Gate of God - ตอนที่ 510
ตอนที่ 510 สหาย
”ท่านคิดจริงๆหรือว่าพลังของข้าถูกทำลายไปแล้ว?”ฟางเจิ้งจือ ยิ้มขณะมองไปที่ ฉือ เฮา
”ข้าเข้าใจผิดรึ?”ฉือเฮา ลังเลเลเมื่อเขาจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
เขาตระหนักในทันทีว่าไม่มีใครยืนยันข้อมูลนั้นได้หลังจาการต่อสู้ของเขากับคังหยางพลังของเขาก็น่าจะถูกทำลายหมดสิ้น
แต่…
เนื่องจากไม่มีใครยืนยันเรื่องนั้นได้อาจจะเป็นอย่างที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด
ฉือเฮา ตกตะลึง
เขายังมีพลังอยู่?
ถ้าเมื่อปีก่อนเขาสามารถต่อกรกับคังหยางได้ตอนนี้เขาจะมีพลังแค่ไหนกัน?
น่าสะพรึงกลัว!
นั่นเป็นคำเดียวที่ฉือ เฮา สามารถอธิบายได้ และแน่นอนว่าสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ฟาง เจิ้งจือ ยังมีอายุไม่ถึง 18 ปี
…
ผู้ชนะบนทำเนียบมังกรคู่จะทำให้โลกต้องตะลึง!่
”ฮ่าฮ่าข้าล้อเล่น ข้าไม่คิดว่าท่านจะจริงจัง!”ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆ
จากนั้นเขาวางเนื้อไว้ในชามที่เตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนจะส่งให้ ฉือ เฮา
”ลองกินดู”
”แน่นอนข้าได้ยินจาก ฉือ กูเหยียน ว่าฝีมือของเจ้านั้นยอดเยี่ยม! ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”ฉือ เฮา พยักหน้าและมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เขาตื่นเต้นมาก อย่างไรก็ตามความตื่นเต้นของเขานั้นมากเกินไปจนเนื้อหล่นจากตะเกียบ…
ลงบนพื้น
ฟางเจิ้งจือ ถอนหายใจ
สายตาของเขามองไปยังเนื้อสัตว์ที่เปื้อนฝุ่นอยู่บนพื้น
ก่อนจะส่ายหัวออกมาเล็กน้อยอย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ส่งเนื้อไปให้ ฉือ เฮา อีกชั้นหนึ่ง
ฉือเฮา ไม่ได้พูดอะไรเมื่อเขารับมันเขาคีบมันด้วยตะเกียบเขาไม่ได้ทำหล่นอีก
เขาคีบมันเขาปาก
ปากของเขาเต็มไปด้วยรสชาติที่เข้มข้น
”ฮ่าฮ่าฮ่า… ฉือ กูเหยียน พูดถูก! เนื้อนี่อร่อยมาก! มันเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดที่ข้าเคยกิน!”ฉือ เฮา หัวเราะเบาๆ
”น่าเสียดายที่เราเสียมันไปชิ้นหนึ่ง”ฟางเจิ้งจือ ส่ายหัวเบาๆ ขณะมองดูเนื้อบนพื้น
”เสีย?”ฉือเฮา เองก็เหลือบมองเนื้อชิ้นนั้น จากนั้นเขาก็ยิ้ม “เมื่อข้าต่อสู้กับพวกคนเถื่อน ข้ากินทุกอย่างแม้กระทั่งต้นไม้! เนื้อแค่นี้ไม่สกปรกแม้แต่น้อย?”
ฉือเฮา ยื่นมือของเขา
คีบมันขึ้นมาเขาเอาเข้าปากอย่างไม่ลังเล เขาไม่ได้เช็ดฝุ่นออกไปแม้แต่น้อย
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้หยุด ฉือ เฮาเขาเพียงแค่หันไปตัดเนื้ออีกชิ้นมาให้ตัวเองเท่านั้น
”แล้วพวกเราจะกลับเมืองหลวงกันเมื่อไหร่?”ฉือ เฮา ไม่รอให้ ฟาง เจิ้งจือ เอาเนื้อมาให้อีกชิ้น
”ท่านฉือ เฮา ถ้าท่านรีบนัก ก็ล่วงหน้าไปก่อนได้เลย”
”ไปก่อนรึ?เจ้าสารเลว เจ้าหมายความว่ายังไง?”ฉือ เฮา ลังเล
”ข้าไม่ได้คิดจะกลับเมืองหลวงไปกับท่าน”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”เจ้าไม่ได้คิดจะกลับเมืองหลวงกับข้ารึ?จากความคิดของข้า คนขององค์รัชทายาทคงกำลังเดินทางมาต้อนรับเจ้าอยู่แน่ เจ้าจะไม่สามารถไปเมืองหลวงได้โดยไม่มีข้า! เจ้ามีกำลังน้อยเกินไป!” ฉือ เฮา ยืนยัน
”ก็อาจจะใช่แต่ข้าไม่คิดจะภักดีต่อราชาต้วน ข้าจะให้ท่านพาไปด้วยเพื่ออะไรกัน?”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”เจ้า…สารเลว! นอกจาองค์รัชทายาทแล้ว ราชาต้วนเป็นเพียงคนเดียวที่เจ้าสามารถภักดีได้ เจ้าจะภักดีต่อองค์รัชทายาทงั้นรึ?”ท่าที่ของ ฉือ เฮา เปลี่ยนไป
”ข้าไม่เลือกได้ไหม?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ไม่!”
”เอาล่ะ… ถ้าเป็นแบบนั้นข้าก็มีเงื่อนไขอยู่” ฟาง เจิ้งจือ โบกมือให้ ฉือ เฮา เมื่อมองไปที่สีหน้าของเขา
”ข้ารู้ดีว่าจะต้องมีเงื่อนไขบอกมาว่าเจ้าต้องการอะไร? เงินทอง หรือ สมบัติ? ข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการเท่าที่ข้าทำได้” ฉือ เฮา
ถ้าฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อตัวเองล่ะก็ เขาก็ไม่เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะภักดีต่อราชาต้วน
”ให้ฉือ กูเหยียนมานอนกับข้า” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”อะไรนะ!?เจ้าสารเลวว … นั่นเป็นไปไม่ได้! ข้าไม่มีทางปล่อยให้นางแต่งงานกับเจ้า ข้าตัดสินใจเองไม่ได้! ขอเรื่องอื่นเถอะ!”
ฉือเฮา แทบจะทำเนื้อหล่นกับพื้นเมื่อได้ยิน
”ข้าไมมีเงื่อนไขอื่นแล้ว”ฟาง เจิ้งจือส่ายหัวด้วยความผิดหวัง
”ฟางเจิ้งจือ ข้าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่ง! ข้าเดินทางมาที่นี่เพราะได้ยินว่าเจ้ากลับมา ข้าให้เจ้าได้มากกว่าที่เจ้าต้องการเสียอีก!” ฉือ เฮา ยืนยัน
”ท่าทีของท่านเปลี่ยนไปมากนะ?”ฟาง เจิ้งจือ ตกใจกับสิ่งที่เห็น
”เอ่อ…แม้เราจะพบกันได้ไม่ดีเท่าไรแต่ข้าก็ไม่ได้เกลียดเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าได้ทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ให้กับอาณาจักรเซี่ย ข้าไม่ต้องการให้เจ้าตาย” ฉือ เฮา ถอนหายใจและส่ายหัว
”ข้าจะเลือกเส้นทางด้วยตัวข้าเองในเมื่อท่านไม่ให้ ฉือ กูเหยียน นอนกับข้า ข้าคงต้องทำด้วยตัวเอง” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าทำได้?”ฉือ เฮา ตกตะลึง
”อืม”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”เหอะเจ้าอย่าคิดว่าจะทำได้ง่ายๆเลย!”ฉือ เฮา ปล่อยจิตสังหารออกมา
”สามเดือนสามเดือนต่อจากนี้ ข้าจะให้นางป่าวประกาศไปทั่วโลกว่านางเป็นคนที่ทำให้เตียงของข้าอุ่น!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบลวกๆ
”เจ้าเอาจริงงั้นรึ?ดวงตาของ ฉือ เฮา แทบถลนออกมาจากเบ้า
”แน่นอน”
”และถ้าเจ้าทำไม่ได้ล่ะ?”
”ข้าจะทำตามที่ท่านพูดและอยู่ในสภาห้าปี จากนั้นข้าจะกลับมาอยู่ในที่ที่ข้าควรอยู่” ฟาง เจิ้งจือ โบกมือ
”ได้ข้าให้เวลาเจ้าสามเดือน!”
”แล้วถ้าข้าทำได้ล่ะ?”
”ฮ่าฮ่าฮ่า… ข้าจะทำตามคำสั่งของเจ้า! ข้าจะฟังคำสั่งของเจ้า!” ฉือ เฮา หัวเราะเบาๆด้วยความดูถูก
”ทำตามคำสั่งของข้า?ถ้าข้าบอกให้ท่านก่อกบฏล่ะ?”
”สวะ!เจ้ากล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง?!”
”ฮ่าฮ่า… ข้าแค่ล้อเล่น”
”ข้าจะทำตามคำสั่งของเจ้าตราบใดที่มันไม่เกี่ยวข้องกับการก่อกบฎ” ฉือ เฮา ตอบ
”ตกลง!”
”ได้ข้าจะให้เวลาเจ้าสามเดือน ข้าจะปกป้องเจ้าในระหว่างนี้ ถ้าเจ้าคิดจะตุกติกกับข้า อย่าหาว่าข้าไม่เมตตาเจ้าล่ะ”
”ขอบคุณท่านมาก”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”อืมในเมื่อตกลงแล้ว เจ้าคิดจะกลับเมืองหลวงตอนไหน?”
”เร็วๆนี้ข้ากำลังรอสหายข้าอยู๋”
”สหาย?”
”ท่านคิดว่าข้าจะย่างเนื้อมากมายขนาดนี้สำหรับสองคนงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถามขึ้นมา
”โอ้?่ข้าได้ยินมาว่าหัวหน้านิกายเงาเป็นผู้หญิง อย่างไรก็ตาม… ข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน คงเป็นเรื่องดีที่ข้าได้เจอนางวันนี้” ฉือ เฮา ตอบ
”ฮ่าฮ่า… ” ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆแต่ไม่ได้พูดอะไรอีก
ทันใดนั้นร่างสองร่างได้ปรากฎตัวขึ้นจากไกลๆพวกเขารีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เป็นฉิงยี่ และ หลี่ จิ้งเฟิง ที่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ฉือเฮา ขมวดคิ้ว เขาได้บอกแล้วถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นไปต้องเข้ามารบกวน
หลี่จิ้งเฟิง ย่อมทำตามคำสั่ง
มีความเป็นไปได้เพียงทางเดียวเท่านั้น
มีเรื่องเร่งด่วน
”เกิดอะไรขึ้น?”ฉือ เฮา ถามขึ้นมา
”ท่านฉือ เฮา มีทหารมุ่งหน้ามาทางหมูบ้าน กว่าสามพันนาย พวกเขาเดินทางอย่างรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่าฝึกฝนมาเป็นอยางดี !”
”กองทัพ?ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี? ใครกัน?” ฉือ เฮา ตกตะลึง
นี่คือดินแดนตอนเหนือ!กองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีมีเพียงกองทัพของเขาเท่านั้น
”ไม่ทราบขอรับพวกเขาสวมผ้าปิดหน้า รวมทั้งผ้าคลุมสีดำ! นอกจากนั้นพวกเขายังดูก้าวร้าวและทรงพลัง! พวกเราไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นใคร!”
”ก้าวร้าวและทรงพลัง?เป็นพวกคนเถื่อนงั้นรึ?”
”ไม่น่าใช่พวกคนเถื่อนไม่น่าได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ความเร็วของพวกเขามากกว่าหน่วยปีกสีชาดเสียอีก แต่กลับสามารถรักษาความเป็นระเบียบเอาไว้ได้ จากความคิดข้าพวกเขาไม่น่าอ่อนแอไปกว่าหน่วยปีกสีชาด!” หลี่ จิ้งเฟิง ส่ายหัว
”ไม่อ่อนแอกว่าหน่วยปีกสีชาด?”ท่าทีของ ฉือ เฮา เปลี่ยนไป
เขาเชื่อในการตัดสินใจของหลี่ จิ้งเฟิง อย่างไรก็ตามมีไม่กี่กองทัพที่สามารถเทียบเทียบกับหน่วยปีกสีชาด กองทัพทลายภูผาเป็นหนึ่งในนั้น
หรือบางทีอาจจะเป็นกองทัพจากตระกูลชั้นสูง
แต่…
ไม่มีใครที่น่ามาถึงหมู่บ้านภูเขาทางเหนือได้!
ใครกัน?กองตรวจการความมั่นคน?
เป็นไปไม่ได้
ฉือเฮา ปฏิเสธความคิดนี้ไปทันที แม้กองตรวจการความมั่นคงจะคุ้นเคยกับ ฟาง เจิ้งจือ ระหว่างการต่อสู้…
แต่พวกเขาก็ไม่น่าจะมาเพื่อตามหาฟาง เจิ้งจือ
ซิงหยวนกัว เป็นคนสำคัญ หากเขาจะมาที่แดนเหนือ เขาต้องบอก ฉือ เฮา ก่อน
รวมถึงการปลอมตัวนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญกองตรวจการความมั่นคงไม่ต้องปกปิดตัวเอง!
นี่ไม่ใช่กองตรวจการความมั่นคง
การที่พวกเขาปกปิดตัวเองนั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ใครรับรูตัวตน
พวกเขาพยายามซ่อนการเคลื่อนไหว?
ไม่อย่างแน่นอน
การเคลื่อนทัพของทหารสามพันนายไม่สามารถซ่อนได้เหตุผลเดียวคือพวกเขาไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
องค์รัชทายาท?!
พวกเขามาที่นี่ได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
ฉือเฮา หันไปหา ฟาง เจิ้งจือ
เขาพบว่าท่าทีของฟาง เจิ้งจือ ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย บนใบหน้าของเขามีแต่ความแปลกใจเล็กๆน้อยเท่านั้น
หรือว่า…
”ข้าไม่เคยคิดเลยว่านิกายจะเติบโตได้ไวขนาดนี้ข้าคงประเมิณ วู่ จวี้เอ๋อ ต่ำไป!”