Gate of God - ตอนที่ 511
ตอนที่ 511 กองทหารเมฆา
”นางไม่ได้อยู่ที่แดนเหนือนะท่าน ฉือ เฮา” ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า ฉือ เฮา เข้าใจผิด และเขาก็ไม่ได้แปลกใจที่ ฉือ เฮา จะรู้ว่า วู่ จวี้เอ๋อ เป็นผู้นำของนิกายเงา
ถ้าเขาไม่รู้เขาจะเป็นหัวหน้าของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง
”ไม่ใช่วู่ จวี้เอ๋อ หรอกหรือ?” หัวใจของ ฉือ เฮา สั่นไหว ถ้าไม่ใช่นางก็ต้องเป็นคนขององค์รัชทายาท
ทหารที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดี 3,000 คน …
ความหาญกล้าขององค์รัชทายาท…
เขามั่นใจเกินไปหรือเปล่า?
”ฉินยี่ช่วยข้าจุดไฟเพิ่มหน่อย ข้าจะไปต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง ” ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม
”รับทราบนายน้อย!” ฉิงยี่ พยักหน้า
”ฮ่าฮ่างั้นข้าจะไปกับเจ้าด้วย” ฉือ เฮา เช็ดมือให้สะอาดก่อนจะยืนขึ้น
”ข้าจะนำทางท่านไปเอง”หลี่ จิ้งเฟิง เตรียมพร้อมนำทางออกไป
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดจะหยุดพวกเขา ที่นี่คือแดนเหนือของ ฉือ เฮา
ไม่มีใครหยุดเขาได้
…
หน่วยปีกสีชาดทั้งหมดต่างขี่อยู่บนหลังม้าอย่างเป็นระเบียบชี้ปลายหอกไปทางกองทัพที่ใกล้เข้ามา
จางหยางปิง มองด้วยความกังวล
”พวกเขาจะต้องต่อสู้กันจริงๆเหรอ?”
”ถ้าพวกเขาสู้กันมันต้องเป็นจุดจบของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือแน่นอน พวกเราควรบอกนักเรียนและเหล่าอาจารย์ให้หาที่หลบก่อนดีไหม?”
”ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะสู้กันหรอกฉือ เฮา ยังอยู่ในหมู่บ้าน ใครจะกล้าเป็นศัตรูกับเขา?”
”แล้วถ้าพวกเขาสู้กันละ?”
ชาวบ้านเริ่มถกเถียงกัน
แต่ทันใดนั้นฉือ เฮา และ ฟาง เจิ้งจือ ก็เดินออกมาจากประตูหมู่บ้าน โดยมี หลี่ จิ้งเฟิง นำทางออกมา
ทั้งสามคนเดินไปทางหน่วยปีกสีชาด
”ท่านฉือ เฮา!” ชาวบ้านทำการต้อนรับ
”อืม”ฉือ เฮา พยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา สายตาของเขาทอดไปด้านหน้า ที่ฝุ่นควันกระจายฟุ้งไปทั่ว ก่อนที่เขาจะเดินตรงไปข้างหน้า
หน่วยปีกสีชาดเปิดทางให้
พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ
ฟางเจิ้งจือ ตกตะลึงมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหน่วยปีกสีชาดถึงเป็นกองทัพชั้นยอดของอาณาจักรเซี่ย
ฉือเฮา นั้นอัจฉริยะจริงๆที่สามารถฝึกกองทัพเช่นนี้ออกมาได้
พวกเขาทั้งสามคนเดินผ่านหน่วยปีกสีชาดเข้าไปมองไปยังกองทัพที่เข้ามาใกล้ ขณะที่ หลี่ จิ้งเฟิง จะพูดบางอย่างออกมานั่นเอง…
กองทัพที่เขามาใกล้ก็เริ่มเผยให้เห็น
พวกเขาแต่ละคนสวมผ้าคลุมสีดำใบหน้าถูกปกปิดเอาไว้ พวกเขาทั้งหมดสวมชุดเกราะแบบเดียวกัน
”ไม่เลว!”ฉือ เฮา อุทาน สำหรับผู้บัญชาการที่มีประสบการณ์แบบเขา สามารถบอกได้เลยว่ากองทัพนี้แข็งแกร่งขนาดไหน
พวกเขาเดินทางอยางรวดเร็วแต่สามารถรักษาแบบแผนของกองทัพไว้ได้รูปแบบทัพของพวกเขานั้นคล้ายกับหอก
ใครก็ตามที่รู้เรื่องกลยุทธ์ของทางทหารสามารถบอกได้เลยว่ารูปแบบที่พวกเขาใช้นี้เป็นรูปแบบเพื่อเข้าโจมตี การที่พวกเขาสามารถรักษารูปแบบนี้ไว้ได้นานั้น….
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาฝึกฝนมาดีแค่ไหน
”อืมไม่เลวจริงๆ”ฟาง เจิ้งจือ เห็นด้วย
ฉือเฮา ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาขมวดคิ้วและมองไปที่กองทัพทหารที่เข้ามาใกล้
เขาขมวดคิ้ว ทั้งๆตอนที่เขาสู้กับพวกคนเถื่อนกว่าห้าหมื่นคน เขายังไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาแม้แต่น้อย
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารสามพันนายตรงหน้าเขากลับขมวดคิ้ว
นั่นเพราะ
เขามีหมู่บ้านภูเขาทางเหนืออยู่ด้านหลังทั้งเด็ก คนแก่…
ถ้าพวกนั้นเป็นคนขององค์รัชทายาทจริงๆ
มันต้องเป็นงานยากสำหรับเขาแน่นอน
ถ้าไม่มีหน่วยปีกสีชาด
พวกเขาก็สามารถจับตัวฟาง เจิ้งจือ ไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน แต่ถ้าหน่วยปีกสีชาดเลือกที่จะสู้ มันต้องเป็นสงครามขนาดย่อมแน่นอน องค์รัชทายาทไม่มีทางปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในมือของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์
พวกกำลังเข้ามาใกล้มากแล้ว…
”เตรียมพร้อม!”ฉือ เฮายกมือขึ้น
”ฟุ้บ!” ทหารหน่วยปีกสีชาดยกหอกขึ้นและเล็งไปด้านหน้า จิตสังหารแผ่กระจายไปทั่ว
”หยุด!”
หอกหยุดนิ่งขณะเล็งไปที่เป้าหมายทันที
ทหาร3000 คนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาหยุดเช่นกัน
”ข้าเป็นหัวหน้าของหน่วยปีกสีชาดหลี่ จิ้งเฟิง จากกองตรวจกศักดิ์สทธิ์! ข้าได้รับคำสั่งจาก ฉือ เฮา ให้มาจับอาชญากรที่นี่! พวกเจาเป็นใครถึงหาญกล้าเข้ามาในแดนเหนือ?” หลี่ จิ้งเฟิง ตะโกน
เขารู้ดีว่าการเปิดเผยตัวตนของฉือ เฮา ออกไปไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนัก
สายลมเบาๆ พัดผ่านมา
กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยไปทั่วอากาศ
ทหารที่ปกปิดใบหน้าทั้งสามพันนายยืนอยู่กับที่ไม่ใช่เพราะสิ่งที่ หลี่ จิ้งเฟิง พูด ในความเป็นจริงดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้สนใจคำพูดของ หลี่ จิ้งเฟิง ด้วยซ้ำ
พวกเขากำลังรอ
พวกเขากำลังรอคำสั่ง
ทันใดนั้นธงสีแดงถูกยกขึ้นไม่มีรูปแบบหรือสัญลักษณ์บนธง
อย่างไรก็ตามเมื่อหลี่ จิ้งเฟิง เห็นมัน ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ทหารทั้งสามพันนายเคลื่อนไหวทันทีเมื่อธงถูกยกขึ้น
”ฟุ้บ!”พวกเขาขยับไปพร้อมๆกัน คันธนูปรากฎอยู่บนมือของพวกเขา
มืออีกข้างมีลูกธนูอยู่พวกเขาเล็งไปที่หน่วยปีกสีชาดอย่างไม่ลังเล
”พวกเจ้ากล้าดียังไง?!”หลี่ จิ้งเฟิง ยกหอกขึ้นมา
เขาตกใจอย่างเห็นได้ชัดที่นี่คือแดนเหนือ เขาอาจจะไม่ได้บอกว่า ฉือ เฮา อยู่ที่นี่ แต่แค่ชื่อกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็น่าจะเกรงกลัวแล้ว
กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นขุมกำลังที่เข้มแข็งที่สุดในแดนเหนือ!
”ฉือเฮา พวกเราต้องการตัวเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างท่าน ถ้าท่านส่งเขามา พวกเราจะไปตามทางของเรา!” เสียงดังขึ้นจากด้านในกองทัพ
”โอ้?่ถ้าข้าปฏิเสธล่ะ?” ฉือ เฮา หงุดหงิด
เขารู้ว่าทำไมหลี่ จิ้งเฟิง ถึงไม่ได้พูดชื่อเขาออกไป เพราะ หลี่ จิ้งเฟิง ต้องการโอกาสที่จะถอยกลับ
อย่างไรก็ตามพวกเขาดูเหมือนจะไม่สนใจพวกเขาเรียกเขาด้วยชื่อและถามเขาถึงการส่งตัว ฟาง เจิ้งจือ
พวกเขาเป็นใครกัน?
ใครมันกล้าท้าทายกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ในแดนเหนือ?!
”ถ้าท่านกล้าปฎิเสธ พวกเราก็คงต้องขออภัยล่วงหน้า!”เสียงดังขึ้นอีกครั้งแล้วธงสีแดงก็ถูกยกขึ้น
”สวะ!”ฉือเฮา โกรธเมื่อเขาเห็นธงสีแดง
ฉือเฮา ทั้งแสดงความเมตตาและความเคารพให้พวกเขาแล้ว
ความจริงแล้วเขาคิดว่ากองทัพนี้เกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาทเขาไม่ได้อยากทำสงครามกับอค์รัชทายาทถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าเขากลัวการต่อสู้
”ตาย!”ทหารของหน่วยปีกสีชาดตะโกนลั่นเมื่อเห็นความโกรธของ ฉือ เฮา จิตสังหารของพวกเขาพวยพุ่งออกมา
ฟางเจิ้งจือ ตกตะลึง
เป็นไปได้ยังไง?
เขาไม่ได้พูดชัดเจนตั้งแต่ต้นงั้นหรือ?
เขาบอกฉือ เฮา ว่ากำลังรอเพื่อนอยู่ ทำไมพวกเขาถึงจะต่อสู้กันทันทีที่เจอหน้ากันเลยล่ะ?
พวกเขาต้องการตัวข้า…
ก็แค่ปล่อยข้าไปก็จบแล้ว?
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อมอง ฉือ เฮา เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร แต่เขาไม่สามารถบอก ฉือ เฮา ต่อหน้าหน่วยปีกสีชาดได้
เพราะ…
นี่คือดินแดนทางเหนือ!
”ท่านส่งตัวข้าไปก็ได้”ฟางเจิ้งจือ พูดเมื่อเห็นความโกรธของ ฉือ เฮา
”อย่ามาพูดบ้าๆนะ!เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะส่งตัวเจ้าไป”ฉือ เฮา ตอบอย่างไม่ลังเล
”ใช่ท่านควรทำแบบนั้น จริงๆแล้วข้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรถ้าไปกับพวกเขา ให้ข้าไปกับพวกเขา” ฟาง เจิ้งจือ ดื้อดึง
”เจ้าไม่สนใจ?แต่ข้าสนใจ!”ฉือ เฮา ปฏิเสธข้อเสนอ
ส่งตัวฟาง เจิ้งจือ
เรื่องนี้มันอะไรกัน?
พวกเขากล้าดียังไงให้ฉือ เฮา ส่งคนให้! ฉือ เฮา จะไม่ยอมส่ง ฟาง เจิ้งจือ แม้ว่ากำลังจะต่างกัน สิบต่อหนึ่งก็ตาม
”ข้ายินดีจะไปกับพวกเขาจริงๆ”
”หุบปาก!”
”…”ฟาง เจิ้งจือ พูดไม่ออก
ฟางเจิ้งจือ ต้องการต้อนรับพวกเขาดีกว่านี้
อย่างไรก็ตามหลี่ จิ้งเฟิง ออกคำสั่งด้วยตัวเอง
จากนั้นพวกเขาก็ดึงสายธนู
ความรุนแรงทวีมากขึ้นเรื่อยๆฟาง เจิ้งจือ ไม่มีโอกาสที่จะหยุดยั้ง
”ตาย!”
”ตาย!่
”…”
เสียงของหน่วยปีกสีชาดดังขึ้นพวกเขาพร้อมจะต่อสู้
ทหารทั้งสามพันคนที่ไร้ความเกรงกลัวเองก็ก็เล็งธนูไปทางหน่วยปีกสีชาดเช่นกัน
ส่วนจาง หยางปิง และชาวบ้านคนอื่น ๆ …
พวกเขาอ้าปากแข็งค้าง
”เจิ้งจือกลับมา”
”ถ้าพวกเขาจะสู้กันพวกเราจะไปอยู่บนเขา!”
”ใช่แล้วเจิ้งจือ มาเร็วเข้า!”
ชาวบ้านตะโกนเรียกสุดเสียงของพวกเขาหน่วยปีกสีชาดยืนอยู่ระหว่างพวกเขากับเจิ้งจือ และเจิ้งจือเองก็อยู่ตรงกลางระหว่างสองฝ่าย
มันอันตรายเกินไป
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้คิดจะซ่อนตัว แต่เขารู้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ เขาก้าวไปข้างหน้า
”หยุดก่อนวางอาวุธของพวกท่านลง!”
เสียงของฟาง เจิ้งจือ ดังลั่นจนทุกคนในบริเวณได้ยินทั้งหมดแต่หน่วยปีกสีชาดก็ไม่ได้คิดจะฟัง
มันไร้ประโยชน์จริงๆ
อย่างไรก็ตามทหาร3000 คนหยุดดึงสายธนู จากนั้นก็เริ่มมีธงสีเหลืองถูกยกขึ้น
”ฟุบฟุบ ฟุบ!”
ภายในไม่กี่นาที…
คันธนูก็ถูกเก็บไว้ที่ด้านหลังของทหาร
หลี่จิ้งเฟิง ตกตะลึง
หน่วยปีกสีชาดเองก็ผงะไปพวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมพวกเขาถึงฟังฟาง เจิ้งจือ?
ปากของฉือ เฮา อ้าค้างด้วยความแปลกใจ อย่างไรก็ตามเขารีบทำใบหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว
เขาตรวจสอบทหารทั้งสามพันคนที่ปกปิดใบหน้าอยู่
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
จากนั้นมีไฟเขียวปรากฏขึ้นในมือของเขามันส่องแสงสีเขียวประกายหยกออกมา ก่อนจะลอยไปหาทหารพวกนั้น
ในเวลาเดียวกันท่าทีของหนึ่งในทหารเหล่านั้นเปลี่ยนไปร่างของเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเขียว
”แคว้ก!”
เสื้อคลุมของเขาถูกฉีกออก
มันฉีกออกเป็นชิ้นๆราวกับถูกตัดด้วยมีด
ขณะที่เขาล้มลงกับพื้นชุดเกราะของเขาก็เผยให้เห็นออกมามันเป็นเกราะสีเงินที่ประดับด้วยลวดลายอันงดงาม
ที่สำคัญที่สุดมันประกอบด้วยลวดลายเมฆห้าก้อน เมฆเหล่านี้มีสีแดงเลือด พวกมันเรียงต่อกันเป็นรูปหกเหลี่ยม
ราวกับรูปพัด!
”กองทหารเมฆา!”