตอนที่ 527
ตอนที่ 527 เป็นไปได้เพียงเท่านี้
เมื่อหญิงสาวในแสงสีม่วงปรากฎตัวขึ้นบรรยากาศภายในหอเจ็ดดวงดาวก็คึกครื้นมากยิ่งขึ้น
หญิงงามสามคนยามค่ำคืน!
ผู้คนต่างก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็น
เสียงเพลงจากซอสองสายเบาลงยวี่ฉือ โค้งตัวลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้คน
จากนั้นนางก็หยิบเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งขึ้นมา
ซุน!
นี่ไม่ใช่เครื่องดนตรีทั่วๆไปแต่มันมีประวัติอันยาวนานมันทำจากดินเหนียวและมีขนาดใหญ่เท่าไข่ห่าน
เสียงที่ไพเราะดังก้องไปทั่วมันเป็นเสียงที่มหัศจรรย์และทำให้ผู้ที่ฟังรู้สึกเหมือนลอยอยู่ในหมู่เมฆ
ผู้คนต่างเงียบลงเมื่อได้ยินเสียงนี้พวกเขาหลับตาลงและฟังเสียงบรรเลงอย่างตั้งใจ
แม้แต่ปิง หยาง เองก็หลับตาลง ริมฝีปากอ้าออกเล็กน้อย ราวกับว่านางกำลังฮัมเพลงอยู่
เหยียนซิว เองก็พยักหน้าไปตามจังหวะ
ส่วนเหวิน เต๋าเปา นั้นหลงอยู่ในมนต์สะกดเสียแล้ว เขาลืมไปแล้ว่าวันนี้ต้องได้หญิงงามกลับไปด้วย เขาอ้าปากน้ำลายไหลเยื้มเมื่อมองดู ยวี่ฉือ
ฟางเจิ้งจือ หันไปมอององค์ชายเก้าหลินหยุนเขาลืมตาอยู่
เขาไม่ชอบเสียงดนตรีงั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้
ท้ายที่สุดในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของราชวงศ์เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะชื่นชมดนตรีคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้คือมีบางอย่างอยู่ในใจของเขา
”องค์ชายเก้ามีอะไรกวนใจท่านอย่างนั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ เผยยิ้ม
”ไม่…ไม่มีอะไร”องค์ชายเก้าหลินหยุน ส่ายหัวเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ ถาม เขาหันไปมองทางเวที “ข้าแค่รู้สึกว่าบรรยากาศในวันนี้มันแปลกออกไปเล็กน้อย”
”แปลก?ข้าคิดว่ามันเป็นปกติมาก”ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะ
”อย่างนั้นงั้นรึ?”องค์ชายเก้าผงะแล้วหัวเราะเบาๆ”ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะทำหม้อไฟ ข้าสงสัยว่าข้าจะได้ลองชิมมันหรือไม่?”่
”แน่นอน”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”งั้น… ตอนนี้เลยดีไหม?”องค์ชายเก้าหลินหยุนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยินเช่นนั้น
”ตอนนี้?”
”ใช่ถ้าเจ้ามีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ ก็สามารถไปที่บ้านพักของ ปิง หยาง ได้ในตอนนี้เลย”องค์ชายเก้าตอบอย่างตื่นเต้น
”ฮ่าฮ่าไม่มีทาง ข้าวางเดินพันว่าหญิงทั้งเจ็ดจะปรากฎตัวพร้อมกันในวันนี้.” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
”ทั้งเจ็ดคน!”นี่มัน … เป็นไปได้งั้นหรือที่จะชนะ? เจ้าเดิมพันไปเท่าไร? ถ้าเจ้าเดิมพันไปไม่ไม่มากข้าจะช่วยซื้อตั๋วพนันของเจ้าต่อให้”
”สามหมื่นเหรียญเงิน!”
”แค่นั้นเองหรอ?!ได้…งั้นนาน้อยฟาง เจ้าเอาตั๋วพนันมาให้ข้า เดี๋ยวข้าจะให้คนส่งเงินไปที่บ้านของ ปิง หยาง พรุ่งนี้!”
”ขอบคุณสำหรับความหวังดีของท่านข้าวางแผนที่จะชนะในครั้งนี้…” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มก่อนจะปฏิเสธออกไป
”เจ้าวางแผนที่จะชนะเดิมพัน?”ปากของ หลิน หยุน อ้าค้างเมื่อได้ยิน เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่ได้พูด
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม และไม่ได้สนใจองค์ชายเก้าหลิน หยุน อีก เขาหันไปมองที่เวทีและเพลิดเพลินกับเสียงดนตรี
ไม่นานเสียงดนตรีก็เงียบลง
แต่ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดนตรีอีกชนิดดังขึ้นเวทีที่สี่สว่างขึ้น!
เวทีนี้แตกต่างจากเวทีอื่นมันมีกลองสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง
”นั่นมันหลันยี่!”
”ข้าไม่ได้เห็นนางมาห้าวันแล้ว”
”นี่มัน…ดาวดวงที่สี่”
”ใช่มันมีโอกาสขึ้นแค่ครั้งเดียวต่อสองเดือนเท่านั้นใครที่ไม่มาวันนี้ต้องโทษตัวเองไปจนตายแน่นอน ฮ่าฮ่า !”
ผู้คนต่างพูดคุยกันเมื่อเห็นร่างที่ค่อยๆปรากฎขึ้นมาการที่พวกนางปรากฎตัวออกมาพร้อมกันสี่นางเป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
การที่จะรอพบพวกนางแต่ละคนต้องใช้เวลาหลายวันเป็นอย่างมากแม้อย่างนั้น ผู้คนก็พอใจกับเรื่องนั้น
มันเป็นเรื่องยากมากที่พวกนางจะออกมาแสดงพร้อมกันถึงสี่คน
แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นทุกๆสองเดือนแต่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถมาที่นี่ได้ทุกวันเพื่อรอให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
เพราะ…
ค่าใช้จ่ายในการเข้ามาในหอเจ็ดดวงดาวแต่ละครั้งแพงมาก
ใครก็ตามที่สามารถมาที่นี่ได้ทุกวันครอบครัวต้องร่ำรวยเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่พวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้นกันมาก
การเห็นดาวทั้งสี่ดวงเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถเอาไปคุยโวโอ้อวดได้สำหรับผู้ที่มาจากต่างแดน นี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก
วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม
เสียงกลองดังก้องไปทั่วบริเวณ
มันเป็นเสียงที่หนักแน่นและดังสนั่นมันเป็นเสียงก้องราวกับฟ้าร้อง ความสามารถของนางเป็นที่ประจักษ์สายตามาก
ผู้คนต่างหลงใหล
จากนั้นดวงตาก็เบิกกว้างปากของพวกเขาอ้าแข็งค้างในขณะนั้นเองแสงดวงที่ห้าก็ส่องสว่างขึ้น
เสียงกลองยังไม่หายไปแต่แสงดวงใหม่กลับส่องสว่างขึ้นแล้ว
ในตอนนั้นเองร่างๆหนึ่งก็ถือเครื่องดนตรีขนาดใหญ่เท่ากู่เจิ้งลงมา
จะเข้!
นี่เป็นการบรรเลงคู่ระหว่างกลองกับจะเข้!
ดาวดวงที่ห้าคือเยว่ฉิง นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
การที่นางออกมาแสดงว่าคืนนี้พวกนางออกมาถึงห้าคน
”ห้าดวงดาว!”
”ในคืนเดียว!”
”เหลือเชื่อเป็นไปได้ยังไง?”
ผู้คนต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นเมื่อ เยว่ ฉิง ค่อยๆร่อนลงมาถึงเวทีสีขาว ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตกใจ
นี่…
มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดแม้แต่น้อย
แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรไม่นางนางก็เริ่มตีกลอง
ผู้คนต่างยืนนิ่งเหมือนถูกต้องมนต์
ผู้คนต่างหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลงแม้แต่ ปิง หยาง เองก็ตาม
ดวงตาของเหยียน ซิว เองก็ปิดลงเช่นกัน
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่องค์ชายเก้า หลิน หยุน
ตอนนี้การแสดงออกของหลิน หยุน ดูเยือกเย็นกว่าแต่ก่อนมาก ตอนนี้เขากำลังนั่งฟังเพลงอย่างเคลิบเคลิ้ม
ฟางเจิ้งจือ มองไปรอบๆ เขาสำรวจทุกคนที่อยู่ที่นี่
ทุกคนต่างเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลง
บทเพลงนั้นไพเราะเกินไป
แต่
ทันใดนั้นดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้างมีเสียงคล้ายระฆังดังขึ้น
มันคือระฆังเหล็ก!
เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นกันในวังหลวงของจีนโบราณ
มันเป็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยระฆังหลายชนิดไม่มีใครสามารถแบกมันได้ด้วยตัวเอง มันจึงถูกวางเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนการการแสดงจะเริ่ม
”หก…คนที่หกแล้ว!่
”ดาวดวงที่หก!่
”หกคนงั้นเหรอ?!”
ผู้คนต่างมองไปที่หญิงสาวที่กำลังเครื่องดนตรีชนิดนี้อยู่ด้วยความตกใจและหวาดกลัว
นางพึ่งขึ้นแสดงเมื่อวาน
การที่พวกนางนั้นขึ้นแสดงพร้อมกันหกคนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามของปี!
นี่มันโอกาสพิเศษอะไรกัน?!
ผู้คนต่างตกใจแต่พวกเขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เห็นพวกนางทั้งหกคนร่วมแสดงด้วยกัน นอกจากนี้พวกเขายังตกตะลึงเพราะว่า…
พวกเขาแพ้พนันทั้งหมด!
ไม่มีใครเดิมพันว่าพวกนางจะปรากฎตัวขึ้นพร้อมกันทั้งหกคนโอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นต่ำเกินไป
”นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครจะคาดเดาได้”
”ใช่มันเป็นเรื่องจริงจริงๆแล้วต่อให้จะแพ้พนันก็ไม่เป็นไร การที่ได้เห็นพวกนางพร้อมกันทั้งหกคนก็ถือว่าเป็นบุญตาแล้ว”
”ข้าคิดว่าทุกคนก็คงเสียเงินเหมือนกันหมด”
”ไม่มีอีกหนึ่งความเป็นไปได้…”
ผู้คนต่างส่ายหัวและถอนหายใจออกาจากนั้นพวกเขาก็คิดถึงความเป็นไปได้อื่น ๆ มีอีกหนึ่งความเป็นไปได้ ที่มีคนสามคนพนันเอาไว้
ทั้งเจ็ดคน!
แต่พวกนางจะปรากฎตัวพร้อมกันจริงๆ?
มันเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของหอเจ็ดดวงดาว
พวกฟาง เจิ้งจือ จะเดาถูกจริงๆหรือ?
ไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแต่พวกเขาก็รู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก
ถ้าฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง และ เหยียน ซิว ไม่ได้เดิมพันเอาไว้ ก็ไม่มีใครคิดถึงความเป็นไปได้
แต่
เมื่อมีคนพนันไว้เมื่อมีคนที่หกออกมา พวกเขาก็เริ่มคิดถึงคนที่เจ็ด…
”เขาจะโชคดีขนาดนั้นเลยงั้นหรือ?”
”มันเป็นไปไม่ได้!”่
”ถ้าเขาชนะข้าจะยอมแก้ผ้าเลยเดี๋ยวนี!”
”โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นน้อยเกินไป!”
ผู้คนต่างหันไปมองฟาง เจิ้งจือ, ปิง หยาง และ เหยียน ซิว
”เฮ้เจ้าไร้ยางอาย เจ้าคิดว่าพวกนางจะปรากฎตัวขึ้นมาเจ็ดคนจริงๆงั้นหรือ?” ดวงตาของ ปิง หยาง เป็นประกายขณะมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
”เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ข้าคิดว่าหกคนเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่พวกเราจะได้เห็นในวันนี้แล้วข้าคิดว่าคงมีอะไรเกิดขึ้นถ้าพวกนางปรากฎตัวออกมาเจ็ดคนพร้อมกัน” ปิง หยาง ยิ้ม
”ทำไมล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ เองก็ยิ้มเช่นกัน
”ฮ่าฮ่า… แค่คิดดู เดิมพันหญิงสาวเจ็ดคนของพวกเรานั้นเป็น แสนสามหมื่นเหรียญเงิน ถ้าพวกเราชนะจะได้หนึ่งล้านสามแสนเหรียญเงิน! เจ้าของที่นี่ต้องรู้เรื่องนี้ดี ข้าคิดว่าเขาคงไม่ใจกว้างขนาดนั้น” ปิง หยาง ตอบด้วยความมั่นใจ
”อืมเจ้าพูดถูก ไอ้หยา ข้าลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง? ข้าบอกแล้วว่าเจ้าอย่ามาพนันตามข้า! บางที่พวกนางอาจจะออกมาพร้อมกันเจ็ดคนก็ได้” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าและเหลือบมอง ปิง หยาง
”เจ้าจะโทษข้างั้นหรือ?”ปิง หยาง กรอกตา
”ข้าเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน…” สีหน้าของ เหยียน ซิว เยือกเย็น แต่เสียงของเขาราวกับรู้สึกผิดเล็กน้อย
ผู้คนเริ่มตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของทั้งสามก่อนที่พวกเขาจะหัวเราะเยาะ
”ฮ่าฮ่าฮ่า… ทั้งเจ็ดคนเหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”
”แน่นอนว่าเจ้าของหอเจ็ดดวงดาวต้องไม่โง่แน่นอน! พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้พวกนั้นชนะพนันหรอก!”
”คืนนี้ทุกคนต้องแพ้พนันแน่นอน”
ทุกคนมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเยาะเย้ย แม้พวกเขาจะแพ้ แต่ก็รู้สึกยินดีที่ ฟาง เจิ้งจือ แพ้ไปกับพวกเขา