Gate of God - ตอนที่ 504
ตอนที่ 504 ข้าคือ ฟาง เจิ้งจือ!
ไม่ใช่ว่าเมิ่ง อวี้ชู ไม่ไวพอ … แต่เมื่อเรือใหญ่ชนเข้ากับเรือของเขาจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้เขาไม่สามารถทรงตัวเอาไว้ได้
และ…
เพราะเรือของเขาเล็กไป
เรือลำเล็กของเขาแตกออกเป็นสองส่วนทันทีก่อนจะถูกกลืนหายไปกับคลื่นน้ำ
ทุกคนที่ยืนดูอยู่ต่างมองด้วยความตกตะลึงพวกเขายังตั้งสติไม่ทันด้วยซ้ำ
”เขาหล่นลงไปในน้ำ?”่
”โอ้ไม่มันชนแล้ว!”่
แม้แต่เมิ่ง อวี้ชู ก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา นี่มันเป็นการหยามเขาใช่ไหม?!
เมิ่งอวี้ชู ต้องการบอกให้หยุด
เรือของเขาค่อนข้างแพงเขาไม่มีทางปล่อยให้เรือลำใหญ่นั้นผ่านไปโดยที่เขาไม่ได้ค่าเสียหาย จากนั้นเสียงเบาๆก็ดังขึ้น
”เมิงอวี้ชู? อืมคุ้นๆนะ…เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน”
…
นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอื่นอีก…
เรือลำใหญ่นั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดมันยังคงมุ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ ราวกับคนที่อยู่บนเรือไม่เห็น เมิ่ง อวี้ชู
อย่างไรก็ตามเมิ่ง อวี้ชู รู้ดีว่า …
คนพวกนั้นต้องเห็นเขา!ไม่มีเรือลำไหนที่ธงเขียนว่า เมิ่ง ไว้อีก
เดี๋ยวก่อน!
ดูเหมือนนั่นจะเป็นเสียงผู้ชาย!
มีแค่ผู้ชายคนเดียวอยู่บนเรือลำนั้นงั้นหรือ?
”หยุดอยู่ตรงนั้น!ข้าเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเมิ่ง เจ้ากล้าดียังไง ชนข้าแล้วหนี?! เจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกจากมณฑลฮวายอันไปได้!” เมิ่ง อวี้ชู ตะโกน เขาไม่สามารถทนที่ตัวเองถูกหยามต่อหน้าคนอื่นได้
ตอนนี้้ความสามารถของเขาถือว่าพัฒนาขึ้นมามากแล้ว
ตอนที่เขาเข้าร่วมการทดสอบแห่งเต๋าเขาอยู่เพียงระดับประทับศักดิ์สิทธิ์แต่ตอนนี้เขาอยู่ในระดับผนวกดาราแล้ว
นอกจากนี้เขายังเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอแห่งเต๋าระดับมณฑลด้านการต่อสู้
เขาไม่สามารถเดินบนน้ำได้แต่เขาสามารถควบคุมกระแสลมทำให้เขาสามารถเคลื่อนตัวไปบนสายน้ำได้
เรือลำใหญ๋นั้นค่อนข้างเร็วแต่ เมิ่ง อวี้ชวู เร็วกว่า
เขากระโดด…
เหยียบไปที่ซากเรือก่อนจะพุ่งขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็เอื้อมมือไปที่ท้ายเรือลำใหญ๋นั้น
การทำแบบนี้สามารถเรียกเสียงชื่นชมและความประทับใจจากเหล่าหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
”กรี้ด!นายน้อยเมิ่งเก่งที่สุดเลย”
”ไม่น่าแปลกใจที่เขาชนะในการต่อสู้!”
”นี่คือพลังของผู้ที่อยู่ในระดับผนวกดารา?”
เสียงของเหล่าหญิงสาวแข่งตะโกนออกมาทำให้เหล่านักปราชญ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามไม่มีใครมีเงินหรือพลังเท่า เมิ่ง อวี้ชู
ที่ท้ายเรือ…
เมิ่งอวี้ชู กัดฟันแน่นก่อนจะจับท้ายเรือไว้ได้
เขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ดีเท่าไรนักต่อให้เขาจับท้ายเรือได้ แต่เรือเร็วเกินไป ทำให้ตัวของเขาลอยขึ้นไปบนอากาศอีกรอบ
เขาอยากให้คนบนเรือเห็นใจเขาบ้าง
เขาไม่ได้เตรียมใจที่จะตกลงไปอีกครั้งไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนเขาก็จะขึ้นเรือลำนี้ให้ได้! ถ้าเขาตกลงไปในน้ำตอนนี้ชื่อเสียงของเขาจะถูกทำลาย!
เขากัดริมฝีปากแน่น…
”อ้ากก!”เมิ่ง อวี้ชู ตะโกนก่อนจะดึงตัวเองขึ้นได้วยกำลังแขนทั้งสองข้าง
ทุกคนบนฝั่งต่างตะโกนให้กำลังใจ
เมิ่งอวี้ชู มีความสุขกับเรื่องนี้มาก
อย่างไรก็ตามท่าทีของเขากลับแข็งค้างทันทีหลังจากนั้นเขาเห็นดาบ …ดาบที่แผ่จิตสังหารอันเยือกเย็นออกมา…
มันถูกจ่ออยู่ที่คอของเขา
ทั้งเงียบและอันตราย…
เขารู้สึกหวาดกลัว
เขารู้ว่าไม่มีใครถือดาบอยู่ก่อนที่เขาจะขึ้นไปบนเรือ
คำอธิบายคือเมื่อเขาพลิกตัวขึ้นไปบนเรือคนบนนั้นก็เอาดาบมาจ่อคอเขาทันที ความแม่นยำของผู้โจมตีของเขานั้นไร้ที่ติ
สำหรับคนที่ถือดาบ…
เมิ่งอวี้ชู ไม่รู้จัก และไม่เห็นหน้าตาของเขา
เพราะคนคนนั้นสวมชุดสีดำและผ้าปิดหน้าอยู่
ผู้หญิง?
เมิ่งอวี้ชู เห็นไม่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเป็นผู้หญิงจากกระโปรงสีดำที่นางใส่ นางมีรูปร่างที่ค่อนข้างดี
”ข้าเป็นลูกคนโตของ… ” เมิ่ง อวี้ชู ที่กำลังจะประกาศตัวคนรู้สึกเจ็บแปล้บที่คอทันที เขาจึงเลือกที่จะหุบปาก
เขาสามารรถสัมผัสได้ถึงความแหลมคมของดาบและเลือดที่ไหลออกมา
เขาจะถูกฆ่า?
ที่นี่คือมณฑลฮวายอัน!มีสายตานับไม่ถ้วนมองอยู่ ใครกันที่จะกล้าสังหารผู้คนต่อหน้าสายตาจำนวนมาก?
หรือจะเป็นพวกโจรสลัด?
แต่นี่เป็นแม่น้ำ!มีโจรสลัดในแม่น้ำด้วยหรือ? ไม่สมเหตุสมผล!
”มีปัญหาอะไรกับพวกเรางั้นหรือ?”เสียงของนางนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
”ไม่… ไม่มีปัญหา… ” เมิ่ง อวี้ชู ต้องการให้พวกเขาชดใช้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือมีชิวตรอด
นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องเงิน
”ลงไป!”เสียงของนางดังขึ้น
”อา?เดี๋ยว…ข้าจะลงไปเดี๋ยวนี้เลย!” เมิ่ง อวี้ชู ได้สติ ก่อนจะกระโดดลงเรือไปอย่างรวดเร็ว
มันน่าอับอายขนาดไหน?
แน่นอนว่ามาก!
อย่างไรก็ตามมันน้อยมากเมื่อแลกกับชีวิตของเขา
เมิ่งอวี้ชู มองไปที่ฝั่ง
ดวงตาที่นับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองที่เขาพวกเขาได้เห็นการเผชิญหน้าบนเรือ
ทุกคนตกตะลึง
อย่างไรก็ตามพวกเขาเข้าใจสถานการณ์ที่เมิ่ง อวี้ชู กำลังเจออยู่
เมิ่งอวี้ชู มองขึ้นไปบนฟ้า เขาตั้งตารอวันสนุก ๆ! เขาต้องการเล่นสนุกและชื่นชมฤดูใบไม้ผลิ
แต่…
เขาถูกโยนลงน้ำอีกครั้ง…
เมิ่งอวี้ชวู รู้สึกอับอาย อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเอง เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นเป็นเสียงที่ไม่เย็นเยือกเหมือนเดิม เป็นเสียงที่ราวกับเขานึกบางอย่างออก
”ข้าจำได้แล้วเขาคือ เมิ่ง อวี้ชวู! !”
หรือเขาจะเป็นแสงแห่งความหวัง
เขาจะลงมาช่วยหรือไม่?
เมิ่งอวี้ชวู รู้สึกมีความหวัง!
น้ำตาเริ่มไหลออกมามีคนรู้จักเขา?
สิ่งตอบแทนจะไม่ใช่เรือของเขา!
แต่เป็นชื่อเสียง!
เขาโยนเรื่องเงินทิ้งไปใครก็ตามที่หาเรือขนาดใหญ่แบบนี้มาได้ต้องมีอิทธิพลมากแน่นอน
ถ้าเขาขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าเรือได้ล่ะก็คงจะดี!เขาต้องการวิธีที่น่าอายน้อยกว่าการหลบหนี
เมิ่งอวี้ชวู หันไปมองรอบๆ และมองหญิงสาวภายใต้ผ้าคลุมหน้า
เขามีคำถามขึ้นมาในใจ
ข้าจะกระโดดขึ้นไปใหม่ได้ไหม?
คำตอบนั้นง่ายไม่แพ้กัน
นางไม่ได้ตอบด้วยคำพูดใดๆนางไม่ได้ลดดาบลง แต่นางดูเป็นมิตรขึ้น
นอกจากนั้นนางขยับไปด้านข้างและเปิดทางให้เมิ่ง อวี้ชู…
”ฮ่าฮ่ามันคงเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น ข้าขอรู้ได้ไหมว่าสหายของข้าเป็นใคร” เมิ่ง อวี้ชู หัวเราะดังมากพอที่ทุกคนจะได้ยิน
”นายน้อยเมิ่งนี่ก็นานมากแล้วสินะ” เสียงผู้ชายดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากห้องโดยสาร เขาสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน
ท่าทีของเขาดูจริงใจ
เขายิ้มกว้างให้เมิ่ง อวี้ชู
อย่างไรก็ตาม…
เมิ่งอวี้ชู กลับตัวแข็งค้าง เขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขารู้สึกว่าร่างกายไม่มีแรงขึ้นมาทันที
ความจริงแล้ว…
มันเกือบจะเหมือนกับ…
เขาเห็นผี!
เมิ่งอวี้ชู นึกถึงความเป็นไปได้มากมายว่าชายคนนี้จะเป็นใคร อาจเป็นเจ้าหน้าที่หรือทายาทของตระกูลผู้สูงศักดิ์
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะปรากฎตัวขึ้นมา
เขาไม่ควรมาอยู่ที่นี่!
โดยเฉพาะในเมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์ตอนกลางวันแสกๆ!
อย่างน้อยเขาก็ควรปลอมตัว!
หมวก?
หรือแม้แต่ผ้าคลุมหน้า?
เมิ่งอวี้ชวู จะเข้าใจ ถ้าเขาคิดจะปิดบังตัวเองเสียบ้าง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ปกปิดส่วนไหนเลยแม้แต่น้อย! เขาเป็นคนที่อาณาจักรเซี่ยต้องการตัวมากที่สุด
!
”ฟาง…ฟาง … ฟาง เจิ้งจือ!”เมิ่ง อวี้ชวู รู้สึกเหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่า เขาจ้องมองด้วยความสับสน
ผู้ชายคนนี้…
ทำไมเขาถึงมาโผล่ที่นี่กัน?
เมิ่งอวี้ชวู ไม่ใช่คนเดียวที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เห็น
พวกคนที่ยืนอยู่บนฝั่งก็ไม่เข้าใจเช่นกันไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้จักรูปร่างหน้าตาของ ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้ยิน เมิ่ง อวี้ชวู เรียกชื่อ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาก็รู้สึกแบบเดียวกัน
”ฟางเจิ้งจือ?!”
”เจ้านั่นคือฟาง เจิ้งจือ!”
”เขา… เขาอยู่ในเมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์! หา! ฟาง เจิ้งจือ อยู่ที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์!”
”ฟาง เจิ้งจือ คือคนที่ถูกตามล่า!”
ทุกคนทั้งหมดต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินพวกเขาจ้องไปยังชายที่สวมชุดสีน้ำเงิน
เช่นเดียวกับเมิ่ง อวี้ชวู…
ไม่มีใครคาดคิด
ฟางเจิ้งจือ กล้าปรากฎตัวออกมาในเมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์ตอนกลางวันแสกๆ?!
พวกเขาไม่สามารถหยุดความสงสัยได้
อย่างไรก็ตาม…
ด้วยนิสัยของพวกเขา
ในฐานะชาวเมืองของอาณาจักรเซี่ยพวกเขามีความรู้สึกที่จะกล่าวเตือนผู้อื่นเมื่อพบเห็นอาชญากร
”ไปบอกเจ้าหน้าที่!”
”เร็วเข้า!”
”ฟางเจิ้งจือ! ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในเมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์!”
”เขาอยู่บนเรือลำนั้น!”
เสียงของพวกเขาดังก้องไปทั่วคนหลายคนวิ่งไปทางประตูเมือง
เมิ่งอวี้ชวู ได้ยินเสียงเหล่านี้
ปากของเขาอ้าแข็งค้างเมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนจากริมฝั่งเขารู้สึกเสียวไปถึงกระดูกสันหลัง
เขาตระหนักว่าเป็นเพราะเขา
เขาเป็นคนที่ทำให้ฟาง เจิ้งจือ เดินออกจากห้องโดยสาร และเขารู้ตัวตนของ ฟาง เจิ้งจือ แล้ว!
เขาไม่มีทางมีชีวิตรอดแน่นอน
”โอ้ไม่…ข้าคงเข้าใจผิดฮ่าฮ่าฮ่า … ฟาง…เอ้ย..ไม่ใช่, นายน้อยหลี่, ฮ่าฮ่าฮ่า … มันเป็นเวลานานแล้วที่พวกเราไม่ได้พบกัน ” เมิ่ง อวี้ชู หัวเราะ
เขารู็ว่าเหล่าผู้ที่อยู่ริมฝั่งไม่มีทางเชื่อเขาหากเขาย้อนเวลากลับไปได้คงไม่เลือกขึ้นเรือลำนี้ เขาจะไม่พยายามเรียกร้องค่าเสียหาย
ฟางเจิ้งจือ!
นี่คือผู้ชายที่ถูกปีศาจหลายแสนตนตามล่าที่ดินแดนภูเขาทาใต้เขาเป็นคนที่ได้ต่อสู็กับ คังหยาง
แน่นอนว่า…
มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด
นี่คือชายที่กล้าล่วงละเมิดองค์หญิงแดนใต้ก่อนที่จะฆ่า ฉาน หลิง และทำร้ายองค์รัชทายาท
แม้จะมีข่าวลือว่าเขาไม่มีพลังแล้ว
มันไม่สำคัญ…
เมิ่งอวี้ชู มองไปยังหญิงสาวที่ปกปิดหน้าอยู่ เขารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของเขา …
เขาไม่ควรมองย้อนกลับไป
เขาควรจะกระโดดลงไป
ชื่อเสียง?
ชื่อเสียงของเขาไม่มีความหมายอะไรเลย!
ชีวิตของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่ต้องการยุ่งกับเรื่องนี้ …
แม้แต่ตระกูลเมิ่งก็ไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้
”นายน้อยเมิ่งไม่ได้จำผิดหรอกข้าคือ ฟาง เจิ้งจือ !” ชายหนุ่มยิ้มราวกับเขาไม่ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังมาจากริมฝั่ง