Gate of God - ตอนที่ 506
นิยาย Gate of God ตอนที่ 506 ผงั้นหรือ!
ฟางเจิ้งจือ เดินไปยังถนนที่ทอดยาวออกจากเมือง อารมณ์ความรู้สึกต่างๆปะทุขึ้นมาในใจเขา
เพราะเขาเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนในการสร้างถนนสายนี้ด้วยตัวเอง
”ไปกันเถอะ”
”รับทราบ!่”
…
หมู๋บ้านภูเขาทางเหนือเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ จะเป็นอาชญากรมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไร
หมู่บ้านบนภูเขาทางเหนือมีถนนและโรงเรียนที่มีอาจารย์ที่ดีที่สุดในแดนเหนือ
แม้แต่ตระกูลชั้นสูงยังส่งลูกหลานมาเรียนที่นี่ดังนั้นหมู่บ้านภูเขาทางเหนือจึงห่างจากการล่าสัตว์มานานแล้ว
พวกเขาล่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น..
หมู่บ้านนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าสองเท่า
บ้านแต่ละหลังถูกปรับปรุงจนกว้างขวาง
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง
พวกเขายังคงทำกรเกษตรอยู๋
มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเขาจะทำเช่นนั้นแม้พวกเขาจะร่ำรวยมากขึ้น แต่มันก็เป็นวิถีชีวิตของพวกเขา
ดังนั้นทีนี่จึงเต็มไปด้วยพืชผักผลไม้
ฤดูใบไม้ผลิเป็นเวลาแห่งการเพาะปลูก
นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไป
พวกเขาเริ่มทำงานตอนเช้าก่อนจะเลิกงานตอนพระอาทิตย์ตกดิน
พวกเขาเริ่มเก็บข้าวข้องเพื่อกลับบ้านไปเตรียมอาหารเย็น
ทันใดนั้น…
ได้มีร่างหนึ่งปรากฎขึ้นมาบนถนนของหมู่บ้านเป็นร่างที่สวมชุดคลุมสีดำ ไม่มีใครเห็นใบหน้าเพราะมีผ้าสีดำปกปิดอยู่
พวกเขามีมากกว่าสิบคน
พวกเขาแปลกมากเพราะพวกเขาสวมชุดที่ทำจากผ้าชั้นดี พร้อมกับถืออาวุธอยู่ในมือ
ดาบมีด หอก …
พวกมันถูกทำขึ้นอย่างปราณีตแม้แต่คนที่ไม่รู้จักก็สามารถบอกได้ว่ามันเป็นอาวุธชั้นสูง
คนเหล่านี้ต้องมีความพิเศษมาก
ชาวบ้านต่างหยุดสิ่งที่พวกเขาทำตลอดปีที่ผ่านมีเหล่าผู้มีอิทธิพลมากมายได้เดินทางมาที่นี่ แม้แต่ตระกูลขุนนางก็มาเยี่ยมเยียน
แต่สำหรับคนเหล่านี้พวกเขาไม่ได้มาจากตระกูลชั้นสูงใดๆ
เพราะ
พวกเขาเดินทางมาด้วยเท้า
ไม่มีใครขี่ม้าไม่มีเกวียน หรือกระเป๋าเดินทางที่บ่งบอกว่าพวกเขามาเรียนหนังสือ พวกเขาดูสะอาดมาก แทบไม่มีฝุ่นเกาะบนเสื้อผ้าของพวกเขาเลย ดังนั้นพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อส่งบุตรหลานเข้าเรียน
ชาวบ้านต่างจองมองไปที่พวกเขา
พวกเขามาทำไม?นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาสงสัย
จากนั้นพวกเขาก็ตกตะลึงเป็นอย่างมากกับสิ่งที่ได้เห็น
ดวงตาของพวกเขาแทบถลนออกมาจากเบ้า
พวกเขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง
พวกเขาเห็นคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ภายในกลุ่มคนเหล่านี้เขาสวมชุดแขนยาวสีน้ำเงิน สบายๆ
เขาค่อนข้างผอมแต่ใบหน้ายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม
”ท่านลุงหลี่ท่านป้าจาง สบายดีไหม?” เด็กหนุ่มสังเกตุเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินผ่านไปจึงทักทายขึ้นมา
”อ่า… ” ชาวบ้านคู่นั้นต่างตกใจและอ้าปากค้าง
เด็กหนุ่มยิ้มไม่ได้แปลกใจกับท่าทีของทั้งคู่ จากนั้นเด็กหนุ่มก็ทักทายชาวข้านคนอื่นๆต่อ
”ท่านลุงหวังยังหน้าเด็กเหมือนเคย พี่ของท่านแต่งงานแล้วหรือยัง? ฮ่าฮ่า….ถ้าท่านว่างๆก็มาพูดคุยกันที่บ้านข้าบ้างสิ…”
เขาทักทายชาวบานทุกคนที่เดินผ่าน
อย่างไรก็ตาม…
ชาวบ้านทุกคนต่างยืนอ้าปากค้างด้วยความตกใจไม่มีใครทักทายกลับ พวกเขารู้สึกเหมือนพึ่งเห็นผี
”หา…ข้าเห็นผีงั้นรึ?!
”ข้าต้องทำงานหนักมากไปแน่ๆ…”
”เจ้าเห็นไหม?”
”เห็นเห็น…”
”อย่าบอกนะว่าเจ้าก็เห็นเจิ้ง จือ ด้วย?!”
”ใช…ข้าเห็น เจิ้งจือ….เขายังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ดูเหมือนเขาจะสูงขึ้นนิดหน่อยนะ!”
”ผี!”
ชาวบ้านทุกคนต่างมีปฏิกริยาเหือนกันฟาง เจิ้งจือ เป็นอาชญากรที่อาณาจักรต้องการตัวมากที่สุด
ดังนั้น…
พวกเขาไม่เชื่อว่าฟาง เจิ้งจือ จะเดินมาทักทายพวกเขาเหมือนเป็นเรื่องปกติแบบนี้
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดจะอธิบายอะไรต่อพวกเขา
เขาสูดหายใจลึกๆก่อนจะหันไปชมพระอาทิตย์ตกดินเขารักความสงบและความเงียบของภูเขา
แม้น้ำที่ใสสะอาดปลาแหวกว่ายอย่างสนุกสนาน
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้เดินไปอย่างรวดเร็วนัก
อย่างไรก็ตามเขาเดินไปถึงทางเข้าหมู่บ้านเร็วมากเขาดูป้ายหมู่บ้านใหม่ และแผ่นหินที่ทางเข้า
คนที่แกะสลักมันขึ้นมาต้องมีฝีมือใช้ได้ทีเดียว
ฟางเจิ้งจือ เดินเข้าไปในหมู่บ้าน และเห็นผลงาานศิลปะต่างๆมากมาย
ทั้งงานแกะสลักรูปปั้นต่างๆ ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าผลงานเหล่านี้เป็นของพวกอาจารย์
ด้านในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความคึกคัก
ชาวบ้านยิ้มและพูดคุยทักทายกันหลายครอบครัวมีป้ายบอกเจ้าของบ้านอยู๋ที่ทางเข้าบ้านของตัวเอง
อย่างไรก็ตามกลางหมู่บ้านกลับเงียบลงอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเห็นฟาง เจิ้งจือ เข้ามาและโบกมือทักทายพวกเขา
พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง
แม้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะออกจากหมู่บ้านไปนานปีกว่าแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นความภูมิใจของหมู่บ้านอยู่ดี
ชาวบ้านไม่มีวันลืมเขา
ต่อให้ฟาง เจิ้งจือ ออกเดินทางเป็นสิบ ยี่สิบปี พวกเขาก็จำได้
ความจริงแล้ว…
พวกเขาคิดว่าฟาง เจิ้งจือ อาจจะกลับมาที่หมู่บ้านสักวันหนึ่ง
แต่
ฟางเจิ้งจือ ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร ฆ่าองค์รัชทายาทของดินแดนภูเขาทางใต้ ล่วงละเมิดองค์หญิงแดนใต้ และทำร้ายองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรเซี่ย
ให้อภัย?
อาชญากรรมร้ายแรงขนาดนี้เขาไม่มีทางได้รับการให้อภัย
แน่นอนว่าพวกเขายังอยากให้ฟาง เจิ้งจือ กลับมา อย่างไรก็ตามพวกเขาคาดหวังว่า ฟาง เจิ้งจือ อาจจะลอบกลับมาในตอนดึก
ชาวบ้านทุกคนมองขึ้นไปบนฟ้า
ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินแต่มันก็ยังสว่างพอทำให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้
”เจิ้งจือ…เจิ้งจือ?!”
เสียงชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
จากนั้นใบหน้าของเหล่าชาวบ้านก็เปลี่ยนไปตื่นเต้น ดีใจ กังวล หวาดกลัว
ในฐานะชาวบ้านพวกเขารู้จักทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้าน
นั่นหมายความว่าพวกเขารู้…
”ทำไมเจ้าถึงกลับมา?!ไป!”
”ท่านแม่ของข้าอยู่ที่ไหน?”
”หา?!”
”นางอยู่บ้านไหม?ท่านลุงเฉิน ถ้าคืนนี้มีเวลามาทานข้าวที่บ้านข้าสิ!” ฟาง เจิ้งจือ โบกมือให้
”…กินข้าว??” ใบหน้าของลุงเฉิน เต็มไปด้วยความตกตะลึง
…
ในสวนของครอบครัวฟาง
ฉินซูเหลียน กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ผมของนางเริ่มมีสีเทาขึ้นแซม ใบหน้าเริ่มมีรอยเหี่ยวย่น
แม้นางจะยังคงดูสวยงามเหมือนเดินแต่นางก็ดูแก่ขึ้นมากแม้ผ่านมาแค่ปีเดียว
บนระเบียงบนชั้นสองของบ้านหินพวกเขาปลูกถั่วอยู่บนนั้น
ฟางเฮ่าเตอ ยืนดูแลต้นไม้พวกนั้นอยู่
มีถ้วยน้ำชาและหม้อน้ำอยู่ตรงหน้าเขาไอน้ำลอยลอดออกมาจากฝา
”ถ้าท่านเหนื่อยก็ควรพักบ้างนะ”ฉิน ซูเหลียน พูดขึ้นมาเมื่อเห็นเหงื่อไหลออกมาจากใบหน้าของ ฟาง เฮ่าเตอ
หน้าของนางคล้ำขึ้นเล็กน้อย
ราวกับนางกำลังนึกอะไรบางอย่างอยู่
”ซูหลิน เจ้าเองก็ควรจะพักผ่อนเช่นกัน ให้ข้าทำอาหารสำหรับคืนนี้ให้เอง” ฟาง เฮ่าเตอ หยุดตัวเองไว้
การแสดงออกของเขาก็ดูหม่นหมองลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขารีบเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วและปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ริมแก้วชาออกไป
อย่างไรก็ตามกลับมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขาเล็กน้อย ก่อนที่มันจะหยดลงไปในแก้ว
”ให้ข้าทำเองเถอะ”ฉิน ซูเหลียน ส่ายหัว ขณะที่ร่างกายของนางสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาของนางก็เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาเช่นกัน นางรองไห้ไปหลายครั้งในหนึ่งปีที่ผ่านมา
ตลอดเวลานางนั่งอยู่ในสวนคอยมองผู้คนเดินผ่านไปมา นางเพียงแค่อยากเห็นลูกชายของตัวเอง
แต่ไม่มีเลย!
แต่นางก็ไม่ผิดหวังไม่เห็นเขาเป็นสิ่งที่ดี !
น้ำตาของนางค่อยๆไหลเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง
”ลูกข้า…ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน!”
ฉินซูเหลียน กรีดร้องในใจ
ร่างกายของนางจับถังน้ำเพื่อพยุงร่างกายเอาไว้
นางก้มมองลงไปในถังน้ำมันสะท้อนให้เห็นใบหน้าของนาง
และทันใดนั้นมีอีกร่างอยู่ในนั้น มันสะท้อนให้เห็นถึงร่างที่ยืนอยู่หน้าประตู
”ลูกข้า!ฟาง เจิ้งจือ!”
ฉินซูเหลียน อยากตะโกนดังๆ แต่นางก็ล้มเลิกความคิดไปทันที นางคงเห็นภาพหลอนอีกแล้ว
นางรู้ว่าเขาไม่มีทางมาปรากฎตัวที่นี่
เขาไม่ควรอยู่ที่นี่!
”ฟางเจิ้งจือ… ” นางมองดูเงาสะท้อนบนผิวน้ำเงียบๆ นางรู้ว่าสักพักมันก็จะหายไปเอง
นางแค่อยากจะคงช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไป
ต่อให้มันจะเป็นเพียงภาพลวงก็ตาม
แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้นางมุ่งมั่นต่อไปทำให้นางสามารถยังมีแรงเฝ้ารอคอยเขาต่อไป
”ท่านแม่!”ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้น มันคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
ฉินซู เหลียน ตัวสั่น
นางก้มลงไปมองที่ผิวน้ำอีกครั้งภาพสะท้อนยังคงอยู่ที่นั่น
”ลูกชายข้าเจิ้งจือกลับมาแล้ว!”
ฉินซูเหลียน อยากเปิดประตู แต่ถ้านางทำแบบนั้น ภาพบนผิวน้ำอาจจะหายไป
นางไม่รู้ว่าควรทำยังไง…
แต่นางเลือกที่จะหันหลังไปมองว่าใครอยู่ที่ประตู
เวลาดูเหมือนจะหยุดไปชั่วขณะ…
ร่างกายของฉิน ซูเหลียน แข็งค้าง ที่หน้าประตูมีใบหน้าอันคุ้นเคยยิ้มให้นางอยู่
”เจิ้งจือ…เป็นเจ้าจริงๆงั้นรึ?”อารมณ์นับไม่ถ้วนพวยพุ่งขึ้นมาในใจของนาง