Gate of God - ตอนที่ 522
ตอนที่ 522 ตกลง
”อืมให้เขาเข้ามา”ฟาง เจิ้งจือ ลูบท้องและพยักหน้า
”รับทราบ”ทหารในชุดเกราะสีทองตอบ
จากนั้นผู้ดูแลบ้านและเหล่าคนรับใช้ก็เข้ามาแจ้งข่าวพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แค่ข่าวคราวทั่วๆไปในเมืองหลวง
หลัจากปิง หยาง ได้ยินการรายงาน ก็สั่งให้พวกเขาออกไป
”อา?!ข้าทนไม่ไหวแล้ว!เจ้าบอกข้าหน่อย ว่าเจ้าไปอยู่ที่ไหนในปีที่ผ่านมา?”ปิง หยาง ไม่สามารถทนได้
”เจ้าอยากรู้จริงๆเหรอ?ก็ได้ แต่เจ้าต้องเอาชนะข้าให้ได้ก่อนผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์ถาม ผู้แพ้จะเป็นคนตอบ”ฟาง เจิ้งจือ พูดหยาบๆ
”ฮึ่ม!ข้าเอาชนะเจ้าได้อย่างแน่นอน!”ปิง หยาง เยาะเย้ย
”ตอนนี้เจ้าต้องตอบคำถามของข้า!ราชาหลี่ฉิน ชอบใครมากที่สุด?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”เจ้าถามถึงราชาหลี่ฉิน?เขาชอบข้ามากที่สุดและพี่เหยียนเป็นที่สอง เขาเองก็มีคามสัมพันธ์ที่ดีกับ ซิง หยวนกัว และพ่อของเขา” ปิง หยาง ตอบ
”ฉือกูเหยียน?” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
เขาไม่มีทางเชื่อทุกอย่างที่ออกมาจากปากของปิง หยาง ที่นางบอกว่าตัวนางเป็นคนที่เขาชอบนั้นเปนเพราะหลงตัวเองล้วนๆราชาหลี่ฉินชอบ ฉือ กูเหยียน มากที่สุด
เรื่องนั้น…
เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์เมื่อหนึ่งปีก่อนในหอบัลลังก์
ในตอนนั้นเขาพึ่งออกจากโลกแห่งเซียน เขาครอบครองดาบไร้ร่องรอย องค์รัชทายาทและราชาต้วนต่อสู้กัน สุดท้ายแล้ว ฉือ กูเหยียน ได้พาราชาหลี่ฉินมาเพื่อแก้ปัญหานั้น
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับราชาหลี่ฉินมากนัก เขาไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับชายคนนี้มาก่อน
”เจ้าคิดจะให้พี่เหยียนเรียกราชาหลี่ฉินมาช่วยคุยเรื่องของเจ้ากับจักรพรรดิหรือ?ลืมได้เลย ราชาหลี่ฉินไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง! นอกจากนี้พี่เหยียนอยู่ที่ศาลาเต๋าสวรรค์”ปิง หยาง พูดอย่างมั่นใจ
”เจ้ารู้ได้ยังไงว่านางอยู่ที่นั่น?”ฟางเจิ้งจือ ถาม
”แน่นอนว่าข้าต้องรู้ถ้าพี่เหยียนไม่ได้แยกตัวไปอยู่ที่นั่น ทำไมนางไม่ตอบจดหมายข้า?”ปิง หยาง ตอบกลับอย่างมั่นใจ
”ตอบกลับ?อา…เจ้าติดต่อกับนางครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?”
”สามเดือนก่อน”
”โอ้เจ้าเขียนไปว่าอย่างไรบ้าง?”
”นั่นไม่ใช่เรื่องของเจ้า!ข้าจะไม่บอกอะไรเจ้าทั้งนั้น! อย่างไรก็ตาม การที่พี่เหยียนไม่ตอบจดหมายแสดงว่าต้องกำลังฝึกฝนอย่างหนักแน่นอน เพราะเวลาตามข้อตกลงได้ใกล้าเข้ามาแล้วนางบอกว่าจะไม่พลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ข้าจึงถามนางเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่นางก็ไม่ตอบกลับ!”
”ข้อตกลง?”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
การคัดเลือกของศาลาเต๋าสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้วในการคัดเลือกครั้งล่าสุดหนานกง เฮา ได้รับเลือก
ฟางเจิ้งจือ เริ่มคำนวนอย่างรวดเร็ว การทดสอบระดับจักรพรรดิกำลังจะเริ่มขึ้น หลังจากนั้นก็การทดสอบระดับสภา จากนั้นก็จะเป็นการคัดเลือกของศาลาเต๋าสวรรค์
ศาลาเต๋าสวรรค์!
เมื่อฟาง เจิ้งจือ ได้ยินชื่อนี้เมื่อปีก่อน มันไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าชื่อเรียกทั่วไปสำหรับเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้มันมีความหมายมากกว่านั้น
1ศาลา4เซียน 13กองตรวจการ
นี่เป็นคำพูดทั่วไปในอาณาจักรเซี่ยศาลาอยู่เหนือกว่าเซียนทั้ง 4
”สามเดือนก็น่าจะพอ!”
…
ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง กำลังคุยเรื่องศาลาเต๋าสวรรค์ เหวิน เต๋าเปา ก็เลือดขึ้นหน้า
เขายืนอยู่ข้างนอกโดยไม่มีอาหารและน้ำนานถึงสี่ชั่วโมงนั่นเป็นเหมือนฝันร้าย
โชคยังดีที่ฝันร้ายของเขาดูเหมือนจะจบลงแล้ว
ทหารยามกลังเดินมาที่ประตูจากนั้นทหารยามก็มายืนข้างๆเขา
อย่างไรก็ตาม…
ทหารยามยั่งคงนิ่งเงียบกว่าสิบห้านาที
เช่นเดียวกับเหวิน เต็าเปา ที่อยากจะถามอีกครั้งว่าจะเข้าไปได้หรือไม่ เขาหันไปมองที่นาฬิกา และมองเข้าไปที่ด้านในบ้านพักของ ปิง หยาง
”ท่านสามารถเข้าไปได้แล้ว”
”ข้าสามารถเข้าไปได้แล้ว?”เหวิน เต๋าเปา แทบจะตะโกนออกมาด้วยความยินดี เขาไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะยุ่งแบบนี้
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนักอย่างน้อยเขาก็โชคดีที่ได้พบกับ ฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามถ้าเขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรในสี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้…
ปฏิกิริยาของเขาอาจแตกต่างออกไป
เหวินเต๋าเปา ถูกพาตัวไปที่สวนโดยทหารยาม
”เชิญนายน้อยเหวิน”
”ขอบคุณมาก!”เหวิน เต๋าเปา พยักหน้าให้ทหาร เขาเลียริมฝีปากที่แห้งกรอบจากการยืนตากแดด ก่อนจะเดินเข้าไป
เมื่อเขาเข้ามาเขาได้รับการต้อนรับด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ มันทำให้หัวของ เหวิน เต๋าเปา มึนงงเล็กน้อย ล้านของเขาเป็นบ้านที่หรูหราที่สุดในเมือง
อย่างไรก็ตามมันยังคงห่างชั้นจากบ้านของปิง หยาง มาก
”ฝ่าบาทนายน้อย… ฟาง นายน้อย เหยียน!” เหวิน เต๋าเปาเรียกทันที แต่เขาไม่ได้ลืมบทเรียนที่ได้รับมา เขาตัดสินใจไม่เรียก ฟาง เจิ้งจือ ด้วยชื่อ
”พ่อของเจ้าให้เจ้ามางั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถามทันที
”อืม… ” เหวิน เต๋าเปางงงวย ดวงตาของเขาส่องประกายก่อนจะยิ้มให้ ฟาง เจิ้งจือ เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย
เมื่อปีที่แล้วปิง หยาง, ฟาง เจิ้งจือ, เหยียน ซิว ให้เขาเลี้ยงข้าวให้หลายมื้อ อย่างไรก็ตาม วันนี้…
เขารู้สึกว่าฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก
ถ้าเป็นเมื่อปีก่อน…
ฟางเจิ้งจือ จะไม่ถามคำถามแบบนี้ แต่ตอนนี้มันเป็นสิ่งแรกที่เขาถามออกไป
”ใช่!”เหวิน เต๋าเปา พยักหน้าหลังจากลังเล
”อืมแล้วตัวเจ้าล่ะ?”ฟางเจิ้งจือ พยักหน้า
”ข้าต้องการมาที่นี่เช่นกันตอนที่ข้าได้ยินว่าฟาง…นายน้อยฟางมาที่เมืองหลวง ข้าต้องการมาพบทันที…แต่ตอนนั้น..” เหวิน เต๋าเปา ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
เขามีหลายเหตุผลก่อนหน้านี้แต่เมื่อมาเจอ ฟาง เจิ้งจือ จริงๆเขากลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย
”อืม”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า ไม่ได้มีปฏิกริยาอะไรเป็นพิเศษ เขาชี้ไปที่เก้าอี้ใกล้ๆ
เหวินเต๋าเปา เดินไปนั่งตรงนั้นทันที
”ข้าไม่รู้ว่าท่านพ่อจะคิดยังไงข้าคิดว่าเขาคงอยากให้ข้ามาเยี่ยมองค์หญิง นายน้อยเหยียนแล้วก็นายน้อยฟาง” เหวิน เต๋าเปา พูดออกมา
”แล้วยังไงต่อ?””ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”เขาไม่ได้พูดอะไรอีกทั้งหมดที่พูดคือให้มาพูดคุย เที่ยวเล่นกับท่าน ” เหวิน เต๋าเปา ตอบ
”เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาไม่ได้บอกให้มาหาองค์หญิงและเหยียน ซิว พียงอย่างเดียว?” ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ไม่เขาระบุว่าเป็นท่าน” เหวิน เต๋าเปา ยืนยัน
”เข้าใจแล้วเจ้ากลับไปได้แล้ว”
”อะไรกัน?!”
”หรือเจ้าอยากจะอยู่กินข้าวกลางวันล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะ
”เอ่อ… ไม่ไม่!” เหวิน เต๋าเปา ลนลาน
”ที่จริงเจ้าสามารถพักทานอาหารกลางวันกับพวกเราได้เจ้านำเงินมาด้วยไหม?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่กระเป๋าเงินบริเวณเอวของ เหวิน เต๋าเปา
”ไม่ไม่…เอ่อ จริงๆแล้วข้าเอามานิดหน่อย แค่หมื่นเหรียญเงิน ไม่สิสองหมื่น!” เหวิน เต๋าเปา เหมือนพยายามจะซ่อนบางอย่าง
เขารู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะซ่อนเงินเมื่ออยู่ต่อหน้าฟาง เจิ้งจือ
”อืมแค่นั้นก็เพียงพอต่อหนึ่งมื้อแล้ว”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”อะไรนะ?!สองหมื่นต่อหนึ่งมื้อ?”
”น้อยไปงั้นรึ?”
”ฮ่าฮ่า… เอ่อ นายน้อยฟาง ข้าจะกลายเป็นคนของราชาต้วนไหม หลังจากที่ข้าไปกินข้าวกับท่านมื้อนี้?” เหวิน เต๋าเปา ถามด้วยความตื่นเต้น
”พ่อเจ้าถามงั้นรึ?”
”ไม่พ่อของข้าไม่ได้ถามอะไร เขาแค่บอกให้ข้ามาพูดคุยเล่นกับท่านเท่านั้น”
”เจ้าสามารถกลับได้หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จถ้าเจ้าอยากมากินข้าวพรุ่งนี้อีก เอาติดตัวมาด้วยสักสองหมื่น” ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะคุบกับ เหวิน เต๋าเปา อีกต่อไป
”งั้นวันนี้พวกเราไปที่ถนนเจ็ดดวงดาวไหม? หลังจากที่หอแห่งปัญญาถูกไฟไหม้ไป ตอนนี้ถนนเจ็ดดวงดาวกลายเป็นย่านยอดนิยมแทน” เหวิน เต๋าเปา ยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ
”เจ้ายังมีเงินอีกงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มและมองไปที่ เหวิน เต๋าเปา
”แน่นอน!ข้ายังมีเหรียญทองอยู่บ้าง!” เหวิน เต๋าเปา ทุบหน้าอกของตัวเอง
”เหยียนซิว เจ้าจะไปด้วยไหม?” ฟาง เจิ้งจือ หันไปถาม เหยียน ซิว โดยที่ยังไม่ได้ตอบคำถามของ เหวิน เต่าเปา
”ข้าไปได้”เหยียน ซิว ลังเล ก่อนจะตอบกลับ
”งั้นเราจะไปที่นั่นกันคืนนี้”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าหลังจากได้ยินคำตอบของ เหยียน ซิว
”ทำไมเจ้าถึงไม่ถามว่าข้าอยากจะไปไหม?”ปิง หยาง หงุดหงิดเล็กน้อยที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ชวนนาง พวกเขาอยู่ในบ้านของนางนะตอนนี้!
เขากล้าเมินนางได้ยังไง?
”ไม่จำเป็นข้ารู้ว่ายังไงเจ้าก็ไปอยู่แล้ว” ฟาง เจิ้งจือ โบกมือยอ่างไม่ใส่ใจ
”ถ้าข้าไม่ไปล่ะ?”
”นั่นก็เยี่ยมไปเลย”
”เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่!ยังไงข้าก็ไปอยู่แล้ว!”่
…
บ่ายวันต่อมาเหวิน เต๋าเปา มาถึงบ้านของ ปิง หยาง แต่สภาพของเขาดูไม่ได้เท่าไรนัก
หน้าของเขาเป็นจ้ำๆบนตัวมีรอยเหมือนโดนชกมาหลายที่ เขาไม่สามารถยืนขึ้นตรงๆได้ด้วยซ้ำ
”พี่ชายข้ามาหานายน้อยฟาง ช่วยบอกเขาให้หน่อย” เหวิน เต๋าเปา บอกกับยามหน้าประตู
”เกิดอะไรขึ้นกับท่านนายน้อยเหวิน?” ทหารยามถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของ เหวิน เต๋าเปา
เขารู้ว่าเหวิน เต๋าเปา ได้ไปที่ถนนเจ็ดดวงดาวกับ เหยียน ซิว และ ปิง หยาง เมื่อคืนนี้
อันที่จริงไม่มีใครไม่รู้เรื่องนี้
เพราะฟาง เจิ้งจือ ทำตัวโดดเด่นทุกที่ที่เขาไป
มันเป็นเหมือนกับการ…
เรียกความตายให้เขามาหาตัวเองแท้ๆ!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ถนนเจ็ดดวงดาวเมื่อคืน
ในเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วทำไม เหวิน เต๋าเปา ถึงอยู่ในสภาพนี้?
หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นที่ถนนเจ็ดดวงดาว?
ทหารยามมองดูที่เหวิน เต๋าเปา ด้วยความสงสัย
เมื่อเหวิน เต๋าเปา ได้ยิน ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาตัวสั่นสะท้านราวกับนึกถึงบางอย่างที่น่ากลัวได้
มันช่างน่าอับอายและน่าอัปยศ
ริมฝีปากของเหวิน เต๋าเปา สั่นสะท้าน น้ำตาเริ่มเอ่อออกมา เขาเงยหน้ามองทหารยาม
”นายน้อยเหวินหรือท่านถูกทำร้ายมา?” ทหารยามถามขึ้นมา
”อืม”เหวิน เต๋าเปา พยักหน้า ขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม
ทหารในชุดเกราะสีทองตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้หรือว่าเมื่อวานจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ?